วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 764 ฟันต่อฟัน ตาต่อตา



บทที่ 764 ฟันต่อฟัน ตาต่อตา

ถนนบนภูเขานั้นไม่ค่อยดีและเดินลำบาก

เพราะว่าคนที่มาที่นี่น้อยมาก ถนนที่นี่ก็เลยไม่มีคนมาซ่อม และถนนทุกสาย ยังคงเป็นขั้นบันไดหินอ่อนที่หลงเหลือเมื่อหลาย ปีก่อน

อาจจะเป็นเพราะว่าสองสามวันก่อนมีฝนตกที่นี่ บันไดที่นี่ก็เลย มีความเปียกชื้นเล็กน้อย

มีแต่ตะไคร่สีเขียวอยู่ด้านข้าง และถ้าเหยียบมันขึ้นไปแล้ว จะ ลื่นล้มได้ง่ายหากไม่ระมัดระวัง

เฉียวฉีก้มศีรษะลงเล็กน้อย และเดินไปเรื่อย ๆ ทีละก้าว

ข้างหน้าเขา ชายผู้นั้นเดินอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าขั้นบันไดที่ สูงชันใต้เท้าสําหรับเขาแล้ว ไม่มีอะไรต่างจากพื้นราบเลย

เธอเดินไปข้างหลัง และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นความร่าง

ใหญ่ของเขาจากด้านหลัง

ภายใต้พระอาทิตย์ตกสีทอง ร่างนั้นค่อนข้างโดดเดี่ยวและ เย็นชา ราวกับท่ามกลางใบไม้แห่งขุนเขา ยิ่งทำให้จิตใจของ ผู้คนมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น

เธอเม้มริมฝีปาก ไม่ได้พูดอะไร และเร่งฝีเท้าจามเขาไป ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง และเกือบห้าโมงเย็นกว่าจะไปถึงที่สุสาน

สุสานสร้างขึ้นตรงครึ่งทางบนภูเขา และในระยะไกล ก็จะเห็น โค้งเสาร์ไฟเหล็กสีเทาอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ

ราวกับชายผู้สง่างาม และแข็งแกร่งที่คอยคุ้มกันผู้คนที่ฝังอยู่ ในนั้น

ดวงตาของเฉียว มีความลึกแล้วลึกอีก

เมื่อ กู้ซื้อเฉียนเดินไปที่ทางเข้าสุสาน ในที่สุดฝีเท้าของเขาก็ หยุดลง

เธอหยุดฝีเท้าของเธอด้วย และยืนห่างจากเขาสามก้าว เธอ มองขึ้นไปที่ศิลาจารึกบนประตูแล้วยิ้มขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน

“โธ่ มองไม่ออกเลยจริงๆ เถ้าแก่ผู้โด่งดังในเรื่องของคนไร้ ความรู้สึกนั้น ที่แท้เป็นชายผู้เปี่ยมด้วยความรักและความชอบ ธรรม ยังได้สร้างสุสานขนาดใหญ่เช่นนี้ให้พี่น้องของตนเองโดย ฉะเพราะ ทำไม? รอใครสักคนมาจุดธูปให้พวกเขาหลังผ่านไป หนึ่งร้อยปีหรือไง จะให้พวกเขากลายเป็นวีรบุรุษเหรอ?”

ทันทีที่เธอพูดจบ ใบหน้าของชายคนนั้นก็มืดลงทันที

เฉียวฉีสัมผัสได้ถึงลมกระโชกแรงบนใบหน้า และในวินาทีต่อ มา หลังของเธอก็เจ็บอย่างกะทันหัน และร่างกายของเธอถูกกด ทับอย่างหนักบนเสาหิน

ตอนที่เธออยู่ในคุก แม้ว่าเธอจะไม่ถูกรังแก แต่ความทุกข์ที่ เธอได้รับก็ไม่ลดลงเลย
อย่างเช่นเอวของเธอ เพราะก่อนหน้านี้เธอต้องทำงานและก้ม ตัวนานเกินไป จึงทำให้เอวของเธอเป็นโรคที่ร้ายแรงมาก

ในเวลานี้ โดนหินแข็งที่หลังกระแทก และรู้สึกเจ็บปวดราวกับ มีดแทงอยู่ในนั้น และความเจ็บปวดนั้นทำให้เธอขมวดคิ้วอย่าง รุนแรง

กู้ซือเจียนบีบคอของเธอไว้ กัดฟันและพูดว่า “เธอคงคิดว่า ผมไม่กล้าฆ่าคุณจริงๆ ใช่ไหม? ”

เฉียว โดนเขาบีบคอจนไม่สามารถหายใจได้ แม้แต่หน้าของ เธอก็เริ่มแดง

แต่แล้ว เธอกลับสู้ด้วยลมหายใจสุดท้ายของเธอ และยิ้มใส่

เขา

สีหน้าที่เหมือนไม่สนอะไรเลย มองดูเขาด้วยความเยาะเย้ย

คำพูดที่พูดออกจากปาก ยิ่งเป็นคำที่ฟังแล้วทำคนหงุดหงิด

กว่าเดิม

“เถ้าแก่กู้มีความสามารถขนาดนี้ ไม่อย่างนั้นก็ฆ่าฉันเดี๋ยวนี้ เลยสิ! พอดีเลย ฝังไว้พร้อมกับพี่น้องของคุณเลย และรอให้คุณ ลงนรก ในอีกร้อยปี คุณจะได้อธิบายให้พวกเขาฟังด้วยเลย”

“เฉียวฉี!”

ชายคนนั้นคําราม

แรงในมือของเขานั้น มากจนเกือบจะบีบคอจนหักได้เลย
ทีนี่เฉียว ก็พูดอะไรไม่ออกแล้ว เพราะหัวสมองของเธอเริ่ม สูญเสียออกซิเจนและเวียนหัวจนทำให้เธอรู้สึกขาดอากาศ หายใจ

เธอมองดูกซื้อเฉียนอย่างไร้เรี่ยวแรง เมื่อมองดูดวงตาที่แทบ จะแดงหมดของซายตรงหน้า ใบหน้าที่หล่อเหลา เพราะความ เจ็บปวดและความเกลียดชัง จึงถูกบิดเป็นลูกบอลอย่างโหดร้าย ไม่มีความเป็นผู้กล้าหาญเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป

ทันใดนั้น เธอรู้สึกเจ็บที่เบ้าตา เหมือนกับบางสิ่งที่เจาะทิ้งก้น ในหัวใจของเธอ และทันใดนั้นก็เจาะออก เธอยิ้มอย่างไม่สนใจใดๆ

ในใจกำลังคิดว่า เฉียวหนอเฉียว ทำไมคุณถึงไม่คิดที่จะ เรียนรู้มันเลย?

ผู้ชายคนนี้ ตราบใดที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดเล็กน้อย

คุณก็เริ่มรู้สึกเป็นทุกข์ แล้วไหนสิ่งที่คุณบอกว่าคุณต้องการแก้

แค้น?

ไหนสิ่งที่คุยกันไว้กับการเอาคืนความทุกข์ทั้งหมดที่ได้รับมา ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา คืนให้เขาทีละนิดล่ะ?

ความทรงจำทั้งหมดถูกกินโดยสุนัขแล้วหรือไง?

เธอไม่ได้พูดอะไร และก็พูดอะไรออกมาไม่ได้ เพราะกู้ซื้อเฉียน ได้บีบคอเธออย่างแน่นหนา ผ่านสักพัก เขาก็ถอนหายใจและปล่อยเธอไป
ความรู้สึกที่ขาดอากาศหายใจพอปล่อยมือก็รู้สึกผ่อนคลาย เล็กน้อย เจียวก็ถอยกลับทันที จากนั้นก้มลงและเริ่มไออย่าง รุนแรง

กู้ซือเจียนยืนอยู่อีกฝาง มองดูเธออย่างเยือกเย็น

เฉียวจีไอได้สักพัก หลังจากผ่านไปได้ ก็ยืดตัวขึ้นเล็กน้อยและ มองเขาด้วยรอยยิ้ม

“ทำไม? ไหนบอกจะฆ่าฉันไม่ใช่เหรอ? ทำได้เพียงเท่านี้เห

รอ?” กู้ซื้อเฉียนกับสายตาที่มองดูเธอ เย็นยะเยือกจนสามารถเก็

นก้อนน้ำแข็งแล้ว

ความรักและความเกลียดชังนับไม่ถ้วนเหล่านั้น ดูเหมือนจะพัง ทลายกรงในเวลานี้ และรีบระบายออกไปในทันใด

แต่สุดท้าย เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ได้แต่ยิ้มอย่างเย็นชา

เขาก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว เข้าหาเธอ แล้วเอื้อมมือออกไป จับคางเธออย่างแน่น บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้น

ริมฝีปากที่บางของเธอเปิดออกเบา ๆ และคำพูดที่พูดนั้นเย็น ชาพอที่จะทำให้หัวใจหยุดนิ่ง

“อยากตายหรือ? ช่างไร้เดียงสาเกินไป! คุณคิดว่าชีวิตแค่ ชีวิตเดียวของคุณสามารถทดแทนชีวิตตั้งหลายชีวิตของพวกเขา ได้งั้นเหรอ? เฉียวคุณให้ความสำคัญกับตัวเองเกินไปหรือ เปล่า”
หัวใจของเฉียวเจ็บอยู่ลึกๆ

แต่แล้ว ยิ่งหัวใจเจ็บปวดมากเท่าไหร่ รอยยิ้มบนใบหน้าของ เธอก็ยิ่งลึกขึ้นเท่านั้น

เธอก็มองดูมือของเขาอยู่อย่างนั้น บิดคอเล็กน้อย มองเขา ด้วยรอยยิ้มจางๆ แล้วถามว่า “แล้วบอสกู้ต้องการอะไร?”

กู้ซื้อเนียนยิ้มเย็นชา

ในเวลานี้ เขากลับสู่ความเยือกเย็นและความโหดร้ายเหมือน ปกติแล้ว ราวกับว่าความโกรธเคืองและความเสียสติก่อนหน้านี้ ไม่ได้เป็นของเขาอย่างน

เอานิ้วมือลูบแก้มขาวๆ อย่างเบาๆ ของเธอ น้ำเสียงเขาช่าง เงียบงัน พูดทีละคำว่า ” แน่นอนว่า ต้องการให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อ ค่อยๆ ชดใช้ให้พวกเขาทีละนิดทีละน้อย รอตอนไหนที่เธอชดใช้ พอแล้ว เธอก็สามารถไปตายได้ละ แต่ก่อนจะถึงจุดนี้ ชีวิตของ เธอ เป็นของผม ผมอยากทำอะไรคุณก็จะทำแบบนั้น เธอเข้าใจ ใช่ไหม? ”

ในที่สุดรอยยิ้มของเฉียวฉีก็หยุดนิ่งบนใบหน้าของเธอ เธอมองไปที่กู้ซื้อเนียน ใบหน้าที่มีรอยยิ้มที่แข็งที่อกลายเป็น คำพูดที่แทงคนเหมือนมีด พุ่งเข้าไปหาเขา

“เถ้าแก่ คุณก็ให้ความสำคัญกับตัวเองเกินไปหรือเปล่า? คุณยังคงคิดว่า ฉันยังเป็นเฉียวคนเดียวกันกับเมื่อปีที่แล้ว ให้ คุณทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ ทำเอาตามอำเภอใจ คุณต้องการอย่างไรก็อย่างงั้นเหรอ?

“แน่สิ! คุณคิดว่าไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ?”

“แน่นอนว่าไม่ใช่

เธอยืดคอ ยืนตัวตรง และพยายามจ้องมองเขา แต่ชายคนนั้น สูงเกินไป ทำอย่างนี้ดูเหมือนมันจะไร้ประโยชน์สิ้นดี

แต่ถึงจะเป็นอย่างนี้ ร่างที่ทรงอำนาจนั้น ก็เพียงพอที่จะสู้กับ

ผู้ชายได้

เธอยิ้มมุมปาเบา ๆ แล้วพูดด้วยการเยาะเย้ย “กู้ซื้อเฉียน เมื่อ ก่อนฉันคิดว่าคุณเป็นผู้ชายแท้ๆ จึงได้เดินตามคุณสุดหัวใจ แต่ แล้วฉันก็พบว่าคุณไม่กล้าที่จะเผชิญกับความจริง เป็นคนขี้ขลาด ที่ชอบหลอกลวงตัวเอง ผู้ชายอย่างคุณเหรอ อยากจะบังคับฉัน? นี่คุณคิดว่าตัวเองเป็นเทพเจ้าคุณอยู่เหรอ? โลกทั้งใบเป็นของ คุณ แล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ? ” สีหน้าของชายผู้นั้นหม่นหมอง ลงทันที

ทันใดนั้นเขาก็เยาะเย้ย โน้มตัวเข้ามาใกล้เธอ ริมฝีปากบางๆ ของเขากดแนบหูเธอแล้วพูดว่า “ผมเป็นผู้ชายจริงหรือเปล่า ค่ำคืนราตรีของแมื่อสี่ปีที่แล้ว คุณรู้ดีที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไม? นี่ห่างกันไปแค่สี่ปีเอง ลืมแล้วหรอกเหรอ? คุณต้องการ ให้ผมรื้อฟื้นความทรงจำนั้นอีกครั้งไหมล่ะ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ