วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 187 จิตใจชั่วร้าย



จิ่งหน่งสายหัว

“ไม่มีประโยชน์ พวกเขาตั้งใจจะใส่ร้ายฉัน แล้ว ซอนตัวก็เท่ากับสมใจพวกเขาพอดี หากถึง เวลานั้นหาเจอขึ้นมา ต่อให้มีอีกเป็นร้อยปากก็พูด ไม่ได้แล้ว”

แล้วจะทํายังไง?”

จิ่งหนิงขมวดคิ้วแน่น เธอไม่พูดจา จากนั้น จึงรีบวิ่งไปที่หน้าต่างและมองลงไป

“คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฉัน เปิดประตูไป ก็พอ ถ้ามีคนเอ่ยถาม จําไว้ว่าต้องบอกว่าไม่ได้ เจอกัน”

“อืมอืม แล้วคุณ…

จํงหนิงไม่สนใจเขาอีกต่อไป เธอม้วนแขน เสื้อขึ้น จากนั้นจึงมองกลับไปเห็นถ้วยน้ำสองใบ บนโต๊ะ และอาหารที่เธอกินเมื่อคืน เธอหันกลับ มากวาดอาหารและแก้วใส่ลงถุง

เมื่อเวลานั้นเอง ประตูก็ถูกเคาะ

น้ำเสียงด้านนอกเร่งรีบอย่างยิ่ง ราวกับมี คนกำลังแอบดูอยู่ข้างใน

“ผู้กํากับหลินรีบเปิดประตูเร็วเข้า ! ฉันพาหมอมาพบคุณแล้ว! รีบเปิดประตูเร็ว! ”

“ผู้กำกับหลินคุณโอเคไหม?”

“ผู้กํากับหลินคุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“พอเถอะ ด้านในไม่มีเสียง พนักงาน เปิด ประตูเข้าไปเลย!”

หลินซูฝานได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนไปและรีบ วิ่งไปที่ประตู

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาก็รู้สึกแค่ว่าด้าน หลังมีสายลมพัดผ่านไปวูบหนึ่ง เมื่อหันกลับไป มอง ที่หน้าต่างก็ไม่มีเงาของจิ่งหนิงอยู่แล้ว

คนที่เข้ามาเป็นทีมงานในกองถ่ายสองสาม

คน

รองผู้กำกับ หลิวคังอยู่ที่ด้านหน้าสุด ตาม ด้วยพนักงานโรงแรมที่ถือบัตรห้องอยู่ด้านหลัง

ท่าทางของทุกคนดูเร่งรีบ แต่เมื่อเห็นหลิน ซูผ่านที่กำลังยืนอยู่ในห้องอย่างไร้ความเสียหาย ใดๆ กลับต้องตกตะลึงไป

“ตาหลิน? คุณสบายดีนี่?”

หลินซูฝานขมวดคิ้ว “ฉันจะมีเรื่องอะไร ได้?”

“ไม่ใช่ นี่…”

หลิวคังเองก็สับสนเล็กน้อย เขาหยิบ โทรศัพท์มือถือออกมาแล้วพูดว่า “คุณไม่ได้ส่งข้อความมาหาฉัน บอกว่าไมสบาย ใกล้จะไม่ไหว แล้วไม่ใช่หรือไง? ฉันถึงได้รีบร้อนพาคนมาที่นี่ จนแทบแย่เนีย”

หลินซูฝานรับโทรศัพท์ขึ้นมาดู และเห็นว่า มีข้อความปรากฏขึ้นจริง อีกทั้งคงที่ส่งก็คือตัว เขาเอง

เขาขมวดคิ้วลึกขึ้น จากนั้นจึงมองไปรอบๆ ห้องและในที่สุดก็พบโทรศัพท์มือถือของเขาบน เตียง

เขาเปิดมัน และดูอย่างละเอียด

ที่น่าแปลกก็คือ ในนั้นมีข้อความส่งออกไป เมื่อสิบกว่านาทีก่อนจริงๆ

คนส่งคือตัวเขาเองและคนรับคือหลิวคัง

นี่….มันเกิดอะไรขึ้น?

หลิวคังเห็นเขาถือโทรศัพท์มือถือ และยืน อยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้านิ่งงัน ก็เป็นกังวลอยู่บ้าง

“ตาหลินคุณสบายดีจริงไหม? คุณเพิ่งส่ง ข้อความมาให้ฉันเมื่อสิบนาทีที่แล้ว ไม่น่าจะลืม เร็วขนาดนี้”

หลินซูฝานหันมามองเขา

ทีมงานคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างหลัง หลิวคังก็มี สีหน้าประหลาดใจเช่นกัน

ใบหน้าของเขาเข้มขึ้น เขานิ่งคิด และ

เอ่ยขึ้น “ขอโทษที เมื่อกี้อาจเป็นความเข้าใจผิด บางทีมือถือของฉันวางเอาไว้บนเตียงไม่ทันระวัง เลยส่งข้อความผิดไปให้ ทําให้ทุกคนต้องเสีย เวลามาแล้ว ขอโทษด้วย”

เมื่อเห็นแบบนี้ หลิวคังก็ยิ่งรู้สึกแปลกมาก

ขึ้น

แต่ในเมื่อเขาพูดแบบนั้นแล้ว ตนเองก็ไม่ สามารถพูดอะไรได้มากกว่านี้

เขาได้แต่เอ่ยถามด้วยความห่วงใย “คุณไม่ เป็นอะไรก็ดี ถ้ามีเรื่องอะไรจริง ๆ จะต้องบอก พวกเรานะ คุณเป็นเลือดเนื้อกระดูกของกองเรา ถ้าคุณเกิดเรื่องขึ้นมา กองถ่ายนี้ก็จบแล้ว”

หลินซูผ่านพยักหน้า

หนึ่งในคนที่อยู่เบื้องหลัง หลิวคังตอนนี้ กำลังมองไปที่ทุกมุมของห้องอย่างเงียบๆ

หลินซูผ่านสังเกตเห็นคนๆ นั้น เขาเอ่ยถาม “นายมองอะไรอยู่?”

คนๆ นั้นได้สติกลับมาและรีบเอ่ยขึ้น “ไม่มี อะไร ผมแค่คิดว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ นิดหน่อย ผู้ กํากับหลินคุณแน่ใจหรือว่าไม่เป็นไร? ”

หลินซูฝานเอ่ยพูดเสียงเรียบ “ฉันไม่เป็น อะไร พวกนายกลับเถอะ!”

หลิวคังพยักหน้า จากนั้นจึงพาคนออกไป
หลังจากที่ส่งกลุ่มทีมงานที่เป็นห่วงตัวเอง ออกไปแล้วหลินซูผ่านก็หันหลังกลับและปิด ประตู จากนั้นใบหน้าของเขาก็เคร่งเครียดขึ้นมา ขีดสุด จ

เขาเดินไปที่หน้าต่างอย่างรวดเร็ว จากนั้น จึงมองออกไป

เขาไม่เห็นอะไรทั้งสิ้นที่นั่น อย่าว่าแต่คน แม้กระทั่งหญ้าสักต้นยังไร้วี่แวว

หลินซูผ่านอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก เขา กำลังจะโทรหาจิ่งหนึ่ง แต่เสียงออดก็ดังขึ้น เขาไม่รู้ว่าเป็นใครที่มาหาตนในเวลานี้อีก

และตอบกลับไปอย่างรำคาญอยู่บ้าง จากนั้นจึง

เดินไปเปิดประตู

ไม่คาดคิดว่า ทันทีที่ประตูเปิดออก เขาก็ เห็นจิ่งหนึ่งยืนอยู่ข้างนอก หลินซูผ่านตกตะลึงไปทันที

“จิ่งหนิง? คุณโอเคไหม?”

จิ่งหนิงส่ายหัว จากนั้นจึงมองซ้ายขวา แล้ว พูดด้วยน้ำเสียงต่ำ “เข้าไปแล้วค่อยว่ากัน” เวลานั้นเองหลินซูผ่านจึงรีบปล่อยให้เธอ

เข้าไป

เมื่อประตูปิดลง จิ่งหนึ่งก็มองไปรอบ ๆ ห้อง เพื่อหาอะไรบางอย่าง
หลินซูฝานเดินเข้ามาเอ่ยถาม “คุณออกไป ข้างนอกได้ยังไง? รู้ไหมว่าเมื่อกี้พอผมไม่เห็นคุณ อยู่ที่ใต้ขอบหน้าต่าง ผมกลัวแทบตาย คิดว่าคุณ ตกลงไปแล้ว!”

จิ่งหน่งตรวจสอบทั่วทั้งห้อง หลังจากแน่ใจ ว่าไม่มีจุดน่าสงสัย เธอจึงค่อยหันกลับมา

เธอมองไปที่ หลินซูผ่านและพูดด้วยรอย ยิ้ม “ไม่ต้องกังวลตอนนี้ฉันยังดีอยู่ไม่ใช่หรือไง?”

หลินซูผ่านดูแล้วน่าจะได้รับความตกใจไป ไม่น้อย เขายังคงเอ่ยถามอย่างสั้นๆ อยู่บ้าง แล้ว คุณออกไปได้ยังไงกันแน่?

“ก็ไม่มีอะไรมาก ฉันก็แค่กระโดดไปที่ขอบ หน้าต่างของห้องด้านล่าง โชคดี ที่แขกห้องด้าน ล่างเพิ่งจะคืนห้องไปพอดี ประตูยังไม่ได้ปิด เพราะรอพนักงานเข้ามาทําความสะอาด ดังนั้น ฉันก็เลยออกมาได้อย่างเปิดเผย

เธอเอ่ยอย่างสงบ แต่ หลินซูผ่านกลับตก ตะลึงตาค้างไปแล้ว

เขาอดไม่ได้ที่จะเกาะลงไปมองที่ด้านล่าง หน้าต่างอีกครั้ง จากนั้นจึงอย่างไม่แน่ใจ “คุณ หมายถึง คุณกระโดดจากที่นี่ไปที่ขอบหน้าต่าง ด้านล่าง?”

จิ้งหน่งพยักหน้า

หลินซูฝานกลืนน้ำลายและมองเธอด้วยสายตาแปลกประหลาดอยู่บ้าง

“ที่นี่อย่างน้อย ๆ ก็สูงกว่าสามเมตร คุณ…เอาเถอะ! มองไม่ออกเลย ว่าคุณยังมี ทักษะแบบนี้ด้วย!”

จิ่งหนิงยิ้ม ท่าทางไม่ปฏิเสธ

เธอกลับเข้าประเด็น “เรื่องครั้งนี้ คุณลอง บอกมาว่าคิดยังไง! “

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หลินซูผ่านก็มีสีหน้าเยียบ เย็นขึ้นมาทันที

“เรื่องครั้งนี้ ชัดเจนแล้วว่ามีคนพยายามใส่ ร้ายพวกเรา! ”

จิ่งหน่งพยักหน้า

“ก่อนอื่นดึงดูดให้ฉันมาที่ห้องของคุณ จาก นั้นจึงวางยาเพื่อทําให้พวกเราสลบไป และตั้ง ข้อความในมือถือของคุณเอาไว้ เข้าวันรุ่งขึ้นก็ส่ง มันแจ้งให้เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ให้มาที่นี่

ถ้าหากไม่ใช่เพราะพวกเราตื่นเช้า และพบ พวกเขาเข้าจริง ๆ ก็เท่ากับถูกจับได้คาเตียง ถึง ตอนนั้นต่อให้มีร้อยปากก็พูดไม่ได้แล้ว

สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดคือ ทั้งกระบวนการนี้ อีกฝ่ายไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นเองเลยสักครั้ง กระทั่งในตอนเช้าก็ยังอาศัยพวกรองผู้กำกับหลิว แบบนี้ ต่อให้เรื่องจะมีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้น ก็สืบไป ไม่ถึงตัวเธอในตอนท้าย
เมื่อ หลินซูฝานได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนไป

“คนชั่วที่อยู่เบื้องหลังแผนการร้ายกาจ นี้ ช่างจิตใจชั่วร้าย! ”

เขามองไปที่จิ่งหนิงและขมวดคิ้ว

“อย่างนั้นคุณคิดว่า อีกฝ่ายวางยาพวกเรา ได้อย่างไร?”

“ฉันสงสัยว่าปัญหาอยู่ที่อาหารและเครื่อง ดื่มที่ถูกส่งมาเมื่อคืน ดังนั้นเมื่อกี้ตอนที่ฉันออกไป จึงน่าพวกนั้นไปด้วย รอจนผลพิสูจน์ออกมา ก็จะ รู้เองว่ามีปัญหาหรือไม่

หลินซูฝานชื่นชมการกระทำของเธออย่าง ยิ่ง อันที่จริง หากไม่ใช่เพราะจิ่งหนิงไหวพริบดี อย่างยิ่ง จนกระทั่งตอนนี้บางทีเขาอาจยังคิด เรื่องนี้ไม่ออกด้วยซ้ำ

เมื่อนึกถึงกลุ่มคนที่พุ่งเข้ามาเมื่อครู่ หากมี ใครก็ตามจงใจที่จะนำของพวกนั้นไปหรือทําลาย หลักฐาน อย่างนั้นแม้กระทั่งหลักฐานเพียงอย่าง เดียวที่มีก็คงไม่เหลือแล้ว

แบบนั้น ยังเป็นการยืนยันความสัมพันธ์ ระหว่างเขาและจิ่งหนังด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ