วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 505 เปิดกอง



บทที่ 505 เปิดกอง

สังเจียเจียตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ เธอแอบมองดูรูปของถังลั่วเหยา ด้วยความอิจฉา

ในรูปผู้หญิงคนนั้นมีดวงตาที่สดใส ฟันขาวสะอาดสวยงาม คิ้วเข้มตาคมช่างยั่วยวน

ใบหน้าอันงดงามแม้พื้นหลังจะเป็นสีขาวเรียบง่าย แต่ก็ดูออก

ถึงความมีสไตล์โดดเด่นและมีออร่า

แววตาของเธอเริ่มมืดมนและพยักหน้า ความอิจฉาในใจ ทวีคูณมากขึ้น “ผู้หญิงคนนี้แหละ

ในเมื่อผู้หญิงคนนี้กล้าจะรังแกหลานสาวสุดที่รักของเขา ถ้า

อย่างนั้นก็อย่าหาว่าเขาลงมือหนักเกินไป

หลังจากนั้น 3 วัน ถังลั่วเหยากลับมาทำงานได้ตามปกติ

และหลังจากนั้น 7 วัน เธอก็จัดการทุกอย่างในมือเสร็จสิ้น จากนั้นเริ่มศึกษาบทที่จะถ่ายทำเป็นเวลาถึงเดือน

หลังจากได้รับบทละครแล้ว ถังลั่วเหยาก็ได้อ่านเนื้อหา นวนิยายอย่างคร่าวๆ ขณะทำงาน

นวนิยายต้นฉบับนั้น กล่าวย้อนกลับไปในอดีต เป็นช่วงที่ ประเทศมีความปั่นป่วน เพื่อเป็นการปกป้องครอบครัวของเธอ นางเอกเป็นหนึ่งหานบุตรสาวของผู้บัญชาการทหารตัดสินใจที่จะหลบหนีออกมาจากบ้าน และเข้าร่วมเป็นแม่ทัพหญิงคนแรกของ ยุคนี้ ออกรบสนามเดียวกันกับพระเอก ท้ายที่สุดแล้วก็สามารถ ปกป้องประเทศเอาไว้ได้

ในเรื่องนั้นไม่เพียงแต่มียุทธวิธีการทางทหารเท่านั้นแต่ยังมี การต่อสู้ภายในตระกูลด้วย สุดท้ายแล้วยังมีเรื่องของราชวงศ์ เข้ามาเกี่ยวข้อง ถังลั่วเหยาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึงและทึ่งกับผู้ เขียน

องค์ประกอบมากมายรวมอยู่ในหนังสือเล่มเดียวกัน เป็นการ

ท้าทายความสามารถของผู้เขียนทีเดียว

สิ่งที่น่าทึ่งไปกว่านั้นก็คือ ผู้เขียนสามารถอธิบายแสดงถึงตัว ละครได้ดีมาก เรื่องของตัวละครหลักไม่ต้องพูดถึง เนื่องจากนี้ เป็นข้อกําหนดพื้นฐานของหนังสือ

แต่สิ่งที่ยากไปกว่านั้นก็คือทุกตัวละครในเรื่องที่เพียงแค่ ปรากฏชื่อ ไม่ว่าจะมีบทบาทมากหรือน้อย แต่ก็ยังอธิบายได้ อย่างชัดเจน

งานนี้หนักขนาดไหน ถังลั่วเหยาเพียงแค่คิดก็รู้สึกว่ามันน่า กลัว

ดังนั้นหลังจากที่อ่านทั้งเล่มจบโดยคร่าวๆแล้ว ถังลั่วเหยา ปิดหนังสือลงด้วยท่าทางชื่นชมและโทรศัพท์หา

“ขอบคุณมากนะคะที่ทำให้ฉันได้ใหญ่ขนาดนี้ ฉันได้อ่าน นวนิยายต้นฉบับเรียบร้อยแล้วน่าสนุกมากเลยค่ะ แล้วก็เป็นการ ท้าทายด้วย คุณเชื่อฉันนะคะว่าฉันจะตีบทละครนี้ให้แตก
ฉู่ยี่ที่กำลังยุ่งกับการจัดเก็บเอกสารในห้องทำงานของเขา เมื่อ ได้รับโทรศัพท์จากถังลั่วเหยาเขาก็วางงานในมือลงและเดินมาที่ ข้างหน้าต่างมองออกไปยังรถที่วิ่งตรงไปมาอย่างเงียบๆ ทันใด นั้นในใจของเขาก็รู้สึกสงบขึ้นมา “พวกเราเป็นเพื่อนกันนะครับ ระหว่างเพื่อนไม่จําเป็นต้องพูดคำว่าขอบคุณหรอกครับ” ถังลั่ว เหยาส่ายหัวแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “อะไรที่ควร พูดก็ต้องพูดค่ะ เพราะว่าคุณช่วยฉันไปมากจริงๆ

ดวงตาของฉู่ยี่มืดมนลงเล็กน้อย เขายังคงพูดด้วยความอ่อน โยนว่า “คุณทําความเข้าใจกับตัวละครต่อไปเถอะครับ อย่ามัว เสียเวลาเลย

ถังลั่วเหยาพยักหน้าแล้วพูดว่า “ได้ค่ะ”

หลังจากวางสายโทรศัพท์ลง ถังลั่วเหยาก็มองไปที่สมุด โทรศัพท์ จากนั้นวางโทรศัพท์มือถือลงและอ่านสคริปอีกครั้ง หนึ่ง

เวลา 1 เดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในระยะเวลา 1 เดือนนี้ ถังลั่วเหยาไม่ได้ก้าวขาออกจากบ้าน เลย เธอพยายามทําความเข้าใจตัวละคร

เงินหนิงหานเป็นผู้หญิงที่มีความคิด

ในฐานะคุณหนูตระกูลของผู้บัญชาการทหาร เธอจึงไม่ได้เป็น เหมือนผู้หญิงทั่วไปในยุคสมัยนั้นที่มัวแต่ให้ความสนใจอยู่กับ สามีและลูกๆ แต่แววตาของเธอนั้นมุ่งมั่นไปที่ภารกิจและความ รับผิดชอบ
ยุคสมัยนั้นเป็นยุคที่ปั่นป่วน จักรพรรดิไม่ใช่คนที่ไร้ความ สามารถ แต่เนื่องจากเขานั้นอายุน้อยเกินไปจึงไม่สามารถ ควบคุมอำนาจของขุนนางที่อยู่ภายใต้ความดูแลได้

ในฐานะจักรพรรดิผู้ยังเยาว์วัย เขาไม่เพียงแต่ต้องต่อสู้กับ คณะขุนนางอีกทั้งยังต้องปกป้องผู้ที่จงรักภักดีต่อกษัตริย์

และในเวลานี้เอง เป็นหนึ่งหานก็ปรากฏตัวขึ้น

บิดาของเธอไม่สามารถรักษากองทหารเอาไว้ได้ และเสียชีวิต ลงอย่างกล้าหาญในสนามรบเมื่อ 5 ปีก่อน

ภูมิหลังของครอบครัวเช่นนี้ เป็นหนึ่งหานไม่ได้ยอมพ่ายแพ้ และไม่ให้สมาชิกในครอบครัวถูกใครรังแกตามใจชอบ

เธอเลือกที่จะลุกขึ้นยืนเพื่อปกป้องคนในครอบครัว สละเวลา ออกมาเพื่อฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างขยันขันแข็งและรอคอยว่า วันหนึ่งจะสามารถเข้าแทนที่ตำแหน่งบิดาของเธอ เธอจะไปแก้ แค้นให้กับบิดาในสนามรบ

แต่เรื่องราวต่างๆอย่างง่ายดายขนาดนั้นได้อย่างไร?

ในฐานะสตรี เธอจะต้องดูแลเรื่องในบ้าน และยังต้องฝึกฝน วิทยายุทธการต่อสู้ หากว่าในบ้านมีแค่เป็นหนึ่งหานเพียงคน เดียว เธอคงจะต่อสู้อีกได้ไม่นาน

โชคดีที่สตรีในตระกูลเงินไม่ใช่พวกอ่อนแอ พวกเธอเห็นถึง ความลําบากของเงินหนึ่งหานและพร้อมกันออกแรงเพื่อช่วย สร้างความมั่นคงให้กับตระกูล
ด้วยเหตุผลนี้ เป็นหนึ่งหานถึงได้มีเวลามากพอเพื่อมาฝึกวิทยา ยุทธการต่อสู้ในสนาม

พระเอกหัวฉิงก็ได้เริ่มเข้าใกล้เป็นหนึ่งหานนับจากนี้เป็นต้นไป

ในฐานะคนสนิทผู้สืบทอดการฝึกวิทยายุทธของเงินหงซึ่งเป็น บิดาของเงินหนึ่งหาน หัวฉิงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตระกูลเงินจะลุก ขึ้นยืนได้

แต่เขาก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้ตระกูลเงินมากเกินไป

เขามักจะสงสัยว่ามีคนในราชวงศ์ทำการทรยศหักหลัง และ เขาคนนั้นก็มีตำแหน่งค่อนข้างสูง ใช้แผนการต่างๆ จัดการตระ กูลเงินออกไปโดยสิ้นเชิง

หากว่าในตอนนั้นเป็นหงไม่ได้บังคับให้เขาสาบานก่อนที่จะ สิ้นใจในสนามรบว่า อย่าพูดอะไรเพื่อเขา ไม่แน่ว่าตอนนี้หัวนิ่งก็

คงจะ……

ถูกต้องแล้ว พรรคพวกเก่าแก่ของตระกูลเงินหากใครลุกขึ้นมา ช่วยพูดให้เป็นหงท้ายที่สุดแล้วก็จะถูกมองว่าเป็นกบฏ บีบบังคับ ให้จักรพรรดิดาเนินการประหารชีวิต

ที่จริงแล้วหัวฉิงเคยเจรจากับองค์จักรพรรดิว่าทำไมมีคนทำตัว เก่งกาจขนาดนี้ อีกทั้งยังคุกคามรากฐานของประเทศ แต่ยังเก็บ เขาไว้ข้างกายจักรพรรดิ

แต่เมื่อพวกเขาเจรจากันไปมาสุดท้ายแล้วก็มีไม่มีใครเข้าใจ เรื่องราวทั้งหมดนี้
ท้ายที่สุดทุกคนก็ตัดสินใจซ่อนหัวจึงเอาไว้ และจะให้เขาออก มาปกป้องตระกูลเงินเมื่อถึงเวลาอันควร

ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงยังคงจงรักภักดีต่อตระกูลเงินแม้ว่าองค์ จักรพรรดิจะไม่พูดอะไร อีกทั้งยังปกป้องเขา แต่ไม่ว่าจะเป็นเขา หรือองค์จักรพรรดิเองก็กังวลว่าตนจะถูกบีบบังคับ

ด้วยเหตุนี้ หัวฉิงจึงแสร้งทำเป็นไม่มีความสัมพันธ์กับตระกูลเวิ นมากว่า 5 ปี

จนกระทั่งวันหนึ่งเป็นหนึ่งหานเอาชนะหัวหน้าแม่ทัพได้ เขาจึง เริ่มมองเห็นความหวังในตัวของเป็นหนึ่งหาน

และด้วยเหตุผลนี้เอง หัวฉิงจึงได้เริ่มเข้าใกล้เป็นหนึ่งหาน และ เรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ

หลังจากที่ประมวลเรื่องราวในสมองเรียบร้อยแล้ว ถังลั่วเหยา

ก็คิดว่าเธอควรจะต้องเลียนแบบพฤติกรรมของตัวละครนี้ให้ได้

เป็นหนึ่งหานเป็นคนอ่อนโยนแต่ก็แข็งแกร่งมุ่งมั่น เธอต้อง เผชิญหน้ากับโลกที่ไม่มีความยุติธรรมและการแข่งขัน ความ พยายาม อุทิศตนเพื่อยุคสมัยที่วุ่นวาย และทำประโยชน์ให้แก่ ประเทศชาติ

จากความเข้าใจของถังลั่วเหยาเกี่ยวกับตัวละครเป็นหนึ่งหาน ก็เท่ากับว่าเธอกำลังทําความเข้าใจในโลกนี้อยู่

ถังลั่วเหยาแต่งหน้าสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็เดินทางไปยัง สถานที่ที่ซูหงแจ้งเอาไว้
วันนี้เป็นงานเลี้ยงเปิดกอง ในฐานะนางเอกของเรื่อง ถังลั่ว เหยาจะต้องแต่งตัวออกไปร่วมงานเลี้ยงให้โดดเด่นกว่าคนอื่น

เมื่อเดินทางมาถึงสถานที่จัดงาน เธอก็แจ้งหมายเลขห้องและ ให้บริกรพาเธอไปยังห้องจัดเลี้ยง

ห้อง VIP อยู่ที่ชั้น2 บริกรเปิดประตูให้เธออย่างสุภาพ

“ขอบคุณค่ะ” ถังลั่วเหยาเอ่ยขอบคุณเขา และมองเข้าไปด้าน

ในห้อง

ภาพที่เห็นนั้นคือคนหลายคนนั่งอยู่รอบโต๊ะขนาดใหญ่ ถังลั่วเหยาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เธอรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา ทันใด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ