วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 376 ออดิชั่นที่โรงแรม



บทที่ 376 ออดิชั่นที่โรงแรม

ช่างแต่งหน้าที่แต่งหน้าให้เธออยู่รีบพูดขึ้นว่า “ถังลั่วเหยาค่ะ เธอซื้อมาให้กับทุกคนเลยนะคะแต่ว่ารูปร่างแตกต่างกันไป ดู ของฉันเป็นรูปน็อทร์ตามเดอปารีส”

เมื่อพูดจบเธอก็ยื่นพวงกุญแจที่แขวนไว้กับกุญแจของเธอออก มาให้ดู

ซูฉิน มองไปด้วยสายตาดูถูก ก่อนที่จะพูดอย่างเย้ยหยันว่า “ขยะแบบนี้พวกคุณยังคิดว่าเป็นของมีค่าอีกเหรอคะ ? ฉันก็คิด ว่าเป็นอะไรเสียอีก ก็แค่พวงกุญแจเนี่ยนะ สมัยนี้เขาใช้แต่ลาย นิ้วมือกันแล้ว พวกที่ยังใช้กุญแจอยู่นะเป็นพวกบ้านนอก

ช่างแต่งหน้า “…..

บรรยากาศในห้องแต่งตัวตกอยู่ในความอึดอัดขึ้นมาทันใด เลิงเสี่ยวเยว แต่งหน้าเสร็จแล้วเธอก็ทำท่าจะเดินจากออกไป อย่างเย็นชา

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันและไม่มีใครกล้าพูดอะไร ทันใดนั้นเองถังลั่วเหยาก็เดินเข้ามา

“ขอโทษนะคะ หลี่ พอดีว่าตรงตาของฉันมันเลอะคนช่วยแก้ ให้หน่อยได้ไหม? ”

เนื่องจากจำนวนคนมีจำกัด ดังนั้นนอกจากเลิงเสี่ยวเยวซึ่งเป็นนางเอก คนอื่นก็ใช้ช่างแต่งหน้าคนเดียวกัน

พี่หลี่คนที่ถังลั่วเหยาเรียกนั้น เธอแต่งหน้าให้กับซูฉินด้วย

เมื่อได้ยินเสียงของเธอก็รีบพูดขึ้นว่า “ได้ค่ะได้ นั่งรอแป๊บนึง นะเดี๋ยวฉันจะแก้ให้เดี๋ยวนี้

หลังจากที่ถังลั่วเหยานั่งลงก็ได้ยินเสียงของซูฉินดังขึ้นมา “พี่หลี่ ฉันจำได้ว่ากองถ่ายให้คุณแต่งหน้าให้ฉันไม่ใช่เหรอ ทำไมยังต้องแต่งหน้าให้เธอด้วย?

พี่หลีได้ยินดังนั้นก็รีบพูดขึ้นว่า “ขอโทษนะเดี๋ยวฉัน กองถ่าย ของพวกเรามีช่างแต่งหน้าแค่ 5 คน พวกเราแต่งหน้าให้กับคน ตั้ง 10 กว่าคน นอกจากช่างแต่งหน้าของเลิงเสี่ยวเยวแล้ว ทุกคน ก็ใช้ช่างแต่งหน้าร่วมกัน

ซูฉิน ได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้างเธอราวกับได้ยินสิ่งที่เหลือเชื่อ

“อะไรนะใช้ด้วยกันเหรอ? ”

พี่หลีพยักหน้าตอบ

“ทำไมก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยเห็นคนแต่งหน้าให้พวกเธอ? ”

“เพราะว่าพวกคนอื่นๆมากันเช้า มีคุณคนเดียวที่มาสาย ตอน ที่คุณมาถึงคนอื่นๆก็แต่งหน้าเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น……

เมื่อคำพูดนี้พูดออกไปซูฉิน ก็เปลี่ยนสีหน้าไปทันที

เนื่องจากเป็นละครย้อนยุค ดังนั้นการแต่งหน้าและเครื่องแบบ ต่างๆ จะซับซ้อนกว่าละครสมัยใหม่
นักแสดงหญิงก็จะเข้าคิวแต่งหน้าซึ่งใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง จึงต้องตื่นมาแต่เช้า เพราะการแต่งหน้าทำผมจะต้องมี รายละเอียดต่างๆมากมาย

อีกทั้งผู้กำกับหลี่ยเป็นคนที่ดูผลงานแต่ไม่ดูภูมิหลังของนัก แสดง ผลงานของเขาจึงไม่มีชิ้นใดที่ไม่เป็นที่นิยม

ดังนั้นซูฉิน จึงได้นำเงินทุนของตัวเองจำนวนไม่น้อยเข้ามาบริ จาค และสัญญาว่าเธอจะเล่นบทธรรมดาไม่ใช่บทพิเศษ

หากว่าเรื่องที่เธอมาสายถูกผู้กำกับรู้เข้าเขาคงจะมีความคิด

เห็นส่วนตัวกับเธอแน่นอน

ดังนั้นสีหน้าของซูฉิน จึงเปลี่ยนไปไม่น่ามองนัก

ถังลั่วเหยาที่ยืนมองอยู่ข้างๆได้ยินจึงพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะพี่ห แต่งหน้าเธอ ให้เสร็จก่อนก็ได้เดี๋ยวฉันรออยู่ข้างๆ

พี่หลีได้ยินดังนั้น จึงได้ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “ค่ะ”

ถังลั่วเหยาหันไปยิ้มให้กับซูฉินอย่างเป็นมิตร

ซูฉันคิดว่าเธอกลัวตนเอง จึงได้หัวเราะแล้วพูดว่า “นับว่ารู้จัก ประเมินตน”

จากนั้นก็เดินหันหลังจากไปและให้ช่างแต่งหน้าเริ่มลงมือ ฉากนี้ในสายตาของคนอื่นๆ อดไม่ได้ที่จะแสดงถึงความดูถูก ออกมา

เหอะๆ ก็แค่นักแสดงที่ทุ่มทุนเพื่อให้ตัวเองเข้ามามีบทบาทในเรื่อง ทําเป็นวางท่า

มีใครไม่รู้ว่าถังลั่วเหยารับบทเป็นถังลั่วเหยาในเรื่อง บทของ เธอสำคัญรองลงมาจากนางเอกเลยด้วยซ้ำ

หากละครเรื่องนี้ได้รับความนิยมคาดว่าถังลั่วเหยาคงจะได้รับ ความสนใจไม่น้อย เมื่อถึงเวลาแล้วยังจะต้องมานั่งรองมือ รองเท้าเธออีกเหรอ?

อีกอย่างหนึ่งถังลั่วเหยาได้ถ่ายทำผลงานดีๆมามากมาย เธอ มีแฟนคลับไม่น้อยเลยถ้าเปรียบเทียบกับคนที่เอาเงินฟาดหัวเพื่อ เข้ามาเล่นละคร ไม่รู้ว่าเอาความภาคภูมิใจมาจากไหน

แม้ทุกคนจะดูถูกท่าทางของซูฉิน แต่สีหน้าของพวกเขาก็ไม่ ได้แสดงมันออกมายังคงอ่อนน้อมถ่อมตนและจัดการทำผมแต่ง หน้า

แต่ทุกคนรู้สึกชื่นชมยินดีในตัวของถังลั่วเหยามากขึ้นไปอีก ฉากในตอนเช้าเป็นฉากที่ต้องถ่ายทำท่ามกลางสายฝน

ถังลั่วเหยาได้ถ่ายทำละครกลับเหยียนซื่อหวาและหมั่นถือมา ก่อน ดังนั้นเธอจึงมีทักษะการแสดงที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ทักษะการแสดงของเธอจึงเจิดจ้า เมื่อเปรียบเทียบกับการ

แสดงของซูฉินแล้ว ต่างกันราวฟ้ากับดิน

หลังจากถ่ายทำได้ไม่นาน ผู้กำกับสั่งคัท

เขาขมวดคิ้วแล้วพูดกับซูฉินว่า “ตรงนี้คุณแสดงแข็งมาก ตอนนี้คุณยังไม่รู้ว่าเธอเป็นศัตรู ทำท่าทางกัดฟันกรอดๆ ไม่ สอดคล้องกับบทบาทเลย ถ่ายทำใหม่

ซูฉิน ได้ยินดังนั้นสีหน้าของเธอก็เย็นชาแต่ไม่ได้พูดอะไร ท้ายที่สุด ถ่ายทำอยู่ถึง 4 ครั้งจึงผ่านไปอย่างตะกุกตะกัก

ในไม่ช้าก็ถึงเวลากลางวัน

ถังลั่วเหยามีถ่ายละครถึงแค่ช่วงเช้า ช่วงบ่ายไม่มีคิวดังนั้น เธอจึงกลับไปพักผ่อน

ทันใดนั้นเองโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น

เป็นสายจากผู้จัดการของเธอ หง

ถังลั่วเหยาเซ็นสัญญากับชิงฮุย แต่ตอนนี้จิ้งหนึ่งไม่ได้รับผิด ชอบตรงนั้นแล้วเธอมอบหมายหน้าที่ทั้งหมดให้กับเสี่ยวเหอ

ในตอนนี้เสียวเหอควบคุมกิจการทั้งหมดของบริษัท ดังนั้นจึง ไม่มีเวลามาดูแลเธอ ตอนนี้ทุกคนจึงมีผู้จัดการที่แตกต่างกันไป

และผู้จัดการของเธอก็เพิ่งจะเข้ามาทำงานใหม่เมื่อไม่นานมา

นี้ชื่อว่า หง

ถังลั่วเหยารีบรับสายขึ้นแล้วถามว่า “พี่ซูหง มีเรื่องอะไรหรือ เปล่าคะ?”

ฝ่ายตรงข้ามพูดมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาเช่นเคยว่า “ตอนบ่าย วันนี้ว่างหรือเปล่า ไปเทสต์หน้ากล้องไหม

ถังลั่วเหยาตกตะลึง เธอไม่ต้องคิดด้วยก็ตอบตกลงออกมา“ได้สิคะ แต่ว่าตอนนี้ฉันมีหนังของ ผู้กำกับหลี่ ฉันไม่อยากจะ ถ่ายกัน เรื่องนั้นถ่ายทำเมื่อไหร่คะ?”

ตอนนี้ยังไม่แน่ใจ ไปลองดูก่อนแล้วกันถ้าผ่านออดิชั่นแล้ว พวกเราค่อยคุยกันเรื่องของปัญหาตรงนี้

ถังลั่วเหยาตอบตกลง โดยไม่ปฏิเสธ

หลังจากวางสายลง ซูหงก็รีบส่งสถานที่ออดิชั่น ให้เธอ

เมื่อถึงลั่วเหยามองดู ก็พบว่าเป็นที่โรงแรม เธอถึงขมวดคิ้ว ด้วยความสงสัย

แต่ว่าหงเป็นคนแนะนำให้เธอก็คงไม่มีปัญหาอะไร เมื่อคิด ได้ดังนี้เธอก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า และบอกกับผู้กำกับหลีก่อนที่จะ เดินทางออกไป

ที่อยู่ที่ซูหงส่งให้เธอนั้นเป็นโรงแรมหรูที่หนึ่ง

เมื่อเดินทางมาถึงโรงแรมถังลั่วเหยาก็ไปตามห้องที่ระบุไว้ แล้วกดกริ่ง

ไม่นานต่อมาก็มีเสียงของชายหนุ่มตอบว่า

“เข้ามาได้”

เมื่อเธอผลักประตูเข้าไปก็พบชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วม นั่งอยู่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยไขมัน และข้างๆมีช่างถ่ายภาพ ยืนอยู่ มีผู้หญิง 2 คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอคาดว่าคงจะ มาออดิชั่นด้วย
ถังลั่วเหยาจึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เดิมทีตอนแรกที่พบว่าสถานที่ออดิชั่นอยู่ในโรงแรมเธอก็ลังเล เล็กน้อย

เนื่องจากเธอไม่ได้เข้ามาในวงการนี้เป็นวันแรก เธอเคยได้ยิน เรื่องราวไม่สะอาดเหล่านั้นมาไม่น้อย ตอนนี้ดูจากสถานการณ์ แล้ว มีผู้กำกับมีช่างถ่ายภาพและนักแสดงหญิงคนอื่นๆ ที่มาออดิ นั่นก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ