วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่101 เขามีลูกสาวแล้ว



บทที่101 เขามีลูกสาวแล้ว

จิ่งหนึ่งไม่คาดคิดเลยว่า งานรวมตัวที่ จิ่งเล่นกล่าวถึง คือการมาพบปะกับเพื่อนของ

เขา

ดังนั้น เมื่อเธอก้าวเข้าไปในห้องวีไอพี และสังเกตเห็นชายหนุ่มสองสามคนนั่งอยู่ ภายในนั้น ทําให้เธอรู้สึกสับสนไปชั่วขณะ

“พี่ชาย พี่สะใภ้ พวกคุณมากันแล้ว!”

เซเขียวออกมาทักทายเป็นคนแรก แต่ เมื่อคนที่เหลือเห็นจิ่งหนิง พวกเขาก็ตกตะลึง อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆแสดงปฏิกิริยาตอบ

สนอง

รีบกล่าวทักทายในทันที

“ฉันได้ยินมาตลอดว่าพี่ชายสามซ่อน หญิงงามไว้ที่เมืองจิ้น ในที่สุดก็มีโอกาสได้ เจอตัวสักที”

“พี่สะใภ้สาม สวัสดีครับ ผมชื่อเฟิงยี่ “พี่สะใภ้สาม ผมขอกู้จี้เชิง”

เมื่อได้รับการต้อนรับอันแสนอบอุ่นจาก พวกเขา จิ่งหนิงจึงปันยิ้มขึ้น พร้อมกับพยัก หน้าตอบรับ

จิ่งหนังรั้งที่ปลายเสื้อของลูจึงเป็นอย่าง ลับๆ เธอฝืนยิ้มและพูดด้วยเสียงที่ต่ำลง

ว่า : “ลู่จิ่งเซิน ทําไมคุณไม่บอกฉันว่าจะมาพบ กับพวกเขา?”

แน่นอนว่าเธอเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยว กับคุณชายเหล่านี้

ในฐานะของทายาทของตระกูลใหญ่ ในเมืองหลวง ก็ถือได้ว่าพวกเขาเติบโตมา พร้อมกันกับลู่วิ่งเซิน คงไม่ต้องพูดถึงความ สัมพันธ์อันใกล้ชิดของพวกเขา และที่สำคัญ ที่สุดคือ พวกเขาทั้งหมดถือเป็นบุคคลที่ทำให้ หญิงสาวจํานวนนับไม่ถ้วนต้องกรีดร้องอย่าง บ้าคลั่ง ถือเป็นโอกาสที่หายาก สําหรับการรวม ตัวกันในวันนี้

ลูจิ่งเชินคลี่ยิ้มบางเล็กน้อย และจับมือ

เธอ

“ก็เธอไม่ยอมกลับเมืองหลวงมาฉลอง วันปีใหม่ด้วยกันกับฉัน ก็เลยต้องนัดพวกเขา มาเจอที่เมืองจิ้น”

จังหนิง : “”

อีกครึ่งเดือนก็จะปีใหม่แล้ว ก่อนหน้านี้ จิ่งเซ็นได้เคยเอ่ยถามเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง เรื่องการไปฉลองปีใหม่ที่เมืองหลวง

เมื่อคราวนั้นเธอได้ตอบปฏิเสธไป ถึงแม้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองจะพัฒนาขึ้นตาม ลำาดับ แต่มันยังไม่ถึงเวลาที่สมควร

เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ ถึงแม้จะรู้สึกถึง ความไร้เดียงสาเล็ก ๆ จากผู้ชายคนนี้ แต่ ภายในใจของเธอกลับห้ามความรู้สึกหวานซึ้ง ที่ล้นปรี่ออกมานี้ไม่ได้ ท้ายที่สุดแล้ว บุคคลเหล่านี้ล้วนมีความ สําคัญต่อจิตใจของลู่จึงเป็นอย่างเห็นได้ชัด

ดโอกาสพิเศษ ให้เธอได้พบกับพวก เขา ซึ่งวัตถุประสงค์ก็ชัดเจนอยู่ภายในตัวของ มันเอง

จิ่งหนิงยกยิ้มมุมปาก ปรายตาขึ้นมอง เขา จากนั้นจึงออกแรงหยิกไปที่เอวของเขา เงียบ ๆ

ชายคนนั้นไม่แสดงท่าทางเจ็บปวด แต่ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขากลับลึกขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อคนทั้งหมดนั่งลง

ลู่วิ่งเซินก็แนะนำจึ่งหนึ่งให้พวกเขาฟัง อีกครั้งหนึ่งอย่างตั้งใจ จากนั้นจึงบอกให้ พนักงานเสิร์ฟอาหาร

ในทีแรกจิ่งหนึ่งยังรู้สึกค่อนข้างอึดอัด เมื่อต้องมีเพื่อนของเขาอยู่ด้วย

แต่โชคดีที่คนกลุ่มนี้มีอายุใกล้เคียงกัน และมีเฟิงยี่ที่คอยทำให้บรรยากาศมีความเป็น กันเองมากขึ้น ผ่านไปไม่นาน จิ้งหนึ่งก็รู้สึกคุ้น เผยกับคนกลุ่มนี้มากขึ้น

คุณชายใหญ่ของกลุ่มนี้ เป็นที่รู้กัน ภายนอกว่าเป็นที่บุคคลเข้าถึงยาก แต่กลับ เป็นคนพูดเก่งมาก เมื่ออยู่กับคนกันเอง

เซเชียวคงไม่จําเป็นต้องกล่าวถึง เฟิงยี่ ในฐานะลูกชายคนที่สองของตระกูลเฟิง จนถึงปัจจุบันยังคงค้นคว้าเทคโนโลยีปัญญา ประดิษฐ์ใหม่ ๆ และได้มอบหุ่นยนต์สุนัขตัว น้อยน่ารักให้กับ งหนึ่ง เพื่อเป็นของขวัญ สําหรับการพบหน้ากันครั้งแรก

กู้จี้เชิงปฏิเสธที่จะตามรอยคนรุ่นก่อนใน การเข้าสู่วงการการเมือง และเลือกเรียน แพทย์ แม้ว่าเขาจะอายุยังน้อย แต่กลับเป็น ศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังคนหนึ่ง

เขาเป็นคนสุขุม พูดน้อย มักจะเจือด้วย รอยยิ้มจาง ๆ ที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยนเหมือน สายลมในฤดูใบไม้ผลิ การรับประทานอาหารมื้อเย็น เป็นไป อย่างสนุกสนานและกลมกลืน

ระหว่างนั้น จังหนึ่งได้ออกไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางได้เจอกับ ป๋อไป

ป่อไปถือเป็นคนของตระกูลยูที่มีความ โดดเด่นที่สุดในรุ่นนี้ ได้รับการยกย่องจาก หญิงสูงวัยมาโดยตลอด

ความสัมพันธ์วัยเด็กของเขากับ งหนึ่ง ค่อนข้างดี แต่เมื่อโตขึ้น เนื่องจาก ชื่อไปต้อง ไปเรียนต่อต่างประเทศประมาณสองสามปี ทุก คนจึงห่างเหินกันไป

ได้เจอเธอ ยูซือไปรู้สึกตกใจเล็กน้อย “จ๋งหนิง ทําไมคุณมาอยู่ที่นี่ได้ ? ”

จังหนึ่งไม่ได้รังเกียจเขา เธอเพียงยิ้ม บาง ๆ และตอบกลับไปว่า : “ออกมาทานข้าว ค่ะ”

ยู่ซือไปปรายตามองห้องวีไอพีที่อยู่ทาง ด้านหลังของเธอ นัยน์ตาของเขามีคลง

ห้องวีไอพีห้องเดียวภายในวิลล่าลู่ฮุบที่ ไม่เคยเปิดให้คนนอก ก็คือลานโบต้น

ว่ากันว่ามีคนทําสัญญาระยะยาว แม้ว่าจะ ไม่มีใครมา ก็ไม่เปิดให้กับคนนอก มีครั้งหนึ่งที่เขาเคยสอบถามโดยไม่ได้

ตั้งใจ จึงได้รู้ว่าบุคคลนั้นคือลู่วิ่งเซิน

เชือไปมองไปที่เธอ”คุณและเขากลับ เป็นคู่ที่ไม่เลวเลยนะ”

จิ่งหนิงรู้ว่า”เขา”ที่ซื้อไปพูดหมายถึง

ใคร

คุณนาย ไม่เห็นด้วยที่เธออยู่กับลู่วิ่ง เซ็น เดาได้ว่า ช็อไปก็ต้องรู้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น จิ่งหนิงจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องต่อความ ยาวสาวความยืด เพียงแต่พยักหน้าเบา ๆ

“ไม่มีอะไรแล้ว ฉันเข้าไปก่อนนะคะ” พูดแล้วก็หันหลังและเดินกลับไปยังห้อง จัดเลี้ยง

เพียงสองก้าว เสียงของยูอไปก็ดังมา จากข้างหลัง

“เขามีลูกสาวแล้ว คุณรู้รึเปล่า ? ”

ก้าวเดินของจิ้งหนังชะงักลงกับ เธอหันหน้ากลับไปมองขอไปด้วย ความตกใจ

อไปขมวดคิ้วเล็กน้อย ลังเลอยู่ครู หนึ่ง แล้วกล่าวว่า : “ผมคิดว่าเขาจะบอกคุณ แต่ดูจากปฏิกิริยาของคุณแล้ว คุณคงไม่รู้ใช่ ไหม ? ”

จิ่งหนึ่งไม่ได้พูดอะไร ยู่ อไปถอนหายใจ

“ตระกูลยูมีการติดต่อกับตะกูลกวนใน เมืองหลวง ดังนั้นฉันจึงได้ยินข่าวบางอย่าง เช่นกัน ว่ากันว่าเขาและบุตรสาวตระกูลกวนที่ ชื่อว่ากวนเสวีเฟยมีการหมั้นหมายกันมาตั้งแต่ เล็ก ผมไม่รู้ว่าลูกสาวของเขาใช่ลูกที่เกิดจาก เขาและกวนเสวีเฟยหรือไม่ แต่อย่างน้อย จนถึงตอนนี้ การหมั้นของพวกเขาก็ยังไม่มีอ เป็นโมฆะ

จึงหนิง พวกเราโตมาด้วยกัน ผมไม่ อยากให้คุณถูกหลอก และยิ่งไม่อยากเห็นคุณ เจ็บปวด ดังนั้นผมจึงบอกเรื่องนี้กับคุณ คุณจะ เชื่อหรือไม่เชื่อ จะจัดการอย่างไร คุณตัดสินใจ เองก็แล้วกัน!”

ยู่ป่อไปพูดเสร็จ ก็เดินจากไป

จิ้งหนิงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเลื่อนลอย สมองว่างเปล่า

เลือดบนใบหน้าของเธอจางหาย เหลือ เพียงใบหน้าอันดเซียว

ลมอ่อน ๆ ซัมซาบไปถึงความหนาวเย็น ภายในกระดูก แทรกผ่านฝ่าเท้าไหลทะลักขึ้น

มา

แช่แข็งเธอทั้งราง ปะทะเข้ากับหัวใจ ของเธออย่างจัง

เขา… มีคู่หมั้นอยู่แล้ว ?

และมีลูก?

ผ่านไปสักพัก ประตูของห้องวีไอพีของ ลานโบตั๋นได้เปิดออกมาจากด้านใน ลู่วิ่งเป็น เดินออกมา เห็นเธอยืนอยู่ที่ระเบียงทางเดิน

จึงสาวเท้าเข้าไปหา

ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ ? ”

หลังจากเข้ามาใกล้ พบว่าสหน้าของเธอ ดูไม่ดีเลย จึงขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้

เขาเอื้อมมือไปจิ้มหน้าผากของเธอ และ กล่าวอย่างเป็นห่วงว่า : “เป็นอะไรไป ? ไม่ สบายหรือ ? ”

จิ่งหนิงจับจ้องไปยังเขา

ชายผู้มีคิ้วทรงดาบและนัยน์ตาราวกับ

ดวงดารา ใบหน้าฉายชัดถึงความเป็นห่วงและ

กังวล แต่ในขณะนี้ ส่งเหล่านี้กลับเปี่ยมไปด้วย ความเย้ยหยันในทันที

ฉันสายหน้าไปมา คงตาฝาดไป แล้วพูด เบาๆว่า : “ฉันไม่เป็นไร

พูดจบก็หมุนตัวกลับเข้าห้องวีไอพีไป

เวลาต่อมา ลู่วิ่งเล่นรู้สึกว่าได้อย่าง

ชัดเจนว่า ผู้หญิงข้างกายของเขาจิตใจไม่อยู่ กับเนื้อกับตัว

ดูไม่มีความสุขเหมือนก่อนหน้านี้ ราวกับ ว่าเธอกำลังตกอยู่ในภวังค์

เมื่อนึกถึงตอนที่เธอออกไปเข้าห้องน้ำ ก่อนหน้านี้ เขาดูเหมือนจะเข้าใจอะไรได้บ้าง อย่าง

แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไร

หลังจากกลับถึงบ้านในเย็นวันนั้น จึง หนิงเข้าห้องน้ำก่อนเพื่ออาบน้ำ เมื่อออกมา พบว่าชายหนุ่มได้ไปที่ห้องทำงานแล้ว บอกว่า เป็นเรื่องด่วนของทางบริษัทที่ต้องจัดการ เธอก็ไม่สนใจ และเข้านอนไปก่อน

คืนนี้เธอฝัน

ในฝันช่างแปลกประหลาด และมีเรื่อง ราวเกิดขึ้นมากมาย

มีช่วงวัยเด็ก มีช่วงเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ที่เธออยู่ต่างประเทศ และมีบางอย่างที่ คลุมเครือไม่ชัดเจน เกี่ยวกับภาพของชาย

หนุ่ม

และสุดท้าย เธอก็มาหยุดอยู่บนโถงทาง เดินอันมืดมิด โดยมียชื่อไปที่พูดประโยคนั้น กับเธอด้วยสายตาเห็นใจและเป็นกังวล

จิ่งหนิงสะดุ้งตื่นขึ้น

ดวงอาทิตย์กำลังส่องแสงอยู่ด้านนอก หน้าต่าง เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว

เธอตกใจมาก เบนหน้ามองข้าง ๆ เคียง นั้นว่างเปล่าแล้ว อุณหภูมิที่เย็นจัดบอกเธอว่า ชายผู้นั้นได้จากไปนานแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ