วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 957 ยุให้ ทำให้รั่ว



บทที่ 957 ยุให้ ทำให้รั่ว

จิ่งหนึ่งยิ้ม “แต่คุณน้าคะ หนึ่งร้อยล้านมันไม่ใช่น้อยๆ ตราบ ใดที่ฉันแตะเงินก้อนนี้ จึงเป็นก็ต้องรู้แน่ ถึงตอนนั้นเขาซักถามขึ้น มา ฉันจะพูดยังไง?”

ลู่หลันจือคิดแล้ว ก็จริงด้วย

เธอลังเลสักพัก ไม่งั้นเธอก็บอกเขาไปสิ เธอเอาไปซื้อของ หมดแล้ว? จึงหนิงเอาอกเอาใจเธอขนาดนั้น เงินแค่ร้อยล้านคง ไม่มาทะเลาะกับเธอหรอก”

จิ่งหนึ่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ซื้อของ………ต้องเห็นของถึง จะได้นะคะ”

“เฮ้อ นั่นง่ายมาก!” ลู่หลันจือโบกมือแล้วพูดขึ้น “เธอก็เอา อัญมณีสองสามอย่างไปหลอกเขาไง ยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย คงดู ไม่ละเอียดรอบคอบมากหรอก เธอก็บอกว่าเงินนี้เธอซื้ออัญมณี ไป เขาคงไม่พูดอะไร

พูดถึงตรงนี้ เธอก็ขยิบตาอีกครั้ง พูดขึ้นอย่างลึกลับมาก ถึง ตอนนั้นเงินร้อยล้านนี้นะ ฉันคืนให้เธอเป็นการส่วนตัว เงินนี้มันก็ เป็นของเธอ เธอโง่หรือเปล่าเนี่ย?”

จิ่งหนิงตกตะลึง

เห็นท่าทางเล่นหูเล่นตาของเธอ ทันใดนั้นก็รู้สึกเศร้าๆ
คุณน้าตระกูลผู้ทรงเกียรติ ใช้ชีวิตกลายเป็นแบบนี้ได้ อย่างไร?

ความคิดประเภทยักยอกเงินก็คิดออกมาได้?

เธอส่ายหน้า “คุณน้าคะ ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่สามารถหลอก จิ่งหนิง แล้วกลืนเงินร้อยล้านนี้ไปโดยบังเอิญได้ ดังนั้นถ้าคุณ ต้องการยืมจริงๆ เรื่องนี้ฉันต้องปรึกษากับจึงเป็น ถ้าคุณไม่อยาก ให้เขารู้

เธอชะงักไป หยิบบัตรธนาคารหนึ่งใบมาจากในกระเป๋าข้างๆ ยื่นมันให้ลู่หลันจือ

“ในนี้เป็นเงินฉันเอง มันไม่เยอะ มีแค่ยี่สิบกว่าล้านเท่านั้น เงิน นี้แม้แต่จึงเป็นก็ไม่รู้ ถ้าคุณไม่รังเกียจก็เอาไปใช้

ลู่หลินจือเห็นว่าเป็นแบบนี้ สีหน้าก็มืดลงทันที

เธอยืนขึ้นทันที มองสิ่งหนึ่งด้วยใบหน้าเย็นชา พูดขึ้นด้วย เสียงโกรธเกรี้ยว “จิ้งหนิง! นี่เธอเห็นฉันเป็นอะไร? เห็นฉันเป็น ขอทานเหรอ? ยี่สิบล้าน? ขอบคุณที่เธอยังคิดได้เนอะ! เธอคิด จริงๆ ใช่ไหมว่าตอนนี้ตัวเองดูแลครอบครัวแล้ว กลายเป็นนาย หญิงตระกูลลู่ สุดยอดมากแล้วใช่ไหม? อย่าลืมล่ะ ฉันเป็นน้าเธอ นะ!”

จิ่งหนิงชินกับท่าทางเปลี่ยนแปลงสีหน้ากะทันหันของเธอตั้ง นานแล้ว เห็นเธอไม่เก็บมันไว้ ก็เก็บบัตรไป พูดขึ้นเรียบๆ “ใน เมื่อคุณน้ารังเกียจ งั้นก็ช่างมัน สิ่งที่ควรพูดฉันก็พูดจบแล้ว คุณ ลองพิจารณาเองแล้วกัน”
พูดจบ ก็ไม่สนใจเธออีก หันตัวขึ้นข้างบนไปโดยตรง ลู่หลันจือเห็นว่าเป็นแบบนี้ ก็โกรธจัดทันที

ชี้ไปที่แผ่นหลังเธอแล้วด่าอย่างรุนแรง

“จิ้งหนิง! เธอหมายความว่าไง? เธออย่าคิดนะว่าเธอแต่งเข้า ตระกูลลู่แล้ว ของในตระกูลลู่จะเป็นของเธอทั้งหมด! ฉันจะบอก เธอให้ เธอแซ่จึงไม่ใช่แซล คนแซ่มันคือฉันต่างหาก เธออย่า 11! 150……”

เธอทำท่าทางจะพุ่งไป แต่ถูกคนรับใช้สองคนหยุดเอาไว้

ป้าหลิวก้มศีรษะเล็กน้อย พูดอย่างเคารพ “คุณนายกว คุณนายครอบครัวเราท้องอยู่นะคะ ร่างกายเหนื่อยล้า ต้องพัก ผ่อน ได้โปรดคุณเบาเสียงหน่อยนะคะ”

ลู่หลินจือได้ยินดังนั้น ก็ต้องเธออย่างรุนแรง

“ทำไมฉันต้องเบาเสียง? เธอท้องแล้วยังไง? เธอท้องแล้วเป็น สมบัติล้ำค่าเหรอ? แล้วไม่ใช่ท้องครั้งแรกด้วยแอ๊บอะไร!”

แต่ก็แค่พูดเท่านั้น อย่างไรแล้วเมื่อคำนึงว่านั่นคือลูกของลู่วิ่ง เช่น ถ้ามีผลที่ตามจริงๆ ก็จะร้ายแรง ด้วยเหตุนี้สุดท้ายก็เลย สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปด้วยความโกรธ

เมื่อออกไป ก็เห็นคนรับใช้รับอานอานกลับมาพอดี

วันนี้วันศุกร์ โรงเรียนที่อานอานเรียนอยู่เรียนแค่ครึ่งวัน เท่านั้น ทานอาหารกลางวันเสร็จก็กลับได้แล้ว
ด้วยเหตุนี้ คนขับรถจึงไปรับเธอตั้งแต่เนิ่นๆ ในเวลานี้เข้าบ้าน มา และเจอเธอพอดี

อานอานเห็นเธอ ดวงตาก็เป็นประกาย ตะโกนเรียกเสียงดัง “คุณย่ากูว” แน่นอนว่าลู่หมั้นคือเห็นเธอแล้ว ก็กลอกดวงตา มีความชั่วร้าย

เคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เธอเดินไป ยิ้มแล้วพูดขึ้น “วันนี้อานอานกลับมาเร็วจัง?” อานอานพยักหน้าอย่างดีใจ “อืม วันนี้วันศุกร์ โรงเรียนเรียน แค่ครึ่งวันค่ะ”

ลู่หลันจือลูบศีรษะเล็กของเธอ “งั้นพอดีเลย เดี๋ยวอีกสักครู่หนู เก็บของได้เลยนะ จะย้ายไปอยู่ที่บ้านคุณปู่ทวดและคุณย่าทวด”

อานอานตกตะลึง ภายในดวงตาสดใสมีความสงสัยและความ

ไม่เข้าใจเคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว

“ย้ายไปอยู่ที่บ้านคุณปู่ทวดกับคุณย่าทวดเหรอคะ? ทำไม คะ?”

ลู่หลันจือย่อตัวลง “หนูยังไม่รู้เหรอ? คุณแม่หนูมีเด็กน้อยอีก คนแล้ว”

อานอานยิ่งสงสัย “หนูรู้ค่ะ เมื่อคืนแม่ยังถามหนูอยู่เลยว่า อยากได้น้องสาวหรือน้องชาย หนูเลือกน้องสาวค่ะ

ขณะที่เธอพูด ก็หรี่ตายิ้มอย่างสุขใจ
ลู่หลินจือทำเสียง ๆ แล้วส่ายหน้า ถอนหายใจหนึ่งครั้ง “เด็กโง่ น้องสาวคนเล็กไง หนูไม่รู้เหรอว่ามีน้องสาวคนเล็ก แล้ว หนูจะต้องโดนทิ้ง?”

เมื่อพูดคำนี้ออกไป อานอ่านก็อึ้งทันที มองเธออย่างเหม่อลอย

ลู่หลินจือพูดอีกครั้ง “หนูต้องเข้าใจนะ ถึงแม่จะดีกับหนูแค่ ไหน เธอก็ไม่ได้คลอดหนูเอง จิ้งเจ๋อน้อยเป็นเด็กผู้ชาย หนูยังไม่รู้ สึก ถ้าแม่หนูคลอดลูกสาวอีกจริงๆ เด็กผู้หญิงสองคนอยู่ด้วยกัน ถึงตอนนั้นหนูถึงจะรู้สึกได้ แล้วหนูจะเสียใจภายหลังนะ

ในที่สุดอานอานก็เข้าใจความหมายของเธอ

ผลักเธอออก แล้วพูดด้วยเสียงโกรธ “คุณพูดมั่ว! แม่รักหนู มากที่สุด ไม่มีทางรักแค่น้องสาวไม่รักหนู คุณพูดมั่ว!” ลู่หลินจือยืนขึ้น มองเธออย่างเย็นชา

“ฉันไม่ได้พูดมั่ว หนูกลับไปก็รู้แล้ว เพราะน้องสาว แม่หนูจะ เอาหนูไปฝากเลี้ยงที่บ้านย่าทวด ถ้าหนูไม่เชื่อ เดี๋ยวกลับไปดูสิ ว่าเธอพูดกับหนูแบบนี้หรือเปล่า ถึงตอนนั้นหนูก็จะเชื่อฉัน

อานอานมองเธอ ผลักเธอออกไปด้วยความเสียใจ และไม่พูด กับเธอแล้ว วิ่งตรงเข้าไปในคฤหาสน์

คนขับรถตามมาด้านหลัง สีหน้าไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ไม่กล้าพูด อะไร ก็รีบตามไปติดๆ

ภายในคฤหาสน์
หลังจากจิ้งหนิงกลับมาถึงห้อง ก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้วันศุกร์ อาน อานมีเรียนแค่ครึ่งวัน เดี๋ยวก็คงจะกลับมาแล้ว

เธอรีบเดินออกไปถามป้าหลิว “ป้าหลิวคะ อ่านอ่านจะกลับมา แล้วใช่ไหม?”

ป้าหลิวนึกขึ้นได้ ก็เคาะศีรษะตัวเอง “ตุ๊ยตาย ใช่ค่ะ ดูความ ทรงจำฉันสิ เกือบลืมไปเลย ฉันจะไปรับเธอเดี๋ยวนี้

กำลังพูดอยู่ ทันใดนั้นก็เห็นร่างเล็กวิ่งเข้ามาตรงประตูทางเข้า ไม่ใช่อานอานแล้วจะเป็นใครอีก?

คนขับรถตามหลังเธอ ถือกระเป๋านักเรียนให้เธอ เมื่อเห็นวิ่ง หนิง ก็รีบทักทายด้วยความเคารพ “สวัสดีครับคุณนาย

จิ่งหนึ่งพยักหน้า สังเกตเห็นสีหน้าอ่านอ่านค่อนข้างผิดปกติ ก็ ลงมาข้างล่างแล้วถามขึ้น “อานอาน ลูกเป็นอะไร? ทำไมสีหน้า แย่แบบนี้?”

อานอานมองเธอด้วยใบหน้าไม่พอใจ ถามขึ้น “แม่คะ แม่จะ ส่งหนูไปอยู่บ้านคุณย่าทวดใช่หรือเปล่า?”

จิ่งหนิงตกตะลึง ค่อนข้างงุนงง

“ลูกรู้ได้ยังไง?”

เมื่ออานอานได้ยิน ก็ระเบิดด้วยความโกรธทันที

ผลักเธอออก แล้วพูดด้วยเสียงโกรธ “หนูไม่ต้องการแม่แล้ว หนูเกลียดแม่”
พูดจบ ก็วิ่งไปที่ห้องตัวเอง

จิ่งหนีงถูกเธอผลักจนถอยหลังไปสองสามก้าว ป้าหลิวตกใจ จนสีหน้าเปลี่ยน รีบวิ่งไปประคองเธอ

“คุณนาย คุณเป็นยังไงบ้างคะ? คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” จึงหนิงโบกมือ มองไปทางห้องอานอาน แล้วขมวดคิ้ว

อานอานมีนิสัยเชื่อฟัง ปกติจะไม่โมโหแบบนี้ นี่มันเกิดอะไร ขึ้น?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ