วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่446 เป็นเกียรติอย่างยิ่ง



บทที่446 เป็นเกียรติอย่างยิ่ง

หัวเหยาก้มลงมองมือที่เขายื่นออกมาและโค้งงอมุมริม

ฝีปากอย่างถือตัว

“ฉันรู้จักคุณชายไม่มานานแล้วค่ะ เมื่อครูพูดได้จับใจมาก

เธอไม่ได้ยื่นมือออกไป

หลังของ โม่ห้าวหร้น แข็งเล็กน้อย

จากนั้นเขาก็ถอนมือออกอย่างลวก ๆ และยิ้ม “ขายหน้าคุณ หัวจังครับ พูดแล้วคงต้องขอบคุณคุณมากที่สนับสนุนการกุศล ครั้งนี้ ด้วยเงินทุนนี้ พวกเราก็จะสามารถทำให้เด็กที่มีภาวะออทิ สติกมีสภาพที่ดีขึ้น ยังเป็นการทำบุญอีกด้วยครับ”

หัวเหยาเลิกคิ้ว “พูดแบบนี้ การมีส่วนร่วมของ คุณชายไม่ ไม่ยิ่งใหญ่กว่าเหรอคะ?”

“จะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้นะครับ ท้ายที่สุดเราอยู่ในตำแหน่ง แบบนี้ ทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนเป็นสิ่งที่สมควรแล้ว

โม่ห้าวหวั่นหันไปถามซีเยว: “คุณจะอยู่ร่วมงานเลี้ยงตอน ค่ำไหม?”

กู้เยวส่ายหน้า “ช่วงค่ำฉันมีธุระค่ะ คงจะไม่อยู่ คุณจะอยู่ไหม?”
แสงสีนําสว่างวาบ ในดวงตาของ โม่ห้าวหวั่น แม้ว่าจะเป็น เพียงช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็ถูกหัวเหยาจับสังเกตได้อย่างแม่นยำ

เขายิ้มอย่างอ่อนโยน ไม่ล่ะ หัวผมยังมีงานบางอย่าง ต้องจัดการ”

“งั้นไปกินข้าวกันไหม?”

หัวเหยาเห็นพวกเขาพูดคุยกันอย่างสนิทสนม และไม่คิด อยากจะเป็นก้างขวางคอ จึงได้หันไปและเตรียมจะออกไป เมื่อก้าวขาจะก้าวออกไปกลับถูกกู้เยว่เรียกเอาไว้

“คุณหัวคะ ถ้าไม่รังเกียจไปกินข้าวกับพวกเราไหมคะ?”

หัวเหยาตะลึงเล็กน้อย

แม้แต่คนโง่ก็ยังดูออกว่าไม่ห้าวหวั่น ต้องการจะไปกินข้าว กับกู้เยว่ เพียงลำพัง ไม่แน่ว่าอาจจะมีแผนการอย่างอื่นไว้ในใจ

คนฉลาดไม่ควรจะเข้าไปรบกวน

แต่เธอมองตาของกู้ซีเยว่ กลับพูดปฏิเสธไม่ออก ครู่หนึ่งเธอยิ้มและพยักหน้า “เป็นเกียรติอย่างมากค่ะ”

ทั้งสามคนไปที่ชั้นสี่ของโรงแรมตงฟาง

ชั้นเป็นร้านอาหารแบบเปิดที่มีห้องวีไอพีอยู่บริเวณด้านใน สุด เนื่องจากมีผู้ร่วมงานประมูลเป็นจำนวนมาก ในวันนี้ ดังนั้นห้องวีไอพีจึงถูกจองเต็มหมดแล้ว

กู้ซีเยวดูเสียใจและพูดขึ้น: “ถ้าไม่รังเกียจเรานั่งที่ห้องโถง ไหมคะ?”

เมื่อคนสวยเอ่ยปาก ไม่ห้าวหวั่นย่อมเห็นด้วยเป็นธรรมดา

หัวเหยาเองก็ยังไงก็ได้

ทั้งสามเดินไปที่โตที่ติดหน้าต่างและนั่งลง

ในฐานะเจ้าภาพเป็นเรื่องธรรมดาที่กู้เยวจะสั่งอาหาร เธอ สั่งอาหารจานเด่นหลายรายการของที่นี่และสั่งชากวนอิมและทั้ง สามคนก็เริ่มพูดคุยกันไปเรื่อย ๆ

โม่ห้าวหวั่นยิ้มแล้วพูด: “ผมไม่รู้เลยว่าคุณหัวมาจากตระกูล หัวเมืองจิ้น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดถึงใจกว้าง ขนาดนี้”

หัวเหยาพูดอย่างเรียบเฉย: “เป็นเพียงชื่อเสียงของอาจารย์ เจนนิเฟอร์ฉันอยากจะทิ้งบ้านหลังเก่าไว้เป็นที่ระลึก อย่างไร ก็ตามคุณเท่าที่ฉันรู้คุณและอาจารย์เจนนิเฟอร์ ไม่มีมิตรภาพ แต่คุณยินดีที่จะเสนอราคา ในราคาที่สูงซึ่งทำให้ฉันประหลาดใจ เล็กน้อย”

กู้ซีเยว่เลิกคิ้วและยิ้ม: “คุณพูดแบบนี้ถือว่ามีแค่ขุนนางที่วาง เพลิงได้ แต่ประชาชนทำไม่ได้งั้นสิคะ!”

หัวเหยาเม้มริมฝีปากเล็กน้อย และไม่พูดอะไร
ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ

กู้เยวให้คนเปิดไวน์ ในขณะที่พนักงานเสิร์ฟรินไวน์เธอเอน ร่างของเธอไปที่หูของ โม่ห้าวหวั่น และพูดอะไรบางอย่าง

ไม่ห้าวหวั่นเลิกคิ้วและมีรอยยิ้มล้นออกมาจากมุมริมฝีปาก “ที่แท้คุณหัวก็เป็นศิษย์ของปู่สาม เสียมารยาทจริง ๆ”

ในงานประมูล เพื่อจะให้ประมูลได้บ้านหลังนั้นมา หัวเหยา เขียนโน้ตให้กับเยา เนื้อหาในนั้นเขียนว่า เพื่อตอบแทนคุณ อาจารย์ ประมูลบ้านหลังนี้เพียงเพื่อเป็นที่ระลึก ขอได้โปรด เข้าใจและสนับสนุน

เธอรู้ดีว่าจากทรัพย์สินที่กู้เยว่ มี หากต้องการจะได้บ้าน หลังนั้นไปจริง ๆ เธอย่อมมีความสามารถในการแข่งขัน

ดังนั้นจึงทำได้เพียงใช้ไม้

โชคดีที่เธอคาดการณ์แม่นยำ คนอย่างกู้เยว่ ถึงแม้จะเป็น ผู้มั่งมี แต่กลับเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับความภักดี ที่ร่วมประมูล ก็เพียงเพื่อธุรกิจเท่านั้นแต่ไม่นัยสำคัญอะไร

เธอยิ้มเล็กน้อย: ไม่ถึงกับเป็นอาจารย์หรอกค่ะ เพียงแต่ว่า เคยเรียนติดตามท่านอยู่ช่วงนี้สมัยเด็ก ต่อมาฉันมาเมืองหลวง แล้วก็ยังรู้สึกขอบคุณท่านอยู่แต่กลับคิดไม่ถึงว่าท่านจะเสียไป แล้ว เมื่อมีโอกาสเช่นวันนี้ ดังนั้นจึงอยากจะประมูลซื้อบ้านหลังนี้ เก็บไว้เป็นที่ระลึกค่ะ!”

การแสดงออกของไม่ห้าวหวั่นขยับเล็กน้อย
แววตาของเขาสงบลงอย่างเห็นได้ชัด แต่สัมผัสแห่งความ เศร้าฉายผ่านใบหน้าของเขา

“หากวิญญาณของปู่สาม บนฟ้ามีจริง เขาคงจะยินดีเป็น อย่างยิ่งที่ได้รู้ว่าวันนี้มิสหัวเหยาทําอะไร

กู้เยวตบเขาที่ไหลเหมือนปลอบประโลม

ไม่ห้าวหนยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน

หัวเหยารู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เธอปิดปากแล้วไม่ อยากจะพูดอะไรอีก

อาหารมื้อนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งสามกินเสร็จและเตรียมตัวจะออกไป

ทันทีที่เดินไปที่ประตูหัวเหยาก็หยุดฝีเท้า

ในทันใดนั้นเธอจงใจเดินช้าลงหนึ่งก้าวและแอบตัวไว้ด้าน หลัง กู้เยวอย่างเงียบ ๆ

ในวินาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงของ กู้เยว่ “คุณ บังเอิญจัง

เธอกัดฟันและรู้สึกว่าดวงตกจริง ๆ

จี้หลินยวนมองไปที่เธออย่างแผ่วเบาและดวงตาของเขาก็

สบเข้ากับเธอ

“เห็นหมดแล้ว! จะหลบทำไม?”
น้ำเสียงเย็นชาและไม่อดทน

หัวเหยาเดินออกมาจากด้านหลัง กู้ซีเยว่ ช้าๆ

กู้เยวมองไปที่พวกเขาดวงตาของเธอกลอกไปเล็กน้อย “เอ่อ ฉันลืมไป คุณหัวกับคุณจี้เคยรู้จักกัน”

เธอพูดแล้วยิ้มไปพลางพร้อมกับเขยิบตัวให้ทางเพื่อให้ทาง

ให้หัวเหยาปรากฏตัว

โม่ห้าวหวั่นซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ มีรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของ เขา เหมือนปกติที่ดูอ่อนโยนและสง่างาม แต่ดวงตาของเขาเป็น ประกายด้วยแสงมืดที่มองไม่ออก

หัวเหยาเดินไปตรงหน้าจี้หลินยวนแล้วพูดเสียงเบา “คุณมา ทําอะไร!”

จี้หลินยวนลากเธอเพื่อจะไป

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยไม่ได้สนใจกู้เยว่ กับโม่ห้าวหวั่น เลย แม้แต่น้อย

กู้เยว่เป็นฝ่ายทักทายเขาก่อน ตอนนี้เธอมีสีหน้า กระอักกระอ่วนเล็กน้อย

โม่ห้าวหวั่นหรี่ตาลง ดวงตาของเขากวาดมองไปยังจี๋หลิน ยวนและพวกเขาและพูด: “คนตระกูลจิ้นก็แปลก กินข้าวกันตั้ง หลายคน เล่นใหญ่จริง ๆ!”

ประโยคนี้ถ้ามีคนอื่นพูดออกมาคุณจะรู้สึกว่ามันกำลังอิจฉาและประชดประชัน

แต่เมื่อมันออกมาจากปากของโม่ห้าวหวั่น ที่อบอุ่นและมี รอยยิ้มที่จริงใจ กลับดูเหมือนเป็นเพียงคำพูดล้อเล่นเท่านั้น!

จี๋หลินยวนมองเขาอย่างเย็นชา และพูดขึ้น: “คุณเป็นใคร?

ทุกคนอึ้งไป

หัวเหยานิ่งไปชั่วครู่และเกือบจะหัวเราะเสียงดังออกมา

ถึงแม้ว่าตระกูลโม่ จะไม่ได้มีชื่อเสียงเทียบเท่าสี่ตระกูลใหญ่ ในเมืองหลวง และไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าตระกูลจิ้นในต่างประเทศ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นตระกูลระดับกลาง

ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนรู้ดีว่า คุณชายโม่ คนนี้มีวิธีและแผน มากมาย ตอนนี้เขากำลังจะใช้ กู้เยว่ เพื่อฟื้นขึ้นไป กลัวว่าเขา อาจจะขึ้นสู่จุดสูงสุด ในไม่ช้า

ทุกตระกูลต่างทำเพื่อความก้าวหน้า จะประจบสอพลอดง ไม่ทันแล้ว ใครตั้งใจจะทำให้เขาเสียหน้า

ถึงหัวเหยาจะไม่ค่อยชอบหน้าคุณชายโม่ คนนี้เท่าไหร่ เพราะเคยได้ยินข่าวลือเสียหายของเขามานานแล้ว แต่ด้วย หน้าตาตอนนี้มันยากที่จะพูดอะไรมาก

แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่จี้หลินยวนพูดในตอนนี้ ก็อดที่จะแอบ

ชอบใจไม่ได้
หลินยวน! นายมันร้าย

เมื่อเห็นการแสดงออกของ โม่ห้าวหร้น ราวกับว่าเขากิน แมลงวันใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังแสร้งทำ เป็นว่าเป็นคนใจกว้างและสงบ ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอมีความสุขแค่ ไหน!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ