วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 924 กะล่อน



บทที่ 924 กะล่อน

พูดแล้วก็ยื่นมือออกไปและเอนไปข้างหน้าทีละนิด

ลู่วิ่งเซินเห็นแล้วยกมุมปากยิ้มและยืนกอดอกอยู่ตรงนั้นมองดู พวกเขาเล่นกัน

ครั้งนี้ไม่รู้ว่าจิ้งเจ๋อน้อยฝึกจนเก่งแล้วหรือถูกพี่สาวของเขา สอนมาดี จึงไม่มีเสียงสักแอะ

จิ่งหนิงได้แต่คลำไปเรื่อย ๆ ค้นหาและพูดไปด้วย “อานอาน จิ้งเจ๋อ พวกลูกอยู่ไหน? แมวเหมียวจะจับพวกหนูแล้วนะ หลบ เร็ว”

เด็กน้อยทั้งสองหลบอยู่มุมหนึ่ง อานอาน ใช้มือปิดปากของจิ้ง เจ๋อไว้ ยิ้มเหลือบไปมองเธอและเดินไปที่ประตูทีละนิด

ลู่จิ่งเซินหรี่ตาลง

ในระหว่างที่วิ่งหนึ่งกำลังใช้ความคิดว่าพวกเขาจะไปหลบ ที่ไหนอยู่นั้น

ทันใดนั้นปลายนิ้ว แตะไปโดนขอบเสื้อและตาก็เป็นประกาย

“ฮ่า แม่จับพวกหนูได้แล้ว!”

เธอคว้าเสื้อไว้แล้วเหยียดมืออีกข้างไปจับข้อมือของอีกฝ่าย เพียงแต่วินาทีนั้นเธอก็รู้สึกตัวว่านั่นไม่ใช่ข้อมือของเด็ก
ในขณะที่กำลังสงสัยก็ถูกมือของอีกฝ่ายถูกทิ้งไว้ จากนั้นโอบ เอวแน่น และคนคนนั้นก็ถูกจับและกดเข้าไปในอ้อมแขนของอีก

ฝ่าย

จิ่งหนังตกใจมาก

จึงรีบแกะที่ปิดตาออก แสงสว่างที่สาดเข้ามาสู่การมองเห็น ด้วยใบหน้าที่อ่อนโยนและหล่อเหลาของชายผู้นั้น

อานอานตบมือและยิ้มชอบใจอยู่ด้านหลัง: “โอ้ๆ ๆ หม่าจับ แด๊ดดี้ได้แล้วๆ!”

จิ้งเจ๋อน้อยซึ่งไม่รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร และยิ่งไม่รู้ว่าทำไม หม่ามีที่เห็นอยู่ชัดๆ ว่าควรจะจับตัวเขากับพี่สาวกลับจับตัวแดด ดี้ไม่ยอมปล่อยแถมยังกอดกันกลม

แต่ในเมื่อพี่สาวของเขากำลังตบมือ เช่นนั้นเขาก็จะทำตาม แล้วกัน

ดังนั้นเขาจึงตบมือและหัวเราะงงๆ ในขณะที่ตบมือ

จึงหนิงหน้าแดงเล็กน้อยและผลักเขาแล้วพูดฮัมเบาๆ “ทํา อะไรน่ะ? ปล่อยนะคะ!”

ลู่วิ่งเซินยกริมฝีปากและยิ้มอย่างแผ่วเบา “จับฉันได้แล้วไม่ใช่ เหรอ? ทำไมต้องปล่อยด้วยล่ะ?”

จึงหนิงรู้ว่าผู้ชายคนนี้จงใจทำเรื่องมิดีมิร้าย จึงเลิกตาโตใส่ เขาและกระซิบเตือนเบาๆ “อย่าทำอะไรเหลวไหล เด็กๆ ยังอยู่นะ คะ”
แน่นอนว่าลู่จิ้งเซินไม่มีทางทําเรื่องเหลวไหลต่อหน้าลูกๆ ความจริงแล้ว เพียงแค่เขาเห็นภาพที่แสนอบอุ่นตรงหน้าเมื่อ ครู่ ก็ทำให้เขารู้สึกได้และมันก็ยิ่งอ่อนโยนขึ้น

เขาปล่อยเอวของจิ่งหนึ่งและรับผ้าปิดตาจากมือเธอไป

“คนแพ้จะต้องเป็นแมวเหมียวใช่ไหมนะ?”

จิ่งหนึ่งอึ้งไปยังไม่ทันที่เธอจะรู้ตัวอานอ่านก็ตอบแล้ว “ใช่ค่ะ แด๊ดดี้ถูกจับแล้ว แด๊ดดี้เป็น!”

ลู่จิ่งเซินยิ้ม “ได้ แด๊ดดี้แป็น

เขาพูดและใช้ผ้าปิดตาโพกศีรษะตัวเอง

จึงหนิงเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่นใจและถอยหลังไป ก้าวหนึ่งและพูด: “ในเมื่อจะเล่นก็ห้ามโกงนะคะ”

พูดจบก็ไปแอบกับลูกๆ ครอบครัวสี่คนมีช่วงเวลาที่ดี ณ เมืองหลิน ที่อยู่ห่างออกไป

ในขณะเดียวกัน อีกด้าน

หลังจากกู้ซื้อเฉียนไปส่งลู่วิ่งเซินและกลุ่มเพื่อนแล้ว เขาได้ จัดการตั้งค่าความปลอดภัยในปราสาทใหม่ แม้ว่าตอนนี้จะ เคลียร์เรื่องกลุ่มชาวจีนแล้ว แต่ก็ยังมีกองกำลังเล็ก ๆ บางส่วน กระจัดกระจายอยู่ด้านนอก
แม้จะมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะไม่ทำงานให้กับองค์กร ที่ล่มสลาย แต่ในโลกนี้พวกเขาไม่กลัวเรื่องที่แน่นอนแต่กลัว เรื่องอะไรที่คาดไม่ถึง

เมื่อก่อนเขาเป็นคนโสดตัวคนเดียวย่อมไม่มีอะไรต้องกลัว แต่ ตอนนี้มีเฉียวฉี สําหรับเธอ เขาต้องทำให้การรักษาความ ปลอดภัยในปราสาทมีเสถียรภาพมากขึ้นเล็กน้อย

เฉียวฉีที่ถูกเขาจัดแจงแบบนี้จึงไม่มีความคิดเห็นอะไรอีก

ในตอนนี้กู้ซือเฉินได้ขอเธอแต่งงานแล้ว ตอนนี้เธอไม่ใช่แขก ภายนอกผู้มาอาศัยอยู่ในปราสาทนี้เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป แต่ ตอนนี้เธอเป็นนายหญิงของที่นี่แล้ว

ดังนั้นทัศนคติของเหล่าคนงานที่มีต่อเธอย่อมให้ความเคารพ เป็นธรรมดา

ส่วนลุงโอนอกจากจะเคารพเธอแล้วยังสนิทสนมขึ้นไปอีกขั้น

ด้วย

ในตอนบ่าย เขานำข้อมูลชุดเจ้าสาวจำนวนมากมาให้เฉียว แล้วยิ้มและพูด “คุณชายบอกว่าให้คุณเลือกแบบชุดเจ้าสาว ดูว่า มีแบบที่ถูกใจหรือไม่ ถ้าหากไม่มี ผมจะหามาเพิ่มอีก หรือจะให้ ดีไซเนอร์มาออกแบบให้ก็ได้”

จนถึงตอนนี้ เฉียวฉียังคงกระอักกระอ่วนเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่ เกิดขึ้นในคืนนั้น ราวกับว่าเธอกำลังฝันไป

เธอพยักหน้า “ได้ค่ะ ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวฉันจะดูนะคะ”
ลุงโอจึงยิ้มขึ้นแล้วจากไป

หลังจากเขาออกไปแล้ว เธอก็ยื่นมือออกไปพลิกภาพดู

ก็พบว่าภาพในนั้นเป็นผลงานการออกแบบชุดแต่งงานจาก ดีไซเนอร์ระดับโลกทั้งนั้น มีแบบมากมายและสวยทุกแบบ

เธอกนิ้วแน่นและลังเลเล็กน้อย

และไม่รู้ว่าเพราะอะไร เมื่อคิดถึงงานต่งงานที่กำลังจะถึง ก็ รู้สึกกระวนกระวายในใจ

เธอเคยได้ยินมาว่าเจ้าสาวที่กำลังจะแต่งงานมักจะมีความ วิตกกังวลอยู่เสมอในช่วงก่อนแต่งงาน ความคิดนั้น เรียกว่า ความวิตกกังวลก่อนแต่งงาน

เธอคิดเอาเองว่าตนเองกับกู้ซื้อเฉียนนั้นผ่านอะไรด้วยกันมา เยอะขนาดนี้ และก้าวมาถึงจุดนี้ ตนคงไม่มีความรู้สึกแบบนี้แล้ว

แต่คิดไม่ถึง…..

เธออดที่ส่ายหัวและยิ้มไม่ได้

ในตอนนี้เอง กู้ซือเฉียนเดินเข้ามาจากด้านนอก

“ลุงโอเอาของมาส่งให้รึยัง?”

เฉียวเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วยิ้มและพูด: “ส่งมาแล้ว ฉัน กำลังดูอยู่ คุณเองจะมาดูด้วยหน่อยไหม?”

กู้ซื้อเฉียนพยักหน้าแล้วเดินเข้ามา เอนตัวพิงพนักพิงเก้าอี้ของ เธอไขว้หลังด้วยมือข้างหนึ่ง เกือบจะพาเธอเข้ามาในระยะของเขา มองดูอัลบั้มภาพตรงหน้าเธอและพูด “แบบนี้เธอไม่ชอบเห รอ?”

เฉียวฉีส่งเสียง “อือ” และสับสน “ชอบก็ชอบนะ แต่เพราะชอบ มากก็เลยรู้สึกว่าสวยไปหมดทุกชุด เลยไม่รู้จะเลือกยังไง

กู้ซื้อเนียนยิ้มเล็กน้อยและลูบหัวเธออย่างรักใคร่

“ไม่เป็นไร ค่อยๆ เลือก ตอนแรกคิดว่าจะสั่งตัด แต่เพราะเวลา กระชั้นเกินไป กลัวว่าสั่งตัดแล้วจะไม่ดีขนาดนั้น ดังนั้นเลือกจาก ที่มีอยู่แล้วดีกว่า”

เฉียวแหงนหน้ามองเข้าและสังเกตเห็นการสายตาที่รักใคร่ ของชายผู้นั้น เพียงรู้สึกว่าหัวใจของเขาหวานราวกับน้ำผึ้ง

เธอยิ้มแล้วพูด: “แบบนี้ก็ดีมากแล้ว คุณก็รู้ว่าฉันไม่ได้สนเรื่อง แบบแผนอะไร”

กู้ซือเฉียนยิ้มและพูด: “ต่อให้ไม่สน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเพียงครั้ง เดียวในชีวิต ก็ต้องใส่ใจให้มาก”

ในเมื่อเขาพูดแบบนี้ เฉียวฉีย่อมไม่สามารถจะโต้แย้งอะไรได้

และตั้งใจดู

เมื่อดูจนหมดก็เลือกชุดที่เธอชอบที่สุดชุดหนึ่ง

กู้ซือเฉียนดูชุดนั้นแล้วพยักหน้าแล้วส่งให้ลุงโอไปจัดการ หลังจากลุงโอออกไปแล้ว เขาก็ถามขึ้นอีก: “เธออยากจัดงาน แต่งงานที่ไหน?”
เฉียวจีพูด: “ได้หมด ฉันไม่มีคำขออะไร กู้ซื้อเฉียนเห็นดังนั้นแล้วก็ถอนใจ

เขากุมมือเธอแล้วพูดอย่างเหลืออด: “คุณเฉียวครับ คุณช่วย รู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าสาวได้ไหม บนโลกนี้มีเจ้าสาวที่ไหนที่ไม่ เลือกอะไรสักอย่างแบบเธอบ้าง? ที่ไหนก็ได้อะไรกัน”

เฉียวเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวแล้ว “หึ” หัวเราะออกมา

เฉียวฉีทำตาโตใส่เขา “คุณหัดพูดจากะล่อนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อ ไหร่”

กู้ซื้อเฉียนส่งเสียงออกมาเบาๆ “ฉันเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร แล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อก่อนเธอไม่เปิดโอกาสให้ฉันเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ