วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 995 นั้นมันไม่ใช่โรค



บทที่ 995 นั้นมันไม่ใช่โรค

ท้ายที่สุด เขาไม่ใช่คนที่เข้มงวดแข็งที่อขนาดนั้น ถึงหนานกง จีนจะชี้ทางให้เขาแล้ว แต่ถ้ามีทางเลือกอื่น ให้เดิน เป็นไปไม่ได้ที่ เขาจะยึดติดกับทางเลือกนั้นอย่างเดียว และไม่ปล่อยให้คนอื่น มาเดินจูงจมูกหรอก

ก่อนหน้านี้ เขาเคยคิดที่จะขอให้เซวมารักษาเฉียว

แต่ประการแรก แพทย์ที่เขาจ้างมาไม่ได้แย่ไปกว่าทักษะ ทางการแพทย์ของเซวซูเลย ประการที่สองเชวยังเป็นคนแปลก หน้าแล้วยังอาศัยอยู่ในทะเลทรายตลอดทั้งปีอีกด้วย

เขาเพียงแค่เคยได้ยินชื่อเสียงของเซวเท่านั้น แต่ไม่เคยพบ ตัวจริงของเขาเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมิตรภาพอื่นๆเลย

แค่เพียงจะหาเขายังไงให้เจอ ก็เป็นเรื่องที่ยากแล้ว แล้วที่ยิ่ง อยากขึ้นไปอีกคือการขอความช่วยเหลือจากเขา

แต่ตอนนี้ เนื่องจากเขาเป็นพ่อเลี้ยงของสิ่งหนึ่ง มันจึงแตกต่าง

ออกไป

ดังนั้นเมื่อเขาเห็น เซวที่ทางเข้าโรงละครเป็นครั้งแรกในวันนี้ เขาก็ได้มีความคิดนี้แล้ว

แต่เพียงเพราะว่าพึ่งเจอหน้ากันครั้งแรก จึงไม่กล้าเอ่ยปาก ออกมาตรงๆเท่านั้นเอง ในใจคือคิดไว้ว่า รอหลังจากที่กลับมา แล้ว ค่อยพูดกับจิ่งหนึ่งพวกเขา ให้พวกเขาช่วยสอบถามให้หน่อย

ไม่คาดคิดว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก จิ้งหนึ่งพวกเขาก็ได้โทร

มาก่อนแล้ว ในใจกู้ซื้อเฉียนรู้สึกถึงความอบอุ่นใจขึ้นมา นึกคิดอยู่ว่าลูก ศิษย์คนนี้ไม่ได้สูญเปล่าที่ได้สอนจริงๆ พอถึงช่วงเวลาที่สำคัญก็

ยังคงนึกถึงอาจารย์อยู่

กู้ซื้อเฉียนไม่ลังเลและเห็นด้วยกับข้อเสนอของจิ้งหนึ่ง ฉะนั้นแล้ว หลังจากที่วิ่งหนึ่งได้วางสาย ก็ได้ไปหาโม่ไฉ่เวย และเซวซูที่อยู่ห้องพักข้างๆ

พอหลังจากที่โมไฉ่เวยรู้จุดประสงค์ที่เธอมาหาแล้ว ก็ได้พู ดกับเซวว่า “อะ ฉันว่าคุณเฉียวดูเป็นคนดีนะ ฉันชอบเธอ มาก คุณก็ไปช่วยดูเธอหน่อยเถอะ”

เซวยังคงมีใบหน้าที่เย็นชา แต่สิ่งที่เขาพูดออกจากปากนั้น กลับอบอุ่นไม่มีที่ติ

“ได้ พรุ่งนี้ผมจะไปดูเธอหน่อย

โม่ไฉ่เวยหันกลับมาแล้วจ้องมองวิ่งหนึ่ง คุณอาเซวของเธอ ตอบตกลงแล้ว เธอมีหน้าที่นัดคุณเฉียวในวันพรุ่งนี้ แล้วพอถึง เวลาเราจะพบกันอีก”

จิ่งหนึ่งพยักหน้าอย่างดีอกดีใจ และได้บอกกล่าวราตรีสวัสดิ์ กับพวกเขา จึงจะจากไป
วันรุ่งขึ้น เฉียวฉีได้นัดพบกับพวกเขา และพบกันที่ห้องพักใน โรงแรมของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม สําหรับโรคนี้ในร่างกายของเฉียวแล้ว มีพวก เครื่องมือเหล่านั้นก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้น เซวซูจึงต้องดูด้วยตัวเอง ถึงจะรู้

และพวกเขานั้นเป็นฝ่ายขอความช่วยเหลือ แน่นอนว่าจะให้ เซวซูเดินทางมาไกลก็ไม่ดีเท่าไหร่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะ มาหาเขาเลย

จิ่งหนิงเดินลงไปรับพวกเขา แล้วได้พาเชวซูและโม่ไฉ่เวยพวก เขามาที่ห้องพัก ทุกคนนั่งอยู่บนโซฟานั้น แต่เซวซูและเฉียวฉีก ลับนั่งอยู่สองข้างของ โต๊ะข้างๆ

เซวซ่ตรวจชีพจรของเธอก่อน จากนั้นจึงตรวจดูจุดต่างๆ ใน ร่างกายของเธอ เช่น หลังใบหูและเล็บเป็นต้น

วิ่งหนึ่งดูอยู่ข้างๆด้วยความใหม่

เธอถาม โมไฉ่เวยด้วยเสียงเบาๆว่า”แม่คะ โรคของเฉียวฉีดู เหมือนจะเป็นโรคที่รุนแรง คุณอาเซวเพียงแค่ดูอย่างนี้ดูแล้วดู อีก สามารถดูอะไรออกเหรอคะ? ”

โม่ไฉ่เวยหัวเราะเบาๆและพูดว่า “ที่เรียกว่าการสังเกตการ ฟังการถาม แค่เพียงคำว่าการสังเกตก็ไม่ง่ายแล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะ ไม่รู้ว่าคุณเฉียวนั้นมีโรคอะไร และไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการแพทย์ ด้วย แต่ฉันรู้ว่าถ้าหากอวัยวะของคนคนหนึ่งเกิดมีปัญหาขึ้นมา จริง รูปลักษณ์ของเธอจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกันแม้ว่าจะเป็นเพียงความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่จะพบได้อย่าง แน่นอนหากดูอย่างละเอียด

จิ่งหนิงเข้าใจแล้วพร้อมกับพยักหน้า

“ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง”

พอผ่านไปได้สักพัก เชวซูก็ได้ตรวจเสร็จเรียบร้อย

กู้ซือเฉียนรีบเดินไปหาและถามด้วยความกังวลว่า “เป็นยัง

ไงบ้าง? ดูออกไหมว่ามันคืออะไร? ”

เซวซูหันกลับไปมองเธอและถามด้วยเสียงหนักหน่วงว่า “เธอเป็นคนในตระกูลหนานหรือ?

ทุกคนต่างตกใจ

โม่ไฉ่เวยไม่สนใจเรื่องพวกนี้ ดังนั้น จึงยังคงสงสัยอยู่บ้าง

“ตระกูลหนาน? มันคืออะไรกัน? ”

แต่ว่าจิ่งหนิงและลู่วิ่งเซิน รวมไปถึงกู้ซื้อเฉียนทั้งสามคนรู้ไม่ เพียงแต่รู้ และยังเข้าใจว่าเฉียวนั้นเป็นคนของตระกูลนั้นจริงๆ

ณ ตอนนี้ความหวังริบหรี่ก็ได้จุดประกายในใจของผู้ซื้อเนียน

เขาไม่ได้ปิดบัง พยักหน้าตอบ”ใช่”

เซวซูสีหน้าเย็นชาและพูดว่า “ผมรักษาโรคนี้ไม่ได้

“อะไรนะ? แม้แต่คุณก็รักษาไม่ได้? ” บางทีอาจเป็นเพราะเขามั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของ เชวมากเกินไป ในจิตใต้สำนึกของโม่ไฉ่เวยนั้น นอกจากความตาย ก็ไม่มีโรคอะไรที่เขารักษาไม่ได้

คาดไม่ถึงว่ามาจะมาเจอที่นี่

เพราะเฉียวเป็นเพื่อนของจิ้งหนึ่ง บวกกับ เธอรู้สึกว่าผู้หญิง คนนี้มีมารยาทดีและอ่อนโยน เธอชอบเฉียวฉีด้วยใจจริง

ฉะนั้น จึงได้ถามว่า: “อะซู โรคของเธอร้ายแรงมากไหม? ทำไมถึงรักษาไม่หาย? เป็นเพราะขาดยาอะไรหรือจุดไหนเสีย หายหรือ? ”

เซวซูยิ้มเย็นชา ถ้าหากจุดไหนเสียหายจริงๆ งั้นก็เป็นเรื่องที่ ง่ายเลย เสียหายที่จุดไหนก็ซ่อมแซมจุดนั้นก็พอ แต่น่าเสียดาย เธอไม่ได้เสียหายที่ไหนสักแห่ง แต่เป็นเสียหายทั้งร่างกาย จาก เลือดไปสู่เนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อ ตราบใดที่ร่างกายของเธอมียีน ของบุคคลนั้นและมีเซลล์ที่เป็นของตระกูลหนาน ก็เป็นไปไม่ได้ที่ จะมีชีวิตอยู่โดยปราศจากอันตราย”

เมื่อเขาพูดเช่นนี้ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง

สีหน้าของกู้ซือเฉียนนั้นดูแย่มาก สีหน้าของเฉียวฉีก็ซีดจาง เช่นกัน

จิ่งหนิงตบไหล่พร้อมกับปลอบใจเธอ มองไปทางเชวซูและ ถามว่า “คุณอาเชว คุณสามารถอธิบายโรคนี้ได้ละเอียดชัดเจน ขนาดนี้ งั้นก็แสดงว่าคุณได้ศึกษาวิจัยมาก่อนแล้วใช่ไหม? แล้ว หาวิธีรักษาไม่เจอเลยหรือ?”
เซวซูยิ้มอย่างเย็นชา : วิธี? โรคนี้ไม่มีวิธีรักษา เพราะว่า รากฐานของมันไม่ถือว่าเป็นโรคเลย เว้นแต่เลือดของเธอจะ หมดตัว นำเนื้อลอกออกให้หมด และแม้กระทั่งกระดูกก็ถูก กำจัด โรคนี้ถึงจะหายไปได้

สีหน้าของทุกคนอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนไปอีกครั้ง

เฉียวฉีขมวดคิ้ว

“ทำไมละ? คุณหมอเชว คุณพูดให้ชัดเจนหน่อยได้ไหม? ” เซวซูเหลือบมองที่เธอ

ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จึงหนิงรู้สึก ตั้งแต่ที่เซวซูรู้ว่าเฉียว เป็นคนของตระกูลหนานแล้ว ทัศนคติของเขาที่มีต่อเธอ ก็ เปลี่ยนแปลงไป

ดูเหมือนว่าจากตอนแรกที่ดูมีสุภาพอ่อนโยน กลายมาเป็น เห็นต่างและขัดกับเขาหมด แล้วยังแฝงความเกลียดชังเล็กน้อย

ถึงแม้ว่าเธอไม่รู้ว่าความเกลียดชังนี้มาจากไหน แต่เธอเชื่อมั่น ในการตัดสินใจของตัวเอง ว่าไม่มีผิดแน่นอน

เห็นเพียงแต่เชวซูยิ้มอย่างเย็นยะเยือกและพูดว่า “นี่มัน ไม่ใช่โรค แต่เป็นเซลล์กลายพันธุ์ชนิดหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในร่างกาย และถ่ายทอดมาโดยทางกรรมพันธุ์ เซลล์กลายพันธุ์นี้มันแฝงที่ ร่างกายคุณมาแต่เกิด พอถึงเวลาใดเวลาหนึ่ง มันก็จะใหญ่ขึ้น ทันที และกลืนกินเซลล์อื่นๆ ในร่างกายของคุณ ฉะนั้นแล้วอวัยวะ ของคุณจะล้มเหลวอย่างรวดเร็ว และคุณจะแก่และตายอย่างรวดเร็วภายในครึ่งชั่วโมงอย่างเร็วที่สุด

ใบหน้าของเดียวนั้นซีดลงทันที

สิ่งที่เขาพูดเหมือนกับที่หนานทรงพูดก่อนหน้านี้ทุกประการ

กู้ซื้อเฉียนตระหนักในเรื่องนี้และเดินไปข้างหน้าและรีบถาม ว่า “แล้วไม่สามารถใช้วิธีการอะไร ที่จะฆ่าเซลล์พวกนั้นให้ตาย ได้หรือ? ก็เหมือนกับตอนนี้ที่มีต่อต้านสำหรับเซลล์มะเร็งบาง ชนิดอย่างนั้น”

เซวซูยิ้มอย่างเย็นชา

“ฆ่าตาย? ฆ่ายังไง? เซลล์ที่อยู่ในร่างกายของเธอนั้นไม่ได้มี อยู่เพียงที่เดียว แต่มันอยู่ในทั่วร่างกายของเธอ มีทั้งในเลือด ของเธอ หรือแม้กระทั่งในเส้นผมก็มีหมด สามารถพูดได้ว่า ความสัมพันธ์ของเธอและเซลล์นี้นั้นเป็นการพึ่งพาอาศัยกัน ถ้า ตายก็ต้องตายพร้อมกัน คุณจะฆ่าเธอพร้อมด้วยเลยหรือ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ