วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 44 จีบมาหกปี



บทที่ 44 จีบมาหกปี

จึงหนิงพิมพ์ไปอย่างรวดเร็ว “เธอดูบทของนางสาม ฉันรู้สึก ว่าบทนั้นเหมาะกับเธอมาก ถึงแม้ว่าบทจะไม่เยอะเท่า นางรองหรือนางเอก แต่นิสัยนั้นชัดเจน เป็นตัวละครที่เตะตา ถ้าเกินการแสดงดี ผลตอบรับไม่แพ้นางเอกนางรองแน่ๆ”

ถังลั่วเหยาถึงได้ไปดูบทของนางสามใหม่อย่างละเอียด ผ่านไปประมาณสิบนาที ถึงได้ตอบกลับ

“พี่หนิงหนิง หนูดูแล้ว ได้ค่ะ หนูชอบตัวละครนี้ แต่ว่าละคร ที่ใหญ่ขนาดนี้หนูจะคว้ามาได้เหรอ?”

จึงหนิงยิ้มที่มุมปาก

“เธอนั้นก็แค่รับผิดชอบดูวิเคราะห์บทบาทให้ดีๆ เรื่องอื่น

ให้ฉันจัดการเอง”

“ได้ค่ะ ขอบคุณพี่หนิงหนิงนะคะ”

พอเจรจากับถังลั่วเหยาเสร็จ เธอก็วางมือถือลง นั่งคิด อะไรอยู่บนโซฟาสักพัก

อีกสักพัก ก็ได้เอาโน้ตบุ๊คออกมาอีกครั้ง ได้พิมพ์ชื่อของลู่ หยั่นจือลงไป

เธอนั้นไม่ได้สนิทกับลู่หยั่นจือมาก รู้จักก็แค่ผลงานละครของเขาเท่านั้น

ถึงแม้ว่าข้อมูลรายบุคคลที่หาจากบนเน็ตนั้นจะเชื่อถือไม่ ค่อยได้ แต่ตอนนี้ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว

ดีที่ลู่หยั่นจือนั้นดังมาก ข้อมูลเลยมีเยอะ เลือกมาดีๆ ก็น่า

จะรู้จักเขาได้พอสมควร ตอนกิ่งหนิงกำลังอ่านอยู่นั้น อยู่ๆ โทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้น

เธอนั้นก็ได้รับ เป็นหัวเหยา “หนิงหนิง คืนพรุ่งนี้เธอมีเวลาไหม? ไปที่ที่หนึ่งเป็นเพื่อน

ฉันหน่อย?”

จึงหนิงหัวเราะ “เธอถ่ายละครไม่ใช่เหรอ? ไปที่ไหน?”

หัวเหยาเงียบไป ผ่านไปสองวิ ก็ได้พูดอย่างมีพิรุธว่า “ฉัน ลางานน่ะ ชานเมืองฝั่งตะวันออกมีการแข่งรถ ฉันอยากจะไป

ดู”

มือที่จิ่งหนิงที่วางอยู่บนแป้นพิมพ์ได้หยุดนิ่ง

“แข่งรถ?”

“อิม”

สายตาของเธอที่ได้จ้องมองบนหัวข้องานอดิเรกที่ชอบ ของลู่หยั่นคือ ไปสักพัก ก็ได้ค่อยๆ ยิ้มที่มุมปาก “ได้สิ!”วันต่อมา

จึงหนิงจัดการงานบนมือเรียบร้อย เลิกงานเข้า

หัวเหยาได้มาถึง นั่งรอเธออยู่บนรถ

จึงหนิงไปเอารถที่ลานจอดรถ พอออกมา ก็ได้เห็นหัวเหยา ที่ได้ลงมาจากรถเหมือนกับว่าเป็นขโมย แล้วก็ได้รีบมาขึ้นรถ

ของเธอ

พอขึ้นรถ เธอยังมองซ้ายมองขวาอย่างละเอียด มั่นใจว่า ไม่มีคนสังเกต ถึงได้โบกมือให้กับผู้ช่วยที่อยู่ข้างนอก

จึงหนิงได้กลั้นขำไม่อยู่ “ฉันว่านะเพื่อนรัก กลัวถึงขนาดนี้ แล้วยังจะไปดูแข่งรถทำไมอีก? ถ่ายละครอยู่ในกองถ่ายดีๆ ไม่ดีเหรอ?”

หัวเหยาได้เอากระจกเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า ได้เซ็กดู หน้าที่แต่งมาแล้วก็พูดไปว่า “ใครบอกว่าฉันกลัว? ก็แค่ไม่ อยากให้ปาปารัสซีถ่ายโดนแล้วก็บอกว่าฉันนั้นไม่เป็นมือ อาชีพอะไรอีก? น้องสาวดอกบัวขาวข้างบ้านของเธอเดี๋ยวๆ ก็เป็นข่าว เดี๋ยวก็เป็นเพราะเพื่อที่จะแสดงละครแล้วลงไปแช่ น้ำเย็น โดยไม่สนสุขภาพของตน เดี๋ยวก็เพราะเป็นลมเพราะ ทำงานหนัก แหวะ !”

หัวเหยาทำหน้าที่อยากจะอ้วกออกมา “คนที่ถือว่าเป็นมือ อาชีพก็ได้ทำถึงขนาดนั้นแล้ว ฉันที่อยู่ในบริษัทคู่แข่งของเธอจะรักษาภาพลักษณ์หน่อยไม่ได้หรือไง?”

จึงหนิงกลั้นชาไม่อยู่

แต่ว่าจึงเสี่ยวหย่านั้นเป็นแบบนี้อยู่ตลอด ไม่ว่าที่ใหน กับ ข้างนอกจะเป็นพวกอ่อนโยน สวย มืออาชีพสามอย่างนี้

ตลอด

เธอชินไปตั้งนานแล้ว

รถได้ขับตรงไปที่ซานเมือง

ตอนที่ใกล้จะถึงสนามแข่งรถนั้น จู่ๆ หัวเหยาก็ได้ลากแขน

เสื้อขึ้น

“หนิงหนิง เธอรีบดูให้ฉันหน่อย หน้าที่ฉันแต่งโอเคไหม? เสื้อที่ใส่วันนี้สวยไหม?”

จึงหนิงมองเธอด้วยความตกใจ

“เธอ..ทานยามาผิดหรือเปล่า?”

หัวเหยาะ

ผ่านไปสักพัก จิ้งหนิงก็รู้สึกได้ว่าหัวเหยานั้นมีอะไรบาง อย่างที่ไม่ปกติ

ตั้งแต่ตอนที่โทรหาเธอวันนี้ เธอนั้นก็เหมือนว่าได้มีท่าทีรอ คอยแบบนั้นอยู่ตลอด

ตอนนี้ยังถามตนว่าตัวเองนั้นสวยไหม?
คุณพระ! คนที่เคยบอกว่าตัวเองนั้นสามารถที่จะแข่งกับซี ชื่อที่เป็นหนึ่งในสาวสวยมากๆ ในประวัติศาสตร์จีนได้ คิด ไม่ถึงว่าอยากจะให้คนอื่นนั้นมาพูดยืนยันในความสวยของ ตัวเอง!

นี่เป็นเพราะนิสัยคนที่บิดเบี้ยวไปหรือว่าศีลธรรมที่เสื่อม

เสียไป?

หัวเหยาเหมือนจะรู้ว่าตัวเองนั้นไม่ปกติ ก็ได้ยิ้มออกมา อย่างทำตัวไม่ถูก

ไปสักพัก ก็ได้กำชายเสื้อแล้วพูดอย่างเขินๆ ว่า “วันนี้ เขา

จะมา”

จึงหนิงเบิกตาโตด้วยความตกใจ

ไม่จำเป็นต้องให้หัวเหยาอธิบายว่า “เขา” เป็นใคร จึ่งหนิ งก็เข้าใจเลยทันที

ทั้งสองได้นั่งเรียนด้วยกันตั้งแต่มอปลาย ต่อไปก็ได้พัฒนา จนเป็นเพื่อนสนิท ที่ผ่านมานี้ไม่มีอะไรที่ไม่พูดคุยกัน แล้วก็ ไม่มีความลับต่อกัน

ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่หัวเหยาแอบชอบรุ่นพี่จี้ หกปีก่อนก็ได้ ดังจนวุ่นวายไปหมด ไม่มีใครที่ไม่รู้เรื่องนี้

ไม่กี่ปีนี้เธอได้เปลี่ยนจากความใจร้อนเปิดเผย คุณหนูที่ ได้เอาแต่ใจตัวเอง กลายเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยแสดงออกสูงส่งและเย็นชา คนบนโลกก็ได้คิดว่าข่าวนั้นก็เป็นแต่เรื่อง ตอนวัยรุ่นที่ใจร้อนเท่านั้น ก็ได้เงียบหายไปตามกาลเวลา แล้ว

แต่ก็มีแค่เพื่อนสนิทอย่างจึงหนิงที่รู้ คนคนนั้นอยู่ในใจ ของหัวเหยา อยู่ในนั้นตลอด ไม่เคยที่จะหายไป

ใครก็พูดว่าชายจีบหญิงมีภูเขากั้นอยู่ หญิงจีบชายห่างกัน แค่ทรายเม็ดเดียว

แต่ว่าจีบมาแล้วหกปี ระยะห่างของทั้งสองไม่ได้แค่ไม่ใกล้ กันขึ้น แต่กับยิ่งอยู่ยิ่งห่างไกล

คิดถึงตรงนี้ จึงหนิงก็ได้กลืนน้ำลายอย่างห้ามไม่อยู่

เธอได้จอดรถ จากนั้นก็หันหน้าไปมองหัวเหยา ยื่นมือไป จัดผมที่ยุ่งของเธอ แล้วก็ได้จัดสร้อยคอให้ตรง

จากนั้นก็มีใบหน้าที่จริงจัง พิจารณาไปสักพัก

แล้วก็ได้เอาลิปจากกระเป๋ามาให้เธอ

“เปลี่ยนสีเถอะ! ปีนี้ดูเด็กเกินไป”

หัวเหยาไม่พอใจ “เดิมฉันก็เด็ก!”

“อึม เธอเด็ก แต่ว่าสีนี้เขาน่าจะชอบมากกว่า”

หัวเหยาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

ได้ยื่นมือไปแล้วก็ถามด้วยความสงสัยไปว่า “จริงเหรอ?”
“อึม เชื่อฉัน ฉันรับรอง!”

หัวเหยาไม่สงสัยอีกต่อไป ใช้ทิชชูเปียกเซ็ตลิปที่ตัวเองนั้น ได้ทาไว้ก่อนหน้าออก แล้วก็ส่องกระจกทาอันใหม่

พอทาเสร็จ ก็พบว่าสีนี้ได้เหมาะการแต่งหน้าและแต่งตัว

ของเธอมากกว่า

ก็ได้ยิ้มออกมาทันที เอียงตัวไปกอดจึงหนิง

“หนิงหนิง ขอบคุณนะ”

จึงหนิงยิ้มแล้วก็กำหมัดเป็นการให้กำลังใจเธอ “สู้ๆ! ลุย เลย!”

“อืม ฉันจะสู้แน่! พยายามที่จะเอาหนุ่มหล่อกลับมาให้ได้!”

ทั้งสองลงจากรถ

ในสนามนั้นได้มีคนมาถึงแล้วไม่น้อย รถที่จะแข่งกันคืนนี้ มีแปดทีม เพราะงั้นคนในสนามแข่งก็เลยเยอะ

เวลานี้กองเชียร์กับกรรมการได้ลงสนาม แล้วยังมีแฟนๆ อีกไม่น้อย ส่วนมากเป็นหนุ่มสาววัยรุ่น ในมือนั้นมีธงแล้วก็ โบกไปมา ยืนอยู่ในที่ของตน แล้วก็ตะโกนร้อง

แต่ว่านักแข่งนั้นยังไม่ปรากฏตัว น่าจะรอให้ใกล้แข่งถึงจะ

โผล่ตัวออกมา

หัวเหยาได้สวมผ้าปิดปากกับหมวกแกบ ปิดมิดชิดไปทั้งตัว ก้มหน้าแล้วก็ลากมือจึงหนิงเดิมเข้าไปในกลุ่มคน ไม่นาน ก็ได้เข้าไปถึงหลังทีมรถแข่งทีมหนึ่ง

“หนิงหนิง นี่เป็นทีมของหลินยวน ทีมรถนี้เขานั้นเป็นคน สร้างเองกับมือ ไม่กี่ปีนี้ได้คว้ารางวัลในประเทศมาไม่น้อย เก่งมากเลยนะ!”

จึงหนิงพยักหน้า

มีผู้หญิงคนหนึ่งได้สังเกตเห็นพวกเขา ก็ได้ถามอย่างเป็น มิตรว่า “พวกเธอก็เป็นแฟนคลับของจี้หลินยวนเหรอ?”

จึงหนิงอึ้งไป กำลังคิดว่าจะตอบออกไปยังไงถึงไม่ถูกจับ ได้อยู่นั้น

อยู่ๆ ก็ได้ยินหัวเหยาที่อยู่ข้างๆ ได้ตอบไปอย่างปากไวว่า “ใช่ๆ! เธอมีธงเล็กที่เกินมาไหมให้ฉันหนึ่งอันได้ไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ