วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 757 เจอกันตอนเด็ก



บทที่ 757 เจอกันตอนเด็ก

ที่แห่งนั้น เธอได้พบกับคนที่น่าจดจําที่สุดในชีวิตของเธอ นั่นมันเป็นการพบกันแบบไหนกันนะ?

พอมาคิดๆ ดูแล้ว บอกได้คําเดียวเลยว่า มันธรรมดามาก ไม่มีฉากอะไรพิเศษ และก็ไม่มีการแสดงอะไรพิเศษ และยิ่งไป กว่านั้นมันก็ไม่ฐานะหรือกลิ่นอายพิเศษอะไรเลยด้วย

เธอเห็นว่า ในสวนหลังบ้านเต็มไปด้วยต้นองุ่น มีเด็กชายอายุ ประมาณ 11 หรือ 12 ปี นั่งอยู่ใต้ต้นสวนองุ่นนั้น เขาถือหนังสือไว้ ในมือ และอ่านมันอย่างตั้งอกตั้งใจ

เขาสวยมาก และแม้ว่าเขาจะเป็นเด็กผู้ชาย แต่เขาก็ยังดูสวย และงดงามไม่แพ้ผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย

ตากลมโต ขนตางอนยาว ผิวขาวราวกับหยกเนื้อแกะเนื้อ ละเอียด

สวมเสื้อสูทตัวเล็กที่ดูเฉียบคมและประณีตเป็นอย่างมาก ส่วน เท้าของเขาก็ถูกสวมไว้ด้วยรองเท้าหนังคู่เล็กทั้งสองข้างที่มีสี เดียวกัน ผมของเขาก็ถูกจัดเซ็ตเอาไว้อย่างพิถีพิถัน และแม้แต่ ท่าทางในการอ่านหนังสือของเขามันก็ยังดูแตกต่างจากเด็ก ทั่วไป ราวกับแสร้งทำเป็นผู้ใหญ่

เฉียวฉีถึงกับนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง
เมื่อรู้สึกถึงการมาของใครบางคน หนุ่มน้อยจึงวางหนังสือลง จากนั้นก็เงยศีรษะขึ้น

ดวงตาคู่นั้นเยือกเย็นและสงบนิ่ง เหมือนกับไม่กินดอกไม้ไฟ ของหมนุษย์ และเหมือนกับทะเลสาบบนภูเขาที่ถูกปกคลุมไป ด้วยหิมะ ทันใดนั้นเองมันก็ได้แทรกซึมเข้ามาในหัวใจของเธอ

เฉียว คิดว่า ทั้งชีวิตของเธอ เธอคงไม่มีทางลืมการพบกัน ครั้งนี้อย่างแน่นอน

เมื่อพวกเขาเดินเข้ามาในสวนท่านผู้อำนวยการก็แนะนำเธอ ออกไปอย่างกระตือรือร้นว่า “มา ฉันจะแนะนำให้เธอรู้จัก เขา เป็นลูกศิษย์ของฉันเอง ชื่อว่าอะเฉียนหลังจากนี้เธอก็เรียกเขาว่า พี่เฉียนนะ”

จากนั้นเขาก็หันไปพูดแนะนำกับกู้ซื้อเฉียนว่า “หล่อนชื่อว่า เฉียวเคอหลังจากนี้ต่อไป หล่อนคือหลานสาวของฉัน ส่วนเธอคือ พี่ชายของหล่อน ดูแลน้องสาวดีๆ นะ อย่ารังแกหล่อน เข้าใจ ไหม?”

คุณชายที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่แม้แต่จะพยักหน้า ส่ายหัว หรือ ตอบรับเลยแม้แต่น้อย

เขาทําเพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นได้ชัดเลยว่าเขาอายุแค่ 11 หรือ 12 ปี แต่ใบหน้าที่ไร้รอยยิ้มของเขา ทำให้เขาดูเหมือน กับชายชราที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก

เขาแค่นั่งนิ่งฟัง จากนั้นเขาก็ถามออกไปด้วยความสงสัยว่า ” เฉียวฉี? หล่อนไม่ใช่ลูกเลี้ยงตระกูลถังที่อยู่หมู่บ้านหรอกหรือ?หล่อนจะมาเป็นหลานสาวของคุณได้อย่างไร?”

ท่านผู้อำนวยการตกตะลึง

คิดไม่ถึงเลยว่า เด็กคนนี้เอาแต่อยู่ในสวนแห่งนี้ทั้งวัน แต่เขา กลับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน ท่านผู้อำนวยการจึงถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ จาก

นั้นเขากเล่าเรื่องของ เฉียว ให้กู้ซื้อเฉียนฟังอีกครั้ง

หลังจากที่เด็กน้อยฟังจบแล้ว ใบหน้าของเขาก็ไม่มีความเห็น อกเห็นใจแต่อย่างใด เพียงแค่ส่งเสียงฮมฮัมออกมาอย่างเย็นชา ก็เท่านั้น

จากนั้นเขาก็พูดออกไปว่า “แล้วแต่คุณ ตราบใดที่มันไม่ รบกวนการเรียนของผม นอกจากนั้นมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม”

หลังจากพูดจบ เขาก็นั่งลง และพลิกหนังสือในมืออีกครั้ง

ปฏิกิริยาของท่านผู้อำนวยการที่มีต่อกู้ซื้อเฉียนดูแปลกมาก เขาหัวเราะออกมา จากนั้นก็ดึงตัวของ เฉียวออกไป

เฉียว รู้สึกสงสัยเล็กน้อย

เด็กคนนี้ เป็นคนยังไงกันแน่ ทำไมทัศนคติของเขาแย่ขนาด

ท่านผู้อำนวยการเป็นคนดีมากจริงๆ เขาเต็มใจรับเลี้ยงเด็กไร้ บ้านอย่างเธอ และก็เต็มใจสอนหนังสือเขา เพราะอย่างนั้นเขาจะ มาพูดกับคุณปู่ด้วยน้ำเสียงแบบนี้ได้อย่างไร?
ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ!

เธอจึงทำแก้มป่อง จากนั้นก็หันศีรษะกลับไป เธอต้องการให้กู้ ชื่อเฉียนเห็นว่าเธอนั้นดุร้าย และเพื่อสอนเขาว่าหล่อนไม่ง่ายที่จะ มากลั่นแกล้ง และอย่ามารังแกเธอ

แต่เมื่อเธอหันหลังกลับมา ฉันก็เห็นเด็กน้อยกำลังก้มหน้าอ่าน หนังสือ สงบนิ่งและดูงดงาม เขาสงบราวกับหยก ราวกับอัญมณี ที่ส่องแสงสะท้อนในแสงแดด

เธอถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

เธอคิดว่าบนโลกใบนี้ คงจะไม่มีพี่ที่ดูดีไปมากกว่าเขาอีกแล้ว

เห้อ เห็นแก่ความงดงามของนาย งั้นก็ช่างมันเถอะ! แต่หลังจากนี้… หึหึ

เฉียวมาอาศัยอยู่กับท่านผู้อำนวยการในสถานรับเลี้ยงเด็ก ทําพร้า

ในยุคสมัยนั้น กฎหมายที่คุ้มครองเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ นั้นยังไม่สมบูรณ์มากนัก

เพราะอย่างนั้น แม้ว่าเธอจะออกมาจากครอบครัว และมา

อาศัยอยู่กับท่านผู้อำนวยการก็ไม่มีใครสนใจ

หลังจากที่คุณแม่เฉียวรู้เรื่อง หล่อนก็มาหาเธอหลายครั้ง เพราะอยากจะนำตัวเธอกลับไป
แต่หล่อนกลับถูกเฉียวฉีปฏิเสธทุกครั้ง

ทัศนคติของเธอแน่วแน่มาก และดูเหมือนว่าเธอจะหมดความ

เชื่อใจแม่ของเธอแล้ว คุณแม่เฉียวรู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก และก็ไม่รู้ว่าจะทำ

อย่างไร

แต่ในขณะเดียวกัน ลึกๆ ภายในใจ หล่อนก็รู้สึกยินดีอย่างไม่ ต้องสงสัย

เพราะพวกเขาทุกคนก็ล้วนแล้วแต่รู้ว่า ท่านผู้อำนวยการของ สถานรับเลี้ยงเด็กกําพร้าแห่งนี้ เป็นคนที่น่านับถือ มีความรู้ และ ประสบความสําเร็จ

และมันก็คงจะเป็นเรื่องที่ดี ถ้า เฉียว จะได้มาอาศัยอยู่กับเขา คุณแม่เฉียวคิดในใจ หลังจากนั้นหล่อนก็ไม่มาเกลี้ยกล่อม เธอให้กลับไปอีกเลย

ส่วนคุณพ่อถังเขาก็ไม่เคยมาปรากฏตัวที่นี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว

ท่านผู้อำนวยการมีชีวิตอยู่มานานแล้ว เมื่อเห็นสถานการณ์ เช่นนี้ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าคนในครอบครัวนี้กำลังคิดอะไร อยู่?

เห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน ผู้ชายคนนั้นเห็นเด็กคนนี้เป็นแค่ลูก เลี้ยง และไม่เคยคิดที่จะดูแลรับผิดชอบเธอเลยจริงๆ

ไม่แปลกใจเลยที่เธอไม่อยู่บ้านของตัวเอง แต่กลับมาอาศัยอยู่ที่นี่ และเธอก็จำได้ว่าเขาเป็นชายชราโดดเดี่ยว และปฏิเสธที่ จะกลับไป

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ท่านผู้อำนวยการก็อดไม่ได้ที่จะถอน

หายใจออกมา

ในใจของเขายิ่งรู้สึกเสียใจมากขึ้นไปอีก กับสิ่งที่เฉียว ต้อง

เผชิญ

แต่ในทางตรงกันข้าม เฉียว กลับดูเปิดกว้างเป็นอย่างมาก

ในความเห็นของเธอ เธอไม่มีความสุขเลย ในบ้านหลังนั้น แต่ เธอชอบที่จะติดตามคุณปู่มากกว่า

แม่ของเธอมีชีวิตอย่างที่ตัวเองต้องการ และตราบใดที่เธอไม่ สามารถชักจูงหล่อนได้ แต่เธอก็ต้องตอบแทนคุณที่หล่อนให้ กําเนิดเธอมา

ทันทีที่เธอมองออกไป ท่านผู้อำนวยการก็ได้รับผลผวงจากเธอ

และอารมณ์ของเขาก็เปิดกว้างขึ้น ด้วยความที่เขาค่อนข้างมีอำนาจในท้องถิ่น เพราะอย่างนั้น

แค่เขาดำเนินการง่ายๆ เขาก็สามารถรับเธอมาเลี้ยงได้แล้ว

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เฉียวฉีก็อาศัยอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็ก กําพร้ามาโดยตลอด

หลังจากที่เธอได้มาอาศัยอยู่ที่นั่น เธอก็ได้รู้ว่า ความจริงแล้ว ครอบครัวของกู้ซือเฉียนเป็นผู้สนับสนุนสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แห่งนี้ แต่เพราะเขาสุขภาพไม่ดี จึงไม่สามารถไปโรงเรียนได้
และด้วยความที่ท่านผู้อำนวยการเคยระดับปริญญาตรี และได้ เรียนรู้อะไรมากมาย ครอบครัวของกู้ซื้อเฉียนจึงได้ทำข้อตกลง พิเศษกับเขา

ทางฝั่งของกู้ซื้อเฉียน เขาจ่ายเงินเพื่อสนับสนุนสถานรับเลี้ยง เด็กกำพร้าแห่งนี้ ส่วนทางฝั่งของท่านผู้อำนวยการ เขามีหน้าที่ รับผิดชอบในการเป็นครูให้กับกู้ซื้อเฉียน โดยการสอนเขา และ ให้แบบฝึกหัดกับเขา

ความจริงแล้วในใจของท่านผู้อำนวยการเขาก็รู้สึกชอบกู้ซื้อ เฉียนเป็นอย่างมาก เพราะถึงแม้ว่าเด็กคนนี้จะไม่ค่อยพูด บาง ครั้งก็ออกจะเย็นชา แต่เขาก็เฉลียวฉลาดเป็นอย่างมาก

ไม่ว่าจะสอนอะไร เพียงแค่บอกเขาแค่ครั้งเดียว เขาก็จะเรียนรู้ มันได้ทันที

ในการเปรียบเทียบความฉลาดของ เฉียวสำหรับเขาแล้ว

มันไม่จําเป็นเลย

และเพื่อความสะดวกในการเรียน กู้ซื้อเฉียนจึงมาอาศัยอยู่ที่นี่ แต่ไม่เหมือนกับเธอ เขาอยู่ที่นี่ในฐานะแขก โดยมีคนใช้ แม่ บ้าน และพี่เลี้ยงอยู่เคียงข้างเขาเสมอ

เปรียบเสมือนคุณชายผู้สูงส่ง บอบบาง และมีค่า

แตกต่างกับเธอ

เธอเป็นเด็กไร้บ้านคนหนึ่ง เป็นวัชพืชตัวน้อยเร่ร่อนที่ไม่มีใคร ต้องการ
และเพื่อที่จะเอาใจท่านผู้อำนวยการหลังจากที่เธอจบการ ศึกษาขั้นพื้นฐานแล้ว เธอก็จะช่วยเขาทำอาหาร ซักเสื้อผ้า ทําความสะอาดลานบ้าน และบางครั้งเธอก็จะช่วยคุณปู่พาเด็ก คนอื่นๆ ที่อายุน้อยกว่าเธอเข้าไปในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า

แม้ว่า ท่านผู้อำนวยการจะเคยบอกเธอหลายครั้งแล้วว่าเธอไม่ จําเป็นต้องทํา

ตั้งแต่ที่เขาได้ให้สัญญากับเธอว่าเขาจะรับเลี้ยงเธอ จึงไม่มี ทางที่เขาจะไล่เธอออกไปอย่างแน่นอน เพราะอย่างนั้นเธอจึงไม่ จําเป็นที่จะต้องเอาใจใคร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ