วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 283 ช่วยคุณต่อยเขา



บทที่ 283 ช่วยคุณต่อยเขา

หรือสามารถพูดได้ว่า ถึงแม้เธอไม่เห็นด้วยที่ให้เขาอยู่ที่นี่ แต่ อย่าได้หวังว่าฉันต้องสนใจเรื่องการกินของคุณ

ตัวเองเลือกเอง จะมาอยู่ดีกินดีได้ยังไง

ตอนแรกนึกว่า บางคนไม่พอใจคำพูดของเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาแค่เหลือบมองเธอแวบเดียว และพูดว่า : “คนใช้ของคุณคนนั้น ผมได้ไล่ออกแทนคุณแล้ว”

หัวเหยาตกใจนิ่งอึ้ง

“ว่าอะไรนะ?”

จี๋หลินยวนขมวดคิ้ว

“ฟังไม่ชัดหรอ? ”

“เปล่า แล้วคุณเป็นใครมาไล่แม่บ้านของฉันออก?” จี้หลินยวนยิ้มอย่างเย็นชาขึ้น

“ไม่ไล่ออกเธอ หรือว่ารอให้เธอช่วยคุณหนีก่อนหรอ?”

หัวเหยา โมโหเดือดดาลทันที

“ฉันบอกแล้วว่า ฉันไม่หนีหรอก อีกอย่างสถานการณ์ตอนนี้ ของฉันสามารถหนีไปไหนได้หรอ?”
หลินยวนแทบไม่สนใจคำพูดของเธอเลย สำหรับผมแล้ว ความเชื่อของคุณคือศูนย์ ผมไม่เชื่อหรอก”

หัวเหยา “……….…..

เธอกัดฟันเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็อดกลั้นความโกรธไว้

“แม่บ้านไปแล้ว แล้วต่อไปคุณคิดว่าฉันจะดื่มจะกินอะไรหรอ? คุณคงไม่ให้ฉันแบกท้องโตเข้าครัวทำอาหารหรอกใช่ไหม?”

หลินยวนเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง

เหมือนกับกําลังครุ่นคิด

“ถ้าหากคุณสามารถทำได้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้”

“จี๋หลินยวน!”

เมื่อเห็นผู้หญิงที่เหมือนกับแมวน้อยขนฟูที่อยู่เบื้องหน้า หลิน ยวนก็อารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย

“วางใจ ผมแค่หยอกคุณเล่นเฉยๆ คิดว่าผมจะใจร้ายใจดำ

เหมือนคุณหรอ?”

ขณะที่พูดก็ปรบมือดังขึ้น จากนั้นผู้หญิงสวมแว่นสีทองก็เดิน

ยิ้มเข้ามา

“นี่เป็นแม่บ้านคนใหม่ที่ผมจ้างมาดูแลคุณ อ๋อ เมื่อก่อนเธอ เป็นแม่นม ดังนั้นมีประสบการณ์มากกว่าแม่บ้านของคุณ เธอน่า จะเหมาะสมกับคุณมากกว่า”

ขณะที่พูดก็ให้แม่บ้านคนใหม่ทักทายกับเธอ
แม่บ้านคนใหม่ชื่อว่าcandy หน้าตารูปร่างธรรมดา นิสัย กระตือรือร้น และพูดเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองถนัดกับเธอเป็นโหล

หัวเหยายังรู้สึกโมโหอยู่ แต่ในตอนนี้ไม่สามารถระเบิด อารมณ์ออกมา เพราะไม่ว่ายังไงcandyเป็นคนบริสุทธิ์ ไม่ สามารถระบายอารมณ์กับเธอ ด้วยเหตุนี้เลยพยักหน้าตอบรับ

เมื่อหลินยวนเห็นเธอไม่คัดค้านก็ใช้ให้candyไปทำอาหาร

ส่วนตัวเองหยิบหนังสือไปนั่งอ่านบนโซฟา

เมื่อหัวเหยาเห็นเขายังมีน้ำใจอยู่ก็รู้สึกโมโหไม่ลง เลยหัน หลังกลับเข้าห้องน้ำ

ตอนบ่าย ซึ่งหนึ่งเพิ่งพักผ่อนตอนเที่ยงเสร็จ ขณะที่กำลัง เตรียมตัวแต่งหน้าไปถ่ายละครตอนบ่าย หัวเหยาก็โทรมา

ตอนนี้เธอกำลังถ่ายละครออฟฟิศในเมืองใหญ่อยู่ นางเอก เป็นพนักงานระดับสูงบริษัทแห่งหนึ่ง ในการทำงานและความรัก

มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย

เธอไม่เคยถ่ายละครออฟฟิศมาก่อน แต่สําหรับเธอแล้ว ถือ เป็นความท้าทาย

หลังจากรับสายหัวเหยา เธอก็ยกมือให้ช่างแต่งหน้ารอสักครู จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินไปอีกด้านรับสาย

“เหยาเหยา มีอะไรหรอ?”
“จิ่งหนึ่ง……

ด้านนั้น หัวเหยาพูดไม่ออก

จิ้งหนังฟังน้ำเสียงผิดปกติของเธอออก เลยขมวดคิ้วและซัก ถามว่า “เป็นอะไรหรอ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”

“เปล่า”

หัวเหยารีบพูดอธิบายว่า “ไม่มีอะไร เธอไม่ต้องห่วงหรอก ฉัน เพียงแค่อยากปรึกษากับเธอสักหน่อย เรื่องนั้น……

เธอเม้มปากเล็กน้อย คิดยังไงก็รู้ว่าไม่ค่อยเหมาะสมที่จะพูด ออกมา

จิ้งหนึ่งพูดกล่อมว่า : “มีอะไรเธอก็พูดออกมา ความสัมพันธ์ ของพวกเราสองคนยังต้องมีอะไรปกปิดอีกหรอ?”

หัวเหยาถอนหายใจ และพูดว่า : “อันที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่คิดถึงเธอ ถ้าหากเธอทำงานยุ่ง หากถึงตอนที่คลอดลูก ออกมา เธอไม่ต้องรีบร้อนมาเยี่ยมก็ได้”

หัวเหยายังไม่ทันพูดจบ จึงหนึ่งก็พบว่าผิดปกติอย่างอ่อนไหว ทันที

เพียงชั่วพริบตาเธอก็เข้าใจทันที

“พ่อของเด็กปรากฏตัวแล้วหรอ?”

หัวเหยา: .……….….

จิ้งหนึ่งยิ้มแย้ม “เธอไม่ต้องมาปกปิดฉันหรอก วางใจเถอะ ฉันไม่อยากรู้หรอกว่าใคร เพียงแต่เธออยู่ต่างประเทศคนเดียว ถ้า หากไม่มีคนรู้จักคอยดูแลอยู่ข้างกาย ฉันไม่วางใจหรอก”

หัวเหยาเองก็รู้ว่า เธอเป็นห่วงตัวเอง

เลยต้องยอมรับว่า “อืม”

“ถึงเมื่อไหร่หรอ?”

“เมื่อคืน”

จิ่งหนิงครุ่นคิด ถึงเมื่อคืน ดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามเป็นคนใส่ใจ เพราะถึงยังไงหัวเหยาไม่ใช่คนดูคนอื่นไม่ออก

ถ้าหากฝ่ายตรงข้ามไม่น่าเชื่อใจ เธอคงไม่บอกสิ่งหนึ่งไม่ให้ เธอมาหรอก

จิ่งหนีงถอนหายใจ

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นฉันก็ไม่ฝืนแล้ว ถึงแม้ฉันอยากเห็น ลูกชายของเธอเป็นคนแรก แต่ในเมื่อพ่อของเขามาแล้ว….เพื่อ หลีกเลี่ยงไม่ให้ฉันต่อยหน้าพ่อของเขาต่อหน้าลูกของเธอ ฉันจะ ไม่ไปหาชั่วคราว”

หัวเหยาถอนหายใจ ยิ้มและพูดว่า : “ขอบคุณมากนะ จิ่งหนึ่ง”

“เห้ย หากต้องการอยากขอบคุณฉันจริง ก็บอกฉันมาว่า ผู้ชายคนนั้นคือใคร ฉันจะช่วยต่อยเขาแทนเธอให้

หัวเหยาหยุดนิ่งชั่วขณะ

ไม่นานก็พูดว่า : “ค่อยว่ากันละกัน ถ้าหากมีโอกาส ฉันจะบอกเธอเอง”

เมื่อวิ่งหนึ่งใต้ยินแบบนี้ก็รู้ว่าพวกเขามีปัญหากัน เรื่องความ รู้สึกส่วนตัว เธอไม่ขอยุ่งเกี่ยว ทำได้เพียงพยักหน้าเล็กน้อย

หลังจากวางสาย ก็เห็นผู้ช่วยที่จ้างมาดูแลกองละครชั่วคราว เดินเข้ามาบอกว่า ผู้กำกับเร่งแล้ว ให้ช่างแต่งหน้าเร่งมือหน่อย

เธอจึงรีบเก็บโทรศัพท์ และเดินไปให้ช่างแต่งหน้าแต่งหน้า เพิ่มทันที

ตอนนี้จึงหนิงถือเป็นนักแสดงเต็มตัวแล้ว เธอถ่ายละครไม่ได้ เพื่อมีชื่อเสียง และไม่ใช่เพื่อเงิน แต่เป็นความชอบในการแสดง ของเธอ ดังนั้นตอนรับงานเลือกเพียงความสนใจ ไม่ได้สนใจค่า ตอบแทนเลย

เมื่อลู่จึงเป็นเห็นเธอชอบมากขนาดนี้ เลยยอมตามใจเธอ เพราะสถานการณ์ยังไม่ปกติ ซึ่งหนึ่งเลยยังไม่หาผู้จัดการให้ กับตัวเอง เพราะเดิมทีเธอก็เป็นผู้จัดการผู้เชี่ยวชาญอยู่แล้ว

ดังนั้นการเงินทุกอย่างต้องผ่านมือของเธอ เลยไม่ต้องการใคร มาช่วย

แต่ผู้ช่วยเธอมีความต้องการ เพราะก่อนหน้านี้เธอไม่ได้คำนึง อย่างหนึ่ง หลังจากเข้ากลุ่มเลยรีบรับสมัครอย่างเร่งด่วน

โชคดีที่หมั่นถือมีคนรู้จักที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือคน หนึ่ง เลยแนะนำให้กับเธอ
แต่ฝ่ายตรงข้ามยังเป็นเด็กผู้หญิงเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ เพียง แต่ต้องการทํางานช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเท่านั้น จากนั้นก็จะกลับ ไปเรียนต่อ

ขณะที่จิ้งหนึ่งกำลังครุ่นคิดนั้น คนที่มีความสุขุม มีความน่า เชื่อถือจากการคัดเลือกของบริษัทคนหนึ่ง

แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายจากเสี่ยวเหอบอกว่า เขาช่วยเธอ เรียงรายชื่อผู้ช่วยส่งทางกล่องจดหมายให้กับเธอเรียบร้อยแล้ว หากเธอมีเวลาสามารถไปเลือกดูได้ หากสนใจใครส่งชื่อให้เขา จัดการได้เลย

จิ่งหนึ่งเพิ่งรู้ว่า ที่แท้เสี่ยวเหอได้ช่วยเธอจัดการเรียบร้อยแล้ว เธอเลยรู้สึกดีใจมาก

ถ้าหากเสี่ยวเหอสามารถรับผิดชอบหน้าที่อย่างเดียวได้ แน่นอนว่าเธอหวังอยากได้เสี่ยวเหอ เพราะในตอนนี้งานทุก อย่างในบริษัทซิงฮุยเสี่ยวเหอเป็นคนจัดการ ถึงแม้เธอมีความ สามารถ แต่หลายครั้งก็ไม่สะดวกออกสื่อ สุดท้ายก็ต้องให้เสียว เหอออกสื่อแทน

หลังจากถ่ายทําละครตอนบ่ายเสร็จ จึงหนิงก็เปิดกล่อง

จดหมายขึ้นอ่าน

เสียวเหอส่งคนมาแนะนำทั้งหมดสิบคน ประวัติของแต่ละคน

เขียนชัดเจนมาก

เธอใช้นิ้วปัดหน้าจอ พร้อมอ่านอย่างละเอียด จนกระทั่งคน สุดท้ายที่ทําให้เธอถึงกับนิ่งอึ้ง
บนประวัติมีชื่อว่า กงเงี่ยวขุย และมีรูปภาพหน้าตาสวย ประกอบด้วย เธอผมสั้นประบ่าสะอาดตา แถมยังมีรอยยิ้มน่ารัก สดใสมากด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ