วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 18 เดินช้อปปิ้งเป็นเพื่อนเขา



บทที่ 18 เดินช้อปปิ้งเป็นเพื่อนเขา

ซูมู่?

เขาอยู่นี้ได้ยังไงหรือ?

ทันทีนั้น จึงหนิง เกร็งไปทั้งตัว มองไปยังข้างหลัง ซูมู่ อีกที กลับไม่เห็นเงาของผู้ชายคนนั้น

มู่หงเซียว ไม่รู้จักเขา ขมวดคิ้วไม่พอใจพูดว่า “คุณคือ

ใคร?”

แม้ว่าพนักงานไม่รู้จักเขา แต่กลับรู้จักผู้จัดการห้างสรรพ สินค้าที่อยู่ข้างหลังเขา รีบดึงแขนเสื้อของ จิ่งเสี่ยวหย่า เบาๆ ดึงแล้วดึงอีก เสียงเบาๆพูดไปสองประโยค

ซูมู่ หัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง สั่งกับคนข้างหลังโดยตรงว่า “ลู่ชื่อกรุ๊ป มีกฎเกณฑ์อย่างหนึ่งมาโดยตลอด ก็คือว่าร้าน ใหญ่โตแล้วจะไม่ดูถูกลูกค้าอย่างเด็ดขาด หุ้นส่วนเล็กๆของ ห้างสรรพสินค้าคนหนึ่งก็กล้าหยิ่งผยองอวดดีขนาดนี้วิ่งเข้า มาในร้านดูถูกลูกค้า เป็นอย่างนี้ต่อไปแม้แต่ชื่อเสียงของ ลู่ ชื่อกรุ๊ป ก็จะไม่ถูกทำร้ายไปด้วยหรือ? ผู้จัดการหลี่ จดบันทึก คำพูดของคุณมู่ในวันนี้ไว้ หลังจากนี้เอาไปให้ประธานมู่ ดู อย่าบอกว่า ลู่ชื่อกรุ๊ป ของพวกเราไม่ทำตามสัญญาเตะพวก เขาออกนอกสนาม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ในส่วนของไทม์สแควร์นี้ ก็อย่าให้มู่ชื่อกรุ๊ป ของพวกเขามาแตะต้องอีกแล้ว

ล่ะ!”

ผู้จัดการหลี่ ตื่นตะลึงอย่างรุนแรง รีบรับปากทันที

มู่หงเซียว “เฮ้อ” สีหน้าเปลี่ยนทันที

“คุณคือคนของ ลู่ชื่อกรุ๊ป หรือ?”

ซูมู่ ยิ้มเย็นชา “ในที่สุด คุณหนูมู่ ก็คืนสติกลับมาแล้ว”

…ถึงแม้ว่าคุณคือคนของ ลู่ชื่อกรุ๊ป ก็ไม่สามารถตัดสิน ใจอย่างตามใจได้นะ!”

“จะตัดสินใจได้หรือไม่ คุณหนูมู่ กลับไปรอฟังข่าวก็ พอแล้ว ผมเชื่อว่าคืนนี้ประธานมู่ กลับไปถึงบ้าน จะบอกกับ คุณอย่างดีแน่นอน”

เขาพูดจบ ไม่มีใจที่จะพูดไร้สาระกับ มู่หงเซียว อีก เดินไป ยังข้างกาย จิ่งหนิง โดยตรง พูดเสียงเบาๆว่า “คุณหนูจิ่ง ท่านประธานรอท่านอยู่ข้างนอก ท่านดู..

สีหน้าจึ่งหนิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย กันริมฝีปาก กัดแล้วกัด

“เพื่อนของฉันยังอยู่ชั้นบน..”

“ผมจะรับผิดชอบอธิบายให้เธอฟังเอง”

จึงหนิงเงยหน้าจ้องมองเขาหนึ่งที่ สุดท้ายก็ยังคงพยัก

อีกหน้าแล้วพยักหน้าอีก

ออกจากประตูร้าน เดินไปยังข้างซ้ายอีกสิบกว่าเมตร มอง เห็นผู้ชายบางคนยืนอยู่ที่นั่นเหมือนอย่างที่คิด

เสื้อสูทสีดำทั้งตัว มีลักษณะที่ละเอียดรอบคอบเช่นนั้น เหมือนเดิม คิ้วตาลึกล้ำ รูปหล่อและสูงชะลูด ยืนอยู่ที่นั่นก็ เหมือนสร้างทัศนียภาพรูปหนึ่งด้วยตนเอง

เมื่อมองเห็นเธอ เขาโบกมือแล้วโบกมืออีกไปยังเธอ

จึงหนิง เดินเข้าไป ยืนอยู่ที่ที่ห่างจากเขาก้าวหนึ่ง ฝืนยิ้ม แล้วยิ้มอีก

“ประธานลู่ บังเอิญมากนะ! คุณก็มาออกมาเดินซ้อปปิ้ง เช่นกันหรือ?”

ลู่จิ้งเซิน ตึงริมฝีปาก ยกมือดึงเธอเข้ามาทันที

จึงหนิง ไม่ทันตั้งตัว เท้าซวนเซก้าวหนึ่ง ถึงขนาดถูกเขาดึง เข้าไปในอ้อมอก ตื่นตะลึงอย่างฉับพลัน

“คุณจะทำอะไรล่ะ?”

“อย่าดิ้น”

สู่จิงเซิน ยื่นมือช่วยเขาดึงเศษขยะเล็กน้อยชิ้นหนึ่งที่ไม่รู้ ว่าติดมาจากไหน ท่าทางอ่อนโยน อีกทั้งเป็นธรรมชาติมาก

จึงหนิง อึ้งซะงักไปหนึ่งที ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

เธอถอยไปเล็กน้อยก้าวหนึ่ง ยกมือจับเส้นผมสักหน่อย เหน็บผมไปไว้หลังหู มึนงงจนไม่กล้าจ้องตาของเขา

“เรื่องนั้น ….เมื่อกี้ขอบคุณคุณนะ ที่ส่ง ซูมู่ เข้ามาช่วยแก้ สถานการณ์ให้ฉัน”

ลู่จิ่งเซิน ยิ้มแล้วยิ้มอีก เสียงราบเรียบพูดว่า “บังเอิญเดิน ผ่านเห็นว่าในร้านมีคนทะเลาะกันอยู่ เสียงที่ได้ยินเหมือน คุณ ก็เป็นจริงอย่างที่คิด พูดได้ว่าพวกเรามีบุพเพสันนิวาส จริงๆ เดินช้อปปิ้งก็ยังเจอกันได้”

จึงหนิง.

เธอเงยหน้าจ้องมองเขาหนึ่งที่อยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย

“ในเวลานี้คุณไม่ใช่ควรทำงานอยู่ที่บริษัทหรือ? ออกมา เดินซ้อปปิ้งได้ยังไงล่ะ?”

ผู้ชายพูดโกหกด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยน “วันนี้ผมพักผ่อน”

“อย่างนี้หรือ!”

แม้ว่า จึงหนิง จะสงสัยเล็กน้อย ว่าทำไม ลู่จิ่งเซิน พักผ่อน ในวันจันทร์ แต่คิดขึ้นมาแล้วว่าคนที่เป็นเจ้านายเวลาพัก ผ่อนย่อมตั้งขึ้นมาเอง ดังนั้นก็โล่งใจไปเลย

เธอมองซ้ายมองขวาหนึ่งที่ไม่ได้เห็นว่ามีคนอื่น ก็ถามว่า”คุณเดินช้อปปิ้งคนเดียวหรือ?”

ลู่จิ้งเซิน พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก

“งั้นจะไม่ใช่น่าเบื่อมากเลยหรือ?”

“เป็นบ้างนะ ดังนั้นอีกสักครู่คุณสามารถเดินช้อปปิ้งเป็น เพื่อนผมด้วยกันไหมล่ะ?”

จึงหนิง อึ้งซะงักไป

คำถามนี้…

ตอบยากนะ!

เธอฝืนยิ้มแล้วยิ้มอีก ปฏิเสธโดยให้เหตุผลที่ฟังดูดี “ฉัน มาด้วยกันกับเพื่อนสนิทนะ คุณ .ไม่

สะดวกมั้ง!”

ลู่จิงเซิน คิดใคร่ครวญหนึ่งที่ พยักหน้า “ก็จริง”

อยู่ดีๆเขาจับบัตรทองสีดำใบหนึ่งออกจากหน้าอก วางไว้ อยู่ในมือของเธอ

“งั้นอันนี้คุณเอาไว้”

จึงหนิง อึ้งแล้วอึ้งอีก

หากว่าเธอจำไม่ผิด บัตรใบนี้น่าจะเป็นบัตรทองสีดำ VIP ของห้างสรรพสินค้าภายใต้ ลู่ชื่อกรุ๊ป

พูดได้ว่า ถือบัตรใบนี้ ก็เท่ากับว่าเปลี่ยนสถานะยอมรับว่า ตนเองเป็นคนของ ลู่ชื่อกรุ๊ป แล้ววันหลังไม่ว่าจะไปที่ไหน ล้วนไม่มีคนกล้าดูถูกคุณแล้ว
เธอตื่นตะลึงจนอ้าปากเล็กน้อย มองไปยัง ลู่จึ่งเซิน

“คุณเอาอันนี้ให้ฉันหรือ? ทำไมล่ะ?”

สู่จิงเซิน ชมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนไม่ชอบมากกับค่าถาม

ของเธอ

“ภรรยาของผม ลู่จิ่งเซิน แม้แต่บัตรสีดำใบหนึ่งก็ไม่คู่ควร

มีหรือ?”

จึงหนิง ”

นี่ทำให้คนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี…จริงๆนะ

“ฉันยังไม่ได้รับปาก..

“พวกเราไปจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว” ลู่จิ่งเซิน ตัดคำพูด ของเธอโดยตรง อีกทั้งตั้งใจพูดเสริมว่า “สาเหตุที่ให้เวลา คุณสามวัน คือเห็นใจว่าคุณยากจะยอมรับความจริงที่ แต่งงานเป็นภรรยาของคนอื่นในทันที แต่นี่ก็ไม่ได้แสดงว่า เธอสามารถอาศัยเรื่องนี้ปฏิเสธความสัมพันธ์ระหว่างพวก เราได้เลย คุณควรเข้าใจข้อนี้นะ”

จึงหนิง “.”

อยู่ในเวลานี้มือถืออยู่ดีๆก็ดังขึ้นมาเลย เธอทำได้เพียงแค่รับโทรศัพท์ก่อน
เป็นหัวเหยา โทรมา

“ฮัลโหล หนิงหนิง ฉันได้ยินคนคนหนึ่งพูดว่าแกมีธุระด่วน ไปก่อนแล้วหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วล่ะ?”

จึงหนิง จ้องมอง ลู่จิ่งเซิน หนึ่งที่

ฝั่งตรงข้ามใบหน้าเต็มไปด้วยความจนใจ เธอทำได้เพียง แค่ยกความสงสัยนี้ไว้อยู่บนกายของ ซูมู่ แล้วพูดว่า “ไม่มี เรื่องอะไร เดี๋ยวฉันก็กลับไป ไม่ต้องเป็นห่วง”

“โอ๊ะ ไม่ต้องแล้ว เมื่อกี้นั่นฉันได้รับสายของผู้จัดการฉัน จะให้ไปเป็นแขกรับเชิญในรายการหนึ่งอย่างกะทันหัน ฉัน อาจจะต้องรีบกลับไปทันที แกอยู่ที่โน่นไม่มีเรื่องก็ดีแล้ว คราวหลังพวกเราค่อยนัดกันอีกล่ะ!”

จึ่งหนิง จนใจ ได้แค่รับปาก จากนั้นวางสายลง ลู่จิ้งเซิน รอยยิ้มเต็มใบหน้า

“เพื่อนสนิทของคุณมีธุระต้องไปก่อนหรือ?”

จึ่งหนิง จ้องมองเขาอย่างสงสัย “ประธานลู่ น่าจะไม่ใช่ ฝีมือของคุณนะ!”

ผู้ชายส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก “เพราะว่าจะได้เดินซ้อปปิ้ง กับคุณสักครั้ง เพราะฉะนั้นจึงทุ่มสุดแรงใช้ทุกวิถีทางที่จะ ทำให้เพื่อนสนิทของเธอไปหรือ? อย่าว่า ผมไม่ได้ไร้สาระ ขนาดนั้น แล้วก็ไม่รู้จักเพื่อนสนิทของคุณด้วยเช่นกันล่ะ!”
จึ่งหนิง คิดใคร่ครวญคิดแล้วคิดอีก ดูเหมือนก็เป็นเช่นนั้น

เอาล่ะ! นั่นก็ถือว่าเขาหนีพ้นความสงสัยเป็นเวลาชั่วคราว ลู่วิ่งเซ็น เห็นเธอสีหน้าอ่อนโยนลง นี่จึงยิ้มตาหยีพูดว่า “อย่างนั้น คุณนายลู่ ตอนนี้ผมได้รับเกียรติที่จะเชิญคุณไป เดินช้อปปิ้งด้วยกันได้ไหม?”

คำพูดพูดถึงขนาดนี้แล้ว จะมีหน้าปฏิเสธได้ยังไงหรือ?

จึงหนิงหัวเราะแบบแกล้งๆจนมุมปากขยับแล้วขยับอีก “คุณอยากจะซื้ออะไรล่ะ?”

“อืม.ช่วยผมเลือกชุดสักสองชุดเถอะ!”

จึงหนิง ผ่านมาแล้วครึ่งชีวิต เคยมีความรักครั้งหนึ่ง แต่ก็ ยังไม่เคยซื้อเสื้อผ้าเป็นเพื่อนกับผู้ชายมาก่อน

มู่ยั่นเจ๋อ ล้วนไม่เคยมีเกียรติเช่นนี้

แต่พูดได้ว่า ลู่วิ่งเซ็น เป็นไม้แขวนเสื้อเคลื่อนที่อันหนึ่ง

จริงๆ

ไหล่กว้างเอวแคบ รูปร่างเรียวยาว สัดส่วนของร่างกายยัง ดูดีเป็นพิเศษ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือหน้าตาหล่อเหล่า!

ไม่เห็นเหรอว่าสาวน้อยในร้านเสื้อผ้านั้นแต่ละคนล้วน หลงใหลจนปิดหน้าอกหน้าแดงระเรื่อไปหมด ลักษณะเหมือนอย่างที่สาวน้อยพบรักหลงใหลจนวิญญาณกลับตาลปัตร

โอ้พระเจ้า! นี่คือเทวดาพี่ชายน้อยที่มาจากไหน! หล่อมาก เหลือเกิน! แม่เจ้า ฉันจะแต่งงานกับเขา!

จึงหนิง นั่งอยู่ที่นั่นจนพูดไม่ออก ลู่จิ่งเซิน เปลี่ยนชุดออก มาทุกครั้ง เธอก็พยักหน้าหนึ่งที่

อึม ชุดนี้ใช้ได้ ชุดนี้ก็ใช้ได้เช่นกัน ชุดนี้ก็ดีด้วย

หลังจากดูไปมากมายแล้ว เธอพบเห็นว่า ก็ไม่มีเสื้อผ้าที่ ลู่ จึงเซิน สวมใส่ไม่ได้

ไม่ว่าเป็นสไตล์อะไร รูปแบบอะไรมาถึงข้างกายเขาย่อมมี กลิ่นอายที่พูดไม่ออกอย่างหนึ่งอยู่ดี หล่อสง่างามบ้าง ความ รู้สึกลุ่มลึกบุคลิกสง่าสูงศักดิ์บ้าง

สรุปได้ว่า ถ้าหากว่าผู้ชายคนนี้กลายเป็นนายแบบหรือ เข้าวงการบันเทิง เพียงเกรงว่าดาราหนุ่มหล่อยอดนิยมใน ตอนนี้จะไม่มีข่าวอะไรเหล่านั้นเลย

เธออดไม่ได้ถอนหายใจหนึ่งที่

คุณพูดว่าคนนี้มีเงินก็มีเงินพอแล้ว! ทำไมยังต้องหน้าตา หล่อขนาดนี้อีกล่ะ?

หน้าตาหล่อขนาดนี้ก็ยังไม่เอาไปขายอีก แทบจะเป็นการ ทำลายสิ่งของให้เสียหายตามอำเภอใจจริงๆ!
นักประชาสัมพันธ์ ผู้จัดการ จิ่งหนิง เริ่มจินตนาการของ เธออีกแล้ว สร้างภาพอยู่ในสมองว่าหาก ลู่จิ่งเซิน เป็นศิลปิน ที่อยู่ในมือของเธอ จะต้องกลายเป็นต้นทองต้นนั้นที่มีค่าที่ สุดอยู่ในมือของเธออย่างแน่นอน!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ