วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 162 ไปท่องเที่ยว



ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นจึงเลิกคิ้วขึ้น แสดงความ ไม่พอใจเล็กน้อย

“พูดแบบนี้ คุณหมายความว่าจะไม่ได้อยู่บ้าน เป็นเวลานาน?”

จิ่งหนิงชะงักไป ถึงคิดได้ว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น

เธอเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้ลู่จิ่งเซ็น

“แค่ไม่กี่เดือน อดทนหน่อย เวลาผ่านไปเร็ว”

ลู่จิ่งเซ็นแค่นยิ้ม

“เหอะ แล้วก่อนหน้านี้ที่คุณตกลงกับผมแล้วว่า จะกลับเมืองหลวงด้วยกันล่ะ?”

จิ่งหน่ง: “……”

เธอพูดได้ไหมว่า เธอไม่ระวังลืมไปแล้วไหม?

เมื่อเห็นสีหน้าของชายหนุ่มมืดครึ้มลงอย่าง รวดเร็ว เธอจึงรับเอยอย่างจริงจัง: “ก่อนจะเข้าทีมยัง มีเวลาอีกหลายวัน ฉันไปกับคุณตอนนี้เลยก็ได้”

เพื่อยืนยันการตัดสินใจของตนเอง เธอยังรีบ เอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูตั๋วเครื่องบิน

“ ตอนนี้จองตั๋วตอนเช้าพรุ่งนี้ น่าจะยังทัน”

ลู่จึงเชินยิ้มเย็น ไม่สนใจเธอ หมุนตัวเดินขึ้น ชั้นบนไปจังหน่ง: เอ่อ..

เติมคิดว่าผู้ชายคนนี้โกรธ คิดไม่ถึงว่า ไม่กี่ นาทีต่อมา เขาก็ลงมาจากชั้นบนทั้งยังโยนข้อมูล ท่องเที่ยวให้เธอ

“เลือกมาทีหนึ่ง ออกเดินทางพรุ่งนี้”

จังหนิง: “222”

สีหน้าลู่วิ่งเซ็นไม่สบายใจเล็กน้อย

“กว่าผมจะมีวันหยุดพักผ่อนหลายวัน ไม่อยาก ออกไปเที่ยว?”

จิ่งหนิงดวงตาวาววับขึ้นมาในทันที

“อยาก ”

เธอรีบหอบเอาข้อมูลพวกนั้นมา หาสถานที่ที่

อยากไป

หาไปถามไป

ลู่วิ่งเซ็นไม่ได้ขออะไร เขาไม่ใช่เพราะผู้หญิง ตัวเล็กตรงหน้าเข้าร่วมทีมละคร แต่เพราะงานของ เขา ต้องไปหาเธอทุกวันไม่ได้แน่นอน

เพราะแบบนี้จึงจําต้องแยกจากกันช่วงหนึ่ง

เพราะทําใจไม่ได้ ดังนั้นจึงอยากอยู่กับเธอ ก่อนสักช่วงหนึ่ง

จิ่งหนีงรวดเร็วมาก อย่างไรก็ตามหลายปีมานี้ เธอเคยไปมาแล้วหลายที่

ไม่นานก็หาสถานที่เหมาะกับการไปเที่ยวและ คนไม่เยอะมากเจอ ยี่นมาตรงหน้าเขา
“นี่เป็นที่เมื่อก่อนฉันอยากไปเที่ยว เลือกมา แล้วสองสามที่ ไม่เลยเลย เหมาะกับการไปเที่ยวช่วง นี้ คุณดูสิ เลือกมาที่หนึ่ง”

ลู่วิ่งเซ็นค่อยๆ เลื่อนดูหน้าจอ ดูแล้วล้วนเป็นที่ ที่ทิวทัศน์สวยงาม เหมาะกับคู่รักไปเที่ยวผ่อนคลาย จิตใจ ไตร่ตรองแล้วจึงเลือกมาที่หนึ่ง

“ที่นี่แล้วกัน! มีภูเขา มีน้ำ อยู่ใกล้ทะเล ดูแล้ว ไม่เลวเลย

จิ่งหนิงโน้มตัวไปดู ดวงตาหรี่ลงพร้อมยิ้มใน ทันที “ฉันก็ชอบที่นี่ ถ้าอย่างนั้นตามนั้นเลย ที่นี่ แหละ”

“อืม” ลู่จิ่งเซินพยักหน้าเห็นด้วยอย่างมาก “คืน นี้ผมจะวางแผนเวลาอย่างละเอียด ถึงตอนนั้นจะ บอกคุณ”

แผนสุดทางก็ตัดสินใจไปแบบนี้ หลังทาน อาหารแล้ว จึงหนิงกลับห้องพร้อมกับแท็บเล็ต หา ข้อมูลท่องเที่ยวต่อ

คืนนั้น ลู่วิ่งเซินก็วางแผนเวลาเรียบร้อยแล้ว ไปเที่ยวสามวันครึ่ง พรุ่งนี้เช้าออกเดินทาง

จิ้งหน่งชอบใจเป็นอย่างมากในทันที รีบตอบ ตกลง เมื่อตกลงแล้วก็เริ่มจัดเตรียมของสําหรับไป เที่ยว

พวกเขาเลือกชายฝั่งทะเลในเมืองเล็กๆ ของ ประเทศเพื่อนบ้าน

แต่เมืองนั้นมีชื่อเสียงมาก เพราะทัศนียภาพและธรรมชาติสวยงาม อากาศสดชื่น คนไปเที่ยวที

นั่นกันจํานวนมาก

ที่สำคัญคือตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงที่ เหมาะกับการไปเที่ยวมาก

แม้ว่าเมืองนั้นอุณหภูมิตอนกลางวันและตอน กลางคืนต่างกันมาก แต่สภาพอากาศถือว่าเป็นมิตร กับคน

จิ่งหนิงเตรียมของที่ทั้งสองคนอาจจะใช้ไป เยอะมาก

เมื่อเตรียมเสร็จแล้ว เช้าวันต่อมา ลู่จิ่งเซ็นไป บริษัทเพื่อจัดการธุระบางอย่าง จากนั้นก็ตรงกลับ จากบริษัทมารับเธอ แล้วไปสนามบิน

ไปเที่ยวกับคนที่เป็นผู้ชายเป็นครั้งแรก เธอยัง มีความสุขมาก เมื่อถึงสนามบินแล้วถึงพบว่าเป็น เครื่องส่วนตัวของลู่จึงเป็น

“เพราะเวลากระชั้นชิด จองตั๋วไม่ทัน นั่งแบบนี้ จะเร็วมาก

ทําไมถึงต้องนั่งเครื่องส่วนตัว ลู่วิ่งเซ็นอธิบาย ไปแบบนั้น

จิ้งหนังพยักหน้า อย่างไม่สงสัยอะไร

เมื่อขึ้นเครื่องแล้วรู้ว่าต้องใช้เวลาบินนานสาม ชั่วโมง จึงหลับตาลงเตรียมจะพักผ่อนสักครู่

ลู่วิ่งเซินอ่านแผนการลงทุนอยู่ข้างๆ เขายุ่ง มาก แม้จะลาพัก แต่เพราะตำแหน่งสูง มีหลายเรื่อง ที่คุณอยากพักใช่ว่าจะพักได้
แม้ว่าคนไม่ได้อยู่ที่บริษัท แต่ก็บางเรื่องที่ควร จัดการก็ยังคงต้องจัดการให้ดี

คิดถึงตรงนี้ จึงหนิงจึงอดสงสารเขาไม่ได้ เพื่อ ไม่รบกวนการนอนของเธอ หน้าต่างในห้องโดยสาร จึงถูกดึงลงทั้งหมด มีเพียงไฟด้านหน้าเท่านั้นที่เปิด อยู่

ลู่จิ่งเซ็นพิงเบาะ สีหน้าเคร่งขรึมพลิกอ่าน เอกสาร คิ้วขมวดเป็นพักๆ บางครั้งก็เซ็นชื่อลงไป บางครั้งก็ขีดเส้นวงไว้

จิ่งหนิงมองจนเคลิ้ม รู้สึกว่าลู่จึ่งเป็นแบบนี้นั้น หล่อจริงๆ มิน่าผู้หญิงพวกนั้นเห็นเขาแล้วก็มาตอม ราวกับผึ้ง เพราะเขามีเสน่ห์มากมายจริงๆ

แต่เธอ คนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้ดีเลิศ เก่งกาจอะไร ได้ยืนอยู่ข้างๆ เขา ได้รับความรักจาก เขา?

จิ่งหนิงคิดถึงตรงนี้ ยิ่งตั้งใจจะแน่วแน่และ พยายามมากขึ้น มุ่งมั่นที่จะยืนเคียงข้างเขาได้อย่าง เหมาะสมในสักวัน ไม่ให้เขาขายหน้าเด็ดขาด

ในห้องโดยสารเงียบมาก ไม่มีใครพูด เธอ นอนบนเบาะที่อ่อนนุ่ม ตะแคงตัวเล็กน้อย วางมือไว้ บนเอวของเขาแล้วค่อยๆ โอบไว้จากนั้นก็หลับตาลง

ลู่จิ่งเซินซะงักไปก่อนจะก้มมองไปที่เอาของ ตนเอง

หันไปมองเห็นหญิงสาวตะแคงตัว หลับตา ท่าทางเหมือนหลับไปแล้ว มือข้างหนึ่งกอดเอวเขาไว้ การกระทําพิเศษนั้นท่าเอาใจอ่อนยวบลงทันที
เขากุมมือเธอไว้ โน้มตัวลงจูบไปหน้าเธอ เอ่ย เสียงเบา: “นอนเถอะ”

จิ่งหนิงจึงนอนหลับอย่างสงบที่สุด

สามชั่วโมงผ่านไป

เครื่องบินลงจอดที่ปลายทาง จิ่งหนิงถูกลู่วิ่ง เซ็นปลุก จากนั้นจึงขยี้ตาตามเขาลงเครื่องไป

ลู่วิ่งเซินพาเธอมาครั้งนี้ คนรู้น้อยมาก ไม่ได้ พาใครมาด้วยแต่เพื่อความปลอดภัยจึงยังให้โป หนานตามมาด้วย

หลังจากลงเครื่องแล้ว รถที่มารับพวกเขามา

ถึงก่อนแล้ว

ชายหนุ่มพาจิ้งหนังขึ้นรถที่มารับพวกเขา จาก นั้นจึงไปที่บ้านสวนที่จิ่ง หนึ่งเลือกด้วยตัวเองก่อน หน้านี้

เมืองเล็กๆ แห่งนี้มีชื่อเรียกว่าเคอหม่า เป็น ภาษาของพวกเขาที่หมายความว่าแดนสวรรค์นั่นเอง

ทั้งสองคนนั่งอยู่ในรถ มองไปนอกหน้าต่าง ด้วยกัน เห็นภูเขาและทิวทัศน์ที่สวยงาม บ้านหลังคา เตี้ยสีแดงเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นอยู่ประปราย

สองข้างทางปลูกต้นสาลี่ขนาดใหญ่ไว้เป็น แถว ดอกไม้ส่งกลิ่นหอมให้ผู้คน มีคนปั่นจักรยาน ผ่านใต้ต้นไม้พร้อมเสียงหัวเราะน่าฟัง ดูผ่อนคลาย สบายใจ

จิ่งหนิงถูกดึงดูดความสนใจไปอย่างรวดเร็ว เกาะหน้าต่างมองออกไปข้างนอก
ลู่วิ่งเป็นมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย กุมมือเธอ

ครึ่งชั่วโมงต่อมาก็ถึงจุดหมาย สถานที่ปลายทางอยู่ใกล้ทะเลมาก แม้สวนจะ

ไม่ใหญ่มากและไม่หรูหรา แต่มองไปสิ่งแวดล้อม

สวยสงบเงียบ ตกแต่ง ตระการตา เหมาะกับการหยุด พักผ่อนมาก ทั้งคู่ออกมาอย่างเร่งรีบ และอยู่ได้ไม่นาน ดัง นั้นจึงไม่ได้พากระเป๋าเดินทางมาเยอะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ