บทที่ 109 ผักชั่วคราวสองวัน
หัวเหยาสายหน้า
“ฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องแจ้งตำรวจนะ”
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ราวกับกำลัง พยายามสงบจิตสงบใจของตนเอง
“หนิงหนิง ช่วยหยิบเสื้อผ้ามาให้ฉัน หน่อย ได้ไหม?
จังหนิงมองเธออย่างลึกซึ้ง
เธอรู้ว่า อาศัยสถานะตัวตนของหัวเหยา แล้ว คนทั่วไปไม่กล้าทำเช่นนี้กับเธอแน่ อีก อย่างข้างกายเธอก็มีบอดี้การ์ดคอยติดตามอยู่ ตลอด ไม่มีคนเลวที่ไหนสามารถเข้าถึงตัวเธอ ได้
ท่าทางในวันนี้ของเธอ เกรงว่า ….คงมี
เรื่องที่ปิดบังอยู่แน่ๆ
เธอไม่ได้พูดอะไรอีก กลับตัวออกไปหา เสื้อผ้าของหัวเหยา หลังจากหยิบเข้ามาแล้วก็ พยุงเธอไปล้างตัวในห้องน้ำอย่างง่ายๆ แล้ว จึงพาเธอออกไปด้วยกัน
คฤหาสน์บ้านลู่
ป้าหลิวเห็นเธอออกไป แล้วกลับมา พร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้เธอเคย เห็นในโทรทัศน์มาก่อนแล้ว ก็ดีใจขึ้นมาทันที
“ป้าหลิว นี่หัวเหยาเพื่อนฉันค่ะ กี่วันนี้ อาจจะต้องอยู่ที่นี่ รบกวนป้าช่วยทําอาหา รอ่อนๆ อดึกมาให้ฉันด้วยนะคะ ”
“ได้ค่ะ”
จิ้งหน่งประคองหัวเหยาเข้าไปในห้อง “หนิงหนิง ฉันอยากอาบนํ้า
“ได้”
ห้องนอนแขกไม่เคยมีใครใช้มาก่อน ด้านในมีของใช้ประจําวันอย่างเพียบพร้อม ครบครัน จิ้งหน่งช่วยเตรียมน้ำให้เธอ ให้เธอขจัด สิ่งสกปรกออกไปให้หมด แล้วก็ออกไปวานป้า หลิวช่วยตามหมอมาให้
ตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์บ้านลู่ ใน ตระกูลก็มีหมอผู้หญิงเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับ สถานการณ์ฉุกเฉิน แม้จะใกล้ปีใหม่ แต่ เนื่องจากอีกฝ่ายก็เป็นคนเมืองจิ้น และที่พัก อยู่ไม่ไกล จึงมาได้อย่างสะดวก
หลังจากรอหัวเหยาอาบน้ำเสร็จ จิ้งหนัง จึงให้เธอตรวจหัวเหยาดูสักหน่อย
“หมอเป็นคนของฉัน สบายใจได้! ไม่ แพร่งพรายออกไปหรอก”
เผชิญกับสายตาที่หวาดระแวงของหัว เหยา จิ้งหนิงจึงอธิบาย น
หัวเหยาจึงคลายกังวลลงได้ หมอให้เธอ ถอดเสื้อผ้าออก
งหนังทนดูไม่ได้ กลับตัวออกไปแล้ว หลังจากประมาณสิบกว่านาที หมอก็ ออกมา บอกเธอ
จิ่งหนีงถามไปนิดหน่อย ก็รู้แล้วว่านอก จากรอยบาดแผลที่อยู่บนร่างกาย ยังมี บาดแผลฉีกขาดที่ค่อนข้างเป็นความลับด้วย ในใจพอจะเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้ ถามอะไรมาก ให้เธอสั่งยาแล้วก็กลับได้
เธอเข้าไปในห้องนอนแขกอีกครั้ง เห็น หัวเหยาใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว กำลังพิงหัว เตียงเหม่อลอยไปนอกหน้าต่าง
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ตอนนี้บอกฉันได้ หรือยัง?”
“หนิงหนิง ฉันไม่อยากพูด
สีหน้าของเธอค่อนข้างขีดเผือด สายตา ไม่มีจุดโฟกัส เสียงที่ออกจากปากก็เบา ทั้ง ร่างกายดูแล้วอ่อนแอเปราะบางเหลือเกิน
จิ่งหนิงขมวดคิ้วแน่น
“ฉันหิวจัง มีอะไรให้กินไหม?” ราวกับรู้สกได้ถึงความโกรธของเธอ หัว เหยาจึงหันมา ย้มอย่างอ่อนล้าให้เธอ
จิ่งหนึ่งที่ในใจกำลังขุ่นเคือง พูดขึ้น “ยังรู้จักหิว งั้นคงไม่ตายแล้วแหละ
แม้จะปากแข็ง แต่สุดท้ายก็ยังลงไปยก อาหารมื้อดึก ป้าหลิวทำเสร็จแล้วขึ้นมาให้ ด้วยตนเอง
หัวเหยากินข้าวเสร็จ ก็เพลียมากแล้ว
จิ่งหนึงไม่อยากรบกวนเธอ อีกอย่างใน เมื่อเธอไม่อยากพูด ก็ต้องมีเหตุผลที่เธอไม่ อยากบอกแน่ๆ
ดังนั้นแม้ในใจจะยังคงโมโหอยู่บ้าง แต่ สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ให้เธอพักผ่อน
วันที่สอง
วันที่สามสิบของเดือนสิบสอง ลู่จิ่งเซ็น โทรหาเธอ บอกว่าจะกลับมาถึงช่วงบ่าย พา เธอไปฉลองปีใหม่ด้วยกัน จิ่งหนึ่งค่อนข้าง คาดไม่ถึง ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าจะกลับเมือง หลวง เธอยังคิดว่าเขาจะกลับไปฉลองปีใหม่ที่ เมืองหลวงเสียอีก
หลายปีมานี้เธอระเหเร่ร่อนด้วยชีวิตที่ ยากล่ามากมาโดยตลอด แม้ภายหลังจะกลับ มาในประเทศแล้ว ไม่มีคนในครอบครัวไม่มี เพื่อน ช่วงปีใหม่ยั่นเจ๋อต้องกลับตระกูลมู่ อยู่ เป็นเพื่อนเธอไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นเธอจึงรู้สึก เฉยๆกับการฉลองปีใหม่
มักจะรู้สึกว่า จริงๆอยู่คนเดียวก็ไม่แย่ ตอนนี้คิดๆแล้ว คงจะชินแล้วสินะ!
สูงเขินจะกลับมา ป้าหลิวดีใจอยู่แล้ว ตอนเย็นจึงเตรียมอาหารมากขึ้น อย่าง แล้ว ยังเตรียมเหล้าไว้อีกด้วย ถือเป็นมื้ออาหารส่ง ท้ายปีเก่า คึกคักมือหนึ่ง
ฝ่ายชาย งบ้านตอนห้าโมงเย็น
แค่ถึงบ้าน รองเท้าที่เพิ่มมาอีกคู่ตรงทาง เข้า ก็สังเกตเห็นด้วยสายตาที่เฉียบแหลมแล้ว ว่าในบ้านมีแขก อย่างที่คิดเอาไว้ อีกครู่หนึ่ง ก็เห็นหัว เหยากําลังถือแก้ว ลงมาจากบันได
“ประธานลู่ สวัสดีค่ะ! เจอกันอีกแล้วนะ
คะ”
จิ่งเบนขมวดคิ้วแน่น
“เธอมาได้อย่างไร?”
คําถามนี้ถามป้าหลิวที่อยู่ข้างๆ
ป้าหลิวค่อนข้างงงงัน
“คุณผู้ชายคะ คุณหัวเป็นเพื่อนของคุณผู้ หญิง บอกว่าจะพักที่นี่ วคราวสองวันค่ะ”
“ไม่ได้!”
เพิ่งพูดจบ จิ้งหนึ่งก็เดินออกมาจากใน
ห้องนอน
“ทําไมไม่ได้ล่ะ?”
เธอเดินเข้าไปคล้องแขนหัวเหยาเอาไว้ เลิกคิ้ว “เหยาเหยาเป็นเพื่อนสนิทของฉัน จัน ให้เธออยู่ฉลองปีใหม่ที่นี่ แล้วก็ไม่ได้รบกวน คุณ ทําไมถึงไม่ได้ล่ะ?”
สีหน้าของสูงเงินค่อนข้างอึมครีม
จึงหนิงรู้ว่า เพราะเรื่องเมื่อก่อน ผู้ชาย คนนี้จึงไม่ค่อยพอใจหัวเหยา
แต่ตอนนี้เรื่องที่เกิดขึ้นกับหัวเหยา เธอก็
ไม่สนใจไม่ได้
ครั้นแล้วก็ก้าวยาวๆ ไปถึงข้างกายของ งเงิน ดึงๆ ชายเสื้อของเขา พูดเบาๆอย่างว่า ง่าย: “ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นเพื่อนของฉัน ไว้หน้า ฉันหน่อยสิคะ”
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอพูดกับเขาด้วย เสียงนุ่มนวลอย่าง ?
อีกทั้งยังมีน้ำเสียงที่ออดอ้อนนิดหน่อย มาด้วย?
ผู้ชายคนนั้นไม่สงบนมาทันที มองเธอ ในที่สุด ก็พูดด้วยสีหน้าบึ้งตึงเสียงเย็นชา “แค่สองวันนะ” หัวเหยาถากถางข้นมา “คุณสบายใจได้ ค่ะ หลังจากสองวันนี้ต่อให้คุณให้ฉันอยู่ต่อ ฉันก็ไม่ยินยอมที่จะอยู่ที่นี่หรอกค่ะ!
พูดจบ ก็ปคตัวเดินกลับห้องด้วยท่าทาง หยิ่งยโสทันที
สีหน้าของจึงเชินยิ่งอึมครึม
จิ่งหนึ่งยิ้มอย่างทําตัวไม่ถูก ถือโอกาส เปลี่ยนเรื่อง
“อยู่บนเครื่องบินมาทั้งวัน เหนื่อยแย่เลย สินะคะ? นั่งๆ รอก่อนนะ ฉันจะไปเทน้ำมาให้ ผ่านการพักผ่อนมาหนึ่งคืน วันนี้หัวเหยามีชีวิต ชีวาขึ้นเยอะแล้ว บาดแผลแทบจะทั้งหมดที่อยู่ บนร่างกาย เพียงสวมเสื้อไหมพรมคอเต่า ก็ มองไม่ออกแล้ว ดังนั้นจาก คนนอกเห็น นอกจากหน้าปัดขาวเล็กน้อยของเธอ อย่าง อื่นก็ไม่ได้แตกต่างจากปกติ
หัวเหยายังคงไม่ยอมบอกความจริงกับ จังหนิง จึงหนิงเองก็หมดหนทาง เพียงแค่ตอนบ่ายประธานของหัวเข็ง หัว จึงเจ๋อโทรมาหาเธอ จึงหนังเดินผ่านหน้า ประตู จึงได้ยินเสียงทะเลาะจากข้างในแว่วๆ โดยบังเอิญ
นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่หัวเหยาไม่ยอม กลับบ้านก็ได้
ในใจเป็นกังวลอีกครั้ง แต่สุดท้ายเธอก็ ทําได้เพียงปล่อยเรื่องนี้ไป
อย่างไรก็ตามวันนี้เป็นคืนวันส่งท้ายปี ใน เมืองจุดพลุไม่ได้ แต่นอกเมืองสามารถทําได้
หลังจากกินข้าวเสร็จ จึงหนังอยากจะ ออกไปย่อยอาหาร ลู่วิ่งเซ็นจึงพาเธอไปนอก เมืองไปดูดอกไม้ไฟ หัวเหยาขี้เกียจจะขยับตัว ไม่ยอมไปด้วย เอาแต่นอนอยู่ในห้องอย่าง เดียว
ทั้งสองคนขับรถมา ตอน ถึงจุดหมาย คนก็เยอะมากแล้ว
ลู่จิ่งเขินจองภัตตาคารลอยฟ้าที่ตึกสูง เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว อยู่บนนี้ไม่เพียงแต่ สามารถมองเห็นดอกไม้ไฟได้ ยังมองเห็นรถ ที่วงกันอย่างขวักไขวในคืนวันสิ้นปีได้อีกด้วย เป็นวิวที่พิเศษอีกอย่างหนึ่ง
“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง เครื่องดื่มของ พวกคุณครับ”
บริกรคนหนึ่งยกถาดเดินเข้ามา จิ่งหนึ่ งกำลังมองนอกหน้าต่างอยู่ จึงไม่ได้ใส่ใจ
ตอนที่ยื่นมือไปรับเครื่องดื่ม จู่ๆปลายนิ้ว
ก็สัมผัสเข้ากับสั่งของบางอย่าง
เธอตกตะลึงเล็กน้อย แค่หันกลับมา ก็ สมเข้ากับสายตาหล็กซึ้งเป็นพิเศษของบริกร
สีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
โชคดีที่ ตอนนี้ลู่จึ่งเป็นกำลังคุย โทรศัพท์อยู่ ไม่ได้สนใจด้านนี้
เธอรีบดึงมือกลับมา จนกระทั่งบริกรถอย ออกไปอย่างนอบน้อม ยังคงรู้สึกถึงปลายนิ้วที่ สั่นไหวของตนเองอยู่ว่างๆ คุณนั่งก่อน ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน
นะ”
จิ้งหนังพูดกับลู่จิ่งเขิน แล้วก็ลุกขึ้น
จนกระทั่งเดินมาถึงภายในห้องน้ำ ปิด ประตู เธอถึงได้เปิดเศษกระดาษที่อยู่ในมือ ออกด
เห็นเพียงแค่ตัวอักษรหวัดๆไม่กี่ตัว “Seven ไม่เจอกันนานเลยนะ!”
จิ่งหนึ่งสีหน้าเปลี่ยนไป
เขางั้นเหรอ?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ