บทที่714น่าสงสารเป็นอย่างมาก
เด็กน้อยกลุ่มนี้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้หลายปี
แล้ว จะเคยกินอาหารทานเล่นได้ยังไง? เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ จู่ๆก็เผยแววตามที่เป็น ประกายออกมา
“ดีสิ ดีสิ! ”
จิ่งหนิงยิ้ม ในใจคิดว่า แม้ว่าเด็กกลุ่มนี้เฝ้าตาม ตนไม่ห่างจะดูแปลกประหลาด แต่อย่างน้อยก็ยังคงดู น่ารัก
การที่ลงมือทําขนมให้พวกเขาทานด้วยตนเอง ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร
เธอเองก็เป็นแม่คน แน่นอนว่ามีความรู้สึก สงสารเด็กน้อยเหล่านี้อย่างเป็นธรรมชาติ แน่นอนว่า คงไม่ได้เตรียมใจรับมือ
เมื่อเข้ามายังห้องครัว เห็นเพียงห้องครัวที่มืด สนิท
ดีที่ด้านซ้ายมีหน้าต่างขนาดไม่เล็กมาก เมื่อ เปิดหน้าต่างออกมา แสงแดดของด้านนอกก็ส่องเข้า มา จึงทำให้ห้องครัวที่เดิมทีมืดสลัวดูสว่างขึ้นเป็น อย่างมาก
ในชนบทที่ไม่มีแม้แต่ไฟฟ้า แน่นอนว่าก็คงจะ ไม่มีเตาหุงต้ม
จิ่งหนิงหันศีรษะเหลือบมองที่น้อยที่อยู่ข้างหลัง ตนครู่หนึ่ง ถามขึ้นว่า : “พวกคุณมีใครจุดไฟเป็น บ้าง?
ทุกคนต่างยกมือขึ้นอย่างกระตือรือร้น พลาง ตะโกนส่งเสียงเซ็งแซ่ขึ้นว่า”ผมจุดเป็น!
“ผมจุดเป็น หนูจุดเป็น!
“ผมก็จุดเป็น”
จิ่งหนิงเหลือบมองครู่หนึ่ง และเลือกคนที่อายุ มากที่สุดโดยมุ่งเป้าไปที่เขา“งั้นนายมาจุดก็แล้วกัน”
เด็กน้อยเมื่อได้รับภารกิจก็ดีอกดีใจเป็นการ ใหญ่
เดินมายังด้านหลังของเตาไฟด้วยความ กระตือรือร้น ส่วนเด็กที่เหลือก็จ้องมองเธอตาปริบๆ
จิ่งหนิงกลัวว่าพวกเขาจะมาก่อกวน ชี้ไปที่
เก้าอี้เตี้ย
“พวกคุณก็อย่ามามุงดูกันอยู่ตรงนี้เลย ไปนั่ง รอตรงนั้นเถอะ ไม่นานก็เสร็จแล้ว”
เด็กน้อยเหล่านั้นจึงยอมพยักหน้า เดินไปยัง เก้าอี้เตี้ยที่อยู่ด้านข้างและนั่งลงอย่างเชื่อฟัง
ดีที่จิ่งหนิงเป็นคนมีประสบการณ์ในการเลี้ยง เด็ก ไม่งั้นแล้วล่ะก็เด็กจำนวนมากล้อมหน้าล้อมหลัง เธอเช่นนี้ เธอคงจะรับมือไม่ไหวแน่
ในสถานที่ชนบทแห่งนี้มีข้อจำกัด แน่นอนว่า เธอไม่สามารถแสดงฝีมือการทำอาหารของตนเอง ออกมาได้อย่างเต็มที่
ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่บ้าน เวลาที่เธอว่างไม่มี อะไรทำก็เคยเรียนทำข้าวตังกับป้าเฉินอยู่ครั้งหนึ่ง ซึ่ง ก็นับว่าประสบความสำเร็จ วันนี้เธอวางแผนที่จะทำ อีกครั้งหนึ่ง
เริ่มจากตักข้าวที่อยู่ในโถข้าวขึ้นมาก่อน หลัง จากที่ล้างข้าวเรียบร้อยแล้ว ก็นิ่งจนสุก จากนั้นค่อย นำกลับมาวางในถ้วยแล้วแผ่เป็นแผนกลมๆ แล้วค่อย นำไปจี่ในกระทะด้วยไฟอ่อน
แม้ว่าจะเป็นเพียงอาหารเรียบๆ แต่ว่าเมื่อใน
ลำดับขั้นตอนสุดท้ายแล้ว เด็กพวกนั้นก็อดไม่ได้ที่จะ ตะกะจนน้ำลายไหล แต่ละคนจ้องมองไปในหม้อตาไม่กะพริบ ลูกตา
แทบจะถลนออกมา
จิ่งหนิงมองดูด้วยความขำขัน ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกเอ็นดูด้วยความปวดใจ เด็กเหล่านี้ น่าสงสารจริงๆ
แม้ว่าจะไม่รู้ว่าปกติพวกเขาใช้ชีวิตอย่างไร แต่ ในสภาพหมู่บ้านเช่นนี้ที่ขาดแคลนทรัพยากร ความ สุขของเด็กๆก็มักจะขาดแคลนเช่นเดียวกัน
ไม่นานจิ่งหนิงก็ทำข้าวตังเสร็จเรียบร้อย ดูดีครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือรสชาติ เธอแบ่งออกเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นยิ้มและถาม พวกเขาว่า: “ใครอยากกินบ้าง? อยากกินก็ยกมือ ขึ้น”
เด็กกลุ่มหนึ่งรีบตะโกนร้องแล้วยกมือขึ้นทันที บ้างก็ตื่นเต้นจนถึงกับกระโดดออกมาจากเก้าอี้ จิ่งหนิงยิ้มพลางคีบให้กับพวกเขาทีละชิ้นๆ ขณะที่ส่งให้พวกเขาก็กำชับขึ้นว่า “ระวังร้อนนะ เป่า ก่อนนะค่อยกิน
ในที่สุดเด็กๆก็ได้ชิมอาหารรสเลิศที่ตนรอคอย แต่ละคนกินอย่างมีความสุขจนต้องหรี่ตาขึ้น
และรู้สึกดีกีบจิ่งหนิงมากขึ้นเรื่อยๆ
จิ่งหนิงมองดูพวกเขากินจนหมด และตนเองก็ ชิมไปหนึ่งชิ้น จากนั้นเมื่อแบ่งส่วนที่เหลือเรียบร้อย แล้ว จึงเดินออกจากห้องครัว
ด้านนอกเป็นเวลาสิบเอ็ดโมงแล้ว
เธอยืนอยู่ที่หน้าประตูพักหนึ่ง เมื่อหันกลับไปก็ เห็นเด็กน้อยเหล่านั้นตามออกมา อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว ขึ้น
“ข้าวตังไม่มีแล้วนะ แม้พวกคุณจะตามฉันมา ฉันก็ไม่ทําแล้วล่ะ”
คิดไม่ถึงเลยว่า เด็กกลุ่มนั้นจะส่ายหัวแล้วพูด ขึ้นว่า “พวกเราไม่ได้ทำเพื่อข้าวตัง”
จิ่งหนิงรู้สึกแปลกใจแล้วพวกคุณทำเพื่ออะไร
ล่ะ ถึงตามฉันมา? ”
คนที่ก่อนหน้านี้ถูกเลือกให้จุดไฟ ซึ่งเป็นเด็กที่ อายุมากหน่อยพูดขึ้นว่า “เป็นเพราะป้าอะฮัวให้พวก เรามาดูแลคุณ กลัวว่าคุณจะหนีไปคนเดียว”
จิ่งหนิงตะลึงงัน
และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ในใจถึงได้มีความ รู้สึกแปลกๆ
แต่ว่า เธอก็คิดแค่ว่าป้าอะฮัวคงหวังดีก็แค่นั้น จึงยิ้มแล้วพูดว่า: “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง วางใจเถอะ ฉันไม่หนีหายไปไหนหรอก”
ชะงักสักพักก็พูดขึ้นว่า: “ถ้าอย่างนั้นเอาแบบ นี้ไหม พวกคุณสามารถติดตามฉันได้ แต่ต้องพาฉัน ไปเดินรอบๆหมู่บ้าน ได้ไหม?
เด็กพวกนี้กินอาหารของเธอไปแล้ว และยัง รู้สึกว่าพี่สาวคนสวยคนนี้ทั้งอ่อนโยนทั้งว่าง่าย ซึ่ง เดิมทีก็รู้สึกดีกับเธออยู่แล้ว
เมื่อคิดถึงคำพูดของป้าอะฮัวก่อนที่จะออกจาก บ้าน หล่อนพูดเพียงว่าให้พวกเขาดูแลเธอ ไม่ได้บอก
ว่าไม่อนุญาตให้เธอออกไปข้างนอก ดังนั้นทุกคนก็ต่างรับปาก
เมื่อจิ่งหนิงเห็นเช่นนั้น ก็พาเด็กเดินเล่นรอบๆ หมู่บ้าน
หมู่บ้านมีขนาดไม่เล็กเลย หากอยู่ในสถานที่ แห่งอื่นก็คงจะมีขนาดพอๆกับตำบลหนึ่ง
แต่อาจเป็นเพราะอยู่ในชนบท บ้านแต่ละหลัง เรียงไปตามยาว ช่วงระยะห่างของบ้านแต่ละหลังห่าง กันค่อนข้างมาก เงียบสงบและเปล่าเปลี่ยว ดังนั้น แม้ว่าพื้นที่จะขนาดใหญ่แต่ก็กลับไม่ทำให้คนรู้สึกว่า ครึกครื้น
เมื่อมีเด็กๆช่วยนำทางให้จิ่งหนิง ไม่นานก็เดิน จนรอบหมู่บ้าน
เวลาผ่านไปเกือบจะบ่ายสามโมง จึงกลับมาถึง บ้านของป้าอะฮัว
เมื่อกลับมาป้าอะฮัวก็กลับมาจากบนภูเขาและ
ถึงบ้าน
อาจจะเป็นเพราะเมื่อกลับมาแล้วไม่พบเธอ ก็เลยออกไปสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้ จึงรู้ว่าเธอ พาพวกเด็กๆออกไปเดินเล่นรอบหมู่บ้าน ก็เลยไม่ได้ เป็นกังวล
เมื่อเห็นเธอกลับมา ก็ยิ้มอย่างเบิกบานพลาง ถามขึ้นว่า: “เดินเล่นกลับมาแล้วเหรอ? เป็นยังไง บ้าง? หมู่บ้านของพวกเราใหญ่ใช่ไหม”
จิ่งหนิงยิ้มพลางพยักหน้า “ใหญ่มากเลยค่ะ”
หยุดชะงักครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เอ่ยปากถามด้วย ความเป็นห่วงว่า “คุณเพิ่งลงเขามา? เหนื่อยไหมคะ? ให้ฉันช่วยรินน้ำให้ไหม? ”
ป้าอะฮัวโบกมือ ไม่ต้อง ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันริน เอง”
ขณะที่พูด ตนก็เดินไปรินน้ำแล้วเดินออกมานั่ง ที่แท่นหินหน้าประตู ขณะที่ดื่มน้ำก็มองเธอไปด้วย แล้วเอ่ยขึ้นว่า: “คนที่ส่งไปถามข่าวให้คุณที่บ้านของ ลุงสี่ เดี๋ยวอีกสักพักก็คงจะกลับมา สามีของฉันก็จะ กลับมาพร้อมกับพวกเขา เมื่อถึงเวลานั้นคุณก็จะรู้ว่า คนๆนั้นใช่เพื่อนนของคุณไหม”
จิ่งหนิงตะลึงงันพลางเลิกคิ้วขึ้น
ก่อนหน้านี้เห็นป้าอะฮัวอยู่บ้านเพียงคนเดียว เธอก็เลยคิดว่าหล่อนไม่มีสามี
แม้ว่าในใจจะรู้สึกอยากรู้อยากเห็น แต่ด้วย เหตุผลประการที่หนึ่งคือไม่คุ้นเคย ประการที่สองก็ คือวัฒนธรรมประเพณีก็ไม่เหมือนกัน เธอจึงยากที่จะ ถาม
ตอนนี้จึงเพิ่งรู้ว่า เดิมทีหล่อนนั้นก็มีสามีเหมือนกัน
เมื่อคิดถึงจุดนี้ จิ่งหนิงยิ้มแล้วรีบพูดขึ้น
ว่า: “ขอบคุณมากนะคะ” ป้าอะฮัวโบกมือ หลังจากที่ดื่มน้ำเสร็จก็ลุกขึ้น
“คุณไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก ช่วงเวลานี้คุณก็
อยู่ที่นี่อย่างสบายใจเถอะ หากหญิงสาวคนนั้นเป็น เพื่อนของคุณจริงๆ เดี๋ยวหล่อนก็มาหาคุณเอง” จิ่งหนิงเม้มริมฝีปาก ไม่ได้พูดอะไรออกมา แล้ว
เดินตามหล่อนเข้าไป
ฤดูกาลนี้ ฟ้ามืดเร็วมาก
ตอนกลางคืนแสงสว่างของหมู่บ้านไม่ค่อย สะดวกสบายมากนัก ดังนั้นโดยปกติแล้วจึงรับ ประทานอาหารเย็นค่อนข้างเร็ว
บ่ายสี่โมงเย็น ก็เริ่มเตรียมอาหารเย็นแล้ว
อาจจะเป็นเพราะว่าวันนี้สามารถของหล่อน กลับมาป้าอะฮัวจึงจัดเตรียมอาหารเย็นไว้หลากหลาย เป็นพิเศษ
แล้วยังไปที่สระน้ำด้วยตนเอง เพื่อจับปลามาส องตัว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ