บทที่51 โทรศัพท์ที่ห้องทำงาน
จึ่งหนิงลงไปเพื่ออธิบายให้ป้าหลิว อย่างที่คิดไว้เลย ป้าหลิวไม่เชื่อที่เธอพูด
แล้วยังพูดอย่างคลุมเครือ : “ฉันเข้าใจค่ะ คุณนายไม่ ต้องอายหรอก ไม่เป็นไรค่ะความสัมพันธ์ของสามีภรรยาดีก็ เป็นเรื่องดี แบบนี้สิถึงจะมีคุณชายน้อยไวๆ ถึงตอนนั้น คฤหาสน์บ้านลู่ก็จะครึกครื้นมากขึ้น”
สรุปคือ balabalaพูดอยู่นาน ก็ไม่เชื่อจิ่งหนิง นี่เป็นความ เข้าใจผิด
จึงหนึ่งพบว่าอธิบายก็ไม่เข้าใจ จึงได้แต่ปล่อย
ดีที่เธอกับลู่จิงเซินเป็นสามีภรรยาในนามที่ถูกต้องตาม กฎหมาย กอดจูบก็เป็นเรื่องปกติ ถึงแม้จะถูกผู้ใหญ่มองแล้ว อายเล็กน้อย แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
จึงหนิงยอมแพ้กับภาพลักษณ์เย็นชาของตัวเองในสายตา
ป้าหลิว รินนมแก้วหนึ่งแล้วขึ้นไปข้างบน
ตอนที่ผ่านห้องทำงาน กลับได้ยินเสียงคุยออกมา
ฟังเสียงแล้ว เหมือนว่าสู่จิ่งเซินกำลังคุยโทรศัพท์
เติมทีเธอไม่สนใจ กำลังจะเดินผ่านนั่นเอง ทันใดนั้นก็ได้ ยินเสียงทุ้มต่ำอ่อนโยนพูดออกมา
“ที่รัก เป็นเด็กดี เชื่อฟังนะ กินยาเสร็จก็นอนไวๆ โอเค
ไหม?
ตัวเธอแข็งไปทั้งตัว
ฝีเท้ายึดติดอยู่ที่เดิม
“ผ่านช่วงนี้ไปผมก็จะกลับมา”
“คุณเป็นเด็กดีเชื่อฟังนะ ผมกลับมาแล้วค่อยอยู่เป็นเพื่อน คุณโอเคไหม?
“โอเค แน่นอนว่าอานอานเป็นที่รักที่น่ารักที่สุดในโลกนี้”
เสียงในห้องทำงานยังพูดต่อ
ส่วนมากเป็นชายหนุ่มที่พูดจาออดอ้อนเสียงทุ้มอ่อนโยน น้ำเสียงนั้น อ่อนโยนสุดๆอย่างที่เธอไม่เคยได้ยิน
เธอยังจินตนาการได้ว่า มุมปากของชายหนุ่มกำลังยิ้มอยู่ ด้วยท่าทางอบอุ่น
เป็นท่าทางที่อบอุ่นอย่างเห็นได้ชัด แต่เธอกลับเหมือนถูก คนเอาหัวจุ่มน้ำเย็น แม้แต่แผ่นหลังก็รู้สึกเย็นวาบ
เสียงหัวเราะทุ่มๆของลู่จิ่งเซินออกมา ในเสียงหัวเราะเต็ม
ไปด้วยความสุข
“โอเค ผมก็จะคิดถึงคุณ ฝันดีนะ” วางสายไป
ด้านในเงียบสักพัก จากนั้น เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นมา เหมือน
ว่ากำลังออกมาข้างนอก
สีหน้าจึ่งหนิงเปลี่ยน
ไม่รู้ว่าเกิดความคิดอะไร เธอหันไปแล้ววิ่ง อย่างจับพลัด
จับผลู
วิ่งกลับไปที่ห้องนอนแล้วปิดประตูดัง”ปัง”ทันที
ลู่จิงเซินออกมาจากห้องทำงาน มองเห็นอะไรวิ่งผ่านไกลๆ จากนั้นประตูห้องนอนก็ปิด
เขาตะลึง จากนั้นก็คิดอะไรได้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
บังเอิญตอนนี้ป้าหลิวก็ผ่านมาจากข้างล่าง เธอยืนอยู่
ที่ทางเดินพูด: “คุณนายเป็นอะไรไป?
ป้าหลิวตะลึงเล็กน้อยงงหน่อยๆ
“ไม่ใช่ว่าคุณนายเพิ่งขึ้นมาเหรอ? ก็ไม่อะไรนี่! ”
คิ้วของลู่จิ่งเซินที่ขมวดเล็กน้อยก็แน่นขึ้น
เขาไม่ได้พูดอะไรอีก แต่หมุนตัวเดินไปทางห้องนอน
แสงในห้องนอนถูกปรับจนมืดเล็กน้อย จึงหนิงนั่งเอนไปที่ หัวเตียง ในมือถือนิตยสารบันเทิงเล่มหนึ่งที่กำลังเปิดอ่าน สู่จิงเซินเดินเข้าไป จงใจถามอย่างไม่ตั้งใจ: “เมื่อคุณ ไปห้องทำงานเหรอ? ”
จึงหนิงใช้หางตามองเขาแวบหนึ่ง ไอเบาๆ “ค่ะ แค่ผ่าน เฉยๆ คุณกังวลทำไมเหรอ?
ลู่จิงเซินไม่พูด
ถึงไม่มองเขา ก็รู้สึกได้ว่า สายตาคมๆ ในตอนนี้จ้องไปที่ ร่างของตัวเองเขม็ง พร้อมกับท่าทางสอดส่อง
จู่ๆจึงหนิงก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้อีก แกล้งทำเป็นหาว วาง
นิตยสารลง
“ดึกแล้ว ฉันจะนอน”
เธอพูดไป ก็นอนลงไปโดยหันหลังให้เขา ดึงผ้าห่มแล้ว
หลับตาลง
สู่จิ้งเซินมมองเธอซุกไปในผ้าห่ม สายตาลีกซึ้ง
เขาไม่พูดอะไรอีก หันไปอาบน้ำที่ห้องน้ำ
เสียงน้ำไหลเข้ามา จิ่งหนิงนอนไม่หลับ
ทั้งหัวเต็มไปด้วยคำพูดที่ได้ยินที่นอกห้องทำงานเมื่อครู่
น้ำเสียงที่รักใครขนาดนั้น คำพูดที่คลุมเครือ ถ้าไม่ได้ยิน กับหู เธอก็ยากที่จะเชื่อว่าผู้ชายคนนี้พูดออกมา
คิดถึงคำพูดตอนนั้นที่เขาบังคับตัวเองให้ไปจดทะเบียน รวมถึงฉากของหลายวันนี้ที่เราเคยอยู่ด้วยกัน จู่ๆ ในใจจิง หนิง ก็รู้สึกหดหูหน่อยๆ
ดีที่เวลาที่สองคนอยู่ด้วยกันไม่นานนัก ถึงจะบอกว่าสามี ภรรยา แต่ที่จริงแล้วกลัวว่าความหมายของความร่วมมือกัน จะยิ่งลึกมากขึ้น
เธอพยายามแสดงเป็นภรรยาของเขาอย่างดี และเขาจะ
เป็นสามีในเวลาที่เหมาะสม
แบบนี้ก็ดี
เธอที่เคยถูกทรยศหักหลัง ไม่คิดว่าตัวเองจะมีความรัก ที่แท้จริงอีกครั้งตั้งนานแล้ว
ดังนั้นก็ดีมาก ไม่ใช่เหรอ?
จึงหนิงไม่หยุดปลอบตัวเอง อารมณ์ว้าวุ่นเดิมทีก็ผ่อน
คลายลง
แต่ท้ายสุดก็ยังมีสถานที่หนึ่ง จู่ๆก็กลายเป็นความว่าง เปล่า พร้อมกับความผิดหวังจางๆ
ลู่จิงเซินอาบน้ำเสร็จออกมา จิ่งหนิงยังไม่นอน
เขามองร่างเล็กๆที่ซุกอยู่ในผ้าห่ม หลับตาอยู่แท้ๆ ขนตา
ที่โค้งงอกลับสั่นเล็กน้อย จึงรู้ว่าเธอต้องแกล้งหลับแน่ เขายิ้มเบาๆอย่างไร้เสียง และก็ไม่ทำเป็นรู้ หลังจากเป่า ผมแห้งก็เดินไปที่เตียงใหญ่
จึงหนิงรู้ว่าเขามาแล้ว
ชายหนุ่มยังเป่าผม เสียงที่เดินก็ดังขนาดนั้น เหมือนว่า จงใจทำให้เธอตื่นอย่างนั้น
เธอแอบหายใจแน่น ทำเป็นไม่รู้เรื่อง
ไม่นานนัก เตียงข้างๆก็ยุบลงไปเล็กน้อย กลิ่นหอมเย็นๆ ลอยเข้ามา
จึงหนิงขมวดคิ้ว ท่าเป็นว่าเธอหลับไปแล้ว และก็ไม่ทัน สังเกต วันนี้กลับรู้สึกแค่ว่าท่าทีของชายหนุ่มดูแข็งแกร่ง แข็งแกร่งจนเตียงที่ใหญ่ ดูแคบลงไปแค่เพราะว่าเขามา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายหนุ่มดูเหมือนจงใจเข้าไปใกล้เธอ ความเยือกเย็นนั้นก็ยิ่งชัดเจน
เธอแทบจะกลั้นหายใจ ร่างกายเหยียดตรง จึงจะอดกลั้น ความใจร้อนที่ตัวเองอยากจะหลบหนี
จู่ๆรอบๆก็มืดลง เหมือนว่าไฟดับลง
ในความมืด ประสาทรับรู้ของมนุษย์มักจะอ่อนไหว มากกว่าเมื่อมีแสง
ทั้งที่ร่างกายของทั้งสองไม่ได้สัมผัสกัน และตรงกลางยังมี ช่องว่างเล็กๆ แต่ก็ยังปิดความแข็งแกร่งของชายคนนี้ไม่ได้ ทำให้คน ยากที่จะเพิกเฉยจริงๆ
และก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน
ทันใดนั้นจึงหนิงก็ส่งเสียงงัวเงีย จากนั้นก็พลิกตัว ไปทาง
ข้างๆ
ระหว่างทั้งสอง ทันใดนั้นห่างออกไปประมาณครึ่งเมตร
ห่างกันออกไป แม้แต่อากาศก็รู้สึกว่าผ่อนคลายมากขึ้น จึงหนิงกำลังโล่งอกอยู่นั้น จากนั้น ด้านหลังอุ่น จู่ๆชาย
หนุ่มก็ขยับเข้ามา
จึงหนิงขมวดคิ้ว
เธอหันหลังชนเขา แล้วยังรู้สึกถึงอุณหภูมิที่หน้าอกชาย
หนุ่ม
ท่าทางคลุมเครือแบบนี้….
เธอกัดฟัน แล้วขยับออกอีกครั้ง
ชายหนุ่มกลับเหมือนแนบชิดร่างกายของเธอ แล้วก็เบียด
เข้ามา
จึงหนิงโกรธสุดๆ
เธอลืมตา ท่ามกลางความมืด ก็ได้ยินเสียงหายใจของ
ชายหนุ่มที่หลับสนิท ไม่แน่ใจว่าเขาหลับจริงๆ หรือว่าแกล้งทำเป็นหลับตาม เธอ คิดอยู่สักพัก เธอก็สูดหายใจลึกๆ สุดท้ายก็ขยับไปที่ ข้างเตียง
เตียงใหญ่แค่ไหน ถูกเธอขยับออกไปสามครั้งแบบนี้ ก็ไป ที่ขอบเตียง
ขยับไปอีก ก็น่าจะตกลงที่พื้นแล้วจริงๆ
จากนั้น ผู้ชายคนนี้ก็เหมือนมุ่งมั่นที่จะสู้กับเธอ เธอเพิ่งหยุดลง คนด้านหลังก็แนบชิดติดเข้ามาอีก
ครั้งนี้ ก็ยังมีแขนที่แข็งแรง วางไว้บนเอวที่นุ่มของเธอตาม
มาด้วย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ