บทที่441 เสร็จนาฆ่าโคถูก เสร็จศึกฆ่าขุนพล
สีหน้าเขานิ่งขรึมแทบไม่แสดงอารมณ์ใด “สิทธิในการ จํากัดการ ก็คือหลักการปกครองคน
“อย่างนั้นเหรอ? แต่ว่าทำไมแม้แต่เรื่องเขาถึงปล่อยให้ เซี่ยฉวนรับผิดชอบการลอบสังหารลู่วิ่งเซ็นและไม่บอกคุณ? คุณสมบัติของคุณควรสูงกว่าเธอเสียอีก!” จางฉวนแสดงออก ทางสีหน้าเล็กน้อย
“กระต่ายตาย หมาก็ถูกฆ่า! ไม่มีนักธนูก็ไร้ค่า ฉันก็แค่อยาก จะเตือนคุณไว้ ถ้าหากว่าคุณยังจับแพะชนแกะ แต่หากวันใด ความลับที่นี่หลุดออกไป ตามลักษณะของเตาปาเป็นเซียฉวน กับ คุณ คุณว่าถึงเวลานั้นจุดจบของตัวเองจะเป็นยังไง?
“พอแล้ว!”
ทันใดนั้นจางฉวน ก็ตบโต๊ะและลุกขึ้น และใช้สายตาเย็น ชามองเธอจากมุมสูง
“ยุให้รำทำให้รั่ว! เธอคิดว่าใช้มุกนี้แล้วฉันจะหลงเชื่อนั้นเห รอ ทรยศเจ้านายตัวเอง? เธออย่าทำเป็นไร้เดียงสาไปหน่อย เลย!”
จิ่งหนึ่งไม่พูดอะไร จางฉวน ไม่เป็นสุขแล้ว!
ถ้าหากว่าตอนนี้เขายอมรับคำวิเคราะห์ของเธออย่างสงบ และตกลงที่จะแลกเปลี่ยนกับเธอ เกรงว่าเธอจะต้องคิดถึงเรื่องนี้ก่อน แต่ตอนนี้ปฏิกิริยาของจางฉวน มีมากจนตีความประโยค นั้นได้ ในใจก็รู้สึก ยิ่งปิดยิ่งเห็น
เธอพูดจี้ใจด่าเขา!
จิ่งหนิงยิ้มเบา ๆ “คุณพูดจริงจังเกินไป แน่นอนว่าฉันไม่ได้ ให้คุณทรยศเจ้านายตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยตามหลักการหรือ อารมณ์ ต่อให้ไม่คิดเพื่อตัวเอง ก็น่าจะคิดถึงคนในครอบครัว บ้าง การสร้างหลักประกันให้ตัวเองคงจะไม่ผิดหรอกถูกไหม!
พูดแล้ว เธอก็หยิบปากกาเทปบันทึกเสียงออกมาจาก กระเป๋าแล้ววางไว้บนโต๊ะ
“อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ คุณน่าจะลองฟังดูก่อนแล้วค่อยตัดสิน
ดวงตาของจางฉวนกะพริบชั่วขณะและหลังจากนั้นก็นั่งลง
หยิบเครื่องบันทึกขึ้นมาและเปิดเครื่อง
เสียงผู้หญิงที่คุ้นเคยดังออกมาจากเครื่องบันทึกทันที
เป็นเสียงของเซี่ยฉวน!
อันที่จริงเรื่องเกี่ยวกับจางฉวน ก็เป็นเซียฉวนที่จู่ ๆ ให้คน
บอกเธอ
เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเซี่ยฉวนต้องบอกเธอเรื่องพวกนี้ด้วย แต่เมื่อคิดดูแล้วเธอจะต้องมีจุดมุ่งหมายของเธอแน่
เมื่อถึงขั้นนี้ เซี่ยฉวนไม่มีเหตุผลที่จะหลอกลวงเธอดังนั้นจึงหนิงจึงตัดสินใจที่จะเชื่ออย่างกล้าหาญสักครั้ง
และปากกาบันทึกนี้ยังให้คนนำมามอบให้เธอโดยเซียนวน
ในชั่วข้ามคืน ส่วนเนื้อหาข้างในนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเสีย แม้แต่สิ่งหนึ่ง
และลู่วิ่งเซินยังอดตกใจไม่ได้เมื่อได้
หลังจากฟังเนื้อหาแล้วการแสดงออกของจางฉวน ไม่ สามารถใช้คำว่าตกใจอธิบายได้เลย
“คุณรู้สึกว่าเทปบันทึกนี้เป็นยังไง?
จางฉวนตกตะลึงไปชั่วขณะมองไปที่วิ่งหนึ่งด้วยการ
แสดงออกที่ซับซ้อน โดยไม่ต้องพูด จิ่งหนึ่งยิ้มเล็กน้อย ดวงตาสีเข้มของเธอเปล่งประกายด้วย แสงที่น่าหลงใหล
เธอวางปากกาบันทึกเสียงวางไว้บนโต๊ะ แล้วพูดขึ้นเบาๆ “หากมันถูกส่งให้เตาปา เชื่อฉันสิ ขอเพียงเตาปา ได้ยินเทปนี้ จากวันนี้ไปคุณจะเจริญก้าวหน้าโดยไม่ต้องเปลืองแรง แต่ไม่ต้อง เกรงใจใครอีกต่อไป!
จางฉวนขยับริมฝีปากและหน้าซีดเซียว
หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเขาก็ลดใบหน้าลงและมองไปที่ จิ่งหนึ่งด้วยวิธีที่สงบที่สุดที่เขาสามารถแสดงออกได้ในเวลานี้
“ให้ข้อดีผมเสียมากมายขนาดนี้ คุณต้องการอะไร?”
เมื่อเห็นเขาตัดสินใจอย่างรวดเร็วทันใดนั้นแสงแห่งความ ชื่นชมก็เปล่งประกายในดวงตาของจิ่งหนึ่ง
พูดเสียงขรึม: “คุณเป็นใครกันแน่? ใช้ความพยายามทำ เรื่องยุ่งยากมากมายเพื่ออะไรกันแน่?
“นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะเข้ามาจัดการ
จิ่งหนึ่งหยิบปากกาบนโต๊ะขึ้นมาและเขียนเบอร์โทรศัพท์
ของตนเองส่งให้เขา
“มีเรื่องอะไร โทรหาฉันได้ตลอด
พูดจบแล้วก็ลุกขึ้นแล้วจากไป
เมื่อก้าวออกจากการเจรจาอันดุเดือดจิ้งหนึ่งเหลือบไปที่ นาฬิกาข้อมือก็บ่ายสี่โมงครึ่งแล้ว
เธอถอนหายใจออกมาเบา ๆ
ยังดีที่เรื่องผ่านไปอย่างราบรื่น
ซูมขับรถเข้ามา ทั้งคนขึ้นรถ และทั้งสามคนก็กลับไปที่โรง
พยาบาลพร้อมกัน
เมื่อถึงโรงพยาบาลกลับเห็นพ่อบ้านตระกูลจิ้นยืนอยู่ที่หน้า
ประตูห้องพักคนไข้
เธอคาดไม่ถึงเล็กน้อย แล้วเลิกคิ้วและเดินเข้าไป
“คุณนายลู่ คุณกลับมาแล้วเหรอ!”
จิ่งหนึ่งพยักหน้าและพูดขึ้นด้วยความสงสัย “พ่อบ้านฉัน คุณมาได้ยังไงคะ?”
พ่อบ้านฉันยิ้มแล้วพูด: “ผมเป็นตัวแทนคุณนายของเราเพื่อ
มาเยี่ยมคุณ แต่ยังไม่ทันได้เข้าไป ก็พบคุณกลับมาแล้ว
จิ่งหนิงคิ้วขมวดเบา ๆ และเหลือบมองไปที่ประตูที่ปิดอยู่ และจากนั้นก็มองไปที่พ่อบ้านฉิน เพื่อแสดงว่าไม่ได้สับสนกับ ความลำบากใจของเขา
เธอพูดขึ้นเบา ๆ “ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นก็เข้ามาเถอะค่ะ” พูดแล้วก็เปิดประตู
จากนั้นพ่อบ้านฉินนกลับโบกมือไปมา
“ไม่ ไม่ล่ะครับ อันที่จริงผมมาก็เพื่อจะส่งคำพูดๆ หนึ่งจาก คุณนายของเรา”
“อะไรคะ?”
“วันนี้เป็นวันเกิดคุณชายน้อยเทียนเป่า ของเรา คุณนาย อยากให้ทุกคนได้เจอกัน
จิ้นเทียนเป่าเป็นลูกชายคนเล็กของขึ้นชิงซาน ปีนี้อายุเพียง แปดขวบ เขาเป็นลูกหลง และได้รับการตามใจเป็นอย่างมาก จากตระกูลจิ้น
วันนี้เป็นวันเกิดเขางั้นเหรอ?
จิ่งหนึ่งใคร่ครวญแล้วพยักหน้า
“ได้ ฉันทราบแล้วค่ะ! ฉันจะกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดก่อนแล้ว จะเลยไป”
พ่อบ้านฉันพยักหน้าแล้วพูดขึ้นอีก: “เรียนเชิญคุณลู่ด้วยนะ ครับ”
จิ่งหนึ่งพยักหน้าและไม่พูดอะไรอีก ให้ซูมไปส่งพ่อบ้านฉัน แล้วจึงเข้าห้องไป
ในห้อง เมื่อลู่จิ้งเซินเห็นเธอกลับมาก็โบกมือให้เธอ
จึงหนิงเข้าไปและเล่าผลของวันนี้ให้เขาฟัง จึงเป็นฟัง เงียบๆ และลูบมือเธอแล้วถามเธอขึ้นทันใด: “เมื่อกี้เจอพ่อบ้าน ฉินที่ด้านนอกแล้วเหรอ?”
จึงหนิงนิ่งไป แล้วก็คิดขึ้นได้
เธอพยักหน้า “อือ ใช่แล้ว เขาคงยืนรออยู่ด้านนอกนานมาก ทำไมคุณไม่ให้เขาเข้ามาล่ะคะ?”
ลู่วิ่งเซินพูดอย่างไม่แยแส “เขาไม่เคาะประตู คงจะร้อนตัว ทำไมผมต้องทำลายความรู้สึกร้อนตัวของเขาด้วย?”
จิ่งหนิง: ” ……
เธอ มครู่หนึ่ง คุณยังโกรธอยู่เหรอคะ?”
“เปล่า”
แม้ว่าการกระทำของ จิ้นหงจะก้าวไปสู่จุดต่ำสุดของเขา แต่โจวเหวินจงก็ตายไปแล้วและไม่มีความหมายอะไรอีก
จิ่งหนึ่งยิ้มแล้วพูด: “ในเมื่อเปล่า งั้นคืนนี้ก็ไปด้วยกันนะ
ลู่จิ้งเซินหันไปมองเธอ
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ไม่ปฏิเสธเพียงแค่แตะที่ปลายจมูก
ของเธอเท่านั้น
“กลัวว่าคนที่ไม่คิดจะถือโทษโกรธใครบนโลกนี้คงจะมีแค่ คุณนั่นแหละ”
จิ่งหนิงยิ้มและไม่คุยหัวข้อนี้ต่อ
หกโมงเย็นทั้งสองเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปด้วยกัน
บาดแผลของลู่จิ่งเซินแม้ว่าจะยังไม่หายแต่ก็ดีขึ้นมากแล้ว จากที่หมอตรวจขอเพียงไม่ขยับเยอะเกินไป แค่นั่งรถและเดิน ทางปกติก็ไม่มีปัญหา
ดังนั้นทั้งสองคนจึงนั่งรถไปที่บ้านตระกูลจิ้นด้วยกัน
ระหว่างทางและร้านขายของเล่น วิ่งหนึ่งใคร่ครวญแล้วจึง ลงจากรถไปซื้อของขวัญวันเกิดชิ้นหนึ่ง
ท้ายที่สุดก็ยังต้องรักษาหน้าตาไว้
ผ่านไปยี่สิบนาที รถก็มาถึงคฤหาสน์ตระกูลจิ้น
ในตอนที่จึงหนิงเข้าไปก็พบว่าทุกคนมาพร้อมแล้ว คุณนาย อุ้มจิ้นเทียนเป่า และนั่งอยู่บนโซฟาและมีทุกคนรายล้อมด้วยอย่างเฮฮาพร้อมรอยยิ้ม
เมื่อเธอและลู่วิ่งเซินเดินเข้าไป ทุกคนก็หยุดลงและหันไป
มองเธอ
“หนิงหนิงกับจิ่งเซินมาแล้วเหรอ?”
คุณนายพูดขึ้นมาก่อนและตบลงที่ข้างตัว เธอยิ้มแล้วพูด “เข้ามานั่งเร็ว ทุกคนมาถึงแล้ว เหลือแต่พวกเธอ
วิ่งหนึ่งยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินไป แล้วส่งของขวัญให้จิ้นเทียน
“สุขสันต์วันเกิด!”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ