วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่152 เรื่องที่ไม่คาดคิด



หลิน ผ่านรู้สึกตกตะล่ง ไม่เข้าใจความหมาย ในคำพูดของเธอเท่าไหร่นัก

จิ่งหนึ่งยิ้มออกมาอย่างเขินๆ “ความจริงแล้ว ฉันเองก็ได้รับบทละครนี้มาจากมือของผู้กำกับลู่ เหมือนกันค่ะ เดิมทีไม่ได้ใส่ใจหรอกค่ะ แต่เมื่อคืนนี้ หลังจากที่ได้อ่านอย่างละเอียดแล้ว กลับพบว่าบทนี้ เป็นบทละครที่ดีมากและหาได้ยากด้วย ตัวฉันเองก็ ชื่นชอบในตัวของนางเอกคนนี้ด้วยเช่นกัน”

ดวงตาของหลินซูฝานเป็นประกายขึ้นมาทันที “ถ้าอย่างนั้น คุณก็หมายความว่า…….

“ฉันยินดีที่จะรับบทแสดงเรื่องนี้คะ และหวังว่า ต่อไปจะขอฝากเนื้อฝากตัวกับผู้กำกับหลินด้วยนะ

คะ”

หลินซูผ่านอึ้งไป

คิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำว่าจะราบรื่นขนาดนี้!

เขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองไปพักหนึ่ง แล้วรอ จนเรียกสติกลับมาได้แล้วนั้น ก็รีบจับมือจิ่งหนึ่งด้วย ความดีใจ

“ครับ ขอบคุณมากๆ ขอบคุณ คุณยอมแสดง

ละครของผม”

จิ่งหนึ่งรู้สึกตกใจกับท่าทางที่ตื่นเต้นดีใจนี้ ของเขา หลินซูผ่านเองก็รู้สึกตัวว่าปฏิกิริยาตอบรับ ของตัวเองนั้นดูจะเกินไปเสียหน่อย จึงรีบปล่อยมือเธอ แล้วลูบตรงท้ายทอยอย่างเขินๆ

“ก่อนหน้านี้พบกับอุปสรรคมากเกินไปหน่อย ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะราบรื่นขนาดนี้ คุณ ง วางใจได้ เลยนะครับ ผมจะไม่ทำให้คุณต้องแสดงเรื่องนี้ฟรีๆ แน่นอน”

จํงหนิงรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร จึงหัวเราะขึ้นมา

ฉันไม่ได้แคร์เรื่องพวกนั้นอยู่แล้วค่ะ ต่อไปก็ ” ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจิ่งแล้วนะคะ เรียกชื่อฉันเลยดี กว่าค่ะ”

และหลินซูฝานก็ไม่ได้เกรงใจแล้วตอบตกลง ทันที หลังจากที่พูดถึงเรื่องร่างสัญญาแล้วนั้น เขาถึง ได้กลับออกไปด้วยความดีใจ

หลังจากที่ส่งหลินซูผ่านกลับไปแล้วนั้น ผ่าน ไปไม่นาน จึงหนิงก็ได้รับสายจากลู่หยั่นคือ

ปลายสาย น้ำเสียงของลู่หยั่นจือดูเยาะเย้ยยิ่ง นัก เขาเอ่ยถามเธอว่าหลินซูฝานได้มาหาเธอหรือ เปล่า

จิ่งหนึงตอบไปตามความจริง หลังจากที่ลู่หมั้น จือได้ยินแล้วนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

“เจ้านั่น ผมบอกเขาแล้ว ว่าคุณไม่ตอบตกลง หรอก แต่เขาก็ไม่เชื่อ นี่ยังกล้าพนันกับผมอีกนะ ฮ่าๆ ผมจะดูว่าสุดท้ายแล้วเขาจะทําอย่างไร!”

จิ่งหนิงเลิกคิ้วขึ้น “อ่อ? พวกคุณพนันอะไรกัน คะ?”

“ฮ่าๆ ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็แค่ถ้าหากผมแพ้อำนาจในการตัดสินใจเลือกตัวละครเรื่องใหม่เรื่องนี้ ของเขาจะต้องยกให้ผม แต่ถ้าหากเขาชนะ ผมก็จะ องคุกเข่าลงแล้วเรียกเขาว่าพ่อแทน

จิ่งหนิงยกริมฝีปากขึ้น “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้คุณ กลับไปก็เรียกเขาว่าพ่อได้แล้วล่ะค่ะ”

ลู่หยั่นคือ ????

“ฉันตอบตกลงเขาไปแล้ว”

คําง่ายๆนี้ ราวกับเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดที่พุ่ง เข้าไปในหัวของเขา

ปลายสายนั้นตกอยู่ในความเงียบ เวลาผ่านไป นาน ถึงได้ยิน เสียงที่พยายามข่มความสั่นนี้เอาไว้

“ผมสามารถ….ถาม…… งสาเหตุได้ไหม?”

ทําไม?

ทําไมตอบตกลงรับปากกับเจ้าแซ่หลินนั่นแต่ ไม่รับปากเขา?

แล้ว จะให้เขาเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน?

และเขายังพนันกับเรื่องที่สมควรตายนั่นอีก เสียด้วย!!!!!

อารมณ์ของลู่หยั่นจินพังลงไปหมดแล้ว

จิ่งหนีงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ “อาจจะ เป็นเพราะว่าช่วงนี้จู่ๆก็คันไม้คันมืออยากจะแสดง ฝีมือออกมาล่ะมั้งค่ะ!”

แน่นอนว่าเธอไม่บอกลู่หยั่นจืออยู่แล้ว ว่า สาเหตุที่แท้จริงของตัวเองนั้นเป็นเพราะจึงเสี่ยวหย่าชอบบทเรื่องนี้

ความจริงของเรื่องราว เธอรู้แล้ว

ในเมื่อไม่มีวิธีที่จะลงโทษพวกเขาตาม กฎหมายได้ ถ้าอย่างนั้น เธอก็ใช้วิธีของเธอเอง เพื่อ แย่งทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขามีกลับมาทีละเล็กละ น้อย!

ทุกสิ่งที่จิ่งเสี่ยวหย่าอยากจะทํา ก็จะไม่ สามารถทํามันได้

ทุกอย่างที่เธออยากได้ ก็จะไม่มีทางได้มันมา

ทุกอย่างที่เธอให้ความสําคัญ ก็จะทำให้เธอ ต้องสูญเสียมันไป!

จนกระทั่งสุดท้าย ก็จะไม่มีอะไรเลย แล้ว ค่อยๆตายอย่างเจ็บปวด!

สุดท้ายแล้วลู่หยั่นจือจึงวางสายไปด้วยความ เสียใจ

ส่วนที่ว่าทำไมจิ่งหนิงถึงได้ตอบรับหลินซูผ่าน นั้น เขาเองก็ไม่กล้าเอ่ยถามอีก ไม่กล้าพูดอะไรออก มาอีกทั้งนั้น

ผู้ป่วยเดินเข้ามาจากทางด้านนอก พลางเอ่ย ถามเขาอย่างนอบน้อม “ผู้กํากับ ครับ จัดฉาก สําหรับคืนนี้เอาไว้แล้วนะครับ บ่ายสี่โมงก็สามารถ กลับไปที่กองถ่ายได้แล้วครับ”

ลู่หยื่นจือคิดแล้ว จึงโบกมือให้เขา
“ไปเตรียมรถ เราจะกลับไปกันเดี๋ยว นี้แหล่ะ ผู้ช่วยตกตะลึงทั้งยังมีความงุนงงงอยู่ด้วย

ถ่ายทําติดต่อกันเป็นเวลาหลายเดือน ไม่ใช่ว่า ผู้กํากับบอกว่าต่อให้เป็นคนเหล็กก็ต้องการการพัก ผ่อน ดังนั้นวันนี้จึงให้เขาหยุดหนึ่งวัน ให้รองผู้กำกับ คอยดูอยู่ทางนั้น แล้วค่อยกลับไปตอนกลางคืนอย่าง นั้นหรือ?

ทําไมถึงดูรีบร้อนขนาดนี้?

ลู่หยั่นคือเองก็ขี้เกียจอธิบายกับเขา จึงรีบเก็บ ของและเดินออกไปยังด้านนอก

จากนั้นถึงได้เดินออกมาตรงหน้าประตู ก็เจอ เข้ากับหลินซูฝานที่ลงมาจากรถพอดี

“ไง นาย รีบไปสตูดิโออย่างนั้นหรือ? ”

หลินซูผ่านยิ้มร่าเริง ใบหน้าที่ดูไม่ได้สนใจการ แต่งเนื้อแต่งตัวนั่นราวกับเป็นเพราะอารมณ์ดี ทำให้ เขาดูหล่อเหลาและอ่อนเยาว์ลงไปไม่น้อยอย่างเห็น ได้ชัด

ลู่หยั่นจือถลึงตาใส่เขา แล้วเอ่ยขึ้นอย่าง โกรธๆ : “ไอ้แซ่หลิน แกอย่าได้ใจไปหน่อยเลย! ฉัน ยอมรับว่าฉันแพ้ โอเค ให้เรียกว่าพ่อใช่ไหม? ฉันก็ จะเรียก”

ว่าแล้ว ก็เอาของวางลงแรงๆ แล้วเตรียมทำ ตามสัญญา

หลินซูผ่านเห็นสถานการณ์แล้ว จึงเลิกคิ้วขึ้น พลางรีบเข้าไปขวางเขาเอาไว้
“เอาล่ะ แกไม่กลัวขายหน้าแต่ฉันนึกตัวอายุสั้น เอาเสียก่อน เรื่องที่เรียกพ่อนั้นไม่ต้องแล้วล่ะ นายสุ แกช่วยฉันหน่อยสิ

ลู่หยั่นจือมองเขาอย่างระแวง

“นี่แกวางแผนจะทำอะไรอีก?”

หลินซูฝานสูบจมูกตัวเองพลางหัวเราะออกมา

“ก็ไม่มีอะไร ตอนนี้ถึงแม้ว่าเราจะกำหนด ตัวนางเอกได้แล้ว แต่เนื่องจากว่ามันไม่เหมือนกับที่ คุยกันไว้ก่อนหน้านี้ ทางฝ่ายนั้นไม่ได้มีความนิยม ถือว่าเป็นคนใหม่ที่ยังไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร เพราะ ฉะนั้นทางผู้ลงทุนทางนั้น แกช่วยออกรับหน้าไปคุย กับพวกเขาหน่อยสิ……”

ลู่หยั่นจือเบิกตาขึ้น

ท่าทางแบบนั้นแทบอยากจะกินหลินซูผ่าน

เข้าไปเสียเลย

“ตาหลิน พอได้แล้วมั้ง! แกเป็นผู้กำกับหรือว่า ฉันเป็นผู้กำกับกันแน่? ตัวนักแสดงแกก็เป็นคนเลือก เอง เรื่องนี้ก็จะต้องให้ฉันไปช่วยพูดด้วยอย่างนั้น ไง?”

สีหน้าของหลินซูฝานนิ่งไป

ส่งเสียงไอออกมาเบาๆ คือ ไม่ใช่ว่าฉันไม สะดวกจะออกปากเองหรอกนะ?”

แกออกปากเองไม่ได้ ฉันก็จะสามารถบอกได้ หรอกนะ? หน้าฉันนี่ไม่ต้องการเงินเลยหรือไง?

หลินซูผ่าน :
ถ้าไม่อย่างนั้น หรือว่าแกจะคุกเข่าลง แล้ว เรียกฉันว่าพ่อ?”

หยั่นจีอโมโหจนแทบอยากจะกระโดดขึ้น มาต่เขาเสียจริงๆ

ในที่สุดก็ทิ้งเอาไว้เพียงประโยคเดียว “ฝากไว้ ก่อนเถอะ!” หลังจากนั้นก็เดินจากไป

ด้วย โมโห หลินซูผ่านมองไปยังเบื้องหลังที่ห่างออกไป ของลู่หยั่นจือ แล้วค่อยๆหัวเราะออกมา

ความ

มีเพื่อนที่รู้ใจนี่ช่างดีเสียจริงๆ

โอกาสครั้งนี้ นายลู่ช่วยคว้าเอามาให้เขา เขา จะไม่ทําให้ผิดหวังอีกโดยเด็ดขาด!

คิดเช่นนี้แล้ว สีหน้าท่าทางของเขาก็ค่อยๆ จริงจังขึ้นมา ผ่านไปซักพักหนึ่ง จึงสูดหายใจเข้า ล็กๆ แล้วมองไปยังท้องฟ้าที่สดใส ยิ้มออกมาแล้วถึง ได้เดินออกไปทางด้านนอก

สองวันมานี้จึ่งเสียวหย่ารอข่าวคราวจากลู่ห ยื่นจือมาโดยตลอด

เธอไม่อยากจะโทรไปเจออุปสรรคอย่างหลิน ซูฝานนั่นอีก เป็นเพียงแค่ผู้กำกับคนหนึ่งที่ไม่ได้มีชื่อ เสียงอะไร ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่คน ช่วยกํากับMVและโฆษณาสั้นไม่กี่ครั้งเท่านั้น แม้แต่ จะหยิบเอาผลงานออกมาชักขึ้นก็ยังไม่มีเลยเสีย ด้วยซ้ำ ยังจะกล้าเรืองมากอีก

ถึงแม้ว่าเธอจะมีข่าวอื้อฉาวอยู่ในตอนนี้ แต่ชื่อเสียงและความนิยมนั้นก็ยังอยู่ หากเป็นเมื่อก่อน ทุก คนต่างพากันช่วงชิงตัวเธอแทบจะไม่ทัน จะมีคน ปฏิเสธได้อย่างไร?

พูดไปพูดมาแล้ว ก็ต้องโทษจิ่งหนิงคนชั้นต่ำ

ถ้าหากไม่ใช่เธอ ตัวเองจะตกมาอยู่ตรงจุดนี้ ได้อย่างไรกัน?

จึงเสี่ยวหย่ายิ่งคิดก็ยิ่งโมโห อดที่จะเอานิ้ว จ็กลงบนฝ่ามือไม่ได้ รอจนรู้สึกตัวแล้วนั้น ฝ่ามือ ขาวๆก็มีรอยแดงปรากฏขึ้นจนเกือบมีเลือดออก

เธอถึงได้สูดหายใจเข้าแล้วค่อยๆคลายมือ ของตัวเองออก แล้วโทรหาถงซู

“พี่ถง ลู่หยั่นจือทางนั้นเจรจาเป็นอย่างไรบ้าง? สรุปแล้วเขาตอบตกลงไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ