บทที่ 999 ไม่ต้องมีใครมาสนใจ
หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จยังคงมีหยดน้ำหลงเหลืออยู่ ซึ่งดู ยุ่งเหยิงและหล่อเหลาเมื่อเทียบกับรูปลักษณ์ที่พิถีพิถันในวัน ปกติของเขา
เห็นเพียงแต่เจ้าก้อนทั้งสองติดหนีบวิ่งหนึ่งอยู่ สีหน้า เคร่งขรึมพร้อมกับขึ้นเสียงว่า “ไปเล่นเองกันเลย อย่าติดหม่ามี พวกหนูตลอดเวลา”
อานอานนั่งลงตรงโต๊ะข้างๆ พูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า “แด๊ดดี้ คะ หม่ามีได้อยู่กับแด๊ดดี้มาหลายวันแล้วนะคะ วันนี้หม่ามีต้อง อยู่กับพวกหนู แด๊ดดี้เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ควรมาแย่งกับเด็กอย่าง พวกหนูนะคะ”
จึงเป็นหัวเราะกับท่าทีที่ตรงไปตรงมาของเธอทันที
“แย่งอะไรแย่ง? ภรรยาของแด๊ดดี้เอง พวกหนูมีสิทธิ์อะไรมา แย่ง? ”
อานอานยักไหล่ แด๊ดดี้คะ แด๊ดดี้ทำอย่างนี้มันไม่ถูกต้องนะ คะ! เธอก็เป็นหม่ามีของพวกหนูเช่นกัน”
ลู่วิ่งเซินแสดงรอยยิ้มที่เยือกเย็นออกมา
จึงหนิงอดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่แย่งกันจนใบหน้าแดงไปหมด
ดึงมือลูจิ่งเซิน”พอแล้ว พูดอะไรกับเด็กเนี่ย! เดี๋ยวฉันจะไป เล่นกับพวกเขาสักพัก คุณก็ไปทำธุระคุณเลย”
ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้ว “แต่ว่าร่างกายของคุณ……..
“ฉันไม่เป็นอะไรตั้งนานแล้ว
จึงหนิงรู้สึกอบอุ่นในใจ ได้ผลักเขาอีกครั้งไปเถอะ” ลู่วิ่งเซินพอเห็นเช่นนี้ ก็หมดหนทาง จึงจะเดินจากไป
จิ่งหนึ่งได้เล่นกับลูกทั้งสองคนแต่เช้า พอถึงเที่ยงวัน เธอได้รับ โทรศัพท์จากเฉียว
ด้วยสถานการณ์ของเฉียว ณ ตอนนี้ เธอก็เลยยังเป็นห่วงอยู่ มาก
ดังนั้น ทันทีที่รับโทรศัพท์ เธอก็ถามถึงสถานการณ์ของทาง
เฉียว พวกเขา
เสียงของเฉียวฉีฟังแล้วดูเหมือนจะเคร่งขรึมเล็กน้อย พวกเรา ได้ตรวจสอบดูแล้ว ข่าวคราวที่ได้รับนั้นเป็นข่าวปลอม หยกที่ขุด ขึ้นมาไม่ใช่แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ แต่เป็นหยกธรรมดาเท่านั้น เอง”
จิ่งหนิงรู้สึกประหลาดใจ ในเวลาเดียวกัน ก็รู้สึกเป็นห่วงเล็ก
น้อย
เธอรู้แน่นอน ว่าข่าวคราวนี้สำหรับเจียวแล้ว มันหมายความว่าอะไร
เห็นว่าอีกแค่สามเดือนก็จะปีใหม่แล้ว
หนานกงจีนกําหนดให้พวกเขาหาทุกอย่างเจอก่อนปีใหม่ มี ฉะนั้นพวกเขาจะตัดขาดยาของเฉียว
และในตอนนี้ พวกเขาก็หาได้เพียงแค่ชิ้นเดียว
ถ้ายังดำเนินด้วยความเร็วเพียงเท่านี้ ยังเหลืออีกห้าชิ้น ก็จะ หาไม่ครบก่อนปีใหม่แน่ๆ
พอนึกถึงจุดนี้ จึงหนิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วอีกครั้ง
“แล้วในตอนนี้พวกคุณมีข่าวอะไรอีกไหม? ”
“มีอยู่อีกหนึ่งข่าวคราว แต่ยังต้องได้รับการยืนยันก่อน มีเรื่อง เกิดขึ้นที่เมืองหลินนั้น พวกเราต้องกลับไปก่อน จัดการกับมัน แล้วค่อยไป
จิ่งหนิงพยักหน้า
“ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราจะพยายาม จะต้องหาให้ครบหกชิ้น ก่อนปีใหม่อย่างแน่นอน”
ถึงแม้ว่าในใจยังคงเป็นห่วงอยู่มาก แต่เพราะวิ่งหนึ่งปลอบ ใจถึงขนาดนี้
เฉียว ยิ้ม
“ฉันรู้แล้ว ขอบคุณพวกคุณนะ
ทั้งสองคนได้คุยกันอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งถึงช่วงเวลารับ ประทานอาหารกลางวัน จึงหนึ่งจึงจะวางสายไป
หลังจากที่วางสายแล้ว เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่งข้อความถึง หัวเหยาและจี้หลินยวนโดยขอให้พวกเขาช่วยจับตาดูกับข่าว เกี่ยวกับแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์หน่อย
จี๋หลินยวนและหัวเหยานั้นรู้เรื่องเกี่ยวกับเฉียวที่ป่วย
เพราะว่า ตอนงานแต่ง พวกเขาก็อยู่ในงานนั้น เพียงแต่พวก เขารู้แค่ว่าเฉียวนั้นป่วย แต่ป่วยเป็นโรคอะไร และเรื่องหลังจาก นั้นที่ต่อรองกันกับหนานกงจีน พวกเขาก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียด แล้ว
พอได้ยินว่าวิ่งหนึ่งกำลังสืบเรื่องแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์อยู่ หัว เหยาก็ได้หยอกล้อเธอ
“คุณก็เชื่อเรื่องอมตะนี้ด้วยหรือ? ถ้ามีเรื่องแบบนี้กันจริง คุณ วางแผนไว้ว่าจะใช้กับตัวเองหรือจะให้ประธานของคุณใช้? อีก คนยังมีชีวิตอยู่แต่อีกคนได้ตายจากไปแล้ว คุณสองคนไม่เสียใจ หรือ?”
จิ่งหนิงก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะนี่เป็นความลับของเฉียวพวก เขา ไม่มีพวกเขาอนุญาต ตัวเธอเองก็พูดอะไรมากไม่ได้
ดังนั้นพูดอย่างคลุมเครือว่า “คุณไม่ต้องสนใจฉันว่าจะให้ ใครใช้ไม่ว่ายังไงคุณช่วยฉันคอยจับตามองหน่อยก็พอ”
หัวเหยาหัวเราะ และไม่ได้ซักถามต่ออีก
“ได้เลย เรื่องนี้ฉันได้จำเอาไว้แล้ว ถ้ามีข่าวคราวอะไรฉัน จะแจ้งให้คุณทราบเอง
จิ่งหนึ่งพยักหน้า
หลังจากที่วางสายแล้ว ในตอนเย็น จึงหนิงก็ได้ไปทำงานที่ บริษัท
เพราะว่าช่วงนี้เธอได้ไปเมืองกับลู่จึงเป็นกันหมด งานที่บริษัท ก็ได้กองพะเนินเทินทึกไว้เยอะมากมาย
มีศิลปินหลายคนที่มีข้อบกพร่อง และฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็คิด
แผนขึ้นมาหลายอย่างและขอให้เธอตัดสินใจ
จึงหนิงยุ่งมาทั้งเย็น จนกระทั่งถึงช่วงเวลาหนึ่งทุ่ม จึงถูกลู่วิ่งเชิ นรับกลับจากบริษัท
ลู่วิ่งเป็นมองไปที่ผู้หญิงที่เหนื่อยล้าที่อยู่ข้างหน้าเขาแล้ว รู้สึก
เป็นห่วงอย่างมาก
“บอกคุณตั้งนานแล้ว ว่าช่วงที่ตั้งครรภ์อยู่นี้ก็พักผ่อนอยู่ที่บ้าน พอ คอยอยู่กับลูกๆพวกเขา แต่คุณกลับไม่ฟังกันเลย ยังมา บริษัทเพื่อทนเหนื่อยกับงาน เพื่ออะไรกัน? หรือไม่มีคุณบริษัทก็ เดินต่อไปไม่ได้แล้วหรือ?”
จึงหนิงหัวเราะ”ฉันอยากทำงาน แล้วอีกอย่าง นับประสาอะไร กับเหนื่อยเพียงแค่นี้ คุณคงยังไม่เห็นตอนที่ฉันทำงานอยู่ที่ ประเทศF นั่นสิที่เรียกว่าเหนื่อย
พอพูดถึงตรงนี้ ก็นิ่งไปสักพัก
นัยน์ตาของจึงเป็นดำล้ำลึกครู่หนึ่ง แต่เพียงแต่ว่าเขารีบซ่อน ไว้ทัน จึงไม่ถูกจิ่งหนึ่งสังเกตได้
จิ่งหนึ่งหันมาและมองไปหาเขา “ใช่แล้ว อีกหนึ่งเดือนก็จะเป็น
วันเกิดของท่านย่าจิ้นแล้ว? ”
ลู่วิ่งเป็นพยักหน้าตอบ“ใช่”
“ครั้งก่อนฉันได้ยินคุณย่าบอกว่า เธออยากไปประเทศ พร้อม กับคุณปู่ เพื่อไปเยี่ยมท่านย่าจิ้น
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ จึงเป็นก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง
“เธอพูดเช่นนี้ แต่ฉันรู้สึกไม่ค่อยไว้วางใจกับร่างกายของคุณ ปู่เท่าไหร่ คงต้องพิจารณาดีๆก่อนว่าจะให้พวกเขาไปดีไหม
ด้วยอายุที่มากขึ้น ร่างกายของท่านปู่ยิ่งอยู่ยิ่งแย่ลง
คู่หูท่านปูกวนได้ตายจากไปก่อนหน้านี้แล้ว อาจจะเป็นเพราะ ว่าเห็นญาติๆ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนที่รอบกายได้จากไปทีละคน สองคน ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ท่านเริ่มใช้ชีวิตที่เรียบง่ายขึ้น แม้แต่เรื่องของตระกูลก็ไม่ค่อยจะสนใจเท่าไหร่แล้ว
ยังโชคดีที่ยังมีท่านย่าคอยอยู่เคียงข้างเขา ถึงแม้ว่าช่วงสองปี ที่ผ่านร่างกายของท่านย่าก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่โดยรวมแล้วก็ดี กว่าท่านปู่เยอะเลย
เธอและท่านย่าจิ้นในหลายปีก่อนนั้นเป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อ กัน ในครั้งนี้นายหญิงหมินอยากบินออกต่างประเทศ อาจเป็น เพราะคิดว่าตัวเองก็อายุมากแล้ว พอได้เจอกันครั้งหนึ่ง โอกาสที่จะได้เจอก็น้อยไปอีกครั้งหนึ่ง จึงดื้อดึงอยากออกไปให้ได้
แต่ถ้าหากเธอไปละก็ ท่านไม่สามารถอยู่บ้านคนเดียวแน่ๆ และจะไปด้วยกันอย่างแน่นอน
แต่ร่างกายของเขา ก็ไม่สามารถทนความลำบากนั้นได้ ดังนั้น ลูจิ่งเซินจึงได้กังวล
จิ่งหนิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ความปรารถนาของคุณย่า แน่นอนว่าไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้ แต่ถ้าคุณไม่ไว้ใจจริงๆ ให้หาทีมแพทย์ที่ไว้ใจได้และติดตามตลอดทาง และก็อย่านั่ง เครื่องบินโดยสารแล้ว ให้ขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไป เมื่อไปถึงที่นั่น จะมีหมอและคนในตระกูลจิ้นคอยดูแล คิดว่าคงไม่มีปัญหา อะไร”
ลู่จิ่งเชินพยักหน้า
“ผมก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน ถ้าหากคุณย่ายืนหยัดเช่นนี้ ท้าย ที่สุดแล้วก็ต้องทำอย่างนี้
จิ่งหนิงพยักหน้า
ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก หลังจากที่กลับถึงบ้านแล้ว ป้าหลิวได้ให้คนใช้ทำอาหารเย็นไว้ก่อนแล้ว
จิ่งหนึ่งได้พาเจ้าก้อนทั้งสองไปล้างมือ ถึงจะมารับประทาน
อาหารเย็น
แต่ในเวลานี้ ในอีกด้านหนึ่ง
ปราสาทสว่างไสวและกู้ซื้อเฉียนดูเศร้าโศกเมื่อเห็นข้อความ ที่เขาเพิ่งส่งมา
เฉียวฉีก็ได้นั่งอยู่ข้างๆของเขา ใบหน้าไม่ค่อยดีนักพร้อม ขมวดคิ้วและถามว่า : “ตระกูลหนานหมายความว่าอะไร? กำหนดการสี่เดือนยังไม่ถึง ก็บีบบังคับพวกเราขนาดนี้กันเลย หรือ?
สีหน้ากู้ซื้อเฉียนหม่นหมองบูดบึง มองดูหนานหนึ่งที่อยู่ใน ห้องนั่งเล่น
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ