วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 990 มีเจตนาชั่วร้าย



บทที่ 990 มีเจตนาชั่วร้าย

เพราะไม่ใช่แค่คนของ โจวจื่อหมิงที่จับตาดูพวกเขาอยู่ ยังมี การ์ดที่ลู่จิ่งเซินพามาอีกด้วย ตอนนี้แต่ละคนพากันจ้องพวกเขา ตาไม่กะพริบ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาหลบหนี

การ์ดที่ลู่จิ่งเซินพามานั้น ต่างจากการ์ดที่ลู่หลินจือพามาโดย สิ้นเชิง

การ์ดที่ลู่หลินจือพามาล้วนเป็นแค่การ์ดธรรมดาทั่วไป แต่ การ์ดที่อยู่ข้างกายลู่วิ่งเซ็น ล้วนเป็นการ์ดมืออาชีพและถูกถอด ออกมาจากสนามจริงกันทั้งนั้น

รังสีที่แผ่ออกมานั้น ต่างกับมวยใต้ดินของพวกเขาลิบลับ

เป็นรังสีที่มีเลือดเนื้อและสนามรบค่อย ๆ หลอมรวมเข้าด้วย กันทีละน้อย เป็นความเย็นยะเยือกที่พร้อมจะฆ่าล้างใครต่อใคร ได้อย่างง่ายดาย

เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น พวกเขาก็อดหวาดกลัวไม่ได้

ในสถานการณ์แบบนี้ อย่าว่าแต่หนีเลย แค่ความคิดที่จะ ขัดขืนก็ยังไม่กล้าคิด

ผ่านไปไม่นาน โจวจื่อหมิงก็หาวิธีจัดการกับพวกเขาได้

ถึงยังไงก็เป็นคนของเขา ชายหนุ่มเองก็แข็งใจฆ่าไม่ลง ก็เลย ทำได้แค่ให้พวกเขาเข้ามาขอโทษลู่หลินจือ จากนั้นก็ตัดมือพวกเขาคนละข้าง เพื่อให้พวกเขาชกมวยไม่ได้อีก ก่อนจะปล่อยไป ลู่หลันซื้อก็เป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง พอได้ยินว่าตัดมือ ใบหน้า ก็ขีดเผือดทันที

แม้เธอจะชอบก่อเรื่องวุ่นวาย นิสัยก็ไม่ค่อยจะดี แต่พอเจอ เข้ากับสถานการณ์แบบนี้

รวมถึงได้ยินเสียงร้องโหยหวนออกมาด้วย เธอจึงเอ่ยถามจึง หนึ่งเสียงอ่อนว่า “หนิงหนิง แบบนี้มันเกินไปรึเปล่า?”

จะว่าไปแล้ว ตอนนี้เรื่องทั้งหมดก็กระจ่าง เธอเองก็ไม่ได้เสีย

หายอะไร

จิ่งหนิงตอบกลับเสียงเรียบว่า “คุณป้าคะ พวกเขาเป็นนักมวย ใต้ดิน เดิมทีในการใช้ชีวิตที่มีกำลังมากพอที่จะรังแกคนอื่นอยู่ แล้ว แต่ก็ยังมีเจตนาชั่วร้าย ไม่ใช่แค่ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ ใคร แต่พวกเขายังใช้การตายของเพื่อนมาแบล็กเมล์คนอื่นด้วย วันนี้พวกเรามาถึงที่นี่ ได้ตรวจสอบความเป็นจริงของเรื่องที่เกิด ขึ้น ซึ่งฐานะของคุณป้าก็ดีกว่าคนธรรมดาทั่วไปมากอยู่แล้ว เพราะงั้นก็เลยไม่ต้องเป็นกังวลอะไร แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นล่ะ คะ? ถ้าคนที่ถูกแบล็กเมล์ในวันนี้เป็นแค่คนธรรมดา คุณป้าคิด ว่าคนพวกนั้นจะโชคดีแบบคุณป้ารึเปล่า ไม่ใช่แค่สามารถ จัดการปัญหาได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ยังค้นพบความจริงและ ทําให้ตัวเองพ้นมลทินได้ด้วย?

ลู่หลินจือชะงักไปชั่วขณะ

พูดมาถึงตรงนี้ จึงหนิงก็หันไปพูดกับ โจวจื่อหมิงเสียงเรียบ
“ผู้ที่มีอาวุธอยู่กับตัว จะต้องไม่รังแกผู้ที่อ่อนแอมือเปล่า ไม่ เช่นนั้นหากไม่มีใครจัดการเขา สวรรค์ก็จะจัดการเขาเองเจ้านาย โจว คุณว่าจริงไหมคะ?”

โจวจื่อหมิงมีเหรอที่จะฟังไม่ออก คำพูดที่หญิงสาวกำลัง เหน็บแนมเขาอยู่

ชายหนุ่มจึงทำได้แค่ยิ้มออกมาอย่างจนปัญญา

จากนั้นจึงหนิงก็หันไปพูดกับลู่หลันจือเสียงต่ำว่า “ถ้าครั้งนี้ พวกเขาไม่ได้รับโทษ ครั้งหน้าก็คงจะก่อเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ถ้ายัง ต้องมีใครรับกรรมเป็นคนที่สอง คุณรับไม่ได้กับโทษที่พวกเขา ต้องเจอ แล้วใครจะรับได้กับผู้ที่ถูกกระทำในครั้งต่อไป?”

ลู่หลันคือเพิ่งจะเข้าใจ หญิงสาวพยักหน้ารับ

“คุณพูดถูก คนหน้าไม่อายแบบนี้ จะปล่อยไปง่าย ๆ ไม่ได้ จึงหนิงเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย

ก่อนจะเสริมอีกว่า “ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาเสียมือไปแค่ข้าง เดียว ไม่ได้เสียชีวิต หากว่าในอนาคตกลับมาเดินทางที่ถูกต้อง ได้ ต่อไปพวกเขาก็ยังมีงานอื่น ๆ ที่ทำได้อยู่ ส่วนมือแค่ไปให้โรง พยาบาลต่อให้ก็เรียบร้อยแล้ว อาจจะแค่ยกของหนักกับต่อย มวยไม่ได้อีกเท่านั้น ฉันเชื่อว่า เจ้านายโจวที่ให้ความสำคัญกับ ความชอบธรรมของทุกคนขนาดนี้ ไม่มีทางทิ้งพวกเขาไปแบบไม่ ไยดีหรอก เขาจะต้องจัดการให้ทุกคนสามารถทำงานในแต่ละ วันต่อไปได้อย่างสบาย ๆ แน่ ๆ จริงไหมคะ?”
โจวจื่อหมิงยิ่งประหลาดใจขึ้นไปอีก

เดิมทีเขานึกว่า จึงหนึ่งอาจจะแค่เดาการกระทำของคนกลุ่ม

นั้นถูก

แต่คิดไม่ถึงว่า เธอจะวิเคราะห์ได้แม้กระทั่งสิ่งที่เขาคิดอยู่ใน

ใจ

ก็จริงอย่างที่วิ่งหนึ่งว่า คนพวกนั้นอยู่กับเขามาตั้งหลายปี เขา เองก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกขนาดนั้น ถ้าจะให้ปล่อยไปแบบไม่ ไยดี ตามมีตามเกิด เขาทำไม่ลงจริง ๆ

เพราะถึงยังไงก็ไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวเขา คนกลุ่มนั้นถูกฝึกให้ ต่อสู้ด้วยมวย T ตั้งแต่เด็ก จะเป็นจะตายก็อยู่แค่ในสนามมวย จะร่ำรวยขึ้นได้ก็เพราะการต่อยมวย ทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่ง ปากท้องล้วนฝากไว้ที่สองหมัดของพวกเขาเท่านั้น

พวกเขาเคยชินกับชีวิตแบบนั้น แต่อยู่ ๆ ตอนนี้พวกเขาไม่ สามารถต่อยมวยได้ หากปล่อยออกไปพวกเขาจะทำอะไรกิน

ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างเก้อ ๆ “คุณนายไม่ใช่แค่ฉลาด เป็นกรด แต่ยังเข้าอกเข้าใจผู้อื่นอีกด้วย ขนาดว่าผมคิดอะไรอยู่ คุณนายลู่ก็เดาได้หมดเลย ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมก็จะไม่ปิดบังนะ ครับ ใช่ ผมคิดไว้แบบนั้นจริง ๆ แต่ผมก็ไม่ได้คิดเผื่อแค่พวกเขา เท่านั้น

ขณะที่พูด เขาก็หยุดไปชั่วขณะ ก่อนจะเงยหน้ามองสิ่งหนึ่ง “สิ่งที่พวกเขาทำนั้นมันผิดแต่โทษก็ไม่ถึงตาย จุดนี้คุณก็คงจะคิดเหมือนกันใช่ไหมครับ? ไม่อยากนั้นคุณคงจะไม่ยอมรับการ ตัดสินใจของผม แต่พวกคุณคงจะไม่เคยคิดว่าชีวิตของพวกเขา นอกจากต่อยมวยแล้ว พวกเขาจะทำอะไรได้อีก ถ้าจะไล่พวกเขา ออกไปทั้งอย่างนั้น ต่อไปพวกเขาจะอยู่กันยังไง?”

“อย่าพูดเลยว่าแค่พยายามให้มากพอก็ทำได้ ข้างนอกก็มีงาน อีกตั้งมากมายให้พวกเขาทำ หากว่าพวกเขาสามารถกล้ำกลืน ความลำบากตั้งใจทำงานเช้าเย็นเหมือนอย่างคนธรรมดาทั่วไป ได้ ก็คงไม่ต้องหนีมาต่อยมวยอยู่ที่นี่หรอกครับ ดังนั้น หาก ปล่อยพวกเขาออกไป ความเป็นไปได้ที่มากที่สุดก็คือพวกเขาจะ เลือกเดินทางผิด กลายเป็นอาชญากร จนสุดท้ายแล้ว คนที่รับ กรรมจะเป็นใครล่ะ?”

“การที่พวกเขาเลือกเดินเข้ามาในวงการนี้ ยังไงแต่ละคนก็มี ชีวิตที่เน่าเฟะอยู่แล้ว แต่เพราะปัจจัยด้านความมั่นคงต่าง ๆ พวก เขาจึงมักจะก่อความไม่สงบต่อสังคมขึ้นมาได้ง่าย ๆ ถึงตอนนั้น คุณนายอาจจะมีเจตนาดี ไม่อยากให้คนเลว ๆ พวกนี้มีตอนจบ ดี ๆ กัน แต่ความเจตนาดีนี้อาจกลายเป็นผลเสีย สุดท้ายแล้วก็ ต้องมีคนได้รับกรรม หากเป็นแบบนั้นมันไม่แย่ยิ่งกว่าเหรอ ครับ?”

จิ่งหนึ่งจ้องไปที่โจวจื่อหมิง

ชายหนุ่มที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า รูปร่างผอมบาง ทั้งยังสาม แว่นตากรอบสีทอง พอมองดี ๆ กลับเหมือนพนักงานราชการชั้น สูงที่ทำงานในสำนักงาน มากกว่าราชาองค์น้อย ๆ ของโลก ใต้ดินนี้เสียอีก
ก่อนหน้านี้ เธอยังนึกว่าตัวเองมองพลาดไป แต่พอได้ยินคำ พูดที่ออกมาจากปากเขาเมื่อครู่ เธอถึงได้รู้ว่าเธอมองคนไม่ผิด

ไม่อย่างนั้นจะบอกว่า เขาเป็นนักเรียนอัจฉริยะ แถมยังเพื่อน

เก่าของลู่วิ่งเซินได้ยังไงกันล่ะ?

สายตาแบบนี้ ความคิดแบบนี้ ความเป็นห่วงเป็นใยผู้อื่นแบบ นี้ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะมีได้

เธอยกมุมปาก ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย

“คำพูดของ เจ้านายโจวฉันเข้าใจแล้ว และยังเห็นด้วยกับ ความคิดนี้มาก ๆ ดังนั้นฉันจึงไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ในการกระทำ ของคุณ”

เธอหยุดไปสักพัก ก่อนจะเสริมอีกว่า “แต่ฉันก็อยากให้คุณ ช่วยรับประกันสักหน่อย หากพวกเขาอยู่ในการดูแลของคุณ จาก นี้ไปจะไม่มีการทำเรื่องที่ผิดศีลธรรมแบบนี้อีกแล้ว”

สีหน้าของ โจวจื่อหมิงดูจริงจังขึ้นมาทันที “ผมรับประกัน ถ้า ผมยังอยู่ พวกเขาจะไม่มีโอกาสได้ทำเรื่องทั่ว ๆ อีกแน่ แต่หาก วันไหนเกิดเรื่องขึ้นมาล่ะก็ ผมก็จะไม่ปรานีใครทั้งนั้น ผมจะส่งหัว พวกเขาไปขอขมาคุณนายลู่ทันทีครับ”

ท่าทางของเขาแบบนี้ ทำให้วิ่งหนึ่งหลุดหัวเราะออกมาเล็ก น้อย

“จะมาขอขมาฉันทำไม จะว่าไป พวกเราก็ยังไม่เข้าเรื่องเอง จริง ๆ เรื่องนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเราเลยด้วยซ้ำ”
ขณะที่พูด เธอก็หันไปถามลู่วิ่งเป็น “คุณว่าจริงไหม? จิ้งเซิน” ลู่จึงเป็นฝืนยิ้ม พร้อมกับพยักหน้ารับ เขากุมมือจิ้งหนึ่งไว้ ก่อนจะหันไปมองทางโจวจื่อหมิง

“เรื่องของนายฉันจะไม่ยุ่ง ยังไงเรื่องของวันนี้ก็ไม่มีส่วน เกี่ยวข้องกับคุณป้า งั้นฉันก็จะพาคนของฉันกลับแล้ว”

โจวจื่อหมิงรีบพยักหน้ารับอย่างร้อนรน ก่อนจะยืดตัวขึ้น

“ยังไงก็ตาม เรื่องในวันนี้ผมต้องขอโทษพวกคุณทุกคนด้วย เป็นลูกน้องของผมเองที่ไม่รู้ความถึงได้กล้าไปหาเรื่องคุณ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ