บทที่ 961 ผู้มีพระคุณ
ลู่หลินจืออึดอัดด้วยท่าทางมั่นใจ “ก็ได้แล้วล่ะ”
บังเอิญในเวลานี้ เหอหยวนมาหาพอดี เธอก็ปล่อยให้เห้อ หยวนควงแขนเธอ แล้วเดินบิดตัวจากไป
เชวซู่ประคองโม่ไฉ่เวย แล้วไปที่ห้องรับรองด้านหลัง
เมื่อนั่งลง เชาก็ถามอย่างเป็นห่วงทันที “คุณเป็นยังไงบ้าง? ร่างกายไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ไม่มีตรงไหนรู้สึกไม่ดีนะ?”
โม่ไฉ่เวยส่ายหน้า เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เขาเล็กน้อย “เชวซู วัน นี้ขอโทษจริงๆ นะคะ ฉันก่อเรื่องให้คุณอีกแล้ว”
เชวขมวดคิ้ว สีหน้าไม่ค่อยพอใจ
“ฉันบอกคุณกรอบแล้ว เราเป็นสามีภรรยากัน ช่วยเหลือซึ่ง กันและกันระหว่างสามีภรรยามันเป็นสิ่งที่ควรทำ อะไรคือคุณก่อ เรื่องให้ฉัน?”
เขาชะงักไป ถอนหายใจอีกครั้งแล้วพูดขึ้น อีกอย่าง ผู้หญิง คนนั้นค้านหัวชนฝาชัดๆ คุณยังยอมเธออีก
โม่ไฉ่เวยยิ้มเรียบๆ “ฉันเห็นชุดที่เธอสวมใส่ และมีความงาม สง่า มันไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดามีได้ เรามาในประเทศครั้งแรก พยายามไม่ก่อเรื่องได้ก็จะดี และวันนี้คือสถานที่จัดงานของพี่หย ด้วย เขาทำธุรกิจ ผู้ที่มาก็คือแขกทั้งหมด ทางที่ดีที่สุดเราห้ามก่อปัญหาทำให้แขกไม่พอใจ จะได้ไม่ทำลายโชคลาภของพี่หยู”
เชวรู้ความคิดเธออย่างแน่นอน แค่เห็นท่าทางเธอกล้ำกลืน ความไม่เป็นธรรมเพื่อรักษาหน้า ก็อดไม่ได้ที่จะสงสาร
เขาไม่พูดหัวข้อนี้ต่ออย่างชาญฉลาด ลูบมือไม่ไฉ่เวย “คุณนั่ง ก่อนสักพัก ฉันจะไปเทน้ำให้คุณ
โม่ไฉ่เวยพยักหน้า มองตามหลังเขาออกไป
ไม่นานนัก เชวซูก็กลับมา ในขณะที่ในมือถือน้ำแก้วหนึ่งอยู่ ก็ มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งตามหลังมาด้วย
ถึงแม้ผู้ชายจะผิวเหลือง แต่เบ้าตาลึก จมูกโด่งมาก หน้าตา ค่อนข้างคล้ายคนตะวันตก แค่มองก็รู้แล้วว่าลูกครึ่ง
เขาเดินเข้ามาด้วยใบหน้ารอยยิ้มเต็มเปี่ยม พอเข้าประตูมา ยิ้มสดใสพูดขึ้น “ในเมื่อวันนี้พวกคุณมาแล้ว ก็ต้องเดินรอบๆ สถานที่ของฉันให้เต็มที่ พวกคุณไม่รู้สินะ ที่นี่ของฉันน่ะเมื่อไม่กี่ปี ก่อนส่งคนกลับประเทศมาซ่อมแซมโดยเฉพาะเลย ด้านหน้าเป็น สถานที่จัดงานพนันหิน ด้านหลังคือคฤหาสน์ที่ฉันสร้างขึ้นเอง ช่วงเวลานี้พวกคุณอยู่ในคฤหาสน์ด้านหลัง สภาพแวดล้อมนั้น ฉันเหล่าหยุตบหน้าอกรับประกันกับพวกคุณได้เลยว่าพวกคุณ ต้องชอบแน่ๆ”
โม่ไฉ่เวยยืนขึ้น ยิ้มเล็กน้อย “พี่หนูบอกว่าดี มันก็ต้องดี แน่นอน นี่เรากลับมาครั้งนี้ ก็ต้องมารบกวนคุณอีก
ชายแซ่หยูโบกมือยกใหญ่ ทำท่าทางไม่ใส่ใจสักนิด “เฮ้อ พูดอะไรน่ะ รบกวนไม่รบกวนอะไร แน่นอนว่าถ้าไม่ใช่คุณหมอเชว ฉันตายที่ทะเลทรายไปนานแล้ว จะว่าไปแล้ว ฉันต่างหากที่ติด หนี้ชีวิตพวกคุณสามีภรรยา
เซวซูพูดขึ้นด้วยใบหน้าอ่อนโยน เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง ครับ”
“สําหรับคุณมันเรื่องเล็กน้อย สำหรับฉันคือผู้มีพระคุณนะ
สามคนพูดไปหัวเราะไป แล้วนั่งลง
ห้าปีก่อน โมไฉ่เวยและเซวออกไปท่องเที่ยว บังเอิญไปช่วย ชีวิตเจ้านายหยูในตอนนั้นที่ถูกงูพิษกัดกำลังจะตายที่ทะเลทราย พากลับมารักษาที่ปราสาท จนถึงตอนนี้มิตรภาพก็ก่อตัวขึ้น
เพราะคุณแม่ของเจ้านายหยูเป็นคนจีน ครั้งนี้ไม่ไฉ่เวยและเชว อยากกลับมาเที่ยวที่ประเทศจีน เพราะในประเทศไม่มีคนรู้จัก จึงติดต่อเขา โชคดีที่มีคนรู้จักแนะนำแนวทางได้
เจ้านายหยูนั่งสักพักหนึ่ง จู่ๆ ก็เปล่งเสียง “เฮ้อ” แล้วถามขึ้น “จริงสิ เมื่อกี้ด้านนอก ได้ยินมีคนโวยวายส่งเสียงดัง ฉันไปถาม มาถึงรู้ว่าเป็นพวกคุณ มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
โมไฉ่เวยสีหน้าเปลี่ยนไป เชาก็ขมวดคิ้ว
โม่ไฉ่เวยยิ้มพูดขึ้น “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรค่ะ เมื่อกี้ฉันหลงทา งกับอะ รีบร้อนตามหาเขา เลยบังเอิญไปชนคุณผู้หญิงท่านหนึ่ง หวังว่าจะไม่กระทบต่อธุรกิจของคุณก็พอแล้วค่ะ”
เจ้านายหยูโบกมือปฏิเสธ “ไม่เกิดขึ้นหรอกครับ แต่คุณผู้หญิงท่านนั้น คุณพูดน่ะ ฉันรู้จัก
โมไฉ่เวยตกตะลึง “คุณรู้จักเหรอคะ?”
“ครับ” พูดถึงเรื่องนี้ เจ้านายหยูก็เหมือนสนใจขึ้นมา พูดขึ้น อย่างลึกลับมาก “เธอนะ คือคนในตระกูลที่อยู่เมืองหลวง พวก คุณรู้จักตระกูลลู่ใช่ไหม?”
โม่ไฉ่เวยพยักหน้า “เคยได้ยินค่ะ เหมือนจะเป็นหนึ่งในสี่ ตระกูลใหญ่?”
“ใช่ครับ ตระกูลมีอำนาจแค่ไหนฉันไม่ต้องอธิบายเยอะเท่า ที่ฉันรู้ คุณผู้หญิงท่านนั้นเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูล ชื่อลู่หลินจือ เป็นลูกสาวของท่านผู้บุกเบิกแผ่นดิน อยู่ในเมืองหลวงมักจะ หยิ่งผยองเสมอ”
โมไฉ่เวยได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป กลายเป็นซีดเซียว อย่างคลุมเครือ
เธอลูบหน้าอกด้วยความกลัว “งั้นก็โชคดีที่ฉันไม่ได้ยั่วโมโห เธอ ไม่งั้นไม่แย่เอาเหรอ?”
เชวซูพูดแทรกอย่างเย็นชา “ยั่วโมโหแล้วยังไง? หรือว่าเธอจะ กล้ามาแก้แค้นแบบเอิกเกริกจริงๆ?”
เจ้านายหยูส่ายหน้า “ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ถึงเธอจะเป็นคุณ หนูใหญ่ตระกูลลู่ แต่ตอนนี้ผู้นำตระกูลไม่ใช่ท่านปูลู่ และไม่ใช่ เธอ แต่เป็นลู่วิ่งเป็นหลานชายเธอ จึงเป็นคนคนนั้นถึงแม้ฉันจะ ไม่เคยเจอมาก่อน แต่ได้ยินว่าเป็นคนมีเหตุผลและบุคลิกดีมากไม่เอาเอาจังกับคนอื่นเพราะโมไฉ่เวยพยักหน้าอย่างวางใจ
สามคนกำลังคุยกัน พนักงานหนึ่งเดินเข้ามาอย่าง
รวดเร็ว
เจ้านาย คุณผู้หญิงแซ่
เจ้านายหยูตกตะลึง ประหลาดใจนิดหน่อย คุณผู้หญิงแซ่ลู่
ใคร
พนักงานมองโม่ไฉ่เวย
เขาผู้ช่วยส่วนตัวของเจ้านายหยู แน่นอนว่ารู้จักโม่ไฉ่เวย จึงพูดขึ้น คือ
ในตอน
เชวซูยืนขึ้นมาทันที หน้าเย็นชา “เธออยากมาหาเรื่องใช้ ไหม? ไฉ่เวย คุณนั่งอยู่นี่
อะซู”
โม่ไฉ่เวยดึงเขากลัวจะทำอะไรพลันแล่น
เจ้านายหยยกมือขึ้น แล้วพูดเสียง“พวกคุณอย่าเพิ่ง ใจร้อน ฉันออกไปก่อน ไม่อาจจะได้มาหาพวกคุณได้ นะ? อย่าง ที่คือสถานที่ของถึงเรื่องอะไรยังมีฉันนะ ไม่ต้องให้พวกคุณลงมือหรอก ขณะที่เขาพูด ก็รีบก้าวเท้าออกไปข้างนอก
โมไฉ่เวยดึงเชวซูให้นั่งลง ในใจกังวลไม่สบายใจ ในเวลานี้ ได้ยินเสียงผู้หญิงมีเสน่ห์ดังมาจากด้านนอก
“ที่แท้คุณก็คือเจ้าของที่นี่ ฉันยังพูดอยู่เลย หาตั้งนานก็หาคุณ ไม่เจอ ฉันมีเรื่องสำคัญมากอยากปรึกษาคุณ
เจ้านายหยูยิ้มพูดขึ้น “ยินดีต้อนรับคุณครับ ยินดีต้อนรับ ครับและขออภัยที่ไม่ได้ออกไปต้อนรับ ไม่ทราบว่าคุณมีเรื่อง อะไรอยากปรึกษาฉัน?”
“คุยที่นี่ไม่สะดวก เราเข้าไปคุยกันเถอะค่ะ”
พูดจบ ก็ไม่สนการขัดขวางของเจ้านายหยู ยกเท้าเดินเข้าไป
ในห้องรับรองแล้ว
เมื่อเข้าประตูไป ก็เห็นชาหยญิงนั่งอยู่บนโซฟา
เจ้านายหยูรีบเดินตามหลังเข้าไป เห็นสถานการณ์ก็รีบอธิบาย “คุณลู่ แนะนำให้คุณรู้จักสักหน่อย สองท่านนี้คือเพื่อนของฉัน โมไฉ่เวย คุณโม่ เชวซูคุณหมอเชว”
โม่ไฉ่เวยยิ้มกระอักกระอ่วนและสุภาพให้กับเธอ แต่เชวซูทำ หน้าเย็นชาอยู่ตลอดเวลา ทำท่าทางเหมือนเธอเป็นศัตรู อยากจะ ลงมือทุกเมื่อ
ลู่หลินจือเลิกคิ้ว ประหลาดใจเล็กน้อย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ