วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 958 อบรมสั่งสอนอย่างระมัดระวัง



บทที่ 958 อบรมสั่งสอนอย่างระมัดระวัง

เธอหันศีรษะไปมองคนขับรถที่เข้ามาพร้อมอานอาน “ระหว่าง ทางเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

คนขับรถก้มศีรษะลง ดูค่อนข้างขาดความมั่นใจ

“ระหว่างทางไม่มีครับ แต่เมื่อกี้ที่เข้ามา บังเอิญเจอคุณนายกร

ครับ

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว

ลู่หลันจือ?

คนขับรถเงยหน้าเหลือบมองเธอ แล้วรีบเสริมอีกประโยคหนึ่ง “คุณนายกูวพูดอะไรบางอย่างกับคุณหนู

จิ่งหนึ่งสีหน้ามืดมน นึกถึงสิ่งที่อ่านอ่านพูดเมื่อครู่นี้ จะไม่

เข้าใจได้อย่างไรว่าลู่หลันจือพูดอะไรกับเธอ?

เธอพูดเสียงเข้ม “ฉันรู้แล้ว นายไปเถอะ

หลังจากคนขับรถออกไปแล้ว ก็เดินไปที่ห้องอานอาน ภายในห้อง อานอานกำลังนั่งโกรธไม่พูดไม่จา

เห็นวิ่งหนึ่งเข้ามา ก็ไม่สนใจเธอ บิดร่างกายแล้วหันหน้า เข้าไปด้านใน

จิ่งหนิงเห็นศีรษะผมปุยของเธอ ก็ยิ้มอย่างหมดหนทาง
“จี เกิดอะไรขึ้นกับอ่านอ่านของเรา? ใครใจกล้าทําให้เธอ โกรธ?”

จิ่งหนิงยิ้มแล้วนั่งลง ดึงไหล่เล็กของเธอแล้วถามเสียงเบา

อานจานบิดตัวแล้วแกะมือของเธอออก พูดขึ้นอย่างไม่สบ อารมณ์ “ไม่มีใคร! หนูไม่ได้โกรธ” จึงหญิงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่ได้โกรธเหรอ เมื่อกี้ใครทั้ง

ตะคอกและตะโกนใส่แม่?”

อานอาน ปาก ค่อนข้างน้อยใจ

จิ่งหนิงถอนหายใจ

“อานอาน เมื่อก่อนแม่บอกหนูไว้ว่ายังไง? ไม่ว่าจะโกรธแค่ ไหน ก็เพิกเฉย ใส่ผู้คนไม่ได้นะ มีอะไรไม่พอใจก็พูดออกมา ปัญหาแค่พูดออกมาถึงจะแก้ไขได้นะ ใช่ไหม?”

อานอานลังเลสักพัก

ผ่านไปสักพัก ก็หันศีรษะกลับมามองเธออย่างไม่สบอารมณ์

จึงหนิงถามด้วยสีหน้าจริงจัง “บอกแม่มา มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น กันแน่?”

อานอานขอบตาแดง ปากเล็ก ทำท่าทางน้อยใจอย่างยิ่ง “แม่คะ คุณย่ากูวบอกว่าแม่มีน้องสาวแล้วจะไม่รักหนู แถมยังส่ง หนูไปบ้านย่าทวดเพราะน้องสาวอีก มันจริงไหมคะ?”

จิ่งหนิงตกตะลึง
เธอแค่คิดว่าลู่หมั้นคืออาจจะพูดอะไรบางอย่างที่ไม่น่าฟังกับ อานอาน จนทำให้เธอโกรธ แต่ไม่คิดว่าเธอจะพูดสิ่งเหล่านี้

สีหน้าจิ่งหนึ่งมืดมนลง “แล้วลูกคิดว่าคุณย่าวพูดจริงไหม?”

อานอานตกตะลึง ใบหน้าเล็กมีความเหม่อลอยผ่านไปอย่าง รวดเร็ว

จึงหนึ่งแนะนำต่อ “ตามความรู้สึกที่แท้จริงภายในใจลูก ถ้า แม่มีน้องสาวคนเล็ก จะไม่รักหนู จะทิ้งหนูจริงๆ เหรอ?”

อานอานถูกถามคำถามนี้ ก็ดูเหมือนตกตะลึงอยู่ตรงนั้น นาน

มากไม่ได้พูดอะไร

จิ่งหนิงลูบศีรษะเธอ “ลูกลองคิดให้ดี คิดดีแล้วบอกแม่นะ ผ่านไปสักพักหนึ่ง สุดท้ายอานอ่านก็เอ่ยปาก พูดเสียงทุ้ม

“ไม่ค่ะ”

“แล้วทำไมลูกเชื่อสิ่งที่เธอพูดล่ะ?”

อานอานพูดไม่ออกสักพักหนึ่ง เธอมองวิ่งหนึ่ง แล้วยปากขึ้น อย่างน้อยใจ

“หนูกลัว แม่คะ หนูไม่อยากจากแม่ไป

ขณะที่เธอพูด ทันใดนั้นก็ร้องไห้งอแงออกมา แล้วโผเข้าหา อ้อมกอดจิ่งหนิง
จิ่งหนึ่งใจอ่อน ดวงตาแตงอย่างไม่มีเหตุผล

เธอกอดอานอาน ลูบหลังเธอเบาๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ไม่พูด อะไร ปล่อยให้เธอร้องไห้

ผ่านไปนานสักพัก อานอานก็หยุดร้องไห้ เงยหน้ามองเธอ

จิ่งหนิงช่วยเธอเช็ดน้ำตาอย่างอ่อนโยน “อานอาน หนูคือลูก รักของแม่ เหมือนกับน้องชายน้องสาว แม่รักพวกเขาและรักหนู เหตุผลที่ให้ลูกไปอยู่บ้านคุณปู่ทวดและคุณย่าทวดสองสามเดือน เพราะว่าแม่ท้องแล้วจะเหนื่อยเกินไป กลัวว่าจะดูแลพวกลูก สามพี่น้องไม่ไหว น้องชายชนมาก ไปแล้วจะเสียงดังกับคุณย่า ทวด ก็เลยให้หนูไป แต่ถ้าหนูไม่อยาก ก็ไม่ไปก็ได้ แต่ต่อไปต้อง เป็นเด็กดี ซนไม่ได้ ทำให้แม่กังวลเกินไปไม่ได้อีกแล้ว ได้ไหม ลูก?”

อานอ่านพยักหน้าอย่างแรง แล้วกอดเอวเธอแน่นอีกครั้ง

“หนูไม่ไปไหนทั้งนั้น หนูอยากอยู่กับแม่

วิ่งหนึ่งยิ้มอย่างอดไม่ได้ แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยน “โอเค อานอานไม่ไปไหนทั้งนั้น อานอ่านอยู่ข้างๆ แม่นี่แหละ

สองแม่ลูกคุยกันอีกสักพักหนึ่ง สิ่งหนึ่งก็ปลอบเธอให้สงบลง

ร้องไห้หนึ่งรอบ อานอานก็เหนื่อยแล้ว จึงหนิงกล่อมเธอให้บ ตอนบ่าย หลังจากเธอหลับไปแล้วก็ออกจากห้องไป

หลังจากออกมา เธอปิดประตูเสียงเบา ก็เห็นป้าหลิวยืนอยู่ไม่ ไกล มองมาทางนี้อย่างกังวล
“คุณนาย คุณหนูใหญ่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?” วิ่งหนึ่งส่ายหน้า ชี้ไปที่ด้านนอก บ่งบอกเธอว่าออกไปค่อยพูด

ทั้งสองกลับมาที่ห้องรับแขก จึงหนึ่งนั่งโซฟา ดื่มชาหนึ่งอีก ถึง ได้พูดขึ้น “ก็คุณน้าแหละค่ะ ไปบอกเธอว่าตอนนี้ฉันท้องน้องสาว คนเล็ก ก็จะไม่ต้องการเธอแล้ว แถมยังบอกว่าที่ฉันให้เธอไปอยู่ บ้านคุณย่าเพราะต้องการทิ้งเธอ

ป้าหลิวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

“คุณนายกูวพูดแบบนี้ได้ยังไง? ครอบครัวคนอื่นยึดเหนี่ยวกับ ความสามัคคีของครอบครัว เธอก็เก่งจริง นี่ยให้แตกแยกกันเห รอ?”

จึงหนิงยิ้มเยาะเย้ย

ป้าหลิวพูดอย่างอุ่นเคือง “คำพูดนี้ไม่ว่าคนอื่นจะเชื่อหรือไม่ เชื่อ ยังไงฉันก็ไม่เชื่อ ไม่พูดเรื่องอื่น แต่ไม่กี่ปีมานี้คุณปฏิบัติกับ คุณหนูอานอานยังไง ฉันเห็นทุกอย่าง รักเหมือนลูกตัวเอง จริงใจ แน่นอน”

จิ่งหนึ่งพูดเสียงเรียบ “อานอานไม่มีแม่แท้ๆ ตั้งแต่ยังเล็ก เป็น เด็กที่น่าสงสาร ดังนั้นในด้านนี้ เธอก็จะอ่อนไหวและระมัดระวัง มากกว่าเด็กคนอื่น หลายปีมานี้คุณน้าก็ทำเรื่องผิดพลาดมา เท่าไร ฉันไม่เอาเรื่องได้ แต่เธอไม่ควรยั่วยุอานอาน หลอกใช้ เด็กให้บรรลุจุดประสงค์ตัวเองเด็ดขาด

พูดถึงตรงนี้ จึงหนิงก็ค่อนข้างไม่พอใจ
ป้าหลิวพูดเห็นด้วย “จริงค่ะ ครั้งนี้คุณนายาวก็ทำเกินไปแล้ว

จิ้งหนิงคิดแล้วถอนหายใจ

“เอาล่ะ เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยคุยกันใหม่ ฉันเหนื่อยแล้ว ขอกลับ พักผ่อนที่ห้องก่อน”

ป้าหลิวพยักหน้า ก่อนจะประคองเธอกลับไปที่ห้อง

ตอนกลางคืน ลู่วิ่งเงินกลับมา จึงหนึ่งก็บอกเขาเรื่องนี้

เธอไม่มีอะไรจะต้องบ่น แต่ไม่ว่าจะเป็นคำพูดเหล่านั้นที่ หลันคือพูดกับอ่านอาน หรือจะเป็นเรื่องที่หล่อนมาหาตนเพื่อยืม เงินร้อยล้าน เรื่องพวกนี้ต้องให้ลู่วิ่งเป็นรู้เอาไว้

หลังจากลู่นิ่งเซินฟังจบก็โกรธจัด

จึงเหวี่ยงไปหนึ่งประโยค “ไม่ให้ยืม

วิ่งหนึ่งยิ้มพูดขึ้น “ไม่ต้องตอบปฏิเสธเร็วขนาดนี้ก็ได้ ถึงฉันจะ โกรธที่เธอพูดมั่วๆ กับอานอาน แต่ถ้าครั้งนี้เธอทำธุรกิจที่เหมาะ สม ให้เงินก้อนนี้กับเธอก็ไม่เสียหาย

ลู่วิ่งเซินพูดขึ้นอย่างเย็นชา “เธอทำธุรกิจอะไรที่เหมาะสมได้ ด้วยเหรอ? ก็แค่เล่นการพนัน

จิ่งหนึ่งส่ายหน้า “อาจจะไม่ใช่เสมอไปก็ได้ ลู่วิ่งเซนไตร่ตรองสักพักหนึ่ง ก็เห็นด้วยในที่สุด

“งั้นคุณก็ทำตามสมควรแล้วกัน ถ้าทำธุรกิจอะไรที่เหมาะสม ก็ให้เธอไป
ชะงักไป แล้วเสริมอีกประโยค “ต่อไปให้เธอมาเจอลูกให้น้อย ลง อย่าทําให้ลูกหลงผิด

จิ่งหนึ่งเห็นท่าทางโกรธจัดของเขา ตัวเองก็ไม่โกรธขนาดนั้น แล้ว ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ได้ๆๆ ฉันจะจำไว้ คุณรีบไปอาบน้ำเถอะ อาบเสร็จแล้วมากินข้าว”

ลู่วิ่งเป็นถึงได้เดินไปห้องน้ำ

ตอนอาหารเย็น อารมณ์ของอานอานดีขึ้นเยอะมากแล้ว และรู้ ว่าตัวเองโดนคุณย่าวหลอก ด้วยเหตุนี้จึงไม่โกรธแล้ว แถมยัง อายเล็กน้อยด้วย

จึงหนิงแสร้งทําเป็นไม่เห็น ห้องทานอาหารยังเหมือนเคย มี ความสุขสดชื่น

อานอานตกซี่โครงหมูชิ้นหนึ่งไปที่ชามเธอ ยิ้มตาหยีพูดขึ้น

“แม่คะ แม่กินนี่สิ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ