วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 955 ไม่เคยคลอดมาก่อน



บทที่ 955 ไม่เคยคลอดมาก่อน

ข่าวการตั้งครรภ์ของจิ้งหนึ่ง แพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว

คนในตระกูลรู้กันทั้งหมดโดยธรรมชาติ ทางด้านตระกูล ก็ได้ข่าวแล้วเช่นกัน

จี้หยุนซูหาเวลามาเยี่ยมเธอ โดยเฉพาะ ลุงหลานทั้งสองไม่ได้ เจอกันนานแล้ว จึงคุยกันอย่างร้อนแรง

ตอนกลางวัน เดิมทีแล้ววิ่งหนึ่งอยากให้อยู่ทานอาหาร แต่ถูก จี้หยุนซูปฏิเสธ

เขามองเธอด้วยความรัก ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ฉันหาเวลามาเยี่ยม เธอ กลางวันมีนัดกินข้าวกับเพื่อนคนหนึ่ง จะไม่กินข้าวที่นี่ เธอ ดูแลสุขภาพตัวเองให้มากๆ ระวังตรงท้องด้วย อย่าเหนื่อยเกิน ไป มีเรื่องอะไรก็โทรหาฉันได้ทุกเมื่อ

จิ่งหนึ่งพยักหน้า และไม่ได้บังคับอีก ไปส่งเขาด้วยตัวเอง แล้ว หันตัวกลับไป

ไม่คิดว่าหลังจากกลับไป ก้นยังนั่งไม่ทันร้อน ท่านปูลู่และนาย หญิงหมิ่น พาลู่หลินจือคุณน้าของจึงเป็นมาด้วย

ปัจจุบันนี้เธอและลู่วิ่งเซินอาศัยที่วิลล่าเฟิงเดียว ไปที่บ้านหลัง เก่าไม่บ่อยนัก หนึ่งคือยุ่ง สองคือผู้อาวุโสสองท่านไม่เหมือนกับ ผู้อาวุโสทั่วไป ตอนกลางคืนรู้สึกโดดเดี่ยว พวกเขามีชีวิตเป็น ของพวกเขาเอง ถ้าไม่มีเรื่องอะไร ก็ไม่ชอบให้ใครมารบกวน
ด้วยเหตุนี้ เธอกับลู่วิ่งเซ็นจึงไปเยี่ยมทุกอาทิตย์เท่านั้น แต่ ปกติจะไม่ไปเยี่ยมที่บ้าน

ในเวลานี้ ผู้อาวุโสสองท่านมาด้วยกันเลย ใช้จมูกคิดก็รู้ว่าทำ เพื่อเด็ก จิ่งหนึ่งยิ้มขณะต้อนรับพวกเขาเข้ามา นายหญิงมองท้องของ เธอ ทั้งๆ ที่ตรงนั้นมันยังแบนราบอยู่ มองอะไรไม่ออก หล่อน

เหมือนมองเห็นเหลนของตัวเอง ยิ้มจนหุบไม่ได้

“โอ๊ย หนิงหนิง เธออย่าลุกขึ้นมานั่งดีกว่า! ฉันจะบอกเธอให้ อย่าคิดว่าท้องลูกคนที่สองแล้วจะทำตามใจชอบได้ ผู้หญิงคลอ ดลูกน่ะก็คือการผ่านประตูผี แม้แต่ลูกคนที่สองก็ไม่ผ่อนคลายไป กว่าคนแรก”

จิ่งหนิงยิ้ม สั่งให้ป้าหลิวชงชา แล้วถามขึ้น “วันนี้พวกคุณมา ได้ยังไงคะ?”

นายหญิงเหลือบมองเธอ “เด็กโง่ เธอมีข่าวดี เราไม่มาเยี่ยม ได้เหรอ?”

ในเวลานี้ ลู่หลันจือที่ไม่พูดอะไรอยู่ตลอดก็พูดแทรก “ใช่ๆ เรามาเยี่ยมเธอ โดยเฉพาะเพราะดีใจกับเธอ

เมื่อก่อน ลู่หลันจือไม่ชอบวิ่งหนึ่ง วางแผนร้ายกับเธออย่าง ลับๆ ไม่น้อย

แต่ผ่านมาหลายปี บางทีอาจจะเพราะไปมาหาสู่กันเป็นเวลา นาน รู้ว่านิสัยจิ้งหนึ่งไม่ได้แย่อย่างที่เธอจินตนาการไว้ และบางทีเธออาจจะมองออก ความรักอันยาวนานของลู่จึงเขินและวิ่งหนึ่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะแยกจากกันแล้ว จึงยอมรับชะตากรรม

กล่าวสรุปคือสองสามปีมานี้ เธอไม่ได้พุ่งเป้าไปที่หล่อน

เหมือนตอนแรกแล้ว บางครั้งค่อนข้างสนิทกันด้วยซ้ำ

จิ่งหนิงรู้ว่าพ่อแม่ลู่จึงเป็นเสียชีวิตไปนานแล้ว ตอนเด็กคุณน้า คนนี้ก็ดูแลและช่วยเหลือสงเคราะห์ไม่น้อย แน่นอนว่าพายเรือ ตามน้ำอย่างสุขใจ

เธอเห็นลู่หลินจืออบอุ่นแบบนี้ ก็ยิ้มพูดขึ้น “ขอบคุณคุณน้า มากค่ะที่เป็นห่วง ลำบากแย่เลยที่พวกคุณมา เราก็เพิ่งรู้ข่าวเมื่อ สองวันก่อนเองค่ะ หมอบอกว่าเด็กสบายดี แค่ต้องบำรุงครรภ์ อย่างสบายใจก็พอ ไม่ต้องกังวลมากเกินไป

นายหญิงพยักหน้าซ้ำๆ “งั้นก็ดีแล้ว งั้นก็ดีแล้ว” ขณะที่พูด ก็ถามอย่างเป็นห่วงอีกครั้ง “อายุเท่าไรแล้ว?”

จิ่งหนิงตอบ “เพิ่งหกสัปดาห์ค่ะ”

“อุ๊ยตาย หกสัปดาห์แล้ว ทำไมเพิ่งรู้ล่ะ?”

ลู่หลินจือตะโกนเสียงดังขึ้นมา “รู้ไหมว่าสามเดือนแรกมัน อันตรายที่สุดเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไง?”

เมื่อพูดคำนี้ออกไป นายหญิงก็ไม่พอใจทันที

หันศีรษะไปจ้องเธอ “เกิดเรื่องอะไร? จะเกิดเรื่องอะไรได้? เธอ อย่าประหม่าได้ไหม สามเดือนอันตรายที่สุดอะไร พูดเหมือนเธอเคยคลอดอย่างนั้นแหละ

ลู่หมั้นคือโกรธมาก ถึงเธอจะเคยแต่งงาน แต่เพราะไม่ลงรอย กับสามี เลิกกันไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้โสด อย่าว่าแต่คลอดลูก ไม่ เคยคิดเรื่องนี้เลย

ตอนนี้นายหญิงเอาเรื่องนี้มาทำให้เธอไม่ชอบใจ เห็นได้ชัดว่า ปากพูดว่าไม่ตั้งใจ แต่คนฟังคิดมาก

เห็นขอบตาเธอเหมือนแดงขึ้นมา ซึ่งหนึ่งสืบยิ้มไกล่เกลี่ย “ถึงคุณน้าจะไม่เคยคลอด แต่ก็เคยเห็นมาเยอะมากนี่คะ อีก อย่างยิ่งหนึ่งก็เป็นคนที่คุณน้าเลี้ยงจนโตมานี่หน่า ด้านนี้แน่นอน ว่าเธอต้องเข้าใจมากกว่าฉัน ฉันเข้าใจความเป็นห่วงของคุณน้า

จึงหนังอธิบายเช่นนี้ สีหน้าหลันซื้อก็ผ่อนคลายลงนิดหน่อย

รวมถึงคนที่พูดคำนี้เป็นแม่อาวุโสของเธอ นายหญิงหมิ่น เธอ ไม่กล้าเถียงจริงๆ

ด้วยเหตุนี้จึงทำเสียงฮึดฮัดเบาๆ แสร้งทำเป็นโกรธ “แม่ คุณดู สิ หนิงหนิงพูดจาเป็น

นายหญิงตอบเรียบๆ “หล่อนคำนึงถึงเกียรติของเธอ เธอคิด ว่าทุกคนเป็นเหมือนเธอหรือไง แก่ป่านนี้แล้วยังไม่ทำสิ่งที่ควร ให้เธอไปหาผู้ชายมาแต่งงาน เธอก็ไม่ยอม เอาแต่อยู่กับคนไม่ ได้เรื่องทั้งวัน มันเหมือนอะไร
คำพูดของนายหญิง ทำให้สีหน้าผ่อนคลายของลู่หมั้นคือ ใน ตอนแรก มืดมนลงทันที

เธอยืนขึ้น พูดขึ้นอย่างสะเทือนใจ “แม่ นี่แม่พูดอะไร? อะไรคือ คนไม่ได้เรื่อง?” นายหญิงสีหน้าไม่เปลี่ยน น้ำเสียงแฝงด้วยความดูถูกอย่าง

เห็นได้ชัด “ดาราต๊อกต๋อยสองคนนั้นที่เธออยู่ด้วยคราวก่อนไง

ไม่ใช่คนไม่ได้เรื่องเหรอ?” “พวกเขาเป็นนักแสดง! มีฝีมือแสดงดีมาก! แม่ แม่ไม่รู้แล้ว อย่าพูดมั่วๆ!”

“ฝีมือแสดงดีเหรอ? เฮอะ ทำไมฉันไม่เคยเห็นพวกเขาแสดง อะไรเลย? คนประเภทนี้ไม่มีดีอะไรหรอก เธอใช้เวลากับพวกมัน น้อยๆ หน่อย”

ขณะที่เธอพูด ราวกับตระหนักอะไรบางอย่างได้ก็ยิ้มตาหยีให้ กับจิ่งหนึ่งแล้วพูดอธิบายหนึ่งประโยค “ฉันหมายถึงนักแสดง ต๊อกต๋อยที่ไม่ถ่ายหนังดีๆ วันๆ เอาแต่ยั่วยวนเจ้าชู้ไม่ได้ว่าเธอ นะ”

วิ่งหนึ่งยิ้ม แน่นอนว่าเธอเข้าใจความหมายของนายหญิงซิน

ความจริงแล้วเธอก็เคยเจอหลายครั้ง ลู่หลินจืออยู่กับหนุ่ม น้อยคนหนึ่ง เพราะเหตุผลการทำงาน หนุ่มน้อยคนนั้นเธอก็รู้จัก เช่นกัน เหมือนเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่มีชื่อเสียงอยู่บ้างในละคร ออนไลน์เมื่อปีก่อน
นิสัยเป็นอย่างไร เธอไม่เคยติดต่อด้วยก็พูดอะไรไม่ได้ แต่ หลันจือปีนี้อายุสี่สิบกว่าแล้ว หนุ่มน้อยคนนั้นแค่ยี่สิบต้นๆ ด้วย นิสัยและทัศนคติของลู่หลินจือ ถ้าบอกว่าอีกฝ่ายชอบวิสัยทัศน์ และนิสัยหล่อน เธอไม่เชื่อจริงๆ

แต่อย่างไรแล้วเหล่านี้เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ รวมถึงสถานะ ของหลินจือ ถ้าเธอต้องการเลี้ยงหนุ่มหน้าขาวสักสองสามคน จริงๆ ก็ไม่เป็นอะไร

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงไม่พูดอะไรมาก

วิ่งหนึ่งยิ้มขณะเปลี่ยนหัวข้อ “คุณย่า ช่วงเวลาที่ฉันท้อง อาจ จะดูแลอานอานและจิ้งเพื่อไม่ได้ ถึงตอนนั้นอาจจะต้องการความ ช่วยเหลือพวกคุณหน่อยนะคะ

นายหญิงยิ้มแล้วพูดขึ้น “นี่มันคำพูดอะไร ครอบครัวเดียวกัน การช่วยเหลือเป็นสิ่งที่ควรทำ”

ขณะที่เธอพูด ก็ยิ้มตาหยีลูบมือหล่อน “ฉันรู้ เธอต้องทำงาน แถมยังท้อง และต้องดูแลลูกสองคน ต้องยุ่งมากแน่ๆ รวมถึงลูก เสียงดังโวยวาย จะมีผลกระทบต่อการบำรุงครรภ์ของเธอเหมือน กัน เอาแบบนี้แล้วกัน อีกสักพักฉันจะรับจิ้งเจ๋อและอ่านอ่านไปที่ บ้านหลังเก่า เธอแค่ดูแลสุขภาพให้ดีก็พอ

จิ่งหนิงกลับส่ายหน้า

“ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณย่า คุณช่วยฉันรับอานอ่านไปดูแลสักพัก ก็พอแล้ว ส่วนจิ้งเจ๋อ ให้เขาอยู่ที่นี่ก็ได้ค่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ