วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 950 ขุดสุสานกลางดึก



บทที่ 950 ขุดสุสานกลางดึก

ท่านปู่พยักหน้า และยกมือให้เขานั่งลง จากนั้นถามต่อว่า “แล้วตอนนี้พวกคุณคิดจะช่วยเธอยังไง สามารถบอกฉันมาได้ หรือยัง”

แต่ละคนส่งสายให้กัน จากนั้นจึงเล่าวิธีที่พวกเขาคิดได้ออก

มาอย่างละเอียด

ส่วนเวลานี้ อีกฝั่ง

ท่ามกลางหลังบ้านเล็กๆ อันมืดมนเก่าแก่และทรุดโทรมห้อง หนึ่ง หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนเตียง

สองมือและสองขาของเธอถูกมัดไว้หมด ในปากก็ถูกยัดก้อน ผ้า ทั้งคนสีหน้าขาวซีด แค่ดูยังน่าสงสารมากเลย

เสียงก้าวเท้าที่ชัดเจนดังมาจากข้างนอก

ไม่นาน ประตูก็ถูกคนเปิดออกมาจากข้างนอกแล้ว ชายหนุ่ม หนึ่งคนเดินเข้ามาจากข้างนอก สีหน้าเย็นชา ถอดเสื้อกันหนาว ออกและโยนไปข้างๆ เดินมา

หญิงสาวรู้สึกเย็นวาบกับความกดอากาศในตัวของเขา แอบ ถอยหลังไปเล็กน้อย

ผู้ชายยืนอยู่ข้างเตียง มองเธอจากข้างบน สักพักเขาก้มตัวลง มา ตาแหลมคมคู่หนึ่งจ้องตาเธอตรงๆ
“เสี่ยวฮัว บอกฉันมา ปู่ทวดของคุณเอาของนั้นไปซ่อนไว้ที่ไหน แล้ว”

เสียงของเขาเย็นชามืดมน ดังงูพิษอันเหน็บหนาวตัวหนึ่ง

เสี่ยวฮัวส่ายหัว สะอึกสะอื้น พูดประโยคชัดเจนออกมาไม่ได้

ผู้ชายหมดความอดทนแล้ว ยกมือดึงก้อนผ้าในปากของเธอ ออกมาเลย จากนั้นถามด้วยเสียงเย็นซาว่า “พูดสิ! เอาของไป ซ่อนไว้ไหน

เสี่ยวฮัวตกใจจนจะร้องไห้แล้ว เพิ่งพูดออกมาว่า “ฉันไม่รู้ จริงๆ”

“ไม่รู้? แกอยู่กับเขาทุกวัน ปรนนิบัติเขากิน ปรนนิบัติเขาใส่ เสื้อ ปรนนิบัติเขาเฝ้าร้าน ของของเขาเอาไปซ่อนไว้ไหนแกจะ ไม่รู้ได้ไง แกเล่นฉันหรือเปล่าเนี่ย

เขาพูดอยู่ก็อารมณ์เสียขึ้นมา ดึงผมของเธอมา ลากเธอลง จากเตียงเลย

เสี่ยวฮัวเจ็บจนตะโกน อยากจะต่อสู้กลับสู้แรงของเขาไม่ไหว ไม่นาน คนก็ถูกลากไปถึงหน้าประตูแล้ว

“นายปล่อยฉัน ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าของที่นายอยากได้ถูกซ่อนไว้ ที่ไหน ถือว่าฉันขอร้องเถอะนะ นายปล่อยฉันไปเถอะ! แต่ดูออกว่าผู้ชายไม่ฟังคำขอร้องของเธอเลย
เขาลากเธอตลอดทางจนออกไปถึงนอกบ้าน ลากไปถึงข้าง บ่อน้ำในลานบ้าน พูดอย่างโมโหง่า “พูด! ถ้ายังไม่พูดอีกเชื่อ ไหมว่ากูจะโยนแกลงไปจากที่นี่!

เสี่ยวฮัวถูกบังคับให้นอนคว่ำข้างบ่อน้ำ มองดูบ่อน้ำลึกอันมืด สนิทนั้น ตกใจจนวิญญาณเกือบหายไปเลย

ผู้ชายบีบคอเธอไว้ กดหัวของเธอลงไปในบ่อน้ำ

“จะบอกไม่บอก จะบอกไม่บอก

เธอร้องไห้ขึ้นมา อดทนไว้ตั้งนานแล้ว ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไว้

แล้ว

“ฉันบอกๆ”

ผมถูกดึงขึ้นมา ผู้ชายเอาหน้าของเธอเงยขึ้นมา “อยู่ไหน เสี่ยวฮัวน้ำตานองหน้า “อยู่ในสุสานของย่าทวดฉัน

ผู้ชายสีหน้าเย็นชา “พากูไป!”

ฟ้าก็มืด ลมก็แรง สองคนไปที่สุสานของตระกูลชิวโดยคนหนึ่ง อยู่หน้าคนหนึ่งอยู่หลังแบบนี้

เนื่องจากว่าที่นี่อยู่ใกล้กับวิลล่าของตระกูลชิวมาก ผู้ชายไม่ กล้าปล่อยเธอออก ดังนั้น แม้ว่าเชือกตรงขาจะถูกเอาออกแล้ว ก็ตาม แต่มือยังคงถูกมัดไว้อยู่ และในปากก็ถูกยัดก้อนผ้าเข้าไป ใหม่แล้ว กลัวว่าเธอจะร้องไปเรื่อยเรียกคนมา

ขณะนี้คนที่อยู่ในหมู่บ้านไม่เยอะแล้ว และยังเป็นกลางดึกช่วงหลังแบบนี้อีกด้วย ทุกคนนอนหลับกันหมดแล้ว ดังนั้นนอกจาก เสียงแมลงร้องอยู่รอบๆ ก็ไม่มีเสียงอื่นอะไรอีกแล้ว

หลี่เก๋อลากเสี่ยวฮัวมาถึงสุสาน โดยการนำทางของเธอ ให้เธอ ชี้ “ศิลาจารึกหลุมฝังศพของย่าทวดแกคือแผ่นไหน

เสี่ยวฮัวมองดูรอบหนึ่ง จากนั้นชี้แผ่นที่อยู่ตรงกลางแผ่นนั้น

หลี่เกอทําหน้าเย็นชาเดินเข้าไป ดูตัวหนังสือบนศิลาจารึกหลุม

ฝังศพนั้น ๆ คือเธอจริงๆ

เขาลากเสี่ยวฮัวมาและพูดอย่างโมโหว่า: “บอกมา! ของถูกฝัง ไว้ตรงไหน”

เสี่ยวฮัวร้องไห้ส่ายหัว

เขาขมวดคิ้ว มองซ้ายมองขวา จากนั้นดึงผ้าที่อยู่ในปากเธอ ออกมา

“ห้ามร้อง ถ้าแกกล้าร้อง กูจะแทงแกให้ตายทันที!

ในที่สุดเสี่ยวฮัวก็กลัวอยู่ดี ถึงแม้ที่นี่อยู่ไม่ไกลวิลล่า แต่หนึ่ง คือดึกขนาดนี้แล้ว ถึงเธอเรียกก็ไม่ใช่ว่าท่านปูชิวจะได้ยิน แน่นอน

สองคือถึงแม้เขาได้ยินแล้ว รอเขาตามมาถึงตรงนี้ ตัวเองคง ตายสนิทไปนานแล้ว

ดังนั้นเธอแค่ร้องไห้พยักหน้า หลังจากผ้าในปากถูกดึงออก หลี่เก๋อจึงพูดว่า: “รีบบอกมา ฝังไว้ตรงไหน
เสี่ยวฮัวมองซ้ายมองขวาตั้งนาน สุดท้ายร้องไห้บอกว่า “ฉัน จําไม่ค่อยได้แล้ว?

“แกพูดอะไรนะ”

หลี่เก๋อทำท่าจะโมโห เสี่ยวฮัวตกใจจนสั่นทั้งตัว รีบอธิบายว่า “ฉันจำไม่ค่อยได้แล้วจริงๆ คืนนั้น ตอนที่ปู่ทวดออกมา ฉันแค่ เห็นว่าท่านดูท่าทางแปลกๆ จึงแอบตามออกมา ท่านไม่รู้ว่าฉัน ตามอยู่ข้างหลัง

ฉันเห็นท่านมาทางสุสาน รู้สึกอยากรู้อยากเห็นจึงตามมา ตลอดทาง แต่ฉันกลัวว่าท่านเห็น จึงตามอยู่ไกลๆ ตลอดทาง เห็นแค่ท่านนำของมาฝังไว้ตรงนี้จากไกลๆ แต่ฝังไว้จุดไหนฉันไม่ รู้จริงๆ

เธอพูดอย่างมีเหตุมีผล หลี่เบื่อไม่เชื่อก็ไม่ได้ แค่ส่งสายตาเย็นชาให้และพูดเสียงเหน็บแนมว่า “ถ้าแกกล้า โกหกกู กูจะปอกหนังของแกออก

เสี่ยวฮัวตกใจจนสั่นเบาๆ ไม่กล้าพูดอะไร

หลี่เก๋อจึงลากเธอไปที่ใต้ต้นไม้ข้างๆ นำเชือกมัดเธอไว้กับ ต้นไม้ จากนั้นยัดก้อนผ้าเข้าไปในปากเธอ จากนั้นขู่ว่า: “จำไว้นะ อย่าคิดจะเล่นกลหนีออกไป ถ้าแกกล้าเล่นแม้แต่นิดเดียว กูจะฆ่า แกตายทันที”

เสี่ยวฮัวพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

หลี่เก๋อจึงปล่อยเธอออก หันหลังเดินไปที่สุสานขุดหาของ
ท่านปูชีวเป็นคนเคร่งครัดมาตลอด ผู้ชายต้องฝึกกังฟู แต่ผู้ หญิงกลับห้ามฝึก ไม่อย่างนั้นจะเสียงดังขี้เล่นไม่เหมือนผู้หญิง อนาคตหาคนแต่งงานยาก

ยังไงเขาก็เป็นคนรุ่นนั้นที่เคยผ่านสมัยเก่ามา ถึงแม้คนจะก้าว เข้ามาสมัยใหม่แล้ว แต่เลี่ยงไม่ได้บางทีความคิดยังคงโบราณ อยู่

ดังนั้นผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว นอกจากหาเงินไม่ให้เสี่ยวฮัว เรียนหนังสือ แต่กลับไม่เคยสอนกังฟูให้เธอสักนิดเลย

เมื่อก่อนเสี่ยวฮัวยังไม่รู้สึกว่านี่มันมีอะไรดี แต่พอมาถึงจุดนี้ แล้ว รู้สึกได้แค่เสียดายสุดๆ

ถ้าเธอเป็นกังฟูสักนิดหน่อยก็ดีแล้ว

ถ้ามีกังฟูเธอก็สามารถต่อสู้ได้ สามารถหนีได้ ไม่จำเป็นต้อง ถูกคนกดทับไว้อย่างกับเนื้อปลาที่อยู่บนเขียงอย่างตอนนี้เลย พอคิดแบบนี้ เธอเงยหน้าขึ้นมองไปที่หลี่เกอที่อยู่ไม่ไกล เห็นแต่เขานั่งยองอยู่ตรงนั้น พยายามขุดดินก้อนหนึ่งอยู่

เนื่องจากว่าไม่รู้ทิศทางที่แน่ใจ ได้แต่ขุดสุสานทั้งหมดออกมา ทีละนิดทีละน้อย

นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยังดีที่เขาได้เตรียมตัวก่อนหน้านี้ ก่อนจะ มาได้นำพลั่วด้ามเหล็กมาด้วย เพราะฉะนั้นถึงแม้ขุดเปลืองแรง มาก แต่ความคืบหน้าก็ไม่ถือว่าช้า
ไม่นาน หลุมศพทั้งหมดก็ถูกเขาขุดเรียบหมดแล้ว

ถึงแม้จะเป็นคืนฤดูใบไม้ร่วงอันเหน็บหนาว แต่เขากลับเหนื่อย จนเหงื่อท่วมหัว เสี่ยวฮัวที่อยู่ตรงไม่ไกลดูอยู่ หลับตาลงและพูด ในใจว่าย่าทวดย่าโทษหนูนะ ย่าทวดอย่าโทษหนูนะ

เป็นเหลนสาวเองที่ไร้เดียงสา แต่ตอนนี้หมดหนทางแล้วจริงๆ ถ้ายังไม่พาเขามาอีก ชีวิตน้อยๆ ของตัวเองก็ไม่เหลือแล้ว

เธอแอบอธิษฐานเสร็จ เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เห็นแต่หลีเกือ ยังคงขุดที่ตรงนั้นอยู่เลย

แต่ทว่า เห็นเขาขุดหลุมศพออกทั้งหมดจนว่างเปล่าแล้ว ก็ไม่ เจอของที่เหมือนแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์สักนิดเลย

อย่าพูดถึงแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์เลย แม้แต่เศษผ้ายังไม่เห็น เลย นอกจากโคลนแล้วก็มีแค่โคลนอย่างเดียว

ไม่นาน ก็เจอโลงศพแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ