วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 932 งานวินิจฉัยอัญมณี



บทที่ 932 งานวินิจฉัยอัญมณี

เขามีชีวิตอยู่มาหลายต่อหลายปี และเป็นเวลานานมากแล้วที่ เขาไม่ได้เจอคนที่น่าสนใจเช่นนี้

“คุณพูดถูก สิ่งที่ฉันขอให้พวกคุณค้นหาน่ะ มันค่อนข้างที่จะ หายากจริงๆ เอาอย่างนี้ไหม ทำไมคุณไม่พูดมาล่ะ ว่าคุณ

ต้องการอะไร?”

เฉียว พูดอย่างเคร่งขรึม “ฉันต้องการให้โรคในร่างกายของ ฉันได้รับการรักษาอย่างสมบูรณ์”

หนานกงจิ่นหรี่ตาลง

“คุณอยากให้ฉันช่วยรักษามันให้คุณอย่างนั้นเหรอ?”

“ถูกต้อง!”

หนานกงจิ่นเงียบไปครู่หนึ่ง ก็ยิ้มออกมาทันที

“คุณนี่มันไร้เดียงสาจริงๆ หากในโลกนี้มีวิธีรักษาโรคนี้จริงๆ คุณคิดว่าตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหนานของเรา ยังต้องทนทุกข์ ทรมานจากโรคนี้เป็นเวลาหลายปีทำไม?”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา สีหน้าของเฉียวและกู้ซื้อเฉียน

เปลี่ยนไป

“คุณหมายความว่า ไม่มีทางรักษาเหรอ?”

“ไม่มี”
ความกดอากาศในห้องลดลงทันที และทั้งสามคนคนก็ไม่มี ใครพูดอะไรออกมา

หนานกงจีนก็ไม่ได้รีบร้อน เขาเพียงแค่นั่งดูพวกเขาเงียบๆ และดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายกำลังตกอยู่ในต่อสู้ครั้งใหญ่ ผ่านไปพักหนึ่ง ชื่อเฉียนก็พูดว่า “คุณต้องการให้เราหาอะไร

ให้คุณ?”

หนานกงจีนยิ้ม “แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์”

ตั้งแต่ออกจากคฤหาสน์มา นี่ก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว

ทั้งสองไม่ได้อยู่ที่งานเทศกาลไหว้พระจันทร์ของตระกูลหนาน ต่อ เมื่อออกมาแล้ว ก็ขึ้นเรือออกจากเกาะทันที

ซึ่งฉินเยวรอพวกเขาอยู่ที่ชายฝั่งแล้ว เมื่อลงจากเรือ ก็ตรงขึ้น

เครื่องบิน และบินกลับไปที่เมืองหลินทันที

เมื่อไปถึงปราสาท ก็เป็นเวลาบ่ายสามโมง

ลุงโอสั่งให้ฝ่ายห้องครัวเตรียมอาหารไว้รอแล้ว และทั้งสองที่ เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางตะลอน ๆ เมื่อทานอาหารเสร็จจึง พักผ่อน และทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้อีกครั้ง

เธอหยิบแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ที่ได้จากการประมูลขึ้นมา และ ตรวจดูสักครู่ แล้วกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้เราคิดยังไงก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมสมาชิกของตระกูลหนานถึงเอาของชิ้นนี้ออกมาประมูลตอนนี้ถึงได้รู้แล้วว่า พวกเขาวางแผนไว้นานแล้ว สีหน้าของกู้ซื้อเฉียนทรุดลงเล็กน้อย

“พวกเขาจงใจส่งของชิ้นนี้มาให้เรา โดยงานประมูลนั้น ไม่ว่า ใครก็สามารถเข้าร่วมได้ แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงนั้น มันถูกจัด เตรียมไว้สำหรับเรา”

เฉียวพยักหน้าเห็นด้วย และถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

“คุณคิดว่าพวกเขาหาสิ่งนี้ไปทำไมกัน? ดูจากคุณหนานกงจีน แล้วฉันไม่คิดว่าเขาเหมือนคนที่จะเชื่อข่าวลือเรื่องความเป็น อมตะเลย เขาดูไม่สนใจโลกภายนอก แล้วเขาจะมาสนอกสนใจ กับสิ่งนี้ได้ยังไง? ”

กู้ซื้อเฉียนเย้ยหยัน เขาไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเธอ

“บางครั้งคนที่ดูไม่สนใจโลกภายนอก แท้จริงแล้วกลับโลก มากกว่าอีก ฉันไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนดีอะไรหรอก”

เฉียวชะงัก และหันกลับมามองเขา “ถ้างั้นคุณบอกหน่อยว่า ทำไมเขาถึงส่งสิ่งนี้มาให้เรา? ทำไมเขาถึงเลือกให้เราหาชิ้นส่วน ที่เหลือให้เขา?”

กู้ซื้อเฉียนตอบอย่างเฉยเมย “มันง่ายมาก นั่นก็เพราะด้วย เหตุผลบางอย่าง ทำให้เขาไม่สะดวกที่จะยื่นมือออกมาทำด้วย ตัวเองน่ะสิ และพวกเราก็ดันไปมีส่วนเกี่ยวข้องแถมยังมีอำนาจ อีก ส่วนคุณก็มีเรื่องอาการป่วยที่ต้องขอให้เขาช่วย ดังนั้นเราจึง เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด และสำหรับเหตุผลที่ว่าทำไมสิ่งนี้ถูกส่งมอบให้กับเรานั้น…..”

เขาหยิบแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ชิ้นนั้นขึ้นมา และดูอย่างพินิจ พิจารณาใกล้ๆ

“บางทีอาจจะต้องการให้เราศึกษามันหรือเปล่า? ”

พูดจบ เขาก็ส่ายหน้า “ฉันก็ไม่แน่ใจนัก”

เฉียวฉีถอนหายใจ

“แล้วตอนนี้เราควรทำยังไงกันดี?

สายตาของกู้ซื้อเฉียนเคร่งขรึม ครู่หนึ่ง เขาก็ตอบว่า “ตามหา

มัน”

“จะหายังไง? โลกกว้างใหญ่ขนาดนี้ แถมเราไม่มีเงื่อนงำเลย แม้แต่นิดเดียว แต่เขากลับให้เวลาเราเพียงแค่สี่เดือนเท่านั้น”

ขณะที่ทั้งสองกำลังจะออกมา หนานกงจีนให้ยาแก่พวกเขา ทั้งหมดสี่เดือน และสั่งให้พวกเขาหาแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ทั้ง สิบสองชิ้นให้เจอภายในเดือน

ตามที่เขาพูด ขณะนี้เขามีห้าชิ้นอยู่ในมือ และกู้ซื้อเฉียนมีหนึ่ง ชิ้นอยู่ที่นี่ ซึ่งเท่ากับว่าตอนนี้พวกเขามีทั้งหมดหกชิ้น กล่าวคือ ยังเหลือหกชิ้นที่กระจัดกระจายอยู่ข้างนอกนั่น

จากข่าวลือก่อนหน้านี้ หลายคนเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ สามารถทำให้ผู้คนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทุกคนจึงตามหามัน แต่ หลังจากค้นหามานานแสนนาน กลับมีน้อยคนที่จะหาพบ
การที่จะหาแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ทั้งหกชิ้นในเวลาเพียง เดือนนั้น มันใช่เรื่องง่ายซะที่ไหนกัน?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ คิ้วของเฉียวฉีกขมวดเป็นปมขึ้นมา

กู้ซื้อเฉียนหันไปมองเธอ และยิ้มออกมาเล็กน้อย

“ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก ทุกอย่างมีทางออก จากที่เขาพูด การ รวบรวมแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์สิบสองชิ้นนี้ จะต้องส่งผลกระทบ อย่างมาก ฉันเดาว่าเขาไม่น่าจะเป็นคนเดียวที่รู้ข่าวนี้ ดังนั้นทาง ที่ดีเราน่าจะลองดูกันก่อน แล้วดูว่าใครจะมาช่วงชิงสมบัติชิ้นนี้ ไป ฉันรับประกันได้เลย ว่ากลุ่มคนที่เข้ามาจะต้องมีใครสักคนที่มี มันอยู่แล้วสักหนึ่งหรือสองชิ้น พอถึงตอนนั้นเราก็ค่อยสังเกตและ เริ่มลงมือ

เฉียว ครุ่นคิด และพยักหน้าเห็นด้วย

“บางทีนี่อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้”

เมื่อรู้สึกได้ถึงความกังวลของเธอ กู้ชื่อเฉียนก็ปลอบโยนเธอ

ไว้ในอ้อมแขนของเขา

“อย่ากลัวไปเลย ทุกอย่างจะต้องได้รับการแก้ไข คุณจะไม่เป็น อะไร พวกเราจะต้องไม่มีใครเป็นอะไร

เฉียวฉีเอนตัวไปในอ้อมแขนของเขา เธอพยักหน้า และ หลับตาลง

สามวันต่อมา เมืองหลินก็จัดงานงานวินิจฉัยอัญมณีขึ้นมา อย่างยิ่งใหญ่
ซึ่งงานนี้ก็ไม่ได้จัดขึ้นโดยใครที่ไหน แต่โดยลูกชายของ บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลิน ซึ่งก็คือหลินซึ่งนั่นเอง

หลินซึ่งเป็นลูกผู้ลากมากดีที่เป็นที่รู้จักกันดีในเมืองหลิน และ เขาไม่เคยทําอะไรไร้สาระ ดังนั้นเมื่อเขาจัดงานงานวินิจฉัย อัญมณีนี้ขึ้นมา ทุกคนจึงไม่รู้สึกแปลกใจ

แต่กลับกัน ในสายงานธุรกิจ ทุกคนต่างก็อยากรู้ว่าเขาพบ สมบัติหายากอะไรเมื่อเร็วๆ นี้ ดังนั้นเขาจึงแทบรอไม่ไหวที่จะ อวดให้ทุกคนได้เห็น

อย่างที่ทุกคนรู้ แม้ว่าคุณชายหลินจะร่ำรวย และขอวด แต่สิ่งที่ เขาโอ้อวดออกมาทุกครั้งล้วนเป็นสมบัติที่แท้จริงทั้งสิ้น ซึ่งเป็น สิ่งที่คนรวยธรรมดาทั่วไปไม่สามารถเห็นได้

เพราะฉะนั้น ถึงจะวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ แต่ก็ยังต้อง

ไปอยู่ดี

งานวินิจฉัยอัญมณีนี้จัดขึ้นในโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดภายใต้หลิน ชื่อกรุ๊ป

ณ วันที่จัดงาน แขกเหรือต่างมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง และ คนที่มีหน้ามีตาที่อยู่แถวนี้ก็มาเกือบทุกคน ทำให้ภายในห้อง โถงสนุกสนานรื่นเริง และครึกครื้นขึ้นมาทันตา

หลินซึ่งถือแก้วไวน์แดง นั่งเอนหลังอยู่บนโซฟา ยิ้มให้กับฉาก ที่มีชีวิตชีวาชั้นล่าง และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่ซือเฉียนฉันได้เรียก คนที่มีหน้ามีตาทุกคนในเมืองหลินมาให้นายแล้ว นายคิดจะทำ อะไร ก็รีบพูดมาสักที!”
ใครก็คงคิดไม่ถึงว่า งานวินิจฉัยอัญมณีที่จัดขึ้นมาโดยหลินซ นั้น แท้จริงแล้วผู้ที่วางแผนอยู่เบื้องหลังคือกู้ซื้อเฉียน

กู้ชื่อเฉียนก็ถือแก้วไวน์ด้วยเหมือนกัน และสายตาก็จับจ้องไป ที่ผู้คนที่อยู่ชั้นล่าง ไม่มีการแสดงอารมณ์ใดๆ บนใบหน้าของเขา ยังคงไว้ด้วย

สายตาที่เย็นชา มีเพียงแววตาที่มืดมิดของเขา ที่เผยให้เห็นว่า

ใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

หลินซง ใช้ศอกสะกิดแขนเขา และถามว่า “เฮ้ ที่นายต้องการ ให้ฉันจัดงานเลี้ยงหรูหราใหญ่โตเช่นนี้ ความจริงแล้วต้องการ แสดงสมบัติชิ้นไหนกันแน่? ถึงเวลาที่ต้องพูดได้แล้วใช่ไหม?”

กู้ซือเฉียนเหลือบมองเขา

ริมฝีปากบางเปิดออกเบาๆ “แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์

“หา?”

หลินซงรู้สึกประหลาดใจ “นั่นไม่ใช่ของที่นายประมูลได้จาก งานประมูลก่อนหน้านี้เหรอ?”

กู้ซือเฉียนพยักหน้า

“ก่อนหน้านี้มีคนสนใจมันเพียบเลยไม่ใช่เหรอ? ที่ฉันเอามัน ออกมา ก็เพื่อจะให้ทุกคนได้ยลโฉมสักหน่อย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ