บทที่ 908 มีวี่แวว
แม้จะไม่รู้ว่าที่กู้ซื้อเฉียนให้ไปตรวจสอบนั้นคืออะไร แต่ว่าใน ที่สุดเขาก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ตอบรับครับ จากนั้นก็หันหลัง ออกไป
ลูกน้องของฉินเยว่ มีอยู่ทีมหนึ่งสำหรับสายสืบหาข่าวสารโดย
เฉพาะ
ดังนั้น เมื่อส่งมอบหน้าที่ลงไป ไม่นาน ก็สืบได้ข่าวแล้ว
เวลาเป็นช่วงเวลาสำหรับอาหารเย็นพอดี กู้ซื้อเฉียนกับลู่วิ่ง เซินและยังมีสิ่งหนึ่ง ทั้งสามคนกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ใน ห้องอาหาร
ฉินเยว่ก้าวเท้าใหญ่เดินเข้ามาจากข้างนอก เมื่อเห็นทั้งสาม คนอยู่ตรงนั้น จึงชะงักไปครู่หนึ่ง ราวกับว่าไม่รู้ว่าจะพูดดีหรือไม่ พูดดี
กู้ซื้อเฉียนรู้ว่าเขามาทำไม และก็ไม่ได้หลบหลีก สั่งว่า“พูดมา เถอะ ”
ฉินเยว่จึงพูดขึ้นว่า “มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่คุณให้ผมไปทำเมื่อ ตอนเที่ยงวันนี้ ”
พูดพลางก็หยิบเอกสารชุดหนึ่งออกมา ใช้สองมือส่งให้เขา
“คนพวกนั้นเป็นคนของตระกูลหนาน จากการตรวจสอบ พวกเขาเคยปรากฏตัวในเมืองที่คุณเฉียวหายตัวไป แต่ว่าความ เคลื่อนไหวต่อมาเราตรวจไม่เจอ เหมือนกับมีคนตั้งใจช่วยพวก เขาปิดบัง ”
แววตากู้ซื้อเฉียนหม่นหมอง มองดูเอกสารพวกนั้น แล้วพยัก หน้า
เขาโบกมือ แล้วกล่าวว่า “ออกไปเถอะ ”
ฉินเยวจึงหันหลังจากไป
หลังจากรอเขาจากไปแล้ว กู้ซื้อเฉียนก็น่าเอกสารหลายฉบับ นั้น โยนไปตรงหน้าจึงหนิงกับลู่วิ่งเซิน แล้วกล่าวว่า “ผมสงสัยว่า เรื่องครั้งนี้ จะต้องเกี่ยวข้องกับตระกูลหนาน
ทั้งสองต่างตกใจ
ตระกูลหนาน ก่อนหน้านั้นพวกเขาย่อมเคยได้ยินอยู่แล้ว นั่นเป็นตระกูลที่มีประวัติศาสตร์มานานนับพันปี ใหญ่และ
ร่ำรวยกว่าตระกูลจื่อจินอีก
หากจะบอกว่าบนโลกใบนี้ มีเพียงตระกูลเดียวที่ทำให้คนไม่ อาจชัดเจนว่ามีอำนาจมากเท่าไหร่ ก็คือตระกูลหนาน
ขณะที่คิดเช่นนี้ จึงหนิงก็นึกถึงอำนาจลึกลับที่โจมตีกลุ่มชาว
จีนขึ้นมาทันที
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า หรือว่ากลุ่มอำนาจลึกลับที่ ว่าก่อนหน้านั้น ก็คือ………
“มีความเป็นไปได้มาก
ลู่จิ้งเซินกล่าวเสียงเคร่งขรึม อย่างไรก็ตามอำนาจใต้ดินทั้ง โลกนี้ สรุปแล้วก็มีเพียงเท่านี้ ตัดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ทั้งหมด เหลือ เพียงหนึ่งเดียวไม่ว่าจะเหลือเชื่อแค่ไหน ก็คือคำตอบที่ถูกต้อง
เมื่อประโยคนี้ของเขาออกมา คนทั้งหมดบนโต๊ะอาหารก็เงียบ ไปทันที
อารมณ์หนักหน่วงเล็กน้อย
ต้องบอกว่า หากเป็นตระกูลหนาน พวกเขายังไม่มั่นใจว่าจะ สามารถแทะกระดูกชิ้นนี้ได้ในชั่วขณะนี้
อย่างไรก็ตาม เวลาในการพัฒนาการของอีกฝ่ายไม่ใช่กี่สิบ ร้อย นับร้อยปี แต่เป็นหนึ่งพันปีเต็มๆ
ที่สำคัญ จนถึงตอนนี้ พวกเขาก็ยังไม่ชัดเจนว่า เป้าหมายของ
อีกฝ่ายที่เข้าร่วมในการสู้รบครั้งนี้คืออะไร
จิ่งหนึ่งขมวดคิ้ว แล้วกล่าวว่า “ตามหลักแล้วน่าจะไม่ใช่ พวก เขาพัฒนามาตั้งหลายปีแล้ว หากสนใจอาณาเขตของพวกเรา จริงๆ น่าจะลงมือไปนานแล้ว ทำไมต้องรอถึงวันนี้ด้วย?
“ที่สำคัญ ฉันรู้สึกว่า การลงมือในครั้งนี้ ไม่เหมือนสไตล์การ ทํางานของพวกเขา”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตระกูลหนานเป็นต้นไม้ใหญ่รากลึก แต่ ไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนมาโดยตลอด เรียบง่ายจนทำให้คน รู้สึกไม่ถึงความมีอยู่ของพวกเขา
ตระกูลที่ไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนเช่นนี้ ทำไมถึงต้องออก มาคลุกโคลนตม ในตอนนี้ด้วย
กู้ซือเจียนกล่าวเสียงเคร่งขรึม”ไม่ว่าเป็นเพราะอะไร ตราบใด ที่อะเฉียวอยู่ในมือของพวกเขา ผมก็จะต้องไปเจอสักครั้งอย่าง แน่นอน”
ทั้งสองต่างตกตะลึง เงยหน้าขมวดคิ้วมองดูเขา
จิ่งหนึ่งกล่าวว่า “คุณจะไปหาพวกเขาหรือ? อย่างไร? จะไป เอาคนกลับมา โดยตรงหรือ? พวกเขาโง่หรือถึงจะให้คุณ
กู้ซือเฉียนยิ้มเย็นชา
“ผมย่อมมีวิธีการของผม”
เมื่อเขาพูดเช่นนี้ จึงหนิงกับลู่วิ่งเซินก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก ดังนั้น พวกเขาก็เริ่มทานข้าวกันขึ้นมาอย่างเงียบๆ หลังจากทานข้าวเย็นแล้ว ต่างแยกย้ายกลับไปพักผ่อนในห้อง
นอนของตัวเอง จิ่งหนึ่งไม่อยากจะกลับไปถึงห้องเร็วขนาดนั้น จึงให้จึงเป็น ไปเป็นเพื่อนเดินเล่นที่สวนหลังบ้าน
ตอนนั้นเองที่อานอานวิดีโอคอลมาหาเธอ เธอนั่งอยู่ใต้ชั้นวาง ดอกไม้ในสวนดอกไม้ รับลมเย็นไปด้วยคุยวิดีโอคอลกับอาน อานไปด้วย
เด็กทั้งสองบอกว่าคิดถึงเธอ ให้เธอกลับไป
จึงหญิงยิ้มปลอบใจพวกเขาอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงเป็นที่นั่งอยู่ ข้างหลังก็เข้ามากอดเอวเธอไว้ กล่าวอย่างหึงหวงว่าทำไมพวก เขาไม่บอกว่าคิดถึงผมบ้าง? ”
จึงหนิงยิ้มแล้วกล่าวว่า “คุณถามพวกเขาเอง
ลู่วิ่งเป็นพิมพ์เสียงเบา ประธานผู้ทระนง ย่อมไม่ไปถาม เรื่องเล็กน้อยพวกนี้อยู่แล้ว ดังนั้น จึงไปนั่งอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ
วิ่งหนึ่งกับลูกๆคุยกันอยู่พักหนึ่ง หลังจากปลอบใจทั้งสองแล้ว จึงวางสายลง
หันหน้าไป เห็นจิ้งเซินนั่งหน้าบูดอยู่ตรงนั้น จึงเข้าไปหาด้วย รอยยิ้ม
“โถ โตขนาดนี้แล้ว ยังน้อยใจอยู่หรือ ”
ลู่วิ่งเซินเงยหน้ามองเธอแวบหนึ่ง ทันใดนั้น ยื่นมือไป ดึงเธอ เข้ามาในอ้อมกอด
เขากอดเธอไว้ จั๊กจี้เธอ แล้วกล่าวว่า “ใครหึงหวง? ใครฟัง หวงหรือ ? ”
จึงหนิงหัวเราะคิกๆคักๆ เกือบหายใจไม่ทั่วท้อง หัวเราะไม่ หยุดแล้วกล่าวว่า “ฉันผิดไปแล้ว
ลู่จิ่งเซินจึงหยุดลง
กอดเธอไว้ แล้วเสร้งทำเป็นโกรธ แล้วถามว่า “ผิดตรงไหน” จึงหนิงกลั้นยิ้มไว้ แล้วกล่าวว่า ไม่ควรจะหัวเราะเยาะคุณ
ลู่จิ้งเซินพึมพำเสียงเบา “ค่อยยังชั่ว
ทั้งสองเล่นกันอยู่ครู่หนึ่ง สิ่งหนึ่งจึงลุกขึ้นนั่งอย่างหายใจหอบ แล้วกล่าวว่า “พูดเรื่องจริงจัง คุณมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับข่าว ที่กู้ซือเฉียนได้มาวันนี้”
ลู่วิ่งเซินกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “หากว่าเป็นตระกูลหนาน เข้ามายุ่ง ไม่แน่ว่าเรื่องนี้จะซับซ้อนกว่าที่เราคิด อาจจะไม่ใช่ อาณาเขตกับผลประโยชน์ทั้งหมด น่าจะยังมีสิ่งของอย่างอื่น
วิ่งหนึ่งพยักหน้า “ฉันก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน คุณว่าตระกูล หนานพัฒนามาตั้งหลายปีแล้ว มีของดีอะไรที่พวกเขาไม่เคยเห็น บ้าง? ไม่ว่าอย่างไรก็คงไม่เพื่อผลประโยชน์จนต้องเคลื่อนไหว ใหญ่ขนาดนี้ ไม่ว่าอย่างไรตลอดเวลามานี้สไตล์ของพวกเขา เรียบง่ายมั่งคงเป็นหลัก แต่ครั้งนี้กลับมีความเคลื่อนไหวใหญ่ เช่นนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็รู้สึกผิดปกติ ”
ลู่วิ่งเซินก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรขึ้นมาได้ จู่ๆก็ถามว่า “คุณรู้ว่าหัวหน้า ตระกูลของตระกูลหนานคือใคร? ”
จึงหนิงอึ้งไป แล้วกล่าวว่า “ไม่ใช่คนที่ชื่อหนานกงยว หรือ?
ลู่จิ่งเซินส่ายหัว
เมื่อจิ่งหนิงเห็นเช่นนั้น เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเล็กน้อย
“หมายความว่าอย่างไร? หรือว่าภายในตระกูลหนาน ยังมี คนอื่นเป็นหัวหน้าตระกูลด้วย ? ”
ลู่จิ่งเซินส่ายหัว แล้วกล่าวเสียงเคร่งขรึมว่า “ไม่ หัวหน้าตระกูลมีเพียงคนเดียว แต่แม้ว่า หนานกงยวจะดำรงตำแหน่ง หัวหน้าตระกูลคนปัจจุบัน แต่ผมรู้สึกว่า คนที่กุมอำนาจแท้จริง ภายในตระกูลหนาน ไม่ใช่เขา
จิ่งหนึ่งขมวดคิ้ว “ทำไมถึงมีความรู้สึกนี้
“ผมไม่รู้”
ลู่จิ่งเซินหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “มันเป็นสัญชาตญาณ อย่างหนึ่ง! ก่อนหน้านั้นผมโชคดีเคยเจอหนานกงยวคนนี้หนึ่ง ครั้ง รู้สึกว่า……..ตามกำลังความสามารถของเขา น่าจะไม่ถึงขั้น ทำให้ตระกูลหนานพัฒนาอย่างมั่นคงมาถึงตอนนี้ได้ และที่ สําคัญเขาเป็นคนที่ชอบทำการใหญ่ และก็ไม่ใช่สไตล์การ ทำงานของตระกูลหนานที่ทำมาตลอด
จิ่งหนิงยิ้มกล่าวว่า“ไม่ถูก ชอบทำการใหญ่ ตอนนี้พวกเขา ลงมือโจมตีกลุ่มชาวจีนแล้ว นี่ไม่ใช่การแสดงการทำการใหญ่ หรือ? “
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ