บทที่ 899 ความร่วมมือของคนสองคน
แม้ว่าเธอจะสวยด้วยตัวเองอยู่แล้ว แต่อย่างไรพ่อแม่ก็ดูดีเสีย ขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ ก็เป็นกรรมพันธุ์ที่ไม่เลว
แต่เธอยังคงสังเกตรูปร่างของลูกสาวอยู่ในใจ
จิ่งหนึ่งค้นพบว่า ช่วงนี้แอบลดอาหารลง เธอไม่กินเนื้อสัตว์ จะ กินก็แค่ผักและผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำเท่านั้น
อดไม่ได้ที่จะไร้ซึ่งหนทางใด
เธอรู้ดีว่าสำหรับเด็กในวัยนี้ ความงามไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด แต่ความสูงและโภชนาการต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญมากกว่า ดังนั้นทุกมื้อ เธอจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เธอกินเนื้อมาก
เมื่ออานอานเห็นว่าปิดบังไม่ได้ ก็เลยต้องจำใจคืบเนื้อเข้าปาก ก่อนจะถามด้วยความสงสัย “หม่ามขา แด๊ดดี้คุยโทรศัพท์กับ ใครเหรอคะ?”
จิ่งหนึ่งเหลือบมองเธอ ก่อนจะพูดเสียงเบาว่า “เรื่องของ ผู้ใหญ่น่า เด็กๆอย่าไปยุ่งเลย
อานอานส่งเสียงรับทราบ
เธอทานอาหารจนหมดชาม ก่อนจะพูด “ทานเสร็จแล้วค่ะ”
จิ้งเจ๋อน้อยเป็นเด็กติดพี่ เมื่อเห็นพี่สาวไม่กินแล้ว เขาก็ไม่กิน
เช่นกัน
เขาวางชามเหมือนกัน ก่อนพูดเสียงอ้อแอ้ว่า “มาม่า หนูก็ทาน
เสร็จแล้ว” วิ่งหนึ่งมองไปยังคนเล็กและคนโตอย่างช่วยไม่ได้
เธอจําใจต้องหยิบผ้าเช็ดปากมาแล้ว เช็ดให้เด็กทั้งคู่ ก่อนจะ
พูดว่า “เสร็จแล้วก็ไปเล่นเถอะ”
เด็กทั้งสองส่งเสียงดีใจ ก่อนจะรีบวิ่งไปยังบ้านของเล่นที่อยู่
ด้านหลังทันที
จิ่งหนึ่งมองตามหลังพวกเขา ก่อนจะเผลอยิ้มออกมา และสาย หัวอย่างจนปัญญา
เธอนั่งอยู่คนเดียวบนโต๊ะอาหาร มองดูโต๊ะที่เต็มไปด้วย
อาหารเลิศรส แต่เธอกลับไม่มีความอยากอาหารเลย
เมื่อหันกลับไป ก็เห็นลู่วิ่งเซินยังคงหันหลัง คุยโทรศัพท์อยู่ เธออดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
ถึงแม้วันนี้กู้ซือเฉียนจะไม่ได้อธิบายทางโทรศัพท์ว่าอะไร แต่ ลางสังหรณ์บอกจึงหนิง ว่ามันต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่
ไม่อย่างนั้น คนที่หยิ่งทระนงอย่างกู้ซื้อเฉียน คงไม่มาขอความ ร่วมมือจากลู่นิ่งเซินหรอก
เมื่อคิดอย่างนี้ เธอก็ขมวดคิ้วน้อยๆ ใจสั่นเบาๆ
ไม่นานนัก ลู่วิ่งเงินคุยจบก็กลับมา
เมื่อเขาเดินมา จึงหนิงก็รีบถามทันที “เป็นอย่างไรคะ? เขาโทร หาคุณมีเรื่องอะไร?”
ลู่จิ่งเซินมองเธอเบาๆ ก่อนจะเอาโทรศัพท์ให้เธอ และพูดว่า “ทานให้เสร็จก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยพูดกัน
จิ่งหนิงซะงัก
อันที่จริงเธออยากรู้มาก แต่เมื่อเขาพูดอย่างนั้น เธอก็ไม่ได้ ถามเซ้าซี้อีกต่อไป และเริ่มทานอาหารอย่างเชื่อฟัง
หลังอาหารเย็น จิ่งหนึ่งขอให้คนรับใช้ที่ดูแลเด็กทั้งสองคน เข้าไปดูพวกเขาที่ห้องของเล่น เมื่อถึงเวลาก็พาพวกเขาไปอาบ น้ำเข้านอน
จากนั้น ก็กลับไปยังห้องนอนชั้นบนกับลู่วิ่งเป็น
ทันทีที่เข้าไปในห้องนอน ลู่วิ่งเซินก็พูดว่า “กู้ซื้อเฉียนให้ผม ร่วมมือด้วย เขาบอกว่าสืบหาคนที่ไล่ฆ่าพวกคุณบนเครื่องบินได้ แล้ว”
จิ่งหนิงช็อก!
ดวงตาของเธอเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อ
ในตอนแรก เธอและไม่หนานประสบอุบัติเหตุบนเครื่องบิน และหลังจากกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว พวกเขาส่งคนจำนวน มากไปที่นั่นเพื่อค้นหาว่าใครอยู่เบื้องหลังคือใคร
แต่ส่งคนแล้วคนเล่าไป พวกเขากลับไม่ได้รับอะไรกลับมา ได้ รับแต่ความเงียบงัน
ต่อมา ในที่สุดก็พบข่าวเกี่ยวกับที่อยู่ของมือสังหารที่ไล่ตาม เธอ
แต่เมื่อพวกเขามาถึงที่เกิดเหตุ ก็พบว่าคนเหล่านั้นเสียชีวิตไป นานแล้ว และร่างกายของพวกเขาก็เกือบจะกลายเป็นกระดูก
เห็นได้ชัดว่า หลังจากเรื่องราวล้มเหลว จึงถูกฆ่าอย่างรวดเร็ว คนพวกนี้ใจคอโหดร้าย แถมการทำงานยังโหดเหี้ยมมาก ไม่ เหลือจุดบกพร่องอะไรให้คนอื่นเลย
ถึงอย่างไร อำนาจของตระกูลมีอยู่แค่ในประเทศ ฝั่งนั้นเป็น พื้นที่ที่ค่อนข้างไม่คุ้นเคย ดังนั้น ภายหลังจึงมีเรื่องราวยุ่งเหยิง วุ่นวายมากมาย นอกจากจะต้องเพิ่มการปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทุกวัน ทางฝั่งนั้นยังคงมีการตามตรวจสอบ แต่กลับไม่เน้นตลอด เวลา
แต่ตอนนี้ กู้ซือเฉียนกลับมาบอกพวกเขาว่าหาตัวตนของคน พวกนั้นเจอ?
ข่าวนี้จะไม่ให้วิ่งหนึ่งแปลกใจได้อย่างไร?
เธอลังเล ก่อนจะถามว่า “หมายความว่าอะไรคะ? เขาอยากจะ ร่วมมืออะไรกับคุณกัน? คนพวกนั้นเป็นใคร?”
ลู่จิ่งเซินพูดอย่างเคร่งขรึม “เขาไม่ได้พูด แค่บอกว่าให้พรุ่งนี้ ไปหา แล้วคุยกันต่อหน้า
จิ่งหนึ่งรีบปฏิเสธไปอย่างไม่คิด
“ไม่ค่ะ ฉันไม่เห็นด้วยที่จะให้คุณไปที่นั่น
ลู่จิ้งเซินมองดูเธออย่างลึกซึ้ง
จิ่งหนิงพูดอย่างเคร่งขรึม “คุณไม่เข้าใจกู้ซื้อเฉียน เขามาหา คุณเพราะเขามีปัญหาที่เขาแก้ไขเองไม่ได้ ตอนนี้ความสัมพันธ์ ระหว่างตระกูลกู้และตระกูลเดิมทีก็ละเอียดอ่อนและตึงเครียด อยู่แล้ว หากคุณไปพบเขา แล้วเป็นการร่วมมือกันจริงก็โอเค ถ้า เป็นการขุดหลุมแล้วให้คุณกระโดดไปคนเดียวละคะ? คุณจะ โดดเข้าไปในหลุมอย่างนี้ได้อย่างไรกัน?”
ลู่จิ่งเซินพูดเสียงขรึม “แต่นี่เป็นโอกาสที่ดี
เขาหยุดไปสักพัก และพูดว่า “บนโลกใบนี้ มีเพียงหลักการ
กันไว้ดีกว่าแก้ แก้ปัญหาที่ต้นเหตุดีกว่าที่ปลายเหตุนะ หนึ่งหนึ่ง
ครั้งที่แล้วพวกคุณโชคดี พวกเขาดำเนินแผนชั่วไม่สำเร็จ แต่ครั้ง
ต่อไปละ? ครั้งต่อต่อไปอีกละ? พวกเราไม่มีใครมาการันตีได้
หรอกนะว่าจะโชคดีได้ทุกครั้ง ดังนั้นถ้าหากลากไอ้พวกนั่นออก
มาได้จริงๆ ผมจะไม่ลังเล”
คำพูดของลู่วิ่งเซิน ทำให้จิ้งหนึ่งนิ่งไป
เธอมองไปยังดวงตาที่ล้ำลึกของเขา รวมทั้งใบหน้าที่สงบแต่ก็ ยังแน่วแน่ ทันใดนั้นหัวใจของเธอก็ซับซ้อนและลังเลเล็กน้อย
“แต่ว่า…….
“ไม่มีคำว่าแต่แล้ว”
ลู่จิ่งเซ็นพูดต่อ “วางใจเถอะ เขาไม่กล้าวางกับดักผมหรอก อย่างไรตระกูลกู้ในประเทศยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของผม แม้ว่าเขาจะเป็นลูกนอกกฎหมายของตระกูลกู้ มีอคติกับตระกูลกู้ มาโดยตลอด แต่ก็ละทิ้งธุรกิจขนาดใหญ่ของตระกูลกู้ไม่ได้”
“ดังนั้น เขาไม่กล้าลงมือกับผมหรอก เหตุผลที่เขาโทรหาผม น่าจะเป็นเพราะเราเจอศัตรูกลุ่มเดียวกัน”
“ศัตรูของศัตรูคือมิตร แม้เพียงชั่วคราว ทำไมถึงไม่รอรับ ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่ายละ?”
จิ่งหนิงเงียบไปอันที่จริง เธอไม่ได้หมายความว่าซื้อเฉียนจะ ทำร้ายลู่วิ่งเซินแต่อย่างใด แต่ในสายตาของเธอ ผู้ชายคนนั้น เป็นคนปลิ้นปล้อน แต่ไหนแต่ไรมาจะไม่ยอมถูกเอาเปรียบ
จะไม่มีเหตุผลขนาดนี้ นำอารมณ์ความรู้สึกขนาดนี้มาขายให้ กับเขา?
มีปัญหาแน่นอน
เมื่อคิดอย่างนี้ เธอจึงขมวดคิ้ว พลางพูดว่า “โอเคค่ะ อยากจะ ไปก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้แต่ว่าฉันต้องไปกับคุณด้วย
ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแน่น
จิ่งหนึ่งพูด “ฉันไม่อนุญาตให้ปฏิเสธ ถ้าไม่อย่างนั้นเราก็ไม่ ต้องไปกันสักคน”
ลู่วิ่งเซินยังอยากที่จะโน้มน้าวเธออีก “หนึ่งหนึ่ง คุณ…. …
“ฉันไม่อยากฟังหลักการพวกนั้น”
จิ้งหนิงพูด เขา และมองเข้าไปยังดวงตาของเขา ก่อนจะพูด ว่า “ฉันไม่อยากฟังประโยคที่ว่าทำเพื่อลูกอะไรเทือกนั้น จึงเป็น เราเป็นสามีภรรยากันนะ จะรุ่งเรืองหรือตกต่ำเราก็ต้องลงเรือล่า เดียวกัน ภาพรวมทุกอย่างไม่ดีเท่ากับคุณ ถ้าหากคุณเป็นอะไร ไป ฉันก็อยากอยู่กับคุณ ฉันไม่อยากอยู่คนเดียวบนโลกนี้
ลู่จิ่งเซินตกตะลึง
จู่ๆ หัวใจของเขาก็รู้สึกราวกับถูกบางสิ่งกระแทกอย่างแรง อบอวลอยู่ในใจ
ทำให้รักอย่างสุดหัวใจ
เขายื่นมือออกไปคว้าวิ่งหนึ่งเข้ามากอด
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ