วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 851 น่าเบื่อที่สุดเลย



บทที่ 851 น่าเบื่อที่สุดเลย

เฉียว รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ยังไงนี่ก็ถือว่าเป็นงานเลี้ยงฉลอง วันเกิดของคนอื่น ก่อนหน้านี้ตอนทานอาหาร ยังพอมีหลินซึ่งอยู่ ด้วย แต่หลังจากที่รับโทรศัพท์ เขาก็บอกว่าต้องไปรับใครสักคน มา จากนั้นก็เดินออกไปเลย

ผ่านไปครู่ใหญ่ เขาถึงพึ่งจะกลับมานี่เอง

ถ้าพูดตามหลักการแล้ว เธอกับกู้ซื้อเฉียนถือว่าเป็นแค่แขก ถ้าดาวเด่นของงานยังไม่กลับมา พวกเขาก็ไม่ควรที่จะออกไป ก่อน

แต่ตอนนี้มีคนสองคนกลับออกไปก่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะ ดูยังไงก็น่าอึดอัดอยู่ดี

หลินซงรีบท้วงขึ้นอย่างร้อนรนว่า “ไม่ได้ไปไหนนะ เราแค่ไป เดินดูรอบ ๆ มาเฉย ๆ”

หลังจากที่ชะงักไปชั่วครู่ สายตาของเธอก็เหลือบไปมองหญิง สาวที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา อีกฝ่ายสวมเสื้อลูกไม้เอวลอยสีขาว ด้านล่างสวมกางเกงยีนรัดรูป สะพายกระเป๋าใบเล็ก มัดผมหาง มาพร้อมกับถักเปียที่ปลายผม ดูแล้วช่างอ่อนเยาว์และสดใส

เธออดไม่ได้ที่จะถามพร้อมกับรอยยิ้มว่า “ หลินซึ่งคนคนนี้ คือ….”

พอหลินซงเห็นดังนั้น เขาก็ยิ้มเบา ๆ แล้วตอบว่า “นี่คือ จิงจิงเขาชะงักไปชั่วขณะ นัยน์ตามีประกายเกิดขึ้นชั่วครู่ ก่อนจะยิ้ม แล้วพูดต่อว่า “เป็นลูกสาวของลุงฉันเอง

จากนั้นจึงเริ่มแนะนำตัวเธอกับหญิงสาวที่ชื่อ จิงจิงว่า “ จิงจิง คือเพื่อนสนิทพี่เฉียวฉีเรียกเธอว่าอะเฉียวก็ได้ ส่วนนั่นก็กู้ซือเฉีย

นพี่คงไม่ต้องแนะนำแล้วล่ะมั้ง

จิงจิงก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมรอยยิ้มกว้าง

“แน่นอนว่าไม่ต้องค่ะ ชื่อเสียงของ คุณชายสามมีใครใน โลกนี้ไม่รู้จักบ้างล่ะคะ”

หลังจากนั้น เธอก็เหลือบไปมองเฉียวและกู้ซื้อเฉียนพร้อมกับ พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดูเหมือนเราจะมาไม่ถูกเวลาสักเท่าไร คงจะ รบกวนเวลาสนุกของทั้งสองคนเข้าแล้ว

หลินซึ่งมึนงงไปเล็กน้อย ไม่ค่อยเข้าใจว่าเธอพูดเรื่องอะไร แต่เฉียว รู้ดีจิงจิง ก็ถือเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง เธอย่อมมีจิตใจที่ ละเอียดอ่อนกว่าเด็กผู้ชายเป็นธรรมดา

ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอกับกู้ซื้อเฉียนจะไม่ได้ทำอะไร แต่จิงจิงก็ยัง สัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันลึกซึ้งที่อบอวลอยู่รอบ ๆ อยู่ดี

เพราะงั้นใบหน้าของจิงจิงเลยร้อนขึ้นมาทันที ก่อนที่เธอจะพูด ขึ้นอย่างอึกอักว่า “เอ่อ งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วพวกเรากลับไปที่โต๊ะ กันเถอะ พี่ยังไม่ได้ทานข้าวนี่ใช่ไหม?”
จิงจิง รีบพยักหน้ารัว “ใช่สิ ก็พวกเราต้องแอบออกมาจาก บ้าน ไม่ง่ายเลยนะกว่าจะหนีออกมาได้ ให้เอาเวลาไหนไปกิน ข้าว”

หลินซงที่เพิ่งจะมีปฏิกิริยาตอบกลับ รีบเสริมอย่างร้อนรนว่า “อ้าว พี่ก็ลืมไปเลย รีบไปกินข้าว มาน ๆ ๆ มานั่ง ๆ

ดังนั้น คนทั้งสองจึงเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะด้านหน้าอีกครั้ง เมื่อคนที่โต๊ะอาหารเห็นพวกเขาเดินกลับไปก็ไม่ได้รู้สึกแปลก อะไร

คนมีความรักก็เป็นแบบนี้เสมอแหละ เห็นลมเป็นฝน ถือเป็น เรื่องปกติ

และเพราะมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน ซึ่งที่จริงแล้วทุก

คนต่างก็ได้ยินมาไม่มากก็น้อยว่า ที่หลินซึ่งจัดงานฉลองวันเกิด

ในครั้งนี้ก็เพื่อเด็กสาวคนหนึ่ง

พอได้เห็นสาวสวยคนหนึ่งเดินเข้ามากับเขา จะให้มีอะไร ข้องใจอีก

เพราะงั้นทุกคนเลยเริ่มซุบซิบและหยอกล้อกันขึ้นมาทันที แต่ทว่า สิ่งที่พวกเขายังไม่รู้ก็คือหลินซงนั้นชอบพอเด็กสาว แต่ยังไม่ทันได้บอกให้เจ้าตัวรับรู้เลยน่ะสิ

ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเขากับจิงจิง ยังถือว่าเป็นแค่เพื่อนกัน ทั่วไป เพราะเธอเป็นลูกสาวของคุณลุงด้วย เขาเลยกลัวว่าถ้าเกิด เรื่องอะไรที่ไม่ดีขึ้นมันอาจจะกระทบกับความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัว เพราะฉะนั้นหลินซงเลยค่อนข้างจะระมัดระวังเวลากับเธอ

และอะไรไม่ดีเกิดขึ้น อาจทำให้เธอรู้สึกไม่และไม่พอใจ

ได้

ดังนั้น จนถึงตอนนี้เขาเลยไม่เคยบอกความในใจกับเลยสักครั้ง

แต่เหล่านี้ล้วนเป็นคนเคยเดินเที่ยวกลางทุ่งดอกไม้มานาน มีจะเล่น

เพราะงั้นทั้งหนักเบา ทุกคนล้วนพูดหยอกล้อกันขึ้นมา ทําให้ตอนหน้าของหลินซงเริ่มเปลี่ยนสี

เขาทำได้แค่ยกแก้วขึ้นดื่มให้ทุกคนโปรดเมตตาเขาไว้หน่อย ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ผู้ชาย

พอจะ

เพื่อให้เกิดเรื่องแบบยังทันเริ่มจีบ สาวน้อยถูก

แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่ทุกคนทำก็ไม่ใช่ว่ามีเจตนาดีอะไร ความหมายคงประมาณว่าอยากช่วยเขาลองเชิงด้วยกันเท่านั้น

อย่างแรก คือทุกคนไม่ว่าหลินรู้สึกกับสาวคนมากน้อยขนาดไหน พวกเขาเลยอยากเห็นความรู้สึกของชายหนุ่มชัด ผ่านเรื่องที่พวกเขาหยอกล้อกัน แบบนี้จะได้รู้ว่าต่อไปพวกเขา ควรจะใช้ท่าทีแบบไหนในการเผชิญหน้ากับเด็กสาวคนนี้

อย่างที่สอง ก็คือแค่อยากลองเชิงดูท่าที่เด็กสาวที่มีต่อหลินซึ่ง เฉย ๆ เพราะถึงอย่างไร คำพูดหยอกล้อคลุมเครือเหล่านั้น ส่วน ใหญ่ก็หมายถึงเธอกับหลินซง

ถ้าอีกฝ่ายสนใจหลินซงขึ้นมาจริง ๆ บางทีอาจจะกลายเป็น เรื่องดี ๆ ที่ช่วยหลินซงเลยก็ได้ แล้วทำไมพวกเขาจะไม่ทำล่ะ?

เพราะงั้น ทุกคนก็เลยกินข้าวกันแค่ประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่ เรื่องหยอกล้อกลับพูดกันไม่หยุด

ปกติพวกเขาหยอกล้อกันเก่งอยู่แล้ว ก็เลยมีมุกใหม่ ๆ ไม่ซ้ำ มาหยอกล้อกันตลอด ทั้งหนักทั้งเบา ทำให้คนฟังถึงกับไปไม่เป็น เลยทีเดียว

พอเป็นแบบนี้ ข้าวมื้อนี้ก็เลยทานกันอย่างสนุกสนานและผ่อน คลาย

เฉียวเองก็เฝ้ามองดูอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ โดยที่ไม่ได้พูด แทรกอะไร

อันที่จริง จากความรู้สึกของเธอแล้ว เธอก็รู้สึกว่าเด็กสาวคนนี้ ก็อาจจะชอบพอหลินซงอยู่เช่นกัน

ถึงแม้จะบอกไม่ได้ว่ารู้สึกมากขนาดไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องความ รู้สึกดี ๆ ยังไงก็มีแน่
แต่น่าเสียดาย นึกไม่ถึงเลยว่าผู้ชายชื่อบื่ออย่างหลินซึ่งจะดูไม่ ออก ถึงขนาดคิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ยินยอม จนต้องใช้วิธีแบบมี เล่ห์เหลี่ยมเชิญเธอมา

เธอได้แต่ถอนหายใจ จากนั้นส่ายหน้าไปมาอยู่ในใจ

คิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

ถึงแม้จะบอกว่านี่เป็นวิธีที่ค่อนข้างโง่ แต่ก็ถือว่าได้แสดง ความจริงใจออกมามากพอ

ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายอาจจะชอบความรู้สึกจริงใจของเขาแบบนี้ ก็ได้

ตัวเธอเองก็เป็นแค่คนนอก พออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่จำเป็น แล้ว ก็ปล่อยให้ทั้งสองคนได้พัฒนากันต่อเองแล้วกัน เดี๋ยวถ้า เธอทำอะไรพลาดขึ้นมา กลายเป็นว่าไปเพิ่มปัญหาให้หลินซงอีก จะทำยังไง?

พอคิดได้ดังนี้เฉียวฉีก็เลยเก็บคำพูดที่คิดจะบอกหลินซึ่งเหล่า นั้นออกไปจนหมด

เธอยกแก้วขึ้นดื่มไปหนึ่งอีก คาดไม่ถึงว่าพอหันไปอีกทางก็ เห็นกู้ซือเฉียนกำลังมองตัวเธออย่างเงียบ ๆ อยู่

สายตาแบบนั้น ทั้งลึกซึ้งทั้งเร่าร้อน มองแล้วทำให้ใจของเธอ กระตุกขึ้นมาทันที

มือที่กำลังจะยกแก้วของเฉียวเกร็งขึ้นมาทันที วินาทีนั้น สีหน้าของเธอเริ่มหม่นแสงลง
เธอขมวดคิ้ว ก่อนจะจ้องเขม่นไปที่เขาหนึ่งที่

นัยน์ตาที่ปราดเปรียวคู่นั้นราวกับจะบอกเธอว่า มองอะไร? ถ้า ยังมองอีกระวังผมจะกินคุณ!

ตอนแรกเธอนึกว่าด้วยสถานการณ์นี้ชายหนุ่มจะเก็บอาการ สักหน่อย คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายนอกจากจะไม่มีการเก็บอาการ แล้ว ยังส่งยิ้มอ่อน ๆ มาให้เธอด้วย

เฉียวฉีเริ่มโมโห

โชคดีที่ในที่สุดเขาก็ถอนสายตาจากเธอ จากนั้นก็หยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดบางอย่างบนหน้าจอ

เฉียว เหนื่อยใจเกินกว่าจะจัดการเขา

เธอหันหน้ากลับมา กำลังเตรียมตัวจะพูดกับ จึงจึงสักสองสาม ประโยค แต่ยังไม่ทันได้เริ่ม เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพอดี

เธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ระหว่างที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูก เห็นซือเฉียนกำลังจ้องเธออยู่ คิ้วของเธอเลยยิ่งขมวดแน่นกว่า เดิม

ตอนนี้เธอเริ่มจะรู้สึกไม่ชอบใจสายตาที่เอาแต่จ้องตัวเองแบบ นี้แล้ว

แต่ถึงอย่างไร ตอนนี้เฉียวฉีก็เหนื่อยใจเกินกว่าจะจัดการเขา

จริง ๆ

เธอเลยทำเพียงแค่หยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาดู ทันใดนั้นนัยน์ตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้น

หน้าจอโทรศัพท์ปรากฏแค่ข้อความที่เพิ่งส่งมาจากชื่อเรียน

“แววตาแบบนี้ของคุณน่ารักจริง ๆ”

เฉียว ” “……???”

ในตอนนี้เธอรู้สึกราวกับว่ามีก้อนเลือดกำลังจุกอยู่ที่อกเธอ จน เธออยากจะพ่นมันออกมาเสียเดี๋ยวนี้

พ่นใส่หน้าเขา!

เฉียว รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้น่าเบื่อจริง ๆ พูดตรง ๆ คือน่าเบื่อ

ที่สุดเลย

เธอจึงเหนื่อยใจที่จะตอบเขา ก็เลยถือโอกาสเก็บโทรศัพท์ไว้ที่ เดิม ตั้งใจทําราวกับว่าไม่เห็นข้อความ

คาดไม่ถึงว่า อีกฝ่ายจะยังหยิบโทรศัพท์ออกมาพิมพ์อะไรบาง อย่างต่อ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ