วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 849 ขอคืนดี



บทที่ 849 ขอคืนดี

เธอตื่นตระหนกเล็กน้อย มือของเธอผลักเขาอย่างสุดชีวิต แต่ ร่างกายของชายคนนั้นไม่ขยับเขยื้อน ร่างกายที่บาดเจ็บของเธอ จะผลักเขาออกได้อย่างไร?

ในท้ายที่สุด พลังในการต่อต้านก็หายไป ราวกับว่าเธอถูกห่อ หุ้มอย่างแน่นหนาด้วยสายน้ำที่อ่อนโยน จนเธอไม่มีแม้แต่กะจิต กะใจที่จะต่อต้านเขา

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่

ในที่สุดกู้ซือเฉียนก็ปล่อยเธอ

ในเวลานี้ร่างกายของหญิงสาวอ่อนระทวย กระทั่งราวกับมี ม่านหมอกในดวงตาของเธอ ซึ่งเมื่อเปรียบกับรูปลักษณ์ที่ ระมัดระวังและดุดันอยู่เสมอนั้น ก็ดูอ่อนโยนและมีเสน่ห์ขึ้นเป็นก

อง

เขาเอื้อมมือออกไปด้วยความรัก และลูบไล้ที่มุมปากของเธอ

พูดอย่างอ่อนโยนว่า “เฉียว ฉันเคยบอกคุณหรือยัง ว่าเมื่อ ไหร่ก็ตามที่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณ มันก็เกี่ยวข้องกับฉันเช่นกัน”

เฉียวฉีตกตะลึง

เธอมองเขาด้วยความงุนงง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เข้าใจความ หมายของสิ่งที่เขาพูด
เขากุมมือเธอ เฉียวที่สามารถสัมผัสได้ถึง เส้นลายมือที่ ละเอียดอ่อนบนฝ่ามือเขา ชวนให้รู้สึกถึงการถูกสัมผัสที่แปลก ประหลาดในใจของเธอ

เขาพูดอย่างเคร่งขรึม “เรามาคืนดีกันดีไหม?”

เฉียวฉีตกตะลึงอีกครั้ง

เธอไม่เข้าใจว่า มันมาถึงประเด็นนี้ได้อย่างไร

เมื่อครู่พวกเขากำลังพูดอะไรกันอยู่นะ ตอนนี้ถึงข้ามมาพูด เรื่องนี้ได้

คิ้วที่บอบบางของเธอขมวดเล็กน้อย และสายหัว

“ไม่ดีหรอก”

กู้ซื้อเฉียนรู้อยู่แล้วว่าเธอจะไม่ยอมรับง่ายๆ แต่เขาก็ยังไม่ ยอมละความพยายาม และถามอีกว่า “ทำไมถึงไม่ดี?”

เฉียว เงียบ

กู้ซื้อเนียนมองเข้าไปในดวงตาของเธอ และท่าทีของทั้งสอง คนตอนนี้ก็ทำตัวไม่ถูก คลุมเครืออย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ดูเหมือนว่า ทั้งคู่ต่างก็ไม่ได้มีจิตใจที่เสน่ห์หากันมากนัก

เขาจ้องมาที่เธอ และถามว่า “เพราะเรื่องนั้นเมื่อสี่ปีที่แล้วใช่ ไหม คุณถึงยังโกรธฉันอยู่?”

ความจริงเขาไม่ต้องพูดถึงมันก็ได้ เพราะเมื่อพูดออกมา ความ ทรงจำอันเลวร้ายเหล่านั้นก็แผ่ซ่านไปทั่วจิตใจ และอารมณ์ของเฉียว ก็หงุดหงิด ในทันใด

เธอขมวดคิ้ว และพูดว่า “กู้ซื้อเฉียน ฉันติดคุกมาสี่ปีแล้ว” กู้ชื่อเฉียนพยักหน้า “ฉันรู้

“แล้วยังคิดว่าฉันจะยอมคืนดีกับคุณอีกเหรอ?”

เธอถามไปแบบนี้แต่กลับเห็นเขายิ้มจางๆ แล้วเอื้อมมือออกไป ลูบหน้าเธออย่างเบามือ จากนั้นก็เอ่ย อย่างแผ่วเบา “ฉันขอโทษ ฉันขอโทษคุณจริงๆ คุณยกโทษให้ ฉันได้ไหม?”

เฉียวฉี: “…”

ชายคนนั้นเลิกคิ้ว แล้วเสริมอีกประโยคหนึ่งว่า “หรือว่า คุณ ตั้งสักข้อหาให้ฉัน แล้วจับฉันเข้าคุก จากนั้นฉันจะอยู่ที่นั่นสี่ปีเพื่อ ชดใช้ให้คุณเอาไหม?”

เฉียว ไม่คาดคิดว่าคนคนนี้จะไร้เหตุผลขนาดนี้ เธอโมโห มาก จนผลักเขาออกไปโดยไม่รู้ตัว

แต่ออกแรงผลักออกไปเท่าไหร่ ก็ผลักไม่ไปเลย

เธอทำได้เพียงยอมแพ้ และพูดด้วยเสียงทุ้ม “ซื้อเฉียน ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณติดคุก ฉันแค่ทำใจลืมไม่ได้ว่าเกิดอะไร ขึ้น”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เธอก็พูดว่า “ถึงยังไง หมดทั้งหัวใจ ของฉันก็เคยเชื่อใจคุณ และรักคุณสุดหัวใจ แต่ผลที่ได้ กลับเป็นการทรยศและความสงสัย ตอนแรก ฉันอธิบายให้คุณฟังนับ ครั้งไม่ถ้วน ว่าฉันไม่ได้เป็นคนฆ่าผู้หญิงคนนั้น แต่คุณไม่เคยเชื่อ แล้วยังส่งฉันเข้าคุกอีก พอมาตอนนี้ คุณต้องการให้ฉันตกหลุม รักคุณอีกครั้ง ขอโทษที ฉันทำไม่ได้

เธอพูดอย่างเด็ดขาด

แม้ตาเปล่าก็มองเห็นได้ว่าใบหน้าของชายผู้นั้นก็ทรุดลงเช่น

เขามองเธอ และถามว่า “ระยะเวลาสี่ปี ในคุกนั้น คุณต้องทน ทุกข์ทรมานมากเลยใช่ไหม?

เฉียวฉีหยุดคิดครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ก็ไม่หรอก”

ไม่เพียงแต่ไม่ต้องทนทุกข์ แต่ยังมีห้องขังเดี่ยวสำหรับเธอโดย

เฉพาะ

ของใช้ที่จําเป็นต่อการดำรงชีวิตอื่นๆ ก็ไม่ขาดแคลนสําหรับ

เธอ

เว้นแต่ไม่มีอิสรภาพ

กู้ซือเฉียนพูดอย่างเคร่งขรึม “แล้วคุณคิดว่า ถ้าฉันคิดว่าคุณ ฆ่าเชียนเซียน จริงๆ แล้วในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาชีวิตของคุณจะดี ขนาดนั้นเหรอ?

แล้วตอนนี้ ฉันจะยินดีเหรอ ที่จะเอาฆาตกรที่ฆ่าลูกพี่ลูกน้อง ของฉันมาอยู่ข้างกาย?”
เฉียวฉีดก ใจ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง

“คุณพูดว่าอะไรนะ? คนคนนั้นคือลูกพี่ลูกน้องของคุณเหรอ?” กู้ซือเฉียนมองดูเธอด้วยสายตาที่หนักอึ้ง “ไม่งั้นคุณคิดว่ายัง ไงล่ะ?”

“ฉัน…

เฉียว รู้สึกสับสนเล็กน้อย

ความทรงจำเมื่อสี่ปีที่แล้วกำลังร้องครามอยู่ในหัวของเธอ

เธอจําได้เพียงว่า ในตอนนั้นกลุ่มหงส์แดงต่อสู้กับกลุ่มมังกร และหลังจากที่กลุ่มหงส์แดงพลาดพลั้งไป เธอก็ถูกสงสัยว่าเป็น หนอนบ่อนไส้ และถูกกักขัง โดยกู้ซื้อเฉียน

เธอถูกกักขังครั้งนี้ เป็นระยะเวลาครึ่งปี

และในช่วงครึ่งปีนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวข้างกายกู้ซื้อ เฉียน และทุกคนก็เคารพเธอมาก

เธอได้ยินมาอย่างคลุมเครือว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นนายหญิงของ ที่นี่ ดังนั้น เธอจึงคิดว่าอีกฝ่ายคงจะเป็นคนรักใหม่ของกู้ซื้อเนียน

แต่ความจริง… เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาเองเหรอ?

จากนั้นเธอก็นึกออกว่าปราสาทนั้น เป็นสิ่งที่แม่ของกู้ซื้อเฉีย นทิ้งไว้ให้

ลูกพี่ลูกน้องคนนั้น ก็เป็นคนในครอบครัวทางฝั่งแม่ของกู้ชื่อ เฉียน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าเธอเป็นเจ้าของครึ่งหนึ่ง
อารมณ์ของเฉียว สับสนงุนงงไปพักหนึ่ง

เธอขมวดคิ้ว มองดูเขา และถามด้วยความสงสัย ” ในเมื่อคุณ ไม่ได้คิดว่าฉันฆ่าเธอ แล้วท่ากับฉันอย่างนี้ทำไม? คุณไม่รู้เหรอ ว่าประสบการณ์นี้มันสาหัสกับฉันขนาดไหน?”

กู้อเนียนมองดูเธอ ในใจก็รู้สึกสับสน มีบางเรื่อง ที่เขาเตรียมที่จะพูดออกมา

แต่เมื่อพิจารณาจากเหตุผลบางอย่างแล้ว ในที่สุดก็ไม่ได้พูด ออกไป

เขาเพียงถอนหายใจออกมา และพูดว่า “เฉียว สำหรับเรื่องที่ ผ่านมาฉันรู้ตัวว่าฉันไม่ดีเอง ฉันขอโทษ ถือว่าให้โอกาสฉันสัก ครั้งได้ไหม? พวกเรามาเริ่มกันใหม่อีกครั้งเถอะ”

เฉียวที่เพิ่งระบายความโกรธของเธอไป รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย

เธอหันไปด้านข้าง และพูดด้วยเสียงราบเรียบว่า “ไว้ค่อยพูด ทีหลังเถอะ ตอนนี้ฉันยังตัดสินใจไม่ได้”

เธอในขณะนี้ ยังไม่ต้องการเผชิญกับปัญหานี้

เพราะเธอไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะตัดสินใจอย่างไร

สิ่งเหล่านั้น ในอดีตเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถลืมได้ง่ายๆ และยิ่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้ เมื่อเผชิญกับคำขอของกู้ซื้อเฉียน เธอก็ยังตัดใจยอมแพ้ไม่ลง

ดังนั้นเธอไม่รู้จริงๆ ว่าต้องทำอย่างไร
ชื่อเรียนเห็นท่าทีของเธอ ดวงตาของเขาก็สลดลง

แต่สุดท้าย ก็ไม่ได้เข้าเธอต่อ

เขาเพียงถอนหายใจเบาๆ ยืดตัวขึ้น และลูบหัวเธอ เขากระซิบ “เฉียวฉี ตราบใดที่คุณไม่ทิ้งฉันไป สิ่งอื่นใดนั้นฉัน ก็ไม่ต้องการอีกแล้ว”

ร่างกายของเฉียวฉีสั่นเทา

จากน้ำเสียงของชายหนุ่มนั้นฟังออกได้อย่างง่ายดาย ฟังดู เหมือนกับคนที่เอาความต้องการของตัวเองเป็นใหญ่

เธอกัดริมฝีปากแน่น และไม่พูดอะไร

ในเวลานี้ หลินซงเข้ามาเรียกให้พวกเขาออกไปกินข้าวพอดี ดังนั้นพวกเขาทั้งสองจึงเดินออกไป

เนื่องจากเท้าของเฉียวฉีบวม กู้ซื้อเฉียนจึงไม่ให้เธอสวม รองเท้าส้นสูงแล้ว และได้ขอให้บางคนนำรองเท้าส้นเตี้ยมาให้ เธอ

โชคดีที่กระโปรงที่เธอใส่วันนี้ยาวคลุมเข่า ดังนั้นถึงแม้เธอจะ เปลี่ยนรองเท้า ก็จะไม่มีส่วนไหนที่ไม่เข้าชุดกันอยู่ดี

เมื่อทั้งสองออกไปข้างนอก งานเลี้ยงก็ถูกเปิดไปแล้ว

หลิงซงจัดแจงหาโต๊ะไว้ให้พวกแล้ว เป็นโต๊ะแรก โต๊ะนี้ สำหรับเพื่อนสนิทที่สุดของหลินซง และผู้ที่มีตำแหน่งสูงสุดใน งานนี้
ทุกคนรู้จักชื่อเจียน และในระหว่างงานเลี้ยง ก็ขาดไม่ได้ที่จะ มีการชนแก้วและดื่มฉลองกัน

เพราะว่าเฉียว มากับกู้ซื้อเนียน ดังนั้นระหว่างทานอาหารเย็น

จึงต้องนั่งด้วยกัน กู้ซือเฉียนคอยตักอาหารให้เธอ ทั้งซุปและอื่นๆ เขาดูแลเธอ อย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้

ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาผู้อื่น ก็ยิ่งทำให้ดูน่า ประหลาดใจมากยิ่งขึ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ