บทที่ 827 ใครเป็นคนวางยา
จนกู้ซื้อเฉียนกลับมาที่ปราสาท เขากลับมาอย่างรวดเร็ว เรียก ว่าแทบจะทันทีหลังจากได้รับข่าว และใช้เวลาครึ่งชั่วโมงก็กลับ มาถึงบ้านแล้ว
อีกด้านหนึ่งของห้องพยาบาล การล้างท้องก็เสร็จสิ้นเช่นกัน ทําให้หลินเยว่เอ๋อร์พ้นจากอันตรายชั่วคราว หลังจากตรวจสอบและวิเคราะห์พิษแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์นี้เกินความคาดหมายของทุกคน
ถึงเวลาที่หมอจะแจ้งผล เฉียวเองก็อยู่ เสี่ยวเยว่เป็นเธอที่อยู่ บนรถเข็นเข้าไป
เธอไม่ได้สนใจกู้ซื้อเฉียน ทั้งสองไม่แม้แต่จะสบตากัน ต่าง
ฝ่ายต่างอยู่เงียบๆ ตรงนั้นและรอฟังผล
เมื่อเห็นหมอออกมาจากห้องพยาบาลด้วยสีหน้าย่ำแย่
เขาพูดเสียงขรึม: “ผลออกมาแล้วครับ โดนสารหนู
อะไรนะ?
สารหนู?
ทุกคนต่างตกตะลึง
กู้ซือเฉียนกับเฉียวฉีขมวดคิ้วแน่น
จากนั้นก็เห็นหมอหันไปมองเสี่ยวถาวที่อยู่ข้าง ๆ และถาม “วันนี้คุณหลินรับประทานซุปเห็นหูหนูขาวเม็ดบัวไปใช่ไหม?”
เสี่ยวถาวตกใจและรีบพยักหน้า “ใช่ค่ะ ซุปนั่นฉันไปตกมา จาก ในครัว ทําไมเหรอคะ?”
หมอหยิบรายงานออกมาชุดหนึ่งด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเล็ก
น้อย
“พิษอยู่ในซุปถ้วยนั้น นี่คือรายงานความเป็นพิษที่สกัดจาก เห็ดหูหนูขาวที่ขับออกจากกระเพาะของเธอ พวกคุณลองดูสิ”
ไม่รอเสี่ยวถาวได้ทันรู้สึกตัว กู้ซื้อเฉียนก็แย่งรายงานฉบับนั้น ไปดูแล้ว
พอเห็นสีหน้าเขาก็เคร่งขรึมทันที
อย่างไรก็ตาม เสี่ยวเยวซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเฉียว จู่ ๆ ก็นึกถึง อะไรบางอย่าง ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปในทันใด
เสี่ยวถาวยังคงอธิบายอย่างตื่นตระหนก
“จะเป็นไปได้ยังไง? ซุปนี้ฉันเป็นคนไปตักมาจากในครัวเอง กับมือ หลังจากตักและยกมาที่ห้อง หลินเยว่เอ๋อร์ก็รับประทาน ระหว่างนั้นก็ไม่ได้ผ่านมือบุคคลที่สามเลย แล้วจะโดนวางยาได้ ยังไง?”
พูดจบ ทันใดนั้นเธอก็หันไปมองแม่ครัวที่ชื่อจางเพิ่งที่ยืนอยู่ อีกฟากหนึ่ง
“ฉันรู้แล้ว จะต้องเป็นเธอ! เธอเป็นคนวางยาใช่ไหม?” เธอร้องออกมาแบบนี้ทำให้สายตาของทุกคนมองไปที่จางเพิ่ง ในทันที
เสี่ยวถาวกรีดร้อง: “ฉันรู้แล้ว จะต้องเป็นเธอที่แอบโกรธคุณ หลินที่ไม่ควรโทษเธอที่ขโมยรังนก ดังนั้นวันนี้เธอก็เลยคิดจะ วางยาฆ่าเธอ ทำไมเธอถึงได้ใจร้ายแบบนี้?”
พูดจบก็ทำท่าเหมือนจะเข้าไปทำร้ายจางเพิ่ง อย่างไรก็ตามมีคนจํานวนมากอยู่ตรงนี้ แล้วจะไปทำร้ายเธอ ได้อย่างไรกัน?
กู้ซือเฉียนก็ตะโกนออกมาอย่างเย็นชา “พอแล้ว!”
ทันใดนั้นก็มีคนเข้ามาห้ามเธอไว้ เขามองไปที่จางเพิ่งอย่างเคร่งขรึมและถาม: “เธอเป็นคนต้ม
ซุปนี้เหรอ?”
จางเพิ่งตกตะลึงในเวลานี้ และไม่เคยคิดเลยว่าซุปเห็ดหูหนู ขาวที่ตนเองทำจะมีพิษ
เธอโบกมือไปมาและอธิบาย “ฉันเปล่านะคะ ถึงฉันจะเป็นคน ต้มซุปนี่ แต่ฉันไม่ได้ใส่ยาพิษนะคะ ฟ้าดินเป็นพยาน ถึงแม้ฉันจะ ไม่ชอบคุณหลิน แต่เธอเป็นแขกของคุณ ฉันเป็นแค่แม่ครัวของที่ นี่ ฉันจะกล้าทําร้ายเธอได้ยังไงคะ?”
เสี่ยวถาวได้ยินแล้วร้องขึ้น “ไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร? ในที่นี้คนที่มีเรื่องกับคุณหลินและมีโอกาส ก็มีแค่เธอคนเดียว?” จางเฟิงไม่เคยคิดเลยว่า จะมีวันที่ตนเองจะต้องมาเจอเรื่อง แบบนี้
จะบอกว่าสองวันนี้เธอดวงซวยก็ได้ ไม่โดนคนใส่ร้ายว่าขโมย รังนก ก็ถูกคนใส่ร้ายว่าวางยาฆ่าคน
เรียกว่าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก มีแต่เรื่องซวยไม่หยุด
หย่อน
ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรออกและแววตาเป็นประกาย
“อ๊ะ ใช่แล้ว ซุปเห็ดหูหนูขาวเม็ดบัวนี้ เดิมที่ไม่ได้ทำให้คุณ หลินรับประทานนะคะ หากฉันต้องการจะวางยาทำร้ายเธอ ทำไม ฉันถึงไม่วางยาในอาหารกลางวันของเธอ แต่มาใส่ในซุปเห็ด หูหนูขาวถ้วยนี้ หรือว่าฉันรู้ก่อนว่าวันนี้เธออยากจะรับประทาน ซุปเห็ดหูหนูขาว?”
พอพูดไปแบบนี้ ทุกคนต่างก็ตกตะลึงครู่หนึ่งราวกับไม่เข้าใจ
ว่าเธอหมายถึงอะไร
ตอนนั้นเองเสี่ยวเยวก็ก้าวออกมา
เธอพูดเสียงขรึม: “ฉันยืนยันได้ค่ะ ซุปเห็ดหูหนูขาวเม็ดบัว ถ้วยนี้ เดิมทีฉันเข้าครัวไปสั่งป้าจางไว้แต่เช้า ให้เธอทำให้คุณ เฉียวรับประทานเพื่อดับร้อน คิดไม่ถึงว่าพอทำเสร็จ ฉันจะเข้า ครัวไปเอาเสี่ยวถาวกลับแย่งไป
เธอหยุดและหันไปมองเสี่ยวถาวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ดังนั้นหากจะหาฆาตกร ไม่น่าจะใช่ป้าจางค่ะ แต่เป็นเสี่ยวถาวที่แย่ง เอาซุปเห็ดหูหนูขาวไปต่างหาก
เสี่ยวถาวได้ยินแล้วก็ตกใจ
ไม่คิดเลยสักนิดว่าเรื่องจะพัฒนามาถึงจุด ๆ นี้ได้
ทันใดนั้นเธอก็ร้องขึ้น “ฉันเปล่านะ! คุณหลินดีกับฉันขนาดนั้น ฉันจะอยากทำร้ายเธอทำไม? เธออย่ามาพูดจามั่วๆ นะ!”
พูดจบ ทันใดนั้นก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นได้แล้วหันไปมองเฉียว อย่างไม่น่าเชื่อ
“ดังนั้น ยาพิษในซุปถ้วยนี้ เดิมที่ไม่ใช่ให้คุณหลินของเรา แต่
เป็นคุณ?” ตอนนี้เองแทบจะทุกคนได้สติและมีเพียงเธอเท่านั้นที่
มะงุมมะงาหราและเพิ่งจะรู้ตัว
สีหน้าของกู้ซือเฉียนมืดมนลงกว่าเดิม
เขามองไปที่เสี่ยวถาวอย่างเย็นชา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงพูดเสียง ขรึม: “ฉินเยว!”
ฉินเยว่เดินออกมาจากด้านหลังเขาและตอบด้วยความเคารพ “พี่ใหญ่”
“ให้คนไปสืบดูว่าช่วงนี้มีใครอยู่ใกล้ชิดกับห้องครัว ใครเป็น คนวางยาพิษ และวันนี้ใครเข้าไปในครัวบ้าง ตรวจดูทุกคนอย่าง ละเอียด จะต้องจับฆาตกรที่วางยา ให้ได้!
ฉินเยวขนหัวลุกและรีบรับค่า “ครับ”
ทุกคนจึงแยกย้าย
ลุงโอช่วยฉินเยว่เพื่อตรวจสอบคนรับใช้และเจ้าหน้าที่รักษา ความปลอดภัยในปราสาททีละคน
เมื่อเฉียวเห็นว่าทุกคนต่างแยกย้ายจึงได้ให้เสี่ยวเยว่เป็น ตนเองออกไป
เพราะตอนนี้มั่นใจแล้วว่าคนที่วางยามุ่งเป้าไปที่เธอ ดังนั้นเธอ กับเสี่ยวเยวจึงเป็นเพียงสองคนที่เป็นผู้บริสุทธิ์ที่สุดในเรื่องนี้
เธอนั่งอยู่บนรถเข็นและกำลังกลับไปยังห้อง
โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าข้างหลังมีสายตาที่ลึกและซับซ้อนซึ่ง จ้องมาที่เธออย่างใกล้ชิด
หลินเยว่เอ๋อร์ตีนขึ้นในตอนบ่าย
หลังจากผ่านการโดนวางยาพิษและการรักษาอย่างทรมาน คนที่ปกติดีกลับกลายเป็นเหมือนคนป่วยโรคร้ายแรง และตัวเธอ ก็ดเล็กน้อย
เธอนอนอยู่บนเตียงและเห็นเสี่ยวถาวที่อยู่ข้างเตียงจึงถาม “ฉันเป็นอะไรไป?”
เสี่ยวถาวยังคงสะอึกสะอื้น พอได้ยินเสียงเธอก็รีบเงยหน้าขึ้น วินาทีถัดมาก็ปรากฏความยินดีขึ้นในแววตา
“คุณหลิน คุณตื่นแล้วเหรอคะ?”
หลินเยว่เอ๋อร์รู้สึกสับสนเล็กน้อย
ผ่านไปสักพักจึงได้สติและถาม “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? เสี่ยวถาวรีบเล่าให้เธอฟังเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ
หลินเยว่เอ๋อได้ยินแล้วเงียบลง
เสี่ยวถาวสะอื้นเสียงเบา: “คุณหลิน คุณทำฉันกลัวแทบตาย ฉันยังคิดว่าชีวิตนี้จะไม่ได้เจอคุณอีกแล้ว”
หลินเยว่เอ๋อร์กระตุกมุมริมฝีปากอย่างไม่เต็มใจ ในตอนนี้จาก เวลาปกติที่เคยหยิ่งยโสกลับกลายเป็นเข้าถึงง่ายอยากยากที่จะ ได้เจอ
เธอพูดเบา ๆ “ก็มีแต่เธอที่ยังสนใจฉัน ในปราสาทนี้ นอกจากเธอแล้วยังจะมีใครสนใจว่าฉันจะอยู่หรือจะตาย?”
เสี่ยวถาวได้ยินแล้วก็วิ่งไป
เมื่อเห็นความว่างเปล่าในดวงตาของหลินเยว่เอ๋อร์เธอรู้สึกไม่
คุ้นเคยเล็กน้อย
นี่ยังเป็นหลินเยว่เอ๋อร์ที่มีจิตใจฮึกเหิมอยู่เสมอที่เธอเคยรู้จัก อยู่ไหม?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ