วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 826 เธอถูกวางยาพิษ



บทที่ 826 เธอถูกวางยาพิษ

หลินเยว่เอ๋อร์ได้ยินแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

ความหดหู่ในอกของเธอค่อย ๆ โล่งใจ เธอยกซุปเห็ดหูหนูขาวเม็ดบัวขึ้นมาแล้วยิ้มและพูด “แล้ว เฉียวฉ่รู้รึยัง?”

เสี่ยวถาวพูดอย่างยินดีปรีดา: “เสี่ยวเยวโกรธจนหน้ามืดเลย ค่ะ คงจะต้องกลับไปฟ้องเธอแน่ เธอจะต้องรู้แน่ ๆ ค่ะ”

หลินเยว่เอ๋อร์ได้ยินแล้วก็ยิ่งดีใจ

แต่พอหันไปนึกถึงอารมณ์เย็นชาของเฉียว ดวงตาของเธอ

มืดลง

ก็ไม่รู้ว่าคนคนนั้นจะสนใจเรื่องเล็กๆ แบบนี้หรือเปล่า

บางทีเธออาจจะไม่ได้สนใจหรอก ที่สุดแล้วถ้าหากไม่ใช่อยาก จะมั่นใจว่าเธอชอบกู้ซื้อเฉียนหรือไม่ เธอก็แทบจะไม่สามารถ บอกได้ว่าเธอยังมีอารมณ์เหมือนปุถุชนคนทั่วไปหรือเปล่า

เมื่อคิดแบบนี้ก็ฮึดฮัดออกมา

ต่อให้เธอชอบกู้ซือเฉียนแล้วไง?

ทั้งคู่ยังไม่ได้คบกันไม่ใช่รึไง?

ขอเพียงพวกเขายังไม่ได้คบกันจริงๆ ตนเองก็ยังมีโอกาส พูดไปแล้วถ้าหากกู้ซื้อเฉียนกับเฉียวเป็นอย่างที่เขาพูดจริง จิตใจ แน่วแน่ งั้นทำไมถึงไม่เปิดใจแล้วกลับมาคืนนี้กันไปเลย?

แต่จะต้องมาตีวัวกระทบคราด ใช้ตนเองไปสืบหาหลักฐานให้ เขาว่า ในใจของเฉียว ยังมีเขาอยู่รึเปล่า

เมื่อคิดถึงตรงนี้ดวงตาที่หรี่ลงของเธอกลับเปล่งประกายอีก

ครั้ง

เธอทำเสียงฮึดฮัดแล้วใช้ช้อนตัวซุปเข้าปากคำหนึ่ง

ไม่ต้องพูดถึง มันคู่ควรกับซุปที่แย่งมาจากเฉียว

เพียงแค่กินไปคำหนึ่งซุปถ้วยนี้อร่อยกว่าถ้วยก่อนๆ ที่เคยกิน ในความหวานนั้นยังมีความแปลกพร้อมทั้งกลิ่นหอมหวาน

หลินเยว่เอ๋อร์รับประทานเสร็จอย่างรวดเร็ว หลังจากรับ ประทานเสร็จแล้วเธอก็เลียมุมปากของเธออย่างตั้งใจและพูดว่า “ตอนนี้พวกนั้นคงจะโมโหจนเป็นบ้าแน่ ๆ สินะ? ไป เราไปดูอะไร สนุกๆ กัน ต่อให้ทำอะไรเธอไม่ได้ ก็ไปเรื่องให้เธออารมณ์เสีย ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่”

พูดจบก็วางถ้วยลงแล้วลุกขึ้น

เสี่ยวถาวเห็นดังนั้นก็ปลื้มปริ่ม

รีบหยิบของใช้จําเป็นออกมา ท้ายที่สุดเพื่อไม่ให้หลินเยว่เอ๋ อร์ตัวเองเสียเปรียบต่อหน้าเฉียว แม้ว่าทุกครั้งที่ออกจากห้อง เดินไปในปราสาทก็ยังต้องแต่สวยเลิศ ราวกับกำลังจะไปงานเลี้ยงแบบนั้น

ครั้งนี้ก็เป็นอย่างนั้นเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้คาดหวังว่าทันทีที่เธอหยิบกระเป๋าถือ ให้หลินเยว่เอ๋อร์เธอก็เห็นใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปและก้มลง

เธอตกใจและรีบเข้าไปพยุงเธอไว้

“คุณหลิน เป็นอะไรไปคะ?”

เพียงแค่เห็นสีหน้าของหลินเยว่เอ๋อร์ที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นซีด ขาวและดูไม่ดีมาก ๆ อีกทั้งยังมีเหงื่อออกซุ่มที่หน้าผาก

อีกทั้งยังพูดจาติดๆ ขัดๆ เธอยื่นมือข้างหนึ่งออกมาด้วยความ เจ็บปวดและสั่นเล็กน้อยและคว้าแขนเธอไว้

แรงบีบมหาศาลเหมือนจะฝังฝ่ามือเข้าไปในแขนของเธอ

“ฉันปวดท้อง!”

เธอพูดด้วยความลำบาก

ใบหน้าของเสี่ยวถาวเปลี่ยนไปในทันที เธอรู้สึกตื่นตระหนก

“ทำไมจู่ ๆ ถึงปวดท้องได้คะ? คุณไม่ต้องรีบนะคะ ไปนั่งก่อน” หลังเธอรีบพยุงหลินเยว่เอ๋อร์ให้นั่งลงกลับเห็นว่าใบหน้าที่ด

ขาวของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง ในทันใด ริมฝีปากก็เริ่มเขียวคล้ำ ภายในไม่กี่วินาทีหลินเยว่เอ๋อร์ก็รู้สึกเหมือนมีมีดในท้องของ เธอพลิกไปมาอย่างปั่นป่วนราวกับว่ามีมือยักษ์จับลำไส้ของเธอและดึงมันอย่างดุเดือด

เธอเจ็บจนแทบจะเป็นลม เห็นสีหน้าหลินเยว่เอ๋อร์ผิดปกติจึง รับรู้ได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรง

จึงรีบพูดขึ้น: “คุณหลิน คุณอดทนไว้ก่อนนะคะ ฉันจะไปเรียก หมอ คุณจะต้องอดทนนะคะ ฉันจะไปเรียกหมอให้มาเดี๋ยวนี้

พูดจบก็รีบวิ่งออกไป

ไม่นานหมอก็เข้ามา

ไม่เพียงแค่หมอ ลุงโอเองก็ตกใจและวิ่งเข้ามาด้วย

ตอนนี้หลินเยว่เอ๋อ ปวดท้องจนสลบไปแล้ว

หมอเห็นสีหน้าเธอแล้วมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันทีและทำการ ตรวจและวินิจฉัยในทันที เฉียวฉีก็ได้ยินเรื่องนี้จึงรีบมาดูก็เห็นเพียงภายในห้องของ

หลินเยว่เอ๋อร์มีคนอยู่เต็มไปหมด

เธอขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้

ในเวลานี้หมอได้ให้คนอุ้มหลินเยว่เอ๋อร์มาไว้ที่เตียงและการ

รักษาก็กำลังดำเนินไป

ส่วนลุงโอนั้นหันมาเจอเธอจึงได้รีบเดินไป

“คุณเฉียว”

เฉียว ขมวดคิ้วและถาม: “เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ?”
ลุงโอมีสีหน้าไม่สู้ดีและพูดเสียงขรึม: “ผมก็ไม่รู้ครับ เมื่อครู่ ได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นที่นี่ก็เลยรีบมาดูได้ยินว่า….

เขานิ่งไปแล้วขมวดคิ้วแน่น “ถูกวางยาพิษ

“ถูกวางยาพิษ?”

เฉียว พูดออกมาด้วยความประหลาดใจ

ลุงโอพยักหน้า

“ถูกวางยา แต่จะเป็นด้วยเหตุผลอะไรถึงโดนวางยาพิษยัง ตรวจสอบอยู่ หมอกำลังตรวจดู แต่เชื่อว่าผลคงจะออกมาโดย เร็วครับ”

เฉียวฉีพยักหน้า

เธอรู้สึกเคลือบแคลงใจเล็กน้อย ตามหลักแล้ว ปราสาทขอ งกู้ซื้อเฉียนน่าจะได้รับการตรวจตราอย่างเคร่งครัด ทำไมถึงเกิด เหตุวางยาแบบนี้ได้?

ยิ่งกว่านั้นยังเป็นหลินเยว่เอ๋อร์

ถึงแม้หลินเยว่เอ๋อร์จะไม่ได้รู้ความมากมาย แต่คร่าว ๆ แล้ว เธอก็รู้ เรียกได้ว่าเป็นดอกไม้สวยไร้สมองที่ปักอยู่ในแจกัน เธอ อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้คุกคามหรือเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของใคร

เป็นใครกันที่จู่ ๆ ก็คิดจะทำร้ายเธอ

เฉียว รู้สึกงงงวย ไม่เพียงแต่เธอเท่านั้น แต่คนอื่นๆ ก็ไม่ เข้าใจเช่นกัน
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้คิดถึงเรื่องพวกนี้ก็ไม่มีประโยชน์

อะไร

เฉียวมองดูหลินเยว่เอ๋อร์ที่นอนหลับตาทั้งสองข้างและ

ใบหน้าซีดขาวอยู่บนเตียงแล้วถาม: “ช่วยได้ไหมคะ?”

ลุงโอพยักหน้า

“หมอบอกว่าได้ ถึงแม้ว่าพิษจะแรงแต่เพราะพบเร็ว ดังนั้นน่า จะไม่มีปัญหาครับ”

เฉียวฉีจึงได้วางใจ

ถึงแม้หลินเยว่เอ๋อร์จะหาเรื่องเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเธอก็ไม่ ชอบผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนี้

แต่ก็ไม่ได้อยากจะเห็นใครตายไปต่อหน้าต่อตา เธอเงียบอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพูดขึ้น: “แจ้งกู้ซื้อเฉียนเถอะค่ะ

เรื่องนี้เขาควรจะรู้โดยเร็ว”

และไม่รู้ว่าเธอจะคิดไปเองหรือเปล่า แต่เธอก็รู้สึกว่าเรื่องที่ หลินเยว่เอ๋อร์ถูกวางยานั้นดันมาเกิดในวันพิเศษเช่นวันนี้ มัน คงจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่

ไม่แน่ว่าอาจจะพุ่งเป้าที่กู้ซื้อเนียน ดังนั้นจึงจะต้องแจ้งให้เขาทราบ

ลุงโอพยักหน้า: “ผมก็คิดอย่างนั้นครับ เพียงแต่เมื่อครู่มัวแต่ ยุ่งเลยไม่ได้ใส่ใจ ผมจะให้คนไปแจ้ง
พูดจบก็ออกไปโทรศัพท์

ส่วนทางนี้เฉียว นั่งมองอยู่ครู่หนึ่งจนกระทั่งหมอประกาศว่า ไม่มีอันตรายอะไรแล้ว แค่ต้องย้ายคนไปที่ห้องพยาบาลอีกด้าน ของอาคารหลักเพื่อล้างท้อง ไม่มีอะไรมาก เธอจึงหันหลังเดิน จากไป

เมื่อกลับถึงห้องเดียวก็ขมวดคิ้วแน่น

ความรู้สึกกระวนกระวายในใจยิ่งรุนแรงขึ้น และไม่รู้ว่าเป็น เพราะอะไร

ดีที่ไม่นานต่อมาลุงโอกใช้ให้คนมาบอกเธอ

บอกว่ากู้ซือเฉียนทราบเรื่องแล้วกำลังรีบกลับมา เดิมทีเรื่องนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเฉียวฉี แต่ลุงโอก ยังให้คนมาบอกเธอเป็นกรณีพิเศษ

เห็นได้ว่า ในสายตาของลุงโอนั้นให้ความสำคัญกับเฉียว มาก

เปรียบได้กับนายหญิงของปราสาทแห่งนี้ เฉียวได้ยินแล้วก็ไม่ได้แสดงออกอะไร ดูแล้วเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ