บทที่ 80 ส่งเธอเข้าคุก
เป็นไปอย่างที่คิด เห็นว่านเจอได้ขมวดคิ้ว
จิ่งหนิงเลิกคิ้ว
เธอได้ยกข้อมือขึ้น มองเวลาบนนั้นสักพัก
ก็ถึงเวลาสี่ทุ่มครึ่งแล้ว
ถึงแม้ไม่ดึกมาก แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเช้า
เธอได้เม้มปาก “ไม่แล้ว ถ้าเธออยากจะอยู่ขนาดนั้น งั้นก็ อยู่เล่นตรงนี้ต่อไปเองเถอะ!
พูดจบ ไม่หันหัวกลับมาแล้วเดินเข้าไปในลิฟต์
สีหน้าของจึงเสี่ยวหย่าได้เปลี่ยนไป
อยากจะเรียกเธอไว้ แต่จึงหนิงได้ตัดสินใจว่าจะออกไป อย่างจริงจัง ไม่สนใจเสียงของเธอเลยแม้แต่น้อย
จึงเสี่ยวหย่าหงุดหงิดมากๆ
ให้ตายเถอะ ยัยหร่วนเจียวเจียว ทำไมยังไม่ลงมา
ข้างๆ มู่หั่นเจ๋อได้ขมวดคิ้ว
“เสี่ยวหย่า เขาไม่อยากที่จะอยู่ต่อก็อย่าไปบังคับเขาแล้ว พวกเราไปเถอะ ทางนั้นมีคนรอพวกเราอยู่สายตาของจิ่งเสี่ยวหย่าได้ร้อนรน
เห็นว่าประตูลิฟต์จะปิดแล้ว ก็ได้กัดฟันอย่างแรง อยู่ๆ ก็ได้พุ่งเข้าไป
สีหน้าของมู่หั่นเจ๋อได้เปลี่ยนไปเยอะ
ขนาดจิ่งหนึ่งที่ได้เข้าไปในลิฟต์แล้ว ก็ได้ขมวดคิ้วอย่าง อดไม่ได้
นาทีต่อมา ก็ได้ใช้มือกดลิฟต์ไป แล้วมืออีกข้างก็ได้ ประคองจึงเสี่ยวหย่า ใบหน้าหงุดหงิดแล้วพูดว่า “อยากตาย ก็ไปตายไกลๆ หน่อย อย่ามาขวางตาฉันที่นี่!”
มู่ฮั่นเจ๋อพุ่งเข้ามาโอบเธอ สีหน้าไม่ดีหนัก
“เธอทำอะไร? เธอไม่รู้เหรอว่าเมื่อกี้มันอันตรายขนาด
ไหน?”
จึงเสี่ยวหย่าทำไมจะไม่รู้ว่ามันอันตรายล่ะ?
พอตอนนี้มาคิดดูอีกทีแล้วก็กลัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่ว่าลูก ธนูได้อยู่ที่คันธนูแล้ว ไม่ยิงไม่ได้
หร่วนเจียวเจียวยังไม่ลงมา จะให้จิ้งหนึ่งกลับไปไม่ได้
พอคิดแบบนั้น ตอนที่เธอกำลังจะพูดอะไรออกไป ก็เป็น จังหวะเดียวกัน มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งได้วิ่งมาจากข้างนอก มองทั้งสามสักพัก จากนั้นสายตาที่หยุดอยู่ที่จิ้งหนึ่ง พูด อย่างมีมารยาทว่า “ไม่ทราบว่าเป็นคุณจึงหนึ่งหรือเปล่า ครับ?
จิ่งหนึ่งพยักหน้า
“สวัสดีครับ คุณหัวเพื่อนของคุณที่อยู่ชั้นสิบสองได้มีเรื่อง ขึ้นนิดหน่อยครับ อยากให้คุณไปดูหน่อย
จิ่งหนึ่งเดิมตามพนักงานไปที่ห้องพัก แน่นอนจึงเสี่ยวหย่ากับปูนเจ๋อก็ได้ไปด้วย
พึ่งออกจากลิฟต์ ก็รู้สึกว่าบรรยากาศทั้งชั้นนี้มันแปลกๆ ประตูห้องห้องหนึ่งที่อยู่ในนั้น ได้รอบไปด้วยบอดี้การ์ด หลายคน ข้างในนั้นได้พูดอะไรบางอย่างอย่างวุ่นวาย
สีหน้าของจึงเสี่ยวหย่าได้เปลี่ยนไป
มั่นเจ๋อยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนที่เห็นพนักงานมา หาจึงหนึ่งนั้น สีหน้าไม่ปกติ ก็ได้มองลงไปแบบไม่ต้องคิด
เวลานั้นก็ได้ยินเสียงร้องไห้โวยวายจากข้างใน ก็ได้ถาม ออกไป “เกิดอะไรขึ้น?
จึงหนึ่งหันหน้ามามองเขาสักพัก แววตาเหมือนว่าจะยิ้มแต่ ก็ไม่ได้ยิ้มมองไปทางจึงเสี่ยวหย่า“ฉันก็ไม่รู้นะ เสี่ยวหย่า เธอรู้ไหม?”
จิ่งเสี่ยวหย่าฝันขยับปาก
ขนาดพี่ยังไม่รู้ ฉันจะไปรู้ได้ยังไง?”
มู่หั่นเจ๋อเห็นว่าสีหน้าของเธอไม่ดีนัก ก็ได้ถาม “เธอเป็น อะไร? ไม่สบายเหรอ?”
จึงเสี่ยวหย่าแววตาได้สั่นไหว
เสียงทะเลาะกันด้านใน คนอื่นฟังไม่ออก แต่เธอไม่มีทางที่
จะฟังไม่ออก
เป็นหร่วนเจียวเจียว
โดนจับแล้ว?
เป็นไปไม่น่าได้นะ เวลาแบบนี้ ทุกคนได้อยู่ที่งานเลี้ยงที่ ห้องโถงทั้งหมด ใครมาจับเธอ?
แต่เพื่อความปลอดภัย เธอนั้นไม่อยากที่จะเข้าไป เพราะ งั้นก็ได้ฝืนยิ้มแล้วก็เอามือแตะหัว
“พี่อาเจ๋อ ฉันปวดหัวนิดหน่อย น่าจะไม่สบาย
“ถ้าเกิดปวดหัวก็เข้าไปในห้องด้วยกันเถอะ! พอดีเลย ใน ห้องของฉันมียาแก้ปวดหัวเตรียมไว้อยู่”ไม่ต้องแล้ว”
“เสี่ยวหย่า! เธอคงไม่ได้มีพิรุธอะไร ไม่กล้าที่ไปกับฉันเห
รอ”
หลังของจิ่งเสี่ยวหย่าได้แข็งเล็กน้อย
เธอมองจิ้งหนิง เดาแววตาของฝ่ายตรงข้าม มองเห็นแวว ตาที่ใจเย็นและแน่วแน่ที่คุ้นเคย
จึงเสี่ยวหย่าก็ได้ร้อนใจขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ อยากจะปฏิเสธ ข้างๆ มั่นเจ๋อก็พูดว่า
“ก็เข้าไปพักผ่อนเถอะ ตอนนี้เธอท้องอยู่ วิ่งไปไหนมาไหน มันไม่เหมาะไปพักก่อนถ้ายังปวดอยู่เดี๋ยวฉันให้คนขับรถไป ส่งเธอที่โรงพยาบาล
ก็ได้พูดออกมาถึงขนาดนี้แล้ว จึงเสี่ยวหย่าไม่ยอมก็ไม่ได้
ในที่สุด ก็ได้ตามพวกเขาเข้าไปในห้องของสิ่งหนึ่ง
ในห้อง หัวเหยานั่งอยู่ที่โซฟา ข้างๆ มีบอดี้การ์ดสี่คน ทั้งหมดเป็นบอดี้การ์ดหัวเหยาจ้างมาทั้งหมด ไม่ใช่คนของ โรงแรม
เห็นว่าหร่วนเจียวเจียวนั่งคุกเข่าอยู่กลางห้อง สองมือได้ ถูกมัดไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เครื่องสําอางบน หน้าได้เลอะไปหมด น่าสมเพชสุดๆที่มาด้วยกัน ไม่ได้มีแค่พวกจิ้งหนึ่งสามคน
ความวุ่นวายบนชั้นนี้ใหญ่ขนาดนี้ ก็ได้มีคนมาจ้องมองดู เหตุการณ์ตั้งนานแล้ว
เพราะงั้น ตอนที่พวกเขามาถึง นอกห้องนั้นมีคนมุงดูอยู่ไม่ น้อย ทั้งหมดได้มีสายตาที่เหมือนว่าได้ดูอะไรสนุกๆ
สีหน้าของจึงเสี่ยวหย่าได้เทาลง
“โย่ นี่มันอะไรกัน?
จิ่งหนิงพูดออกไปเรียบๆ
หัวเหยาเห็นเธอ ก็ได้รีบลุกขึ้น ยิ้มแล้วพูดว่า “เธอมาได้ สักทีนะ วันนี้ฉันชอบเธอจับขโมยได้ ดูสิ ยังเป็นคนที่เธอรู้จัก
ด้วยนะ! ”
จิ่งหนึ่งได้มองไปยังกลางห้อง
แกล้งทำเป็นตกใจ “หร่วนเจียวเจียว? เธอทำไมถึงมาอยู่ที่
“ฉัน……
มาถึงตอนนี้แล้ว หร่วนเจียวเจียวก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าติดกับ ก็เลยทำได้แค่อึ้งอึ้ง “ฉันก็แต่เดินมาผิดห้องก็แค่นั้น พวกเธอถึงขั้นที่จับฉันมามัดไว้แล้วใส่ร้ายว่าเป็นหัวขโมย จึง หนึ่ง! เธอต้องการอะไร?”จิ่งหนิงเลิกคิ้ว
เธอได้หัวเราะเบาๆ “ถ้าฉันจำไม่ผิด ห้องของเธอน่าจะอยู่ ที่ชั้นแปดนะ ทำไมถึงได้มาผิดถึงขั้นที่สิบสองล่ะ?”
หร่วนเจียวเจียว ”
เธอได้มองไปที่จิ่งเสี่ยวหย่าอย่างร้อนรน ก็ได้อธิบายออก ไปอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “ฉัน ฉันเมาแล้วไม่ได้หรือไง?
“เมา?” หัวเหยาหัวเราะเยือกเย็น “เมาแล้วก็วิ่งมาที่ค้น บ้านของคนอื่น? จะพูดโกหกก็ต้องมีสคริปต์หน่อยไหม! อีก อย่าง ตอนที่ฉันเห็นเธอเอาUSBมาก๊อปงานของคนอื่น ยังมี สติดีอยู่เลย! ”
หร่วนเจียวเจียวร้อนรนไปเลยทันที
เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “งานอะไร? ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลัง พูดอะไรอยู่! ”
หัวเหยาขี้เกียจที่จะพูดอะไรไร้สาระกับเธอ ก็ได้ให้บอดี้ การ์ดค้นเอาUSBบนตัวเธอออกมา
“ยังจะพูดอะไรอีกไหม?”
เห็นว่าUSBได้ถูกค้นออกมาแล้ว คราวนี้ หร่วนเกี่ยวเดียว ไม่มีอะไรที่จะมาแก้ตัวได้แล้วหัวเหยาเห็นว่าเธอไม่พูดอะไร ก็ได้ถามวิ่งหนึ่ง “จะจัดการ
ยังไง?”
หร่วนเจียวเจียวจ้องเธอด้วยความแค้น
สายตานั้น ถึงขั้นได้มีการตักเตือนและข่มขู่ปนอยู่
จิ่งหนิงได้กระตุกมุมปากเป็นการประชด แววตาเยือกเย็น
“ส่งให้ตำรวจเถอะ! ”
“อะไรนะ?”
หร่วนเจียวเจียวได้ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ “จิ้ง หนิง เธออย่าได้คืบแล้วเอาศอกนะ! ถ้าฉันพูดความจริงออก ไป สุดท้ายพวกเราทั้งสองใครก็อย่าที่จะอยู่อย่างสุขสบาย แน่!”
วิ่งหนึ่งหัวเราะอย่าเย็นชา “ฉันละอยากจะฟังดู ความจริงที่ เธอบอก จะทำให้ฉันอยู่อย่างไม่สุข?
เวลานี้ คนที่ได้ยินข่าวนี้ก็ยิ่งอยู่ยิ่งเยอะขึ้น
มีคนมุงอยู่ที่ประตูไม่น้อย เสียงพูดคุยก็ได้ดังขึ้น
“เอ๋ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? หร่วนเจียวเจียวทำไมถึงได้วิ่ง มาขโมยไฟล์งานที่ห้องของเธอ?
“ไม่รู้นะ! หรือว่าเป็นความลับของการตลาด?”
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ความผิดของการขโมยความลับของการตลาด โทษหนัก ต้องติดคุกหลายปีเลยนะ?”
“น่าจะใช่ แต่ก็สมน้ำหน้า ใครใช้ให้เธอหน้าไม่อายสะ ถึงขั้นวิ่งมาขโมยของที่ห้องของคนอื่น! “
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ