บทที่ 771 แสดงอำนาจกดข่มคน
ส่วนด้านการกินและการอยู่ทางนี้จะรับผิดชอบ ไม่ค่อยได้ใช้ เงินอะไรเลย ดังนั้นทั้งหมดนี้ถือว่าเอาเงินให้เธอเป็นการลงทุน หลังจากที่ถังซีซีได้ฟังแล้ว จึงปลดความสงสัยและความกังวล
ในใจออกมา รับเงินมาอย่างสบายใจ
เฉียวไม่ได้อยู่กับเธอนานมาก สักพักก็จากไปแล้ว เมื่อกลับมาถึง เพิ่งได้สังเกตข้างนอกจอดรถไม่คุ้นตาคันหนึ่ง อยู่
เธอยกคิ้ว ลงจากรถมา ยังไม่ทันได้เข้ามา ก็ได้ยินเสียงคำราม ของผู้หญิงประโยคหนึ่ง
“ใครอนุญาตให้พวกแกปล่อยเธอเข้ามา เธอไม่มีสิทธิ์ก้าวเข้า มาในประตูใหญ่ของตระกูลมาตั้งนานแล้วพวกแกไม่รู้เรื่องเห รอ”
เสียงของผู้หญิงมีความโกรธแค้นอย่างไม่ปิดบังเลย เฉียว หันหน้ากลับไปดูลุงโอสองมือห้อยลงอย่างเงียบงันที่อยู่ข้างๆ เห็นแต่เขาก้มหัวลง เหมือนกับไม่ได้ยินอะไรเลยอย่างนั้น
ภายในตามีความเข้าใจอย่างหนึ่งลอยผ่าน เฉียว หรี่ตา คิด อยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็นึกออกได้แล้วว่าเจ้าของเสียงที่คุ้นหูนี้คือ ใคร
เสียงนี้ เธอเคยได้ยิน
ก็แม่เลี้ยงของกู้ซื้อเฉียนคนที่ความจริงแล้วไม่มีความสัมพันธ์ อะไรมากกับเขาคนนั้นไม่ใช่เหรอ
สี่ปีกว่าที่แล้ว เมื่อเธอกับกู้ซื้อเฉียนยังไม่ได้แตกร้าวกัน แม้
เลี้ยงคนนี้ก็รู้เรื่องของเขาสองคนแล้ว
ตอนนั้นเธอกับกู้ซื้อเฉียนอยากจะหมั้นกัน กลับถูกแม้เลี้ยงคน นี้คัดค้านอย่างเด็ดขาด
ยิ่งกว่านั้นยังพูดคำพูดเกินเลยมากด้วย พอคิดถึงตรงนี้ ในตาของเธอมีความเยือกเย็นลอยผ่าน ฮ่า ไม่นึกเลยว่าวันนี้เธอก็มาเหรอ
เมื่อกี้นี้น่าจะเห็นเธอกลับมาแล้วแน่
เห็นเธอกลับมาแล้วเลยครามแบบนี้ นี่คืออยากแสดงอำนาจ กดข่มเธออย่างนั้นเหรอ
สงสัยสี่ปีผ่านไป อคติที่เธอมีต่อตัวเองยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เลยนะเนี่ย
ถึงแม้จะคิดอยู่แบบนี้ ใต้เท้ากลับมุ่งเดินไปข้างหน้าโดยที่ไม่ คิดจะหยุดเลย
คิ้วอันโบยบิน ตาอันดุดัน ริมฝีปากแดงอมยิ้มเล็กน้อย สัน หลังอันตั้งตรงและจังหวะย่างก้าวอันสละสลวยไม่สะทกสะท้าน ทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่างไม่มีอันไหนที่ไม่แสดงความมั่นใจและความทะนงตนของผู้หญิงคนหนึ่ง ก้าวยังประตูใหญ่หรูหราบานนั้น
ลุงโอยืนอยู่หลังเธอ อดดูอึ้ง
เขากับเฉียว ถือว่าคุ้นเคยกันมากแล้ว เมื่อก่อนถึงแม้ ชอบเธอ ก็รู้สึกแค่ว่าเด็กผู้หญิงคนบุคคลที่สามารถเป็นนายที่คนหนึ่ง
เขากลับเคยขนาดนี้ความรู้สึกนั้น ความนั้น….
ความรู้สึกนั้นก็เหมือนกับว่าเปลี่ยนคนใหม่แล้ว!
ถึงแม้เปลือกนอกยังเหมือนเดิม โลกาจากด้านลงมาหรือไม่
กะพริบตา ที เหมือนจะนึกขึ้นมาได้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ทันใดอยู่ก็ในของประตู เขาลังเลอยู่สักในที่สุดกดความสงสัยใน ใจลงชั่วคราว
อุ้ยการหมั้นของแกสองคนถูกยกเลิกตั้งนานแล้ว แกยังจะ มาทําอะไรอีก
ภายห้องแขกโอ่อ่าตระการตา หญิงวัยกลางคน หนึ่งอ้อมแขนนั่งบนโซฟาอันกว้างใหญ่ หน้าเธอชาย หญิงแต่งตัวธรรมดายืนอยู่หนึ่งแถว ขณะแต่ละคนก้มลงสีหน้าเต็มไปด้วยความน่าสงสาร
เฉียวเดินเข้าไปห้องรับแขกอย่างไม่รู้สึกรู้สา แค่กวาด
สายตามองเธอผ่านๆ อย่างเพิกเฉย ไม่ได้พูดอะไร จากนั้น สายตามองไปทีละคนที่อยู่ในห้องรับแขกไม่หยุด
แต่สิ่งที่คาดคิดไม่ถึง คือไม่เห็นชื่อเรียนอย่างที่คิดไว้
เธอขมวดคิ้ว
ขนาดผู้หญิงคนนี้ยังอยู่เลย กู้ซื้อเฉียนกลับไม่อยู่เหรอ
นี่มัน…ฮ่า!
แต่สีหน้านี้จากที่คุณนายกู้เห็นกลับเป็นกำลังแสดงความไม่ พอใจอยู่
เธอส่งเสียงไม่พอใจ ตะโกนใส่เสี่ยวหงที่ยืนอยู่ข้างๆ ว่า
“พวกแกรออะไรอยู่ รีบไล่นักโทษหญิงคนนี้ออกไปให้ฉันสิ!
นักโทษหญิง?
เฉียว ก้มหน้าดูการแต่งตัวของตัวเองแวบหนึ่ง ตอนออกจาก คุกเธอไม่มีทางเลือก ได้แต่ใส่เสื้อยืดหลวมตัวหนึ่งและกางเกง ยีนตัวหนึ่ง
หลังจากออกมาแล้ว ถังซีซีหาเสื้อที่ใส่ปกติให้เธอที่ตัว
เธอใส่มาตลอด จนมาถึงปราสาท ลุงโอเตรียมเสื้อผ้าแฟชั่น แบรนด์เนมที่มีราคาแพงมาให้เธอมากมาย
แต่เธอใส่ไม่ยินเลย ยังคงใส่เสื้อผ้าที่ตั้งชื่อให้เธอกตัวนั้น อยู่เหมือนเดิม
ถึงแม้ราคาจะถูก แต่ใส่แล้วสบาย แต่มันก็จะดูถูกๆ แค่นั้นเอง แต่ว่า นักโทษหญิง? ตาของเฉียวมิดลงมา เงยหน้าขึ้นมามองไปที่หญิงวัยกลาง
คนด้วยสายตาสงบนิ่ง
ในลูกตาดำสนิทไม่มีรอยยิ้มสักนิดเลย ทั้งตาเต็มไปด้วย ความดุดัน ราวกับน้ำตายที่กลายเป็นน้ำแข็งสระหนึ่ง ดูยังไงก็ไม่ เหมือนตาของหญิงสาววัยยี่สิบหก ยี่สิบเจ็ด
“นี่สายตาอะไรของแก”
ทันใดนั้นคุณนายกู้ยิ่งโมโหกว่าเดิม เธอดูแลรักษาได้ดีมาก คนอายุสี่สิบกว่าดูเหมือนมีแค่สามสิบกว่าเอง
แก้มอันเงาวาวเปี่ยมแดงขึ้นมาเนื่องจากการโมโห จ้องเฉียวฉี ไว้และตะโกนโมโหว่า: “ฉันจะเตือนแกนะ ผู้หญิงที่เคยติดคุก อย่างแกแบบนี้เนี่ยให้ห่างๆ ตระกูลพวกเราหน่อย! ไม่อย่างนั้น ระวังฉันไม่ไว้หน้าแก!”
อยู่ๆ เฉียว รู้สึกรำคาญขึ้นมา เธอเป็นคนประเภทที่ยอมตีกับ คนอื่นให้มันสะใจ ก็ไม่อยากเสียน้ำลายด่าทออย่างกับหญิงใจ หยาบคนหนึ่ง
ณ ตอนนั้นก็โต้กลับอย่างไม่ไว้หน้าว่า “พูดมาเยอะขนาดนี้ แกก็ลองมาไม่ไว้หน้าให้ดูสิ!
ประโยคเดียว ทําให้คนที่อยู่ในนั้นตาค้างในชั่วขณะเลย
คุณนายยังไงก็คิดไม่ถึง ห่างหายกันสี่ปี ประโยคแรกที่เฉียว เปิดปากคุยกับเธออีกครั้งจะเป็นแบบนี้
ถ้าพูดไม่น่าฟังหน่อย ปัจจุบันกลุ่มหงส์แดงสูญสลายแล้วจริงๆ เฉียว ไม่เพียงแค่ไม่มีอะไรสักอย่างเลย และยังมีประวัติต้องโทษ เคยติดคุกอีกด้วย
ถึงแม้ตอนนี้ถูกปล่อยตัวหลังรับโทษแล้วก็ตาม แต่ก็จะกลาย เป็นรอยด่างที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอเหมือนกัน
ถึงแม้ที่ตระกูลรับเธอกลับมามีความคิดไม่อยากให้เธอถูก คนอื่นนินทา แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นที่พึ่งพาของเธอในช่วงเวลาที่ เธอตกอับที่สุด เธอไม่ซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหลพรากยังไม่ค่อยเท่า ไหร่ แต่กลับกล้ามาพูดจาจาบจ้วงอย่างนี้เหรอ
เดิมแค่แสดงอำนาจกดข่มคนเฉยๆ แต่ตอนนี้โมโหจริงๆ แล้ว
คุณนายกู้ลุกขึ้นมาทันที เนื่องจากท่าทางใหญ่เกินไปจน กระทบถึงหนังสือนิตยสารกองหนึ่งที่อยู่บนโซฟาหล่นลงมาที่พื้น ตาอันโมโหจองแรง ไม่เห็นความสง่าอ่อนโยนอย่างที่ภายนอก เล่าลือกันมาเลย
เธอโมโหเกินไปจนหัวเราะ “ดีมาก! สงสัยเคยเข้าไปคุกก็คือ ไม่เหมือนกันจริงๆ ฟังน้ำเสียงที่แกพูดแบบนี้กลับรู้สึกว่าฉันควร กลัวแกแล้วใช่ไหม
โธ่! ก็ใช่สิ ตระกูลกู้ของเราไม่ว่ายังไงก็เป็นนักธุรกิจที่เที่ยงตรงเจิดจรัส จะไปเทียบกับคนอย่างพวกแกได้ยังไงล่ะ! แต่ในวัน นี้ในที่แห่งนี้ ฉันคิดว่าฉันมีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยตนเองได้อยู่
ทันใดนั้นสายตาเธอดุดัน ตะโกนใส่เสี่ยวหงที่อยู่ข้างๆ ว่า “เสี่ยวหง ไล่เธอออกไป!
เสี่ยวหงตอบรับทราบอย่างอ่อนน้อม พุ่งเข้าไปจะดึงแขนของ เฉียว เหล่าคนรับใช้ที่คอยเฝ้าสังเกตสองฝ่ายรบกันอยู่ข้างๆ เห็นแล้วไม่เพียงไม่ได้ขึ้นไปห้าม ส่วนใต้ขากลับแอบถอยหลัง หนึ่งก้าว
แต่แม้กระทั่งการกระทำเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ ก็หนีตาของเฉียว ฉีไม่พ้นเช่นกัน
ยิ้มอ่อน หัวเราะเยาะ ทันใดนั้นตาที่หรี่ลงมาเล็กน้อยรวม ปลายดาบดุดันอันราวกับน้ำค้างแข็งในเดือนสิบสอง มือที่ห้อย ลงสองข้างตามธรรมชาติกำหมัดแน่นๆ จนข้อต่อกระดูก โผล่ขึ้น มาออกเป็นสีขาวเขียว
แต่ในขณะนี้ กกหูอยู่ๆ ก็ดิ้นขึ้นมา ทันใดนั้นในตามีความ ลองลิ้มชิมรสลอยผ่าน เธอค่อยๆ คลายมือออก
เสี่ยวหงพุ่งเข้ามาด้านหน้าแล้ว เห็นว่าใกล้จะจับโดนแขนของ เธอแล้ว
เธอไม่ได้ขยับตัว เหมือนกับตกใจจนโง่แล้ว ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ต่อการโจมตีของคนอื่นเลย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ