บทที่ 77 ไม่ได้เด็ดขาด
จึ่งเสี่ยวหย่า “.………….
ความนิ่งเงียบของทั้งสองคนก็ได้เริ่มขึ้น
ไม่กี่วิ อยู่ๆ เธอก็ได้ยิ้มออกมา
เงยหน้ามองจิ้งหนิง ได้พูดออกมา “เธอกำลังหลอกฉัน?”
จิ้งหนึ่งได้ออกมา ส่ายหน้า “เธอไม่เชื่อก็ช่าง
หน้าของจึงเสี่ยวหย่าได้นิ่งไป
“เธอหมายความว่าอะไรกันแน่?
“ไม่ได้หมายความว่าอะไร เธอเข้าใจก็จะดีมาก ไม่เข้าใจ ก็ช่างมันเถอะ แต่ก็แค่จะเตือนเธอไว้อย่าง ห้าปีก่อนเธอได้ เอาเรื่องนั้นมาจัดการฉัน เพราะว่าตอนนั้นฉันไม่ได้ตั้งตัว แต่ ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว!
เธอคิดว่า ฉันจะโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ ทั้งๆ ที่รู้ว่าวันนี้เป็น หนิวลี่ลี่กับเธอที่ได้วางแผนสำหรับฉัน ทำมาก็เพื่อที่จะหลอก ฉันมาแล้วก็ทําลายชื่อเสียงของฉันอีกครั้ง ฉันยังจะโง่ถึงขั้น ไม่ได้เตรียมการอะไรแล้วก็มา
สีหน้าของจึงเสี่ยวหย่าได้เปลี่ยนไปเลย เธอส่ายหน้า ใบหน้าได้เต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อ
“เป็นไปไม่ได้! ถ้าเธอมีหลักฐาน ห้าปีก่อนทำไมไม่เอา
ออกมา?
จิ่งหนึ่งได้ข่าออกมาเบาๆ
เธอไม่ได้พูดอะไร หันหลังเตรียมตัวเดินเข้าไป
จึงเสี่ยวหย่าได้ร้อนรนเลยทันที ยื่นมือไปกระชากเธอ
“เธอหยุด! พูดออกมาให้เคลียร์ก่อน…….
แล้วก็เวลานี้ ก็ได้มีคนคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา แล้วก็ “พับ ชนไปที่จึงเสี่ยวหย่า
อ้าย—
!””
เสียงที่แหลมที่ดังขึ้น ซึ่งหนึ่งมือไวตาไว้ได้ประคองหัว เหยา หันหน้าไปดู เห็นว่ากระโปรงของจึงเสี่ยวหย่า ได้เลอะ ไปด้วยไวน์แดง
“ว้าย! โทษทีนะ โทษทีนะ เธอทำไมมาได้ทันเวลาแบบนี้? ฉันวิ่งเข้ามาไม่ได้เบรก พอชนก็ซนโดนเธอเลย! ”
หัวเหยาได้หัวเราะ ๆ เอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดไวน์ที่ เลอะให้เธอ
จึงเสี่ยวหย่าจะกล้าให้เธอเช็ดได้ยังไง? กลัวว่าเธอนั้นจะ อาศัยตอนที่ตัวเองไม่ได้ระวังแล้วก็ผลักตน ก็ได้รับถอยหลัง
“เธออย่าเข้ามา! ”
“จี! เธอเป็นคนที่ไม่ให้ฉันเช็ดเองนะ! อย่ามาโทษฉันที่ไม่ ขอโทษเธอ! ”
พูดจบ ก็ได้เก็บมือของตัวเองกลับไปอย่างสบายใจ
จิ่งเสี่ยวหย่า โมโหจนหน้าเริ่มเขียว
หัวเหยาก็ได้หัวเราะแล้วพูดว่า “อย่าโมโหสิ ไม่ว่ายังไงก็ แค่กระโปรงตัวเดียวเอง ตัวที่เธอใส่น่าเกลียจออกขนาด ใส่แล้วเหมือนหญิงท้องยังไงอย่างนั้น สกปรกก็ไม่น่า เสียดายอะไร ถ้าไม่ยอมเดียวฉันซื้อคืนเธอทีหลังก็ได้
จิ่งเสี่ยวหย่า
“อีกอย่างนะ! คนท้องโมโหไม่ได้ เดียวโมโหแล้วก็มีผลต่อ ครรภ์ กระทบลูกในท้องจะทำยังไง? เธอเป็นหมากตัวเดียวที่ ต้องแต่งกับตระกูลมู่นะ! ต้องรักษาไว้ให้ดีๆ ถึงจะถูก
จิ่งเสี่ยวหย่าโมโหจนแทบกระอักเลือดออกมา
ช่วงนี้ หร่วนเจียวเจียวที่ได้ส่งเฉินหยุนกลับไปเสร็จ ไม่ วางใจเธอที่อยู่ข้างล่างคนเดียว ก็ได้กลับมาหาเธอ เห็นว่า เธอได้เลอะไปด้วยไวน์แดงแล้วยืนอยู่ตรงนั้น ก็ได้รีบวิ่ง
เข้าไป
“เสี่ยวหย่า เธอเป็นอะไร?”
จึงเสี่ยวหย่าไม่ได้พูดอะไร ได้จ้องมองหัวเหยา เหมือนว่า จะกินเธอเข้าไปแบบสดๆ ให้ได้
หัวเหยา เป็นมองไม่เห็น ได้ยิ้มแล้วพูดกับหร่วนเจียว เจียว ไม่มีอะไร กระโปรงของเธอได้ทําให้เลอะแบบไม่ได้ ตั้งใจ เอ่อ เธอมาก็ฝากเธอด้วยล่ะกัน! คนท้องนะ ต้องดูแล ดีๆ พวกเราก็ไม่รบกวนพวกเธอแล้ว ไปล่ะ บายๆ
พูดจบ ก็ได้ลากจิ้งหนึ่งออกไป
หร่วนเจียวเจียว “.………….
วิ่งหนึ่งก็คิดไม่ถึงว่า อยู่ๆ หัวเหยาจะเข้ามา
แต่พอคิดถึงใบหน้าที่เสียขนาดนั้นของจึงเสี่ยวหย่า ก็ได้ อยากจะขาอย่างอดไม่ได้
เธอได้ลากมือเขาเบาๆ ถามว่า “เห้อ เมื่อเธอไปไหนมา? ทําไมกว่าจะมาได้นานขนาดนี้?”
หัวเหยานัยน์ตาไต้หวั่น
พูดอย่างติดๆ ขัดๆ “ไม่ได้ไปไหน ก็แค่พูดคุยกับคนรู้จัก
นิดๆ หน่อยๆ เฉยๆ”
“พูดจบ ก็เหมือนว่าไม่อยากที่จะพูดเรื่องนี้ต่อ ก็ได้ถาม กลับว่า “จริงด้วย เธอได้บอกกับนิ่งเสี่ยวหย่าแล้ว?”
จิ้งหนึ่งยิ้ม “บอกไปแล้ว
“งั้นนางเชื่อหรือยัง?”
“เชื่อหรือไม่ไม่กล้าที่จะมั่นใจ แต่อย่างน้อยก็สงสัยแล้ว
พูดถึงตรงนี้ จึงหนิงก็ได้มองลงไปสักพัก ก็ได้พูดเสียงเข้ม ว่า “คืนนี้ต้องรบกวนเธอหน่อยนะ
หัวเหยาได้หัวเราะออกมาว่า “เรื่องเล็กน้อย เรื่องอื่นพี่สาว คนนี้ช่วยไม่ได้ แต่ว่าเรื่องเล็กขนาดนี้จัดการได้อยู่แล้ว เธอ วางใจเถอะ ! คืนนี้ขอแค่มีคนกล้ามา รับรองว่าจะจับมันไปส่ง ต่อหน้าเธอ”
เห็นว่าเธอมีใบหน้าที่แน่วแน่แบบนั้น จึงหนิงถึงได้ยิ้มแล้ว พยักหน้า
อีกด้าน
จึงเสี่ยวหย่าที่มีหร่วนเจียวเจียวอยู่เป็นเพื่อน กลับไป เปลี่ยนเสื้อที่ห้อง
เพราะว่าทั้งโรงแรมได้ถูกเหมาแล้ว เพราะงั้นคนที่มาร่วม งานนั้น ส่วนใหญ่ก็ได้มีห้องเป็นของตัวเอง ถ้างานเลี้ยงอยู่ จนดึกดื่น ก็จะสามารถพักอยู่ได้ไม่ต้องรีบกลับไป
ห้องของจึงเสี่ยวหย่ากับหร่วนเจียวเจียวอยู่ที่ชั้นแปด เข้าไปในห้องแล้ว หร่วนเจียวเดียวก็ได้อดไม่อยู่ พูดออกว่า อย่างโมโห า “พวกเขามันมากเกินไปแล้ว! ถึงขั้นที่สาดไวน์ ใส่เธอต่อหน้าผู้คน
สีหน้าของจึงเสี่ยวหย่าก็ดูไม่ดีมาก
“จึ่งหนึ่งไม่ทำเรื่องแบบนี้ออกมา เป็นหัวเหยา
“นางแพศยานั้น! ”
หร่วนเจียวเจียวโมโหมาก ๆ กัดฟันแล้วพูดว่า “เธอนั้นก็ แค่อาศัยที่พ่อของตัวเองนั้นเป็นประธานของหัวเชิงกรุ๊ป ไม่ใช่เหรอ? อวดเบ่งอะไร?”
จึงเสี่ยวหย่ายิ้มอย่างเย็นชา
“คุณหนูของหัวเชิงกรุ๊ป ก็พอที่จะอวดเบ่งแล้ว! อย่างน้อย ก็ดีกว่าฉันและเธอ! ”
“แต่ว่า……
“พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว รีบไปหาชุดออกงานมา พี่อาเจ๋อ ยังรอฉันอยู่ข้างล่างนะ ฉันต้องรีบลงไป
หร่วนเจียวเจียวเห็นแบบนั้น ก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่อ ได้
ไปหาชุดออกงาน ให้เธอ
หร่วนเจียวเจียวออกไป จึงเสี่ยวหย่าเข้าไปที่ห้องน้ำ ล้าง มือของตัวเองไป แล้วก็คิดไป
ล้างมือเสร็จ เธอได้มองใบหน้าที่สวยของเธอที่กระจก
ก็ได้เหม่อลอยเล็กน้อย
ก่อนหน้าไม่นาน คำพูดของสิ่งหนึ่งได้ดังขึ้นที่หูเธออีกครั้ง
“เธอมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ ของที่เธอขโมยไปจากคอม ของฉันเมื่อห้าปีก่อน จะเป็นต้นฉบับน่ะ?”
ใบหน้าที่ดูแน่วแน่มั่นใจของฝ่ายตรงข้างเหมือนว่าได้อยู่ ตรงหน้า ทำให้ใจของเธอนั้นใต้ระแวงขึ้น
ไม่ เป็นไปไม่ได้!
ตอนนั้นเธอได้คัดลอกเอาต้นฉบับจากคอมของเขาไปจริง ตามหลักแล้ว ในมือเขาไม่มีทางที่จะมีต้นฉบับอีกอัน
แต่ว่า ทำไมใจกลับว้าวุ่นแบบนี้ล่ะ?
เธอรู้จักจิ่งหนิงดี!
ถ้าเกิดไม่มีความมั่นใจ เขาไม่มีทางที่จะพูดแบบนั้นออก
มา ต่อหน้าของเธอแน่!
เขาไม่มีทางที่จะแกล้งพูดออกมา เขาไม่ใช่คนแบบนั้น
แต่……ถ้าเกิดเป็นเรื่องโกหกล่ะ?
เขาหลอกเธอ จะเป็นผลดีอะไร?
อยากให้เธอตกใจ? ให้เธอนั้นยอมแพ้แล้วถอยไป ไม่ให้ เธอต้องลำบากในวันนี้
ก็เป็นไปไม่ได้
จึงเสี่ยวหย่าขมวดคิ้วแน่น รู้สึกว่าในหัวได้สับสนไปหมด ไม่ว่าจะคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ
ในใจก็ได้ว้าวุ่นขึ้นมา
ห้าปีที่ผ่านมา คนข้างนอกได้เห็นแต่ชื่อเสียงของเธอ แต่ ไม่เคยที่จะรู้มาก่อนว่า ที่จริงเธอต้องทําอะไรมากมายขนาด ไหน
พึ่งการตลาดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถที่จะเดินมายังจุด นี้ได้หรอก ต่อพยายามทุ่มเทเอามากๆ
เธอปืนมาถึงจุดนี้ในวันนี้ได้อย่างยากลำบาก จะเป็นไปได้ ยังไงที่จะยอมล้มลงไปอีก
เธอทุ่มเทแรงใจไปขนาดนั้น ให้วิ่งหนึ่งถูกไล่ออกไปจาก บ้าน ถึงจะแย่งมั่นเจ๋อมาได้ ได้มีชีวิตที่เธออยากจะได้จริงๆ ทำไมจะยอมให้คนอื่นมาทำลายแบบนั้นง่ายๆ ล่ะ
ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด!
คิดถึงตรงนี้ เธอได้หายใจเข้าไปลึกๆ
ประตูด้านนอกได้มีเสียง” ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ