วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 751 เธอออกจากคุกแล้ว



บทที่ 751 เธอออกจากคุกแล้ว

แต่หัวใจของเขามันกลับรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก

ในเวลานี้เหมือนว่าความทรงจำที่เต็มไปด้วยฝุ่นของเขาจะถูก เปิดออก สายลมยามค่ำคืนเปิดประตูแห่งความทรงจำ มันเจาะ ทะลุเข้าไปในหัวใจและกระดูกทำให้ความทรงจำเหล่านั้น ทั้งหมดหลั่งไหลออกมา

วันที่ 23 เดือนตุลาคม ปี 2019

ในคืนวันนั้นเมื่อปีก่อน มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางสาย ฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างหนัก เธอบอกกับเขาว่า วันนี้ในอีกสี่ ปีข้างหน้า เธอจะออกมา และจะตามหาเขา

ถึงแม้ว่ามันจะผ่านมาสี่ปีแล้ว แต่ในช่วงระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา นี้ เขามักจะหวนนึกถึงเหตุการณ์ในคืนวันนั้นขึ้นมาหลายต่อ หลายครั้ง

คิดถึงแววตาที่เย็นชาของหญิงสาว และใบหน้าที่แน่วแน่ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายอย่างหนัก

เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเธอผอมบางราวกับกระดาษที่ สามารถถูกสายฝนชะล้างออกไปได้ทุกเมื่อ แต่ดวงตาคู่นั้นของ เธอกลับเย็นชาและแน่วแน่ ราวกับเหล็กที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และเหมือนกับเสือดาวที่กำลังคืบคลานเพื่อรอโอกาส รอช่วง เวลาที่ดีที่สุดเพื่อโจมตีเขาให้ถึงตาย! กู้ซื้อเฉียนหลับตาลง และหวนนึกถึงเหตุการณ์นั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน

สักพัก เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

และก็ไม่รู้ว่าเขาหัวเราะเธอ หรือหัวเราะให้กับตัวเองกันแน่

ผ่านไปสักพักหนึ่ง ในที่สุดเขาก็ลืมตาขึ้น มีแสงสว่างวาบใน ดวงตาของเขา ขณะเดียวกันเขาก็หมุนตัวกลับและเดินออกไป อย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

เรือนจำหญิงที่อยู่ห่างออกไปสามร้อยกิโลเมตร

ในห้องขังที่ทั้งเย็นและขึ้น มีร่างบางร่างหนึ่งนั่งอยู่เงียบๆ บน เตียง

เธอก้มศีรษะลงเล็กน้อย ทำให้ผมสั้นของเธอยาวลงมาคลุม ครึ่งแก้ม แสงสลัวสาดส่องลงมาจากด้านบนศีรษะของเธอ แม้ว่า จะมองเห็นการแสดงออกทางสีหน้าของเธอไม่ชัด แต่ก็ยัง สามารถมองเห็นคางสีขาวเนียนละเอียดของเธอได้จางๆ

ผู้คุมเรือนจำที่อยู่ด้านนอกตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่เงียบ เย็นว่า “95201 มีคนโทรมาหาเธอ!”

เธอเงยหน้าขึ้น นั่นจึงเผยให้เห็นใบหน้าที่สวยงามและนวล เนียนละเอียดอ่อนของเธอ แต่สีหน้าของเธอนั้นกลับเฉยชา

ในสายตาของผู้คุมเรือนจำ เธอหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะ ลุกขึ้นจากเตียง

ประตูเหล็กห้องขังปิดลงตามหลังของเธอเสียงดัง “ปัง” เธอยื่นมือทั้งข้างไป เพื่ออีกใส่ไปที่ห้องเยี่ยมอีกฝั่งหนึ่ง

ในห้องเยี่ยมมีโทรศัพท์แบบมีตั้งบนเธอเดิน ไป จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์เครื่องหนึ่งเปิดขึ้นมาแนบ

“ฮัลโหล”

เสียงเปล่งออกมา แหบ

ฟัง

เสียงๆ ของหญิงสาวดังมาจากปลายสาย เสียงนั้นเต็มไป ด้วยจะ

มันคือเสียงของน้องสาวต่างมารดาของเธอถังซีซี เฉียวชะงัก ไปหนึ่ง และนิ่งเงียบไม่ตอบสักใหญ่ๆ

อาจเพราะว่าเธอไม่ได้ยินเสียงนานแล้ว หรืออาจเป็นเพราะเธอคิดไม่ถึงว่า ว่ามันผ่านมานานหลายปี ขนาดแล้ว ที่เคยกรีดร้องและถูกจากติดคุกสี่ปี จะมีคนยินดีมาเธอ

ผ่านเกือบนาที เธอพยักหน้าและพูดตอบกลับไปเบา

เสียงจากปลายสายยังคงดำเนินต่อไป น้ำเสียงของหล่อน ดู? ชายของซูโป๋เจียเขาน้ำตายแล้ว เมื่อก่อนเขาเคยรังแกพี่ และฉันก็เคยพูดเอาไว้แล้วว่า เขาสมควรตาย! แน่นอนว่า คนชั่วจะต้องได้รับผลกรรม และตอนนี้เขาก็ได้รับมันแล้ว! ”

เฉียวนิ่งคิดไปประมาณห้าทุกวินาที ก่อนที่จะจำได้ว่าลูกชาย ของซูโป๊เจียที่หล่อนพูดถึงเป็นใคร เขาเป็นเพื่อนบ้านของพ่อเลี้ยงของเธอ ตอนที่เธอยังเด็ก

เพราะใบหน้าที่สวยงามของเธอ เขาจึงมักจะพยายามที่จะเข้า

ใกล้เธอ

เด็กหนุ่มคนนั้นอายุไม่มากเท่าไหร่ และเขาก็อายุมากกว่าเธอ เพียงแค่สองปีเท่านั้น

คนวัยหนุ่มสาวมักจะชอบหุนหันพลันแล่น และมีนิสัยแย่ๆ อยู่ เสมอ เขาไล่ตามเธออยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็พบว่าเธอเย็นชา ไล่ ตามได้ยาก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมเลิกรา

เพราะอย่างนั้นเขาก็เลยหาข้ออ้างต่างๆ นานา และมักจะพา เพื่อนเสเพลของเขามาสร้างปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ให้เธอ เพื่อที่จะ ดึงดูดความสนใจจากเธอ โดยหวังว่ามันจะทำให้เธอสนใจเขา บ้าง

เฉียวเป็นคนอย่างไร?

เธอเติบโตมาบนเส้นทางของอันธพาลตั้งแต่เด็กจนโต เป็น มารแว้งกัดพ่อบุญธรรมและลุงป้าน้าอา

มีคนเคยพูดเอาไว้ว่า ตั้งแต่เล็กจนโต เฉียวเป็นคนใจใหญ่ กว่าสมอง แถมมันยังละเอียดกว่าเส้นผม
ถ้าคุณอยากจะทำร้ายเธอ เว้นเสียแต่ว่าเธอจะตาบอด หูหนวก และไม่สามารถขยับแขนขาได้ ก็อย่าหวังเลยว่าคุณจะทําอะไร เธอได้

เพราะอย่างนั้นแล้ว เฉียวที่เฉลียวฉลาดมาตั้งแต่เด็ก มอง เพียงแวบเดียวเธอก็สามารถมองทะลุผ่านจิตใจของคนหนุ่มสาว เหล่านี้ได้แล้ว

และโดยปกติ เธอก็ไม่ได้ใส่ใจกับคนพวกนี้มากนัก

แต่จริงๆ แล้ว แม้ว่าพวกเขาจะใช้วิธีการนับไม่ถ้วนกับเธอ แต่ มันก็เป็นเพียงแค่วิธีการไร้เดียงสาของพวกอันธพาลเท่านั้น เธอ สามารถจัดการกับมันได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ให้พวกเขารู้

หลังจากที่ผ่านมาหลายปี ถ้าไม่ใช่เพราะถังซีซีพูดถึงเรื่องนี้ขึ้น มา เธอก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยมีเรื่องพวกนี้เกิดขึ้น

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เธอก็นิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดออกไปว่า “ซีซีคนตายก็เหมือนตะเกียงดับ เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ช่างมันเถอะ! สะสมคุณธรรมให้ตัวเองบ้าง

เมื่อถึงชีได้ยินดังนั้น หล่อนก็ไม่พูดเรื่องนี้อีก

แม้ว่าพวกเธอสองพี่น้องจะเป็นลูกคนละพ่อ แต่พวกเธอก็มี ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตั้งแต่เด็ก ในช่วงหลายปีก่อนที่เกิด เรื่องกับ เฉียว ถังซีซี ยังเด็กมาก เพราะอย่างนั้นหล่อนจึงไม่รู้ เรื่องอะไรมากนัก

เธอจำได้เพียงแค่ว่า ตอนที่เธอต้องเข้าคุก ถังซีซีร้องไห้และเอาแต่ถามเธอว่าทำไม

เธอจึงพูดออกไปประโยคหนึ่งว่า “กลับไปซะ กลับไปใช้ชีวิตที่ ของเธอ!”

หลังจากนั้น เธอก็เดินจากไป โดยที่ไม่หันกลับมามองที่หล่อน อีกเลย

เธอไม่สามารถบอกเหตุผลที่แท้จริงกับหล่อนได้ ความรักและ ความเกลียดชังที่พัวพันกันระหว่างผู้ใหญ่ ไม่ควรที่จะดึงเด็กเข้า มาเกี่ยวข้องด้วย

และยิ่งกว่านั้น…..

ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะตอนนี้ดวงตาของ เฉียว มืดมนลง และมันก็ค่อยๆ เย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ

จากนั้นก็ไม่มีเสียงตอบกลับเสียงที่อบอุ่นของถังซีซีทาง

โทรศัพท์อีกเลย จนกระทั่งหล่อนพูดจบ หล่อนจึงพูดออกไปว่า

“เอาอย่างนี้ดีไหม ถ้ามีเรื่องอะไร พรุ่งนี้เราค่อยมาพูดกันอีกที”

ในสายโทรศัพท์ ถังซีซีจบบทสนทนาด้วยน้ำเสียงที่มีชีวิตชีวา และวางสายไปอย่างอาลัยอาวรณ์ไม่เต็มใจที่จะวาง

เฉียวฉวางหูโทรศัพท์ลง จากนั้นก็หมุนตัวกลับ

ผู้คุมเรือนจำยืนอยู่ไม่ไกลจากด้านหลังของเธอมากนัก เมื่อ หล่อนเห็นว่าเธอคุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว หล่อนจึงเดินออกเข้ามา และพาเธอกลับไปที่ห้องขังเธอต้องโทษจําคุกอยู่ที่นี่สี่ปี และหล่อนก็เป็นคนที่คุมตัวเธอ ตลอดระยะเวลาสี่ปี

หล่อนเป็นหญิงวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบปี โหนกแก้มสูง ตาที่ หน้าดุ แต่หล่อนก็เป็นคนที่มีจิตใจดีมาก

หล่อนพา เฉียว กลับมาที่ห้องขัง และขณะที่เดินไปที่ห้องขัง หล่อนก็พูดออกไปว่า “ฉันได้ยินมาว่าเธอถูกจับเพราะคดี ฆาตกรรม พรุ่งนี้เธอก็จะได้ออกไปแล้ว หลังจากนี้ก็ใช้ชีวิตให้ดี อย่าทำผิดพลาดอีก เธอยังเด็ก แม้ว่าเธอจะติดคุกมาสี่ปี แต่ถึง อย่างนั้นก็ยังมีโอกาสและความหวังมากมายรอเธออยู่ใน อนาคต อย่าท้อถอย และใจเอาไว้ว่าพรรคจะปฏิรูปเธอเสมอ เข้าใจไหม?”

เฉียว มองไปข้างหน้า และตอบกลับไปเสียงเบาว่า “เข้าใจ ค่ะ”

ประตูห้องขังเปิดออก จากนั้นเธอก็เดินเข้าไป

เธอหันกลับมา จากนั้นก็ยื่นมือทั้งสองข้างไปข้างหน้า เพื่อให้ผู้ คุมปลดกุญแจมือ ให้เธอ

เธอกัดริมฝีปากเล็กน้อย จากนั้นเธอยิ้มให้หล่อน และพูดออก

ไปว่า “ขอบคุณค่ะ”

ผู้คุมเรือนจำถึงกับตกตะลึง

หล่อนเงยหน้าขึ้นไปมองเธอ และครู่หนึ่ง ดวงตาของหล่อนก็ พร่ามัวเพราะรอยยิ้มที่อ่อนโยนแต่กลับสงบนั้น
เห็นอยู่ๆ ว่าเธอกำลังสวมชุดนักโทษโทรม ๆ อยู่ และก็อยู่ว่าหน้าของไม่คลื่น

แต่ในขณะเดียวกัน ดูเหมือนหล่อนจะ

สะพรั่ง หลังจากเธอติดคุกตลอดนี่เป็นครั้งแรกหล่อนได้รอยเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ