บทที่ 745 ไม่ทําตามกฎ
เขาชะงักไปครู่หนึ่ง ค่อนข้างแปลกใจ
สุดท้ายแล้วในตอนที่เขาออกมา หลินเยว่เอ่อร์ยังนั่งกินข้าว อยู่ตึกด้านข้างเลยนี่นา ทำไมถึงได้วิ่งมาที่นี่ได้เร็วขนาดนี้?
เมื่อคิดว่ากู้ชื่อเฉียนยังอยู่ในห้องหนังสือ สีหน้าของเขาก็ เปลี่ยนไปแล้วรีบเดินเข้าไป
อีกด้าน หลินเยว่เอ๋อร์ก็กำลังงุนงง
เมื่อกี้สาวใช้คนนั้นบอกเพียงแต่ว่ากู้ซื้อเฉียนอยู่ในห้อง หนังสือชั้นบน แต่ไม่ได้บอกให้ชัดเจนว่าห้องไหนคือห้องหนังสือ
หลังจากเธอขึ้นมาชั้นบนแล้วจึงพบว่า ข้างบนนี้มีห้องอยู่หลาย
ห้องมากและทุกห้องก็ปิดประตู เธอไม่รู้ว่าห้องไหนคือห้อง
หนังสือ
ด้วยความสิ้นหวัง เธอจึงได้แต่หามันไปทีละน้องๆ
เธอไม่กล้าจะขยับตัวมากมายและดูเหมือนตัวเองไม่รู้จัก มารยาท ดังนั้นจึงได้แต่แอบเปิดประตูเงียบๆ ทุกครั้ง
เป็นแบบนี้ ในสายตาคนอื่นจะดูเหมือนกำลังสาละวันทำอะไร ลับๆ ล่อๆ
ในตอนที่ลุงโอวเดินเข้าไปเธอวางถาดไว้ที่พื้นแล้ว จากนั้นก็ จับลูกบิดและแนบกับบานประตูและเปิดแล้วยื่นหัวเข้าไปดู
พบว่าด้านในเป็นเพียงห้องเปล่า ไม่ใช่ห้องหนังสือที่เธอกำลัง หา ซึ่งเธอผิดหวังเล็กน้อยแล้วถอยออกมา
เมื่อปิดประตูก็ก้มลงไปหยิบถาดอาหารแล้วลุกขึ้นและหันหลัง กลับ
ไม่คิดว่าพอหันกลับมาก็เจอคนคนหนึ่ง
เธอตกใจและร้องออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อเสียงนั้นกำลังจะ ออกมาจากล่าคอของเธอลุงโอวก็ปิดปากของเธอไว้
ลุงโอวปิดปากเธอแล้วลากเธอไปอีกด้าน จากนั้นก็ปล่อยแล้ว สอบถาม : “คุณหลิน ทำไมคุณถึงมาที่นี่ครับ?”
หลินเยว่เอ๋อร์ไม่พอใจที่ลุงโอวปิดปากและลากเธอออกมาเป็น อย่างมาก
แต่เมื่อคิดว่าเขายังเป็นพ่อบ้านในปราสาทแห่งนี้ แต่ตนเองก็ เป็นเพียงแขกผู้อาศัยเท่านั้น เธอจึงได้แต่เก็บความรู้สึกไม่พอใจ นั้นเอาไว้ในใจ
เธอได้แต่เก็บเรื่องราวเล็กๆ ไว้ในใจ รอจนกว่าตนเองจะได้ เข้ามาในปราสาทและเป็นคุณนายกู้ และเธอจะต้องตอบแทนเธอ แน่นอน
เมื่อคิดแบบนี้ สีหน้าของเธอก็อ่อนโยนขึ้นมาและใช้น้ำเสียงที่ อ่อนโยนเป็นอย่างมาก “ลุงโอวคะ ฉันมาหาคุณค่ะ”
ลุงโอวได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว
“คุณมีธุระอะไรครับ?”
หลินเยว่เอ๋อร์ยิ้มและส่งถาดอาหารตรงหน้าและพูด: “คืออย่าง นี้ค่ะ เมื่อตอนฉันกินข้าวอยู่ จู่ ๆ ก็คิดขึ้นได้ว่าคุณอาจจะยังไม่ ได้กินข้าว ดังนั้นก็เลยตั้งใจเลือกอาหารอย่างดีและเอามาส่ง ลง โอว คุณอยู่ในห้องหนังสือรึเปล่าคะ?”
ลุงโอวสีหน้าขรึมแล้วพูด “ผมบอกคุณแล้วว่าคุณชายรับ ประทานอาหารที่อีกห้อง ของพวกนี้คุณนำกลับไปเถอะครับ เขา ไม่ต้องการ”
เดิมทีคิดว่าคำพูดรุนแรงแบบนี้จะทำให้หลินเยวเอ๋อร์กลัวและ กลับไป
คิดไม่ถึงว่ากลับดูเหมือนหลินเยว่เอ๋อร์จะไม่ได้ฟังอยู่เลย
เธอถือถาดอาหารและยิ้มให้ตัวเองแล้วพูด “ลุงโอวคะ คุณ ไม่ใช่เขาสักหน่อย คุณลุงรู้ได้ยังไงคะว่าเขาไม่ต้องการ ตึก ขนาดนี้แล้วคุณกู้ยังยุ่งอยู่คงจะยังไม่ได้กินอะไร แน่ ๆ ฉันไม่มี อะไรทำพอดี ก็เลยจะนำอาหารมาให้เพื่อเป็นการแสดงความ ซาบซึ้งใจของฉันสักหน่อยค่ะ”
พูดจบก็ตั้งท่าจะเข้าไปอย่างไม่สนใจอะไร ลุงโอวเห็นแล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไป และรีบขวางเธอไว้อีกครั้ง
“คุณหลินคุณชายไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าไปในห้องหนังสือ คุณกลับไปเถอะครับ
หลินเยว่เอ๋อร์หันไปมองเขา
สายตาเย็นชาเล็กน้อย
“คุณชายของพวกคุณเป็นคนพูดเหรอคะ?”
ลุงโอวพูดเสียงเข้ม: “เป็นเช่นนั้นครับ”
“แต่ฉันไม่ได้ยินตอนที่เขาพูดสิ่งนี้นี่คะ ฉันไม่อยู่ที่นี่แน่ ๆ คำ พูดนั้นไม่น่าจะพูดกับฉัน เขาออกกฎให้กับพวกคุณ พวกคุณ รักษากฎก็ดีแล้ว แล้วเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย?”
น้ำเสียงเธอนุ่มนวลและหัวเราะ แต่ทุกคำพูดที่ออกมานั้นกลับ มีความแข็งกร้าวอยู่ในน้ำเสียง
ลุงโอวคิดไม่ถึงว่าเธอจะมีท่าทีแบบนี้
จู่ ๆ ก็จุกจนพูดไม่ออก
หลินเยว่เอ๋อร์หันไปมองเขาที่อยู่ด้านหลังอีกครั้ง
สายตาของเธอมองไปที่ประตูบานที่เขาเพิ่งจะ งจะออกมาแล้วยิ้ม และพูด: “นั่นคือห้องหนังสือสินะคะ? ลุงโอว คุณไม่ต้องเป็น กังวลนะคะ ฉันนำอาหารไปให้เสร็จก็จะออกมาเลย คุณอยู่ใน นั้นตั้งนานขนาดนี้แล้ว ถ้าหิวคงจะไม่ดี ฉันเข้าไปก่อนนะคะ
พูดจบ เธอก็ไม่สนใจปฏิกิริยาและก้าวเท้าออกไป
ลุงโอวเห็นเช่นนั้นก็กังวลขึ้นทันที
เขาคิดจะขวางเธอไว้ แต่หลินเยว่เอ๋อร์เตรียมพร้อมมาเป็น เวลานานแล้ว และเมื่อเธอหันหลังกลับก็หลบได้
ท้ายที่สุดเธอยังอายุน้อยและคล่องแคล่ว ลุงโอวไม่เคยพบเจอ เหตุการณ์ที่ไร้มารยาทแบบนี้มาก่อน แล้วจะเตรียมการทัน ที่ไหน?
โดยไม่ทันได้ป้องกันจึงทำให้เธอแอบเข้าไปได้ จนเขาได้สติ และคิดจะเข้าไปขวางเธอก็วิ่งเข้าไปแล้ว กว่าจะเห็นก็ถึงหน้า ประตูห้องหนังสือแล้ว สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป และโวยวายใน ใจแล้วรีบตามไป
“คุณหลิน! คุณหลินหยุดก่อน!!
เขาร้องเรียกจากด้านหลังไม่หยุด แต่หลินเยว่เอ๋อร์ไม่สนใจ เขาเลย
ทันทีที่ยกมือขึ้น เธอก็ผลักประตูห้องหนังสือซึ่งถูกปิดเอาไว้
ในห้องหนังสือ กู้ซื้อเฉียนยืนอยู่หน้าบานหน้าต่างบานใหญ่ หันหลังให้ปประตูและโทรศัพท์อยู่
เมื่อได้ยินเสียงจากด้านหลังจึงหันไปก็พบหลินเยว่เอ๋อร์ที่ยืน อยู่หน้าประตู
วันนี้หลินเยว่เอ๋อร์สวมชุดเดรสสีเบจ ซึ่งเธอเลือกอย่าง ระมัดระวังจากตู้เสื้อผ้าเมื่อเธอพักผ่อนในห้องรับแขกก่อนอาหาร
ท้ายที่สุด เมื่อก่อนฐานะทางบ้านของเธอก็ไม่ได้แย่ ไม่ว่าจะ เป็นอาหารหรือเสื้อผ้าและสินค้าหรูก็ไม่เคยจะขาดมือ
ในช่วงเวลานี้ เธอถูกรังแกและพลัดถิ่น และเธอคิดถึงการชีวิตก่อนหน้านี้มาก
หากไม่ใช่เพราะไม่อยากจะแต่งงานกับตาแก่น่าเกลียดคนนั้น
เธอคงกลับไปนานแล้ว
แต่เธอไม่อยากจะยอมแพ้ชะตาชีวิตตัวเองด้วยเหตุผลนั้น ดัง นั้นจึงได้ยืนหยัด แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ ตอนนี้เธอจึงไม่อาจจะที่จะ ไม่ใช้ของดีที่อยู่ตรงหน้าเธอ
ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้เธอมีแผนที่ตนเองคิดเองว่ายอดเยี่ยม
ต้องเข้าใจก่อนว่าซือเฉียงนั้นเป็นหนึ่งในตระกูลกู้ซึ่งเป็นหนึ่ง ในตระกูลใหญ่แห่งเมืองหลวง อีกทั้งยังเป็นตัวเต็งในการ สืบทอดกิจการตระกูลเกาซึ่งเป็นไปได้สูงมากว่าชื่อกรุ๊ปทั้งหมด จะตกอยู่ในมือเขาในอนาคต
ต่อหน้าเขา บริษัทที่พ่อของตนเองเป็นเจ้าของนั้นเหมือนกับ จอกแหนกับต้นไม้ใหญ่และมันก็หาที่เปรียบไม่ได้เลย
ถ้าหากตนเองสามารถจับเขาได้ ถึงเวลานั้นเมื่อกลับไปไม่แน่ ว่าอาจจะไม่เพียงแต่จะไม่ต้องแต่งงานกับชายแก่อายุกว่าครึ่ง ร้อยคนนั้น อาจจะทำให้พ่อของตนตะลึงตาค้างเลยก็ได้
เมื่อก่อนหลินเยว่เอ๋อร์เชื่อมั่นแต่ในความรัก
รู้สึกว่าผู้หญิงของเพียงมีรัก อย่างอื่นก็ไม่มีความหมายอะไร อีก
แต่เมื่อผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายเธอจึงพบว่า แท้จริงแล้ว ในชีวิตปัจจุบันนี้ เมื่อปราศจากเสื้อผ้าหรูและต้องทำเพื่อปากท้องแล้ว ความรักนั้นไม่มีความหมายอะไรเลย
ครั้งหนึ่งเธอเคยฝากใจกับผู้ชายที่รักจริง แต่สุดท้ายเขาก็ขาย เธอ
เธอโกรธมากจนอยากจะกลับไปแก้แค้น
แต่ด้วยสถานการณ์ของเธอในตอนนี้ เธอไม่มีความสามารถ จะไปแก้แค้นใครได้
อย่าพูดแต่แก้แค้นเลย หากเพียงแค่เธอปรากฏตัวในประเทศ ไม่แน่ว่าเธอคงจะถูกพ่อจับตัวกลับไปในทันที ถึงเวลานั้นพ่ออาจ จะไม่รับฟังเธอแล้วและรู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นค่าพูดหลอก ลวงเหมือนที่เคยพบเจอเพราะไม่อยากจะให้ตนเองต้องแต่งงาน เท่านั้น
ยิ่งกว่านั้น ในใจของเธอยังแอบค้นพบอะไรบางอย่างที่ไม่ ชัดเจน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ