บทที่ 734 เป็นเขานี่เอง
ไม่รู้ว่าเธอซัดเข้าไปที่มัดแล้ว
ในที่สุดข้อมือของเธอก็ถูกเขาจับเอาไว้ได้ หลังจากนั้น จึงหนี งก็รู้สึกว่าที่เอวของเธอถูกรัดแน่น เมื่อฝ่ายตรงข้ามพลิกตัวและ กดเธอเอาไว้
เธอรู้สึกตกใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ในขณะที่กำลังจะโต้กลับ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยพูด ขึ้นว่า
“มีความสามารถแค่นี้เองเหรอ? ในตอนนั้นที่ผมสอนวิชา มากมายให้กับคุณ คืนอาจารย์หมดแล้วหรือไง?
จิ่งหนิงชะงักลง
เธอเงยหน้ามองเขาอย่างเหลือเชื่อ
อีกฝ่ายหนึ่งจับข้อมือของเธอไว้ ผมเผ้าและเสื้อผ้าต่างเปรอะ เปื้อนเลอะเทอะจากการต่อสู้เมื่อสักครู่
แต่ดวงตาแหลมคมคู่นั้นมันเฉียบคมเสียจนวิ่งหนึ่งรู้สึกเหมือน กับมีดเข้ามาทิ่มแทง พุ่งเข้าไปในหัวใจของเธอ
เธออดไม่ได้ที่จะถามด้วยเสียงสั่นคลอนว่า “คุณเป็นใคร?” คนที่รู้ว่าเธอเรียนศิลปะการต่อสู้มาก่อนมีเพียงไม่กี่คน แต่เธอ คิดไม่ออกจริงๆว่าในตอนนี้ใครกันจะมาปรากฏตัวตรงหน้าได้
อีกฝ่ายหนึ่งได้ยินดังนั้นก็ยิ้มขึ้น
แววตาอันแหลมคม ดวงตาคู่นั้นหรี่ยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียง ลึกล้ำว่า “น้องเซเว่นไม่ได้เจอพี่ชายแค่ไม่กี่วัน ลืมพี่ชายแล้วหรือ ไง? จําไม่ได้แม้แต่เสียงเลยเหรอ?”
จิ่งหนิงตกใจ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง
“กู้ซือเฉียน! แก! ! ! ”
“ชูว์! ”
กู้ซื้อเฉียนชี้นิ้วไปที่ริมฝีปากของเธอเป็นสัญลักษณ์ให้เธอหยุด การเคลื่อนไหว
เขาเงยหน้ามองไปทางทิศทางที่รถจอดอยู่แล้วพูดว่า “น้องเซ เว่นถ้าไม่อยากดึงดูดสายตาของคนอื่น ก็ลดเสียงลงหน่อยเข้าใจ มั้ย?”
จิ่งหนิงโมโหมาก
เธอคิดไม่ถึงจริงๆว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี่คือกู้ซื้อเฉียนที่ ปลอมตัวมา
เธอไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่นิดเดียว!
เมื่อคิดได้ดังนี้ เธอก็รู้ได้ว่าการที่ตนพยายามจะหนีตาย ผู้ชาย คนนี้เห็นมาตลอดแต่กลับไม่บอกเธอ ต้องการให้เธอถูกหัวเราะ
เยาะ
มันน่ารังเกียจเหลือเกิน!
เธอกัดฟันและพูดขึ้นว่า “คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
กู้ซือเฉียนหัวเราะขึ้นเขาไม่รีบร้อน และเล่นกับลูกผมที่แก้ม ของเธอว่า “อย่าเพิ่งพูดเรื่องผมเลย คุณจำสิ่งที่คุณพูดเมื่อสักครู่ ได้รึเปล่า? เกิดเป็นคนควรจะพูดคำไหนคำนั้นนะ
จิ่งหนิงชะงักลงทันที และเมื่อนึกถึงจูบที่ถูกบังคับเมื่อสักครู่เธอ ก็เลือดขึ้นหน้าอยากจะกัดเขาให้ตาย
เธอพูดอย่างโกรธเคืองว่า “กู้ซื้อเนียน! คุณยังกล้ามาพูดอีก รนหาทีตายใช่ไหม?”
กู้ซื้อเฉียนได้แต่หัวเราะขึ้นมา
ดูเหมือนว่าเขาจะชอบทำให้ผู้หญิงคนนี้โมโหจนฟาดงวงฟาด งา มันทำให้เขารู้สึกถึงความภาคภูมิใจอย่างอธิบายไม่ถูก
แต่เขาก็รู้ดีว่า แม้จะเป็นลูกแมวแสนน่ารัก แต่ถ้าเข้าตาจนขึ้น
มาจริงๆ ก็อาจจะข่วนจนได้รับบาดเจ็บได้
ดังนั้นเขาจึงหยุดและไม่แกล้งเธออีก
แต่กลับพูดอย่างจริงจังว่า “ผมได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับคุณก็ เลยรีบมา”
จิ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้นมองด้วยความสงสัย
“เป็นไปไม่ได้ จากประเทศจีนมาถึงที่นี่และกว่าจะหาสถานที่นี้ พบ อย่างน้อยต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ แต่ทำไมคุณถึงหาฉันได้ เร็วขนาดนี้?”
กู้ซือเฉียนหรี่ตาแล้วพูดว่า “คุณไม่เชื่อผมเหรอ?”
จึงหนิงหัวเราะเยาะเย้ย
“สิ่งที่คุณอยากได้ก็คุณได้ไปแล้วไม่ใช่หรือไง ส่วนฉันจะเป็น จะตายมันแตกต่างกันตรงไหนสําหรับคุณ?
ดวงตาของผู้ชายคนนั้นเยือกเย็นลงทันที เขามองไปทางจิ่งหนิงด้วยดวงตาอันเย็นชา “ที่ผ่านมาคุณคิดอย่างนี้เองเหรอ?” จิ่งหนึ่งไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอเม้มริมฝีปากแสดงออกมาถึงความดื้อรั้นของเธอ
กู้ซื้อเฉียนมองดูเธออยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจปล่อยเธอ และลุกขึ้น
บรรยากาศแปลกๆกระจายไปรอบๆทั้งสองคน เขาไม่ได้เอ่ย ถามถึงปัญหานี้อีกต่อไป ท่าทางของเขาเย็นลงกว่าเมื่อสักครู่ อย่างเห็นได้ชัดเจน
จากนั้นจึงพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ ทุ้มว่า “ช่วงนี้มีธุรกิจบางอย่างที่ ทำอยู่ไม่ไกล ผมเพียงแค่อยากจะแวะมาหาคุณ แต่เมื่อได้ยินข่าว เรื่องอุบัติเหตุ ก็เลยรีบมาเท่านั้นเอง”
คำพูดของเขานี้จึงหนิงเชื่อสนิทใจ
ในที่สุดเธอก็วางใจลง
เธอตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งยังกดทับอยู่บนร่างกายเธอจึง ได้เอื้อมมือไปผลักเขาพูดว่า “คุณลุกขึ้นมาก่อน”
ตอนนี้ตัวตนของกู้ซือเฉียนถูกเปิดโปงออกมาแล้ว เขาก็ไม่ได้ มีอารมณ์จะแกล้งเธออีกจึงได้ปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย หลังจากที่เขาลุกขึ้นยืน จึงหนึ่งก็รีบตะกายขึ้นจากพื้นจากนั้น ปัดฝุ่นผงที่อยู่บนร่างกาย แล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “คุณไปอยู่กับพวก
มันได้อย่างไร? แล้วก็ ทำไมหน้าตาคุณถึงเป็นแบบนี้?”
ใบหน้าของเขายังคงเป็นใบหน้าของชาวนาคนนั้นไม่ใช่ ใบหน้าเดิมของเขา
เมื่อกู้ซือเฉียนได้ยินดังนั้นเขาก็สัมผัสไปที่แก้มของตัวเองแล้ว พูดว่า “ผมใส่หน้ากากผิวมนุษย์
หน้ากากผิวมนุษย์?
จิ่งหนิงตกตะลึงเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
“อืม”
กู้ซื้อเฉียนดูเหมือนไม่อยากจะอธิบายเรื่องนี้เพิ่มเติมมากมาย นักเขาจึงพูดขึ้นว่า “สองพี่น้องนั้นเป็นชาวบ้านธรรมดาใน หมู่บ้าน ส่วนคนที่ทำงานให้กับลูกน้องของผมเมื่อสองวันก่อน
ผมได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับคุณ ก็ได้หาระยะตำแหน่งที่ร่มชูชีพ ตกลงมา จากนั้นก็แปลงเป็นพี่ชายของเขาเพื่อมาสืบหาข้อมูล
และบังเอิญผ่านมา ได้ยินพวกเขาบอกว่า จะขายผู้หญิงสองคนอายุราวๆกับพวกคุณผมก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นพวกคุณแน่ๆที่ ตกอยู่ในมือของผู้ค้ามนุษย์
เมื่อจิ่งหนิงฟังจบ ก็พอจะเข้าใจเรื่องการมาถึงของเขา เธอจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมาก
กู้ซือเฉียนหรี่ตาลง
นี่เป็นครั้งแรกที่จิ่งหนิงเอ่ยขอบคุณเขาอย่างจริงจัง
แม้มองไปดูแล้วรู้สึกว่ามีมารยาทมากก็ตาม แต่ไม่รู้ว่าเพราะ อะไรเปรียบเทียบกันแล้วเขาชื่นชอบวิ่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยกรงเล็บ มากกว่าเฉยเมยและสุภาพแบบนี้
แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาใส่ใจเรื่องพวกนี้มากนัก
เขามองไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกลแล้วพูดขึ้นว่า “คุณขึ้นรถไป ก่อนเถอะ เอาไว้ถึงหมู่บ้านแล้วค่อยพูดกัน
จิ่งหนิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย
“คนคนนั้น……..
กู้ซื้อเฉียนยิ้มออกมาด้วยท่าทางตลกขบขัน
“ทำไมเหรอ? คุณกังวลว่าผมจะขายคุณจริงๆหรือไง?”
จิ่งหนิงเม้มริมฝีปากตัวเอง
เธอรู้ว่ากู้ซือเฉียนคงไม่ขายเธอไปแน่ๆ
แต่จากที่เธอคิดเอาไว้ ในเมื่อตอนนี้เธอรู้แล้วว่าตัวตนของผู้ชายคนนั้นคือกู้ซือเจียน การคุกคามจากพวกเขาก็บรรเทาลง เช่นนั้นเธอกับ โมหนานก็น่าจะออกไปจากที่นี่ได้ทันทีไม่ใช่เห รอ? ทําไมต้องกลับไปพร้อมกับพวกเขาด้วย?
ราวกับว่าเดาใจของเธอออก กู้ซือเฉียนจึงได้รีบอธิบายว่า “คนกลุ่มนั้นเดินทางไปถึงในหมู่บ้านแล้ว พวกเขาน่าจะตามหา พวกคุณอยู่ ตอนนี้ผมยังมีบางเรื่องต้องจัดการไม่สามารถไปจาก ที่นี่ได้ ดังนั้นการที่พวกคุณอยู่กับผมถึงจะปลอดภัยที่สุด”
เขาหยุดชะงักลงแล้วพูดว่า “แน่นอนว่าเรื่องนี้ผมก็ไม่บังคับ คุณหรอก มันเป็นเพียงแค่คำแนะนำเท่านั้น ถ้าคุณยังยืนยัน อยากจะจากไปก็ได้ แต่ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นผมคงไม่รับผิดชอบ แล้ว”
จิ่งหนิงจ้องมองเขา
เธอรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้จงใจกวนเธอ แต่เธอก็พยายามนิ่งเงียบ เธอยอมรับชะตากรรมแล้วพูดว่า “ก็ได้ค่ะ ฉันจะไปกับคุณ อย่างไรก็ตามไปถึงในชุมชนก่อนค่อยว่ากัน
กู้ซือเฉียนจึงได้พยักหน้าอย่างพออกพอใจ จากนั้นสะบัดเสื้อที่ ถูกเธอทำจนยับยู่ยี้แล้วพูดว่า “พวกเราไปกันเถอะครับ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ