วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 724 ช่างไร้เดียงสาและโรแมนติก



บทที่ 724 ช่างไร้เดียงสาและโรแมนติก

เสียงคุยกันของพวกเขาทั้งสองเบามาก

เวลานี้ จิ่งหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ไม่ได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน

เห็นเพียงเธอกำลังเด็ดดอกไม้อยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกล ออกไป มีทั้งดอกสีเหลือง สีฟ้า สีม่วง สีชมพู เต็มหนึ่งกำมือใหญ่

เมื่อลุงสี่เห็นแล้ว ยิ้มอย่างมีเลศนัย

“ช่างไร้เดียงสาและโรแมนติกจริงๆ แม่สาวน้อย มาถึงขั้นนี้ แล้ว ยังเก็บดอกไม้อีกหรือ

ปลายนิ้วมือป้าสี่สั่นเล็กน้อย แต่ก็ไม่พูดอะไร

เมื่อจิ่งหนิงเก็บดอกไม้ได้ช่อใหญ่แล้ว ก็เดินมา แล้วยิ้ม กล่าว”ลุงสี่ ป้าสี่ พวกท่านดูดอกไม้สวยไหม ”

ลุงสี่เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มขึ้นมาทันที “อืม สวย

“หนูเอาดอกไม้ไปเสียบไว้ในห้องรับแขกของพวกท่านดีไหม”

“ได้ แล้วแต่หนู”

พวกเขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เห็นเพียงสิ่งหนึ่งสาวน้อยผู้มีใจ รักความสวยความงามของดอกไม้ดอกหญ้าอะไรประมาณนั้น

แต่ในความเป็นจริง จิ่งหนิงเองกลับรู้ว่า ดอกไม้พวกนี้ล้วนมี ฤทธิ์ข้างเคียงทั้งนั้น
ดอกไม้นี้ เธอไม่ได้เด็ดมั่วๆ

เธอได้คัดเลือกดอกไม้บางชนิดที่สามารถพ่นความหอมออก มาจนทำให้คนมึนเมาได้ ปนไว้ด้วยกัน

เรื่องพวกนี้เดิมทีนั้นเธอไม่รู้ แต่หลายปีที่เธออยู่เมืองนอก มี อยู่ครั้งหนึ่งตอนออกไปทำภารกิจ ได้ผ่านสวนดอกไม้สวนหนึ่ง โดยบังเอิญ กู้ซือเฉียนจึงสอนเธอ

เพียงแต่ว่า ดอกไม้พวกนั้นในสายตาคนปกติทั่วไป ก็คือ ดอกไม้ธรรมดานั่นเอง

จะต้องนำพวกมันทั้งหมดรวมไว้ด้วยกัน ถึงจะแสดงผลข้าง เคียงที่แตกต่างกันของมันออกมา

เธอคิดแล้วว่า สถานการณ์ของเธอกับโม่หนานในตอนนี้ค่อน ข้างซับซ้อน

ถึงแม้โม่หนานจะพูดว่า เธอคนเดียวสามารถโค่นสองสามี

ภรรยาคู่นี้ได้

ไม่ว่าอย่างไร ร่างกายเธอยังบาดเจ็บอยู่ ถ้าไม่ลงมือได้ ก็ พยายามอย่าลงมือจะดีที่สุด

ส่วนกังฟูของจิ่งหนึ่งที่จริงแล้วมีแค่ครึ่งเดียว ประเภทที่เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย

แต่จะดูถูกคนที่ปลูกพืชไร่ประจำไม่ได้ ถึงแม้พวกเขาจะไม่มี ทักษะในการต่อสู้ แต่พวกเขามีพละกำลังมาก
จิ้งหนึ่งไม่มั่นใจว่าหากพบเจอสถานการณ์อะไร ตัวเองจะ สามารถปกป้องตัวเองและไม่หนานได้

ดังนั้น ตอนที่สถานการณ์ยังไม่เลวร้ายเกินไป เธอต้องเตรียม การให้มากขึ้นสำหรับตัวเองกับโม่หนาน ที่บอกว่า การเตรียมพร้อมจะไม่มีปัญหาใดๆ น่าจะหมายถึง

สิ่งนี้

ที่ตอนนี้เธอเด็ดดอกไม้พวกนี้กลับไป ก็เพื่อนำดอกไม้พวกนี้ไป ตากให้แห้งอย่างเงียบๆ จากนั้นบดให้ละเอียด เมื่อถึงเวลาจะทำ ออกมาเป็นผงชนิดหนึ่งที่ทำให้คนประสาทหลอนได้ชั่วคราว

ถึงแม้ว่า วัสดุมีจำกัด และพลังของผงนี้มีมากเท่าไหร่นั้นเธอก็ บอกไม่ได้ แต่ดีกว่าไม่มี

หากใช้ไม่ได้ผลจริงๆ เมื่อถึงเวลาก็ใช้แทนเป็นผงปูนโรยใส่

ตา ก็ยังดี

ขณะที่จิ่งหนิงคิดไป ก็วิ่งไปเด็ดอีกใหญ่

เมื่อป้าสี่เห็นเธอเด็ดดอกไม้อย่างมีความสุข ในใจก็ถอน หายใจอย่างเงียบๆ

รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าสงสารมาก ได้ยินว่าในบ้านยังมีลูกอีก สองคน ตอนนี้ถูกขังอยู่ในป่า คาดว่าทั้งชีวิตก็ออกไปไม่ได้แล้ว ก็ไม่รู้ว่าลูกสองคนนั้นจะทำอย่างไร

เธอเห็นอกเห็นใจมาก มองดูท่าทางจิ่งหนึ่งที่มีชีวิตชีวา ราวกับมองเห็นตัวเองเมื่อหลายปีก่อน
แต่ว่าความเห็นอกเห็นใจของเธอ หลังจากผ่านมาสิบกว่าปี เหลือเพียงแค่นี้จริงๆ

ให้เธอคุยเรื่องความรู้สึกนั้นได้ แต่ให้เธอบอกความจริงกับจึง หนึ่ง รวมทั้งช่วยเหลือพวกเธอนั้น เป็นไปไม่ได้ ตอนนั้นเธอเคยหนี จึงรู้ว่า ป่าเขาลูกนี้น่ากลัวขนาดไหน

ปกติหากไม่มีคนในพื้นที่นำทาง ออกไปยากมาก

ถึงแม้ตอนนี้เธอจะอยู่ในป่าเขาลูกนี้มาประมาณสามสิบปีแล้ว แต่ในความเป็นจริง เธอไม่เคยออกไปจริงๆเลยแม้แต่สักครั้ง เดียว แม้กระทั่งออกจากหมู่บ้านนี้ ก็มีเพียงครั้งเดียว

หลายปีมานี้ ไม่ใช่ว่าลุงจะไม่เชื่อใจเธอ

แต่ในความคิดของพวกเขา ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องออกไป ดัง นั้น เธอไม่มีโอกาสนั้นเลย

อีกอย่าง ตอนนี้ลูกของเธอก็อายุยี่สิบกว่าปีแล้ว เป็นคนที่นี่ไป

ครึ่งค่อนชีวิตแล้ว

เธอเองก็คิดได้แล้ว ยอมรับชะตากรรมแล้ว ชีวิตนี้ก็ให้มันเป็น อย่างนี้เถอะ

ดังนั้น เธอก็ไม่มีความคิดที่จะหนีไปอีกแล้ว เพียงแต่มองดูจึง หนิงกับโม่หนานแล้ว รู้สึกเสียดายเล็กน้อย

ขณะที่คิดไป เธอก็รอจนหลังจากลุงสี่กินเสร็จแล้ว ก็เดินไป กล่าวกับวิ่งหนึ่งว่า”สาวน้อย เรากลับกันเถอะ หนูเก็บพอหรือยัง”
จิ้งหนังถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่ยิ้มวิ่งเข้ามา แล้วกล่าวว่า “พอแล้ว พอแล้ว ป้าสี่คะ ท่านดูดอกไม้พวกนี้สวยมาก เมื่อถึง เวลาจะเสียบไว้เต็มบ้านเลย ในบ้านก็จะกลายเป็นสวยมาก

ลุงสี่ยิ้มเยาะอยู่ไม่ไกล แล้วกล่าวด้วยเสียงต่ำ”สวยแล้วมี ประโยชน์อะไร กินแทนข้าวก็ไม่ได้

แต่เสียงค่อนข้างเบา จิ้งหนึ่งไม่ได้ยิน

ป้าสมองดูดอกไม้บอบบางสวยงามพวกนั้น ฝืนยิ้ม แล้วพยัก หน้า “สวย”

ขณะพูด ก็ยื่นตะกร้าในมือ ให้เธอ “ใส่ในนี้เถอะ จะได้หิ้วกลับ ไปพร้อมกัน ”

วิ่งหนึ่งพยักหน้า นำดอกไม้ใส่ลงไป แล้วตัวเองก็เป็นคนถือ ตระกร้า แล้วหันหน้ากลับไปโบกไม้โบกมือกับลุงสี่ กล่าวด้วย รอยยิ้มว่า “เรากลับแล้วนะคะ ลุงสี่”

ชายชราพยักหน้า

ระหว่างทางในป่าที่กลับไป จึงหนิงก็จดจำทางไว้อีกรอบหนึ่ง

ในใจก็จดจำภูมิประเทศโดยรอบอย่างเงียบๆ รวมทั้งผืนป่า และต้นไม้ใหญ่ที่มีลักษณะค่อนข้างเป็นสัญลักษณ์ ล้วนจดจำอีก รอบ

เธอมองดูที่ไม่ไกลออกไป เห็นภูเขาเรียงราย ถามอย่าง ประหลาดใจ “ป้าสี่คะ ภูเขาลูกนั้นดูสวยมาก ท่านเคยไปไหมคะ”
ป้าสีเงยหน้าขึ้นมอง ส่ายหัว ไม่เคยไป

“ป้าสี่ ท่านก็รู้ เรามาที่นี่เพื่อมาท่องเที่ยว ตอนที่เราท่องเที่ยว ชอบเลือกเทือกเขาลูกใหญ่ เวลาปืนก็จะใช้แรงเยอะ วันหน้าหาก มีเวลาว่าง ท่านพาเราไปดูได้ไหม”

ป้าสี่เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ทางนั้นไม่มีคนอยู่อาศัย ไปไม่ได้”

จิ่งหนึ่งท่าทางประหลาดใจ

ป้าสี่ชะงักไป เหมือนไม่แน่ใจเล็กน้อย แล้วเปลี่ยนคำพูดว่า “ฉันก็ไม่รู้ ฉันได้ยินเขาพูดกัน ทางนั้นเป็นป่าไม้ หนูไม่เห็นบนเขา นั้นล้วนเป็นต้นไม้หรือ ในนั้นมีหมาป่า ไปไม่ได้”

“อย่างนี้นี่เอง ลุงสี่ก็ไม่เคยไปใช่ไหม”

“ไม่เคย”

“แล้วปกติหากพวกท่านออกไปเที่ยว จะไปเที่ยวที่ไหนกันหรือ

“เราไม่มีเวลาเที่ยวเล่น

น้ำเสียงป้าสีไม่ค่อยดี จิ่งหนึ่งที่เดินตามหลังเธอ ยักคิ้วเล็ก น้อย

ราวกับรู้ตัวว่าท่าที่ตัวเองมีปัญหา ป้าสี่ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้ว กล่าวว่า “ความหมายของฉันคือ ทำนาในบ้านให้หมดก็ไม่เลว แล้ว จะเอาเวลาว่างที่ไหนไปท่องเที่ยวได้ล่ะ เราไม่เหมือนคนในเมืองอย่างพวกคุณ วันๆยังมีใจคิดจะไปเที่ยว ปีนเขา แถว ชานเมืองอะไรประมาณนั้น มันไม่ง่ายเลยที่เราจะมีชีวิตอยู่รอด

จึงหนิง”อ๋อ “หนึ่งคำ ด้วยท่าทางเหมือนคนอ่อนต่อโลก

“ป้าคะ ถ้าอย่างนั้น หากมีเวลาว่างแล้วหนูจะพาท่านออกไป เที่ยว หนูจะบอกกับท่านนะ โลกภายนอกสวยงามมาก ในเมือง ในวิลล่าขนาดใหญ่ ยังมีสวนสนุก ยังมีสวนสาธารณะที่สวย มากมาย ใช่แล้ว ป้าสี่ ท่านเคยเห็นประติมากรรมน้ำแข็งไหม”

“ทางบ้านของเรา เมื่อถึงฤดูหนาว ก็จะมีประติมากรรมน้ำแข็ง ที่สวยงามสวยงามมาก มีรูปร่างลักษณะต่างๆนานา อะไรพวก เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ นางฟ้าทั้งเจ็ด ราวกับอาณาจักรในเทพนิยาย เช่นนั้น”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ