บทที่ 722 ไร้เดียงสาและน่ารัก
“เมื่อเป็นเช่นนี้ดีต่อคุณดีต่อฉันและดีต่อทุกคน เมื่อถึงเวลา คุณหากลับไป ก็ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะหนีไป ดีต่อทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่หรือ” ผู้ชายคนนั้นได้ยินก็พยักหน้าซ้ำๆ
“ใช่ ลุงสี่พูดถูก”
เขายิ้มและพูดอย่างประจบสอพลอว่า “เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็ ตกลงกันแล้วนะ ฉันก็จะกลับไปก่อน รอเมื่อไหร่ที่หาเงินมาได้ ครบแล้ว ฉันจะมาใหม่
ลุงสี่โบกไม้โบกมือ คนคนนั้นถึงหันหลังจากไป
หลังจากที่วิ่งหนึ่งมองดูคนคนนั้นจากไปแล้ว ลุงสี่ยังยืนอยู่ที่ เดิมครูหนึ่ง จนกระทั่งดูดยาไปป์นั้นหมด ถึงหันหลังเดินเข้าบ้าน ไป
เธอถอยหลังไปอย่างไม่กระโตกกระตาก และมุดเข้าไปทาง ประตูหลังอย่างเงียบๆ
จากนั้นก็เดินกลับไปที่ห้องนอนเล็กชั้นบน ในใจวิ่งหนึ่งสับสน ยิ่งนัก
ไม่หนานยังไม่หลับ นอนอยู่ที่นั่นรอเธอกลับมา
เมื่อเห็นเธอเข้ามา เธอถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้ท้อง รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม
จิ้งหนึ่งพยักหน้า “ดีขึ้นมากแล้ว”
เธอพูดไป พร้อมกับหันหลังไปปิดประตูให้สนิท แล้วก็เอาหู แนบข้างฝาประตูตั้งใจฟัง หลังจากแน่ใจว่าข้างนอกไม่มีคนแล้ว ถึงหันหลังเดินกลับมา
เมื่อไม่หนานเห็นท่าทีแปลกๆของเธอ ก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังทำ อะไร ได้เพียงเบิกตากว้างมองดูเธอ
จิ่งหนึ่งเดินมานั่งลงบนเตียง จากนั้น ท่าน้ำเสียงต่ำแล้วพูดว่า “เมื่อกี้ ตอนที่ฉันออกไปเข้าห้องสุขา เห็นข้างนอกมีคนสองคน กําลังยืนคุยกัน”
โม่หนานชะงักไป แล้วถามอย่างแปลกใจว่า “ค่ำมืดขนาดนี้ แล้วคุยกันอยู่ข้างนอก ใครหรือ
จิ่งหนิงกล่าวว่า”หนึ่งในนั้นเรารู้จัก ก็คือลุงสี่ ”
“แล้วอีกคนล่ะ ”
“อีกคนหนึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร น่าจะเป็นคนในหมู่บ้านนี้ แกลองเดาดูซิว่าฉันได้ยินพวกเขาคุยอะไรกัน “เห็นเธอจะทาย ปัญหา ไม่หนานก็เริ่มเดาอย่างให้ความร่วมมือ
“เกี่ยวกับเรา ใช่ไหม”
“อืม”จิ่งหนึ่งพยักหน้าแรงๆ “เราสองคนเดาถูกแล้วล่ะ ที่นี่เป็น หมู่บ้านของนักค้ามนุษย์ จริงๆแล้วลุงสี่คนที่ช่วยเธอก็คือคนที่ หลอกคนมาขาย เมื่อกี้ฉันได้ยินกับหู เขาพูดกับผู้ชายคนนั้นว่า จะขายเราสองคนทิ้ง ที่น่าชสุดคือ เราสองคนถูกขายในราคาคนละสามหมิ่นหยวน
ดวงตา โม่หนานเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
ราวกับว่าได้ยินอะไรคุยกันยามค่ำคืนบนท้องฟ้าเช่นนั้น ในความเป็นจริง หากไม่ใช่เพราะวิ่งหนึ่งได้ยินกับหูตัวเอง เธอก็คิดไม่ถึงว่า บนโลกนี้ยังมีเรื่องแบบนี้อยู่
ไม่หนานก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เราจะทำอย่างไรกันดี
แต่จึงหนิงนั้นรู้สึกสบายๆ ไม่ต้องห่วง เมื่อฉันได้ยินเขาพูด ว่า ตอนนี้แกยังเจ็บขาอยู่ ขายไม่ได้ราคา ดังนั้นต้องรอให้แก รักษาขาให้ดีขึ้นถึงจะขาย คาดว่าน่าจะประมาณหนึ่งเดือน พูด ง่ายๆก็คือ ภายในหนึ่งเดือนนี้ เรายังปลอดภัยดี” เมื่อไม่หนาน ได้ยินเช่นนั้น ก็รู้สึกโล่งอก
จิ่งหนึ่งนอนลงบนที่นอน มองดูกระดานไม้ที่อยู่เหนือศีรษะ แล้วกล่าวว่า “หนึ่งเดือน เพียงพอสำหรับรักษาแผลบนขาของแก ให้หายดีขึ้นมากแล้ว แม้จะไม่ได้ดีขึ้นทั้งหมด แต่อย่างน้อยการ เดินออกไปข้างนอกชั่วคราวน่าจะไม่ใช่ปัญหา ภายในหนึ่งเดือน นี้ ฉันจะพยายามหาดูภูมิประเทศโดยรอบให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะ ทําได้ ”
“โชคดีที่พวกคนที่ไล่ฆ่าไม่ได้ตามมา ถ้าดูตามนี้ ช่วงนี้เรายัง ปลอดภัย ซึ่งก็เป็นเรื่องดีเช่นกัน “โม่หนานฟังไป แต่ในใจก็ยัง รู้สึกมีความกังวลเล็กน้อย“แต่ว่า……..กร๊บปากกับคุณอ่านอ่านแล้วไม่ใช่หรือ ว่าจะกลับ ไปร่วมงานวันเกิดของเธอ สองสามวันนี้ก็จะเป็นวันเกิดของเธอ แล้ว ศุกร์สัปดาห์ห่างจากวันนี้ไปก็เหลือเวลาเพียงแค่วันเอง จะ รอถึงหนึ่งเดือนได้อย่างไรกัน
พอพูดคำถามนี้ออกมา ซึ่งหนึ่งก็เงียบขรึมไปทันที
ใช่นะ เธอรับปากกับอานอ่านไว้แล้ว
หลายปีมานี้ ขอเพียงเป็นเรื่องที่เธอรับปากกับอานอานไว้ไม่มี เรื่องไหนที่ทำไม่ได้
เธอไม่เคยผิดสัญญา แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่า มันไม่ใช่ปัญหา ที่เธอผิดสัญญาหรือไม่ผิดสัญญา
สถานการณ์ของโม่หนานในตอนนี้ ไม่สามารถจะเดินทางไกล ได้ในเวลานี้จริงๆ
เธอไม่อยากเพราะปัญหานี้ จนทำให้ขาของโม่หนานมีผลข้าง
เคียงจากเหตุการณ์นี้
ดังนั้น ทางฝั่งอานอาน เธอทำได้เพียงขอโทษ คิดไปพลัน เธอก็ถอนหายใจเฮือก
“ช่วยไม่ได้แล้ว ใครก็ไม่คิดว่าระหว่างทางจะเกิดเรื่องเช่นนี้ เราควรรักษาอาการบาดเจ็บให้หายก่อน เรื่องทั้งหมดรอกลับไป แล้วค่อยชดเชยให้ก็แล้วกัน
โม่หนานฟังไป ก็รู้สึกว่าตอนนี้นอกจากจะเป็นแบบนี้ ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว
เธอพยักหน้า พร้อมกับ ในใจโทษตัวเองเล็กน้อย
ต้องโทษตัวเองที่ตกลงมาเวลานี้ ไม่ระวังจนไปกระแทกเข้ากับ ก้อนหิน
มิเช่นนั้น ตอนนี้ก็สามารถหนีออกไปพร้อมกับจิ้งหนึ่งได้แล้ว ค่ำคืนที่เงียบสงัด ทั้งสองก็ไม่พูดอะไรอีก นอนอยู่บนเตียง
อารมณ์กลับรู้สึกสับสนขึ้นมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
วันรุ่งขึ้น จึงหนิงตื่นแต่เช้าตรู่
ในตอนเช้าบนภูเขา อย่างอื่นแม้จะไม่ดีเลย แต่อากาศนั้นกลับ มากที่สุด
เธอออกไปเดินรอบหนึ่งก่อน แล้วสูดดมอากาศบริสุทธิ์สักครู่ หนึ่ง จนได้เวลาอาหารเช้าถึงกลับมา
อาจจะเป็นเพราะขาไม่หนานไม่สะดวก เดินไม่ไหว และพวกลุง ก็ดูออกว่าความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งหนึ่งกับโม่หนานดีมาก จะไม่ ทิ้งเธอไว้แล้วจากไปคนเดียวแน่นอน
ดังนั้น พวกเขาก็ไม่ค่อยจำกัดอิสระในการเคลื่อนไหวไปทั่วทิศ ของเธอนัก ก็ปล่อยให้เธอได้เดินวนรอบๆ
จุดนี้ สำหรับวิ่งหนิงแล้ว เป็นเรื่องที่ดีมากอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ว่า ความอิสระที่ว่านี้ ก็จำกัดอยู่เพียงอิสระในบริเวณรอบ บ้านของลุงสี่เท่านั้น
เดินไปไกลอีกเล็กน้อย พวกเขาก็จะชักชวนกลับมา
จะบอกว่าในป่าภูมิประเทศซับซ้อน กลัวพวกเธอเดินไปไกล แล้วจะหาทางกลับไม่เจออะไรประมาณนี้ เวลานี้จึงหนึ่งยังไม่ อยากแตกหักกับพวกเขา ดังนั้น ก็ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าพวกเขา กำลังคิดอะไรอยู่ ก็กลับมาตามคำบอก
หลังจากกลับมาแล้ว เธอก็ใช้ถ่านที่หยิบมาจากห้องครัว เขียน ภาพภูมิประเทศบริเวณรอบๆลงบนกระดาษ
ปกติกระดาษก็จะหนีบไว้ตรงร่องหินข้างเตียงนอนอยู่แล้ว เพราะว่าอยู่ด้านในสุด หากไม่ตั้งใจไปดู ก็จะไม่มีใครมองเห็น
ขณะวาดภาพจิ่งหนึ่งก็พูดไปด้วยว่า “ตอนนี้พวกเขายังระแวง ฉันอยู่ ดังนั้นไม่ให้ฉันเดินไปไกล ไม่ว่าอย่างไร ฉันจะหาโอกาส เดินไปดูให้ไกลกว่านี้ เพื่อจะได้วาดแผนที่ได้กว้างกว่านี้เล็ก น้อย”
ไม่หนานพยักหน้า
เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็กล่าวขึ้นมาว่า “หนิงหนึ่ง ที่ จริงเมื่อคืนนี้ ฉันกำลังคิดปัญหาหนึ่งอยู่
จิ่งหนิงชะงักไป เลิกคิ้วมองดูเธอ
“ปัญหาอะไรหรือ”
“ถึงแม้ว่าขาของฉันจะง่อยแล้ว แต่ขอเพียงให้ไม้ค้ำฉันหนึ่ง อัน หรือวีลแชร์หนึ่งตัว ฉันคิดว่าฉันคนเดียวก็สามารถจัดการ สองสามีภรรยาชั้นล่างได้อย่างไม่น่ามีปัญหา
จึงหนึ่งมองดูเธออย่างประหลาดใจ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็กลั้นไม่ได้ จึงหัวเราะออกมา เมื่อไม่หนานเห็นเธอหัวเราะ ก็คิดว่าเธอไม่เชื่อว่าตัวเองทําได้ อธิบายอย่างรวดเร็วว่า “ฉันพูดจริงนะ ฉันคิดว่าฉันทำได้จริงๆ ถ้าไม่ไหว เราก็เตรียมมืดเล็กไว้อีกด้านหนึ่ง
จิ่งหนิงตบไหล่เธอเบาๆ แล้วยิ้มกล่าวว่า “ไม่หนาน ฉันเพิ่งจะ เห็นวันนี้ว่า เธอไร้เดียงสาและน่ารักเช่นนี้
โม่หนานรู้สึกมึนงงเล็กน้อย ไม่รู้ทำไมเธอถึงมีการประเมินเช่น
ใครที่พบเห็นเธอ ต่างบอกว่าเธอเป็นนักฆ่าหญิงที่เยือกเย็นดั่ง น้ำแข็ง แบบที่ทำให้คนสั่นกลัวตั้งแต่แรกพบ
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนใช้…..ไร้เดียงสาน่ารักมาเรียกเธอ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ