วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 687 คืน คืนไหน



บทที่ 687 คืน คืนไหน

จะเอาหนูน้อยและแมลงสาบที่ทำให้คนตกใจใส่เข้าไปใน กล่องของเธอ จะฉีกสมุดแบบฝึกหัดที่เธอเพิ่งเขียนเสร็จทิ้ง จาก นั้นดูหน้าตาน่าสงสารของเธอและหัวเราะเยาะเย้ย

และที่เกินไปกว่านั้นคือเนื่องจากอายุของเธอน้อยเกินไปแล้ว เด็กผู้ชายที่โตหน่อยเริ่มเจริญเติบโต มีความคิดเกี่ยวกับเรื่อง ชายหญิงแล้ว เห็นเธอหน้าตาสวย และยังตัวเล็กเชื่อฟัง ไม่ชอบ พูด

ดังนั้นแต่ละคนล้วนคิดไม่ซื่อกับเธอ

แน่นอนพวกเขาไม่กล้าทำเรื่องที่เกินไปมาก ถึงอย่างไรถ้าถูก คณบดีเจอ ต้องถูกลงโทษแน่นอน

แต่พวกเขาจะบังคับให้เธอถอดเสื้อ บีบตัวเธอไปมา แล้วยัง สิ่งที่เป็นสีขาวๆ อันทุเรศสุดๆ บนตัวเธออีกด้วย

ซูหว่านตัวน้อยที่ยังไม่ถึงสิบขวบ ก็ผ่านเรื่องที่ทุเรศที่สุด ทรมานที่สุด มืดมนที่สุดบนโลกนี้มาแล้ว

เพราะฉะนั้น เมื่อคนของตระกูลกูมาถึงศูนย์เด็กกำพร้า มี แผนรับเลี้ยงเด็กคนหนึ่ง และได้เลือกเธอที่ผอมบางที่สุด ดูไม่ โดดเด่นที่สุดท่ามกลางฝูงเด็กในลานแห่งหนึ่ง

เธอคาดคิดไม่ถึงเลย หลังจากคาดคิดไม่ถึงก็คือเคลิบเคลิ้ม
ในที่สุดเธอก็ได้ไปจากที่นี่แล้ว ในที่สุดก็ได้พ้นจากการ ควบคุมของปีศาจพวกนั้น สามารถมีชีวิตใหม่ที่เป็นของเธอเอง แล้ว

ดังนั้นเธอไปกับคนของตระกูลตู้กู โดยที่ไม่ลังเลเลย

ความเป็นจริงพิสูจน์ได้ ชีวิตหลังจากนั้นก็ใช้ได้ดีมากจริงๆ ตอนที่เพิ่งมาถึงบ้าน เธอไม่เคยชิน ระมัดระวังมาก และยังกลัว มากอีกด้วย

กลัวพวกเขาไม่ชอบตัวเอง กลัวพวกเขาทอดทิ้งตัวเองอีกครั้ง

ดังนั้นเธอไม่ค่อยกล้าพูดเท่าไหร่ และไม่ค่อยกล้ากินข้าวเยอะ เหมือนกัน แม้กระทั่งพูดยังไม่กล้าพูดเสียงดัง

หลังๆ มา ภายใต้การเลี้ยงดูและปลอบใจไกล่เกลี่ยทีละนิดที

ละหน่อยอย่างใจเย็นของคุณแม่ ในที่สุดเธอก็กล้าพูดดังๆ และก็

กล้าเผยรอยยิ้มที่ดีใจออกมาแล้ว

เธอเติบโตขึ้นทุกๆ วัน ผิวเริ่มขาว คนก็เริ่มสูงขึ้น พัฒนาได้ งดงามมาก มีความสามารถพิเศษอย่างกว้างขวาง

ขณะนี้ เธอก็มีคนมาจีบแล้ว ในสายตาทุกคน เธอไม่ใช่ลูกเป็ด ขี้เหร่ที่ไม่สะดุดตาคนนั้นอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นหงส์ขาวที่สวยงาม ตัวหนึ่ง

แต่ว่าบนโลกใบนี้ มักมีความเป็นอยู่ที่ไม่ยุติธรรมพอมาตลอด

ใครจะรู้ ในปีเหล่านั้นเธอพยายามแค่ไหนถึงฝึกให้ตัวเองมีหน้าตาสง่างาม สดใสมั่นใจแบบนั้น

แต่ในบ้านหลังนั้น ไม่ว่าเธอทำได้ดีแค่ไหน แต่ก็มีคนคนหนึ่ง กดอยู่บนหัวเธอตลอด

คนคนนั้นก็คือกูยิง

เธอช่างสวย ช่างโดดเด่น เธอไม่อ่อนโยนพอ แต่ก็มีหลายๆ คนชอบเธอ คิดว่าเธออารมณ์ร้ายปากจัดและตรงไปตรงมา

เธอไม่ได้มีความสามารถครบทุกด้าน แต่ทุกคนกลับคิดว่าไม่ เป็นไร ยังไงเธอก็ฉลาดมาก อนาคตถ้ารับช่วงกิจการของ ครอบครัว ยังคงยอดเยี่ยมกว่าคนอื่นๆ

ยิ่งกว่านั้นเธอชอบเงยหัวสูงมองคนอื่นตลอด สายตาที่ส่งออก ไป มีความดูถูกอย่างเย้ยหยัน

แต่ไม่มีสักคนจะว่าเธอไม่สมควร ทุกคนคิดว่านี่เป็นเรื่องที่

แน่นอนอยู่แล้ว

เธอยิ่งเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งสะท้อนหว่านที่ยืนอยู่ข้างๆ มองคนอื่น อย่างเอาอกเอาใจดูขี้ขลาดขี้อายกว่าใคร

ก็เหมือนกับหงส์ขาวที่ไม่ว่าสวยแค่ไหน เมื่อยืนอยู่กับนก ฟีนิกซ์ที่งดงามสะดุดตา ก็ล้วนไร้สีสันอยู่ดี

เริ่มตั้งแต่ตอนนั้นมา เธอก็เข้าใจแล้วว่าเธอสู้กูยิงไม่ได้ ถึงแม้เธอพยายามสุดชีวิต ก็ไม่สามารถถึงจุดสูงที่เธออยู่

ดังนั้นเธอยอมแพ้แล้ว เธอไม่ไปตามหาและไม่อยากไปเปรียบเทียบ จนถึงคนคนนั้นปรากฏตัว

นั่นคือแสงสว่างทั้งชีวิตของเธอจริงๆ เลย! กว่าเธอจะหาแสง ดวงหนึ่งเจอได้ แล้วยังจะยอมเสียไปแบบนั้นได้ยังไงล่ะ

พี่สาวคนนั้นที่เยี่ยมยอดกว่าเธอทุกสิ่งทุกอย่าง ได้สิ่งต่างๆ บนโลกนี้ไปตั้งมากมายแล้ว ทำไมแค่สิ่งนี้สิ่งเดียวยังจะแย่งกับ เธออีก

ซูหวาน ในเมื่อก่อนไม่เข้าใจเลยจริงๆ

หลังๆ มา เหมือนค่อยๆ เข้าใจบางอย่างได้บ้างแล้ว แต่เธอรู้ ว่าพอทำผิดแล้วก็มิอาจหวนกลับคืนได้ตลอดไปแล้ว

ความคิดของเธอลอยไปไกลมาก ไกลจนเหมือนกับผ่านชีวิต ของตัวเองใหม่อีกหนึ่งรอบในชั่วขณะ

ความดีใจ ความเสียใจ ความโศกเศร้า ความโชคดีเหล่า นั้น…แต่ละฉากล้วนปรากฏขึ้นมาตรงหน้าดั่งภาพฉากใน ภาพยนตร์

จนถึงตอนนี้ เธอเพิ่งได้สังเกต

จริงๆ แล้วมันผ่านไปนานขนาดนั้นแล้ว โดยที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัว อย่างคาดไม่ถึงเลย

เรื่องเหล่านั้นที่คล้อยห่างและนานจนเหมือนกับผ่านมาเมื่อ ชาติที่แล้ว ตอนแรกยังนึกว่าลืมได้ตั้งนานแล้ว

แต่ความเป็นจริงพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอไม่เคยลืม ตรงกันข้ามยังใหม่เหมือนเดิม โดยผ่านการตกตะกอนแห่งกาลเวลา แค่ถูกเธอ ทิ้งขว้างในมุมที่ไม่สะดุดตานั้นไม่ยอมเห็นเท่านั้นเอง

ซูหวานเงียบลงมา

กูยิ่งมองเธอจากด้านบนอย่างดูถูก สายตาสงบนิ่งเฉยเมย “แกพูดถึงความไม่เป็นทำของตัวเองอย่างเดียวซ้ำๆ แต่แกลืม แล้ว ทุกอย่างนี้ไม่ได้เป็นของแกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แล้ววันนี้มาบ อกฉันว่าเธอผิดไปแล้ว ขอให้ฉันยกโทษให้ แกลองบอกสี ฉัน ควรให้อภัยต่อหน้ากับแกแบบนี้ยังไง

ซูหวานอึ้งอย่างแรง

ในใจเหมือนมีอะไรบางอย่างถูกทุบทิ้งเบาๆ อย่างไร้เสียง แต่ กลับเจ็บใจสุดๆ

เนิ่นนาน เธอจึงดันตัวเองลุกขึ้นมาอย่างลำบาก

“ฉันเข้าใจแล้ว”

เธอก้มหน้าพูด ยกมือเช็ดรอยน้ำตาหนึ่งหยอดตรงขอบตา แม้ตัวจะอยู่ในสถานการณ์พะอืดพะอมและเสียหน้าแค่ไหน บนตัวเธอเหมือนยังคงเก็บความสง่าอันสูงส่งอย่างหนึ่งไว้อยู่

พี่สาววางใจได้เลย วันหลัง…ฉันจะไม่มารบกวนเธออีกแล้ว” เธอยิ้มอย่างจําใจ เหมือนจะเป็นเยาะเย้ยตัวเอง แต่ข้างในก็ แอบแฝงความโศกเศร้าไว้อย่างหนึ่ง

“ถ้าไม่มีเรื่องอื่น ฉันขอไปก่อนแล้วนะ”
พูดไปด้วยพร้อมกับก้มหน้าจะออกไปด้วย

ตู้กูยิงขมวดคิ้วอันสวยยาวดั่งใบหลิว จู่ๆ ก็อ้าปากพูด “รอ ก่อน!

ก้าวเท้าของซูหวานหยุด

ก็เห็นกูยิงก้าวเท้าเดินไปทางห้องนอน ไม่นาน ในมือถือ บางอย่างเดินออกมา

เห็นแต่นั่นคือซองเอกสารหนาๆ ในซองเต็มไปด้วยของ

จดหมายสีต่างๆ !

ซูหวานสีหน้าขาวซีด

กูยิง โยนซองไปในมือของเธอ พูดอย่างเฉยชาว่า: “ของพวก นี้แกเอาด้วยเลย!”

นิ้วมือซูหวานแอบสั่นเล็กน้อย เปิดซองออกมาดูซองจดหมาย เห็นว่ายังปิดอยู่ทั้งหมด ไม่เคยถูกแกะออกเลย เธอเงยหัวขึ้นมา มองไปที่ถูกยิงอย่างไม่น่าเชื่อ

“ทั้งหมดนี้เธอไม่เคยอ่านเลยเหรอ”

กูยิงไขว้แขนยืนอยู่ตรงนั้น บนหน้ายังคงเป็นสีหน้าเย็นชา เยาะเย้ยแบบนั้นอยู่ “ฉันเคยบอกแล้ว คนที่เคยหักหลังฉัน ทั้ง ชีวิตนี้ฉันจะไม่เชื่อใจอีก จดหมายที่แกส่งมาหลายปีที่ผ่านมาอยู่ ตรงนี้ทั้งหมด ฉันจะไม่อ่านเลยแม้แต่แผ่นเดียว เพราะฉะนั้นวัน หลังไม่ต้องมีความคิดแบบนี้อีกแล้ว แก ใส่แล้วเหนื่อย ฉันเก็บเหนื่อยยิ่งกว่า ทุกคนเป็นคนฉลาด ใช้ชีวิต”

สีเลือด

นิ้วของสั่นยกก็สั่นไม่เบาเหมือนกัน

“ฉันเข้าใจแล้ว พี่อีกเลย”

พูดเธอก้าวเท้า

ยิงมองเธอออกไปคนแล้ว สีหน้าจึงคลายกลับมา

เธอก้มหน้ามอง

หัวเราะตัวเอง

กูยิงนะกูเธอใกล้จะตายแล้ว ก่อนตายยกโทษให้ที เธอจําเป็นต้องพูดฉอดๆ กับแต่ถ้าทำแบบนี้ แล้วทำแบบกลับคืนดีเหรอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ