บทที่ 663 สาวสวยลึกลับ
และพบว่าด้านหน้ามีปาดอกพืชอยู่ อาจเป็นเพราะนี่คือเดือน มิถุนายนแล้ว และดอกพืชก็ร่วงโรยไปแล้วตั้งนาน แต่ก็ยังมีมีผล สีเขียวอยู่บ้าง ซึ่งสวยมากทีเดียว
ถังลั่วเหยามองดูด้วยความชื่นชอบ เธอรีบดึงมือเพิ่งแล้ววิ่ง ไป
“ว้าว! คุณดูลูกพืชนี่สิคะ เยอะจังเลย”
เฟิงยี่ยิ้มและพูดว่า “มันยังไม่สุกเลย อย่าไปเด็ดล่ะครับ” จากนั้นถังลั่วเหยาก็ยื่นมือที่กำลังจะเอื้อมไปเด็ดกลับคืนมา เธอมองไปป่าดอกพืชที่อยู่ข้างหน้าแล้วพูดว่า “คุณเดาดูสิคะ ว่า ฝั่งตรงข้ามคืออะไร?”
ด้านหน้านี้เห็นเพียงว่าป่าพืชครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง ต้นไม้ ขึ้นหนาแน่น มองด้วยตาเปล่าไม่อาจเห็นได้ว่าอีกฝั่งหนึ่งมีอะไร
เขาส่ายหัวและพูดอย่างตรงไปตรงมา “ผมไม่รู้”
ถังลั่วเหยาจับมือของเขาและเดินตรงเข้าไป
“เราไปดูกันดีกว่าค่ะ”
เฟิงไม่ได้ปฏิเสธอะไร ดังนั้นทั้งสองจึงเดินเข้าไปพร้อมกัน
ป่านั้นกว้างใหญ่มาก นึกไม่ออกเลยว่าที่เมืองหลวงจะมีที่ดิน ผืนใหญ่โตขนาดนี้ใช้สำหรับปลูกต้นพืช
ทั้งสองคนเดินเข้าไปได้ไม่นาน ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเครื่อง ดนตรี งมาเบาๆ
เสียงแบบนั้นไม่เหมือนเสียงเครื่องดนตรีสมัยปัจจุบัน แต่ดู เหมือนเครื่องดนตรีโบราณมากกว่า
ก่อนหน้านี้ถังลั่วเหยาเคยเล่นละครแนวโบราณมาบ้าง และได้ ทำความรู้จักกับเครื่องดนตรีเช่นกู่เจิงและผีผา และเพื่อให้ถ่าย ทำได้อย่างราบรื่น เธอยังได้เรียนรู้วิธีการเล่นอย่างง่ายๆอยู่สอง สามวัน
ดังนั้น ตอนนี้เมื่อได้ยินเธอจึงรู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงกู่เจิง
ดวงตาเธออดไม่ได้ที่จะเป็นประกาย เธอจับมือของเฟิง และ พูดว่า “ฉันได้ยินเสียงกู่เจิงค่ะ ดูเหมือนว่ามีคนกำลังเล่นกู่เจิงอยู่ นะคะ”
แน่นอนว่าเฟิงก็ได้ยินเช่นกัน เมื่อเห็นว่าเธอดูสนใจมาก เขา จึงพูดขึ้นว่า “เราเข้าไปดูกันไหมครับ?”
ถังลั่วเหยารีบพยักหน้า ดังนั้นทั้งสองจึงเดินไปที่แหล่งกำเนิด เสียงด้วยกัน
พวกเขาเดินไปได้ไม่นาน ก็มองเห็นโต๊ะหินกลมใต้ต้นพืชอยู่
ด้านหน้า
มีเก้าอี้ตัวเตี้ย ตั้งเป็นวงกลมอยู่รอบๆ โต๊ะหิน หญิงสาวสวมชุด สีฟ้าอ่อนหันหลังเข้าหาพวกเขา เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้หิน มองดู ท่าทางแล้วคงเป็นเธอที่กำลังเล่นกู่เจิงอยู่
ทิวทัศน์เช่นนั้น เสียงกู่เจิงเช่นนี้ อีกทั้งสาวงาม…….
ถังลั่วเหยารู้สึกราวกับว่าเธอกำลังอยู่ในความฝัน ราวกับว่า ป่าทึบนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ทั้งสองเดินทางผ่านกาลเวลา มาสู่สมัยโบราณ
ความอยากรู้อยากเห็นในใจของเธอก็ทวีเพิ่มมากขึ้น
ทั้งสองเดินเข้ามาช้าๆ แต่เสียงกู่เจิงยังไม่หยุดลง เนื่องจาก พวกเขากลัวที่จะรบกวนหญิงสาวคนนั้น จึงได้หยุดฝีเท้าลงเมื่อ อยู่ห่างออกไปประมาณสิบก้าว
ทั้งสองยืนนิ่งฟังอยู่เงียบๆ
อากาศในป่าดูเหมือนจะไม่ร้อนเท่าข้างนอก
แม้ว่าเวลาจะเกินกว่า 11 โมงแล้ว แต่แดดที่แผดเผาก็ถูก ใบไม้กาบังไว้
สายลมพัดเข้ามาอย่างอ่อนๆ ทำให้ร่างกายรู้สึกเย็นสบาย ราวกับสวมผ้าคลุมเย็นฉ่ำ
ถังลั่วเหยาตกหลุมรักในความรู้สึกขณะนี้ เธอเผยอริมฝีปาก ขึ้นเล็กน้อย และยืนอยู่ที่เดิมพร้อมกับให้จังหวะทำนองเพลง
เบาๆ
ผ่านไปประมาณสองสามนาที ในที่สุดเสียงกู่เจิงก็หยุดลง
หญิงสาวที่นั่งอยู่บนม้านั่งหินนิ่งเงียบไปสองวินาทีก่อนจะลุก ขึ้นและหันศีรษะไปทางพวกเขา
ต้องยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่งดงามมาก
ถังลั่วเหยาอยู่ในแวดวงบันเทิง นอกจากตัวเธอที่เป็นคนสวย อยู่แล้ว เธอยังเคยได้เห็นสาวงามอีกมากมาย
เธอคิดว่าจากสิ่งที่เธอได้เห็นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่า หญิงสาวคนไหนงดงามเพียงใด เธอก็เคยพบเห็นมาหมดสิ้นแล้ว ไม่ว่าเธอจะได้พบกับใครก็ตาม สวยงามแค่ไหนก็ไม่สามารถ ทําให้เธอหวั่นไหวได้แน่นอน
แต่ตอนนี้ ความจริงบอกกับเธอว่าในโลกนี้ไม่มีใครสวยงาม ที่สุด มีแต่สวยงามเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
และความพินาศที่ความงามนำมาสู่ผู้คนนั้นสูงเกินกว่าที่พวก เราจะจินตนาการมาก
หญิงสาวคนตรงหน้านี้ ผมเธอยาวสลวยราวกับน้ำตกพาดบ่า คิ้วหนา ตาคมสีดำ ทรงหน้าเรียวงามดูมีเสน่ห์ ริมฝีปากสีเชอร์รี่ เรียวบาง เธอเหมือนสาวงามในวรรณคดีไม่ผิดเพี้ยน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลิกและอารมณ์ที่อ่อนช้อย ราวกับคนที่ เดินออกจากภาพวาด ช่างมีความงามอันน่าตื่นเต้น
ชั่ววินาทีหนึ่งถังลั่วเหยาตกตะลึงไปทันที
หญิงสาวกระแอมออกมาเล็กน้อย จึงทำให้เธอกลับมารู้สึกตัว ขึ้นอีกครั้ง
ริมฝีปากของเธอขยับขึ้นเบาๆและยิ้มว่า “พวกคุณเป็นใครกัน มาที่นี่ได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินเสียงของเธอ ก็พบว่าเสียงนั้นช่างอ่อนหวานเหลือ
เกิน
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ๆถังลั่วเหยาหน้าแดงอย่างบอกไม่ถูก
เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นผู้หญิงด้วย แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ หญิงที่อยู่ข้างหน้านี้ เธอก็รู้สึกเขินอายทำตัวไม่ถูก
เธอตอบอย่างลุกลี้ลุกลนว่า “พวกเราเป็นนักท่องเที่ยวค่ะ บังเอิญเห็นว่าป่าพืชแห่งนี้ค่อนข้างใหญ่และสวยงามมาก ก็เลย ลองเข้ามาดู
เฟิงยี่ยังคงจับมือของเธอและไม่พูดอะไร
มือของหญิงสาวที่ปิดปากของเธอเอาไว้ชะงักลงเล็กน้อย ดวงตาที่สวยงามของเธอพิจารณามองไปยังทั้งสองคน
ทันทีหลังจากนั้นเธอก็ยิ้มและพูดขึ้นว่า “ที่นี่ไม่ใช่พื้นที่ท่อง
เที่ยว พวกคุณน่าจะมาผิดทางแล้วล่ะ”
ถังลั่วเหยารู้สึกอธิบายไม่ถูกและพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“ค่ะ ดิฉันขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะคุณเล่นกู่เจิงนะคะ พวกเรา จะออกไปเดี๋ยวนี้”
เมื่อพูดจบ เธอก็กำลังจะจูงมือเพิ่งออกไป
แต่ว่า ชายคนข้างๆกลับไม่ขยับเขยื้อน
เธอตกตะลึงและเงยหน้าขึ้นมองเขา แต่พบว่าดวงตาของชาย คนนั้นกำลังจ้องมองไปที่หญิงสาวตรงข้ามไม่ขยับเขยื้อนและไม่กะพริบตา
คิ้วของเขาขมวดขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่าเขากำลังครุ่นคิดบาง อย่างอยู่
หัวใจของถังลั่วเหยารู้สึกหึงหวงขึ้นมาเล็กน้อยอย่างอธิบาย ไม่ถูก เธอดึงแขนเสื้อเขาแล้วพูดด้วยเสียงต่ำว่า “พวกเราไปกัน
เถอะค่ะ”
จากนั้นเฟิงก็กลับมารู้สึกตัว เขาหันไปมองเธอแล้วพยักหน้า
ทั้งสองเดินจับมือกันออกจากป่า
เมื่อออกมาถึงข้างนอกถังลั่วเหยาก็ปล่อยมือของเขาออก
เฟิงยี่ยังคงตกอยู่ในความคิดของเขา ทันใดที่เธอปล่อยมือ เขาจึงสะดุ้งเล็กน้อย เขาไม่ค่อยเข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้านี้เท่า ไหร่
เห็นเพียงว่าหญิงสาวปล่อยมือเขาไปแล้ว เธอก็เลิกสนใจเขา และเดินต่อไปข้างหน้าด้วยตัวเธอเอง
เขารู้สึกงุนงงเล็กน้อย และรีบเดินตามไปเพื่อตามเธอให้ทัน และเอื้อมมือไปคว้ามือเธอเอาไว้
แต่ว่า ทันทีที่มือของเขาแตะนิ้วของเธอ ก็ถูกหญิงสาวสะบัด
ออก
ถังลั่วเหยาหันหน้าของเธอกลับมาแล้วเหลือบมองเขาอย่างไม่ พอใจ ก่อนจะพูดอย่างดุเดือดว่า “อย่าแตะต้องฉัน”
เพิ่งรู้สึกงุนงงเล็กน้อยกับความโมโหของเธอ และถามขึ้น ตามสัญชาตญาณว่า “เป็นอะไรเหรอครับ?”
หัวใจของถังลั่วเหยาหยุดนิ่งลง ความเจ็บในใจเพิ่มมากขึ้น น้ำเสียงของเธอเย็นยะเยือก ตอนนี้เธอไม่ต้องการคุยอะไรกับเขา อีก ดังนั้นเธอจึงก้าวเดินไปข้างหน้าตามลำพัง
เพิ่งรู้สึกงงกับเธอมาก เขาไม่รู้ว่าไปทำอะไรไม่ดีจนทำให้เธอ ขุ่นเคือง ดังนั้นเขาจึงได้แต่เดินตามเธอไปตลอดทาง
หลังจากเดินมาสักพักถังลั่วเหยาก็ไม่ได้ยินเขาพูดอะไรอีก จึง ได้หยุดฝีเท้าลงและหันหลังกลับมา
เฟิงไม่ได้คิดว่าเธอจะหยุดลงกะทันหัน เขาจึงรีบหยุดฝีเท้า ของตัวเองลงจนแทบทำให้ชนกับเธอ
เขาอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปจับไหล่ของเธอและพูดอย่างขำขัน ว่า “คุณเป็นอะไรไปครับ? ใครเอาระเบิดให้คุณทานหรือไง? จู่ๆ ถึงได้อารมณ์เสียขึ้นมาแบบนี้?
ตอนแรกถังลั่วเหยาไม่ได้โกรธมาก แต่เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ เธอก็โกรธขึ้นมาทันใด
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ