วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 659 มีลูกสักคน



บทที่ 659 มีลูกสักคน

ถังลั่วเหยาคิดไม่ถึงว่า แม่ถังจะพูดสิ่งเหล่านี้ออกมา

และยิ่งคิดไม่ถึงว่าที่แท้ในใจของแม่นั้นคิดแบบนี้ ชั่วขณะนั้น ในใจเธอมีหลายร้อยความรู้สึกผสมปนเปกันไป หมด ทั้งสับสนทั้งตื้นตัน

พ่อของเธอเสียไปนานแล้ว หลายปีมานี้ เธอเติบโตขึ้นมา โดย มีแม่เพียงคนเดียวที่คอยเลี้ยงดูเธอ

ทั้งเป็นห่วงเป็นใยทั้งปกป้องเธอ แม้แต่ในสถานการณ์ที่ยาก นําบากและเลวร้ายแบบนี้ แต่ก็ไม่เคยทำให้เธอต้องได้รับความ ลําบากแม้แต่น้อย

ดังนั้น เธอจึงรู้สึกอยากขอบคุณแม่มาก แต่เบื้องหลังความ รู้สึกขอบคุณนี้ เธอกลับรู้สึกได้ถึงอีกความรู้สึกหนึ่งที่ซ่อนอยู่ คือ เธอได้ลักพาชีวิตของแม่เธอมา

เพราะถึงยังไง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ แม่ก็คงไม่ต้องแต่งงานกับ เหอศี อตั้งแต่แรก

หลังจากนั้นแม่ก็มีโอกาสอีกหลายครั้งที่จะหนีออกมาจาก เหอ อ หรือให้แม่หนีไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จัก ให้เหอ อหาแม่ ไม่เจอ แม่ก็ไม่ต้องมาทนกับความยากลำบากแบบนี้แล้ว

แต่ก็เป็นเพราะเธอ ยังไงเธอก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ยังต้องเข้าเรียน ต้องมีชีวิตที่มั่นคง

ดังนั้น แม่เลยเลือกที่จะอดทน กล้ำกลืนน้ำตาและความเจ็บ ปวดในชีวิตไปอย่างเงียบ ๆ โดยที่ไม่ให้ใครรู้

แต่ใครจะไม่รู้ล่ะ เธอจะไม่รู้ได้เหรอ?

เธอเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเรื่องทั้งหมดอย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่ง สาเหตุก็มาจากเธอ

เพราะงั้น มีอยู่หลายครั้งที่เธอรู้สึกเศร้าและเสียใจ เธอมองดู ใบหน้าที่แก่ชราของแม่ ผมหงอกที่แซมขึ้นมาบนหัว พร้อมกับ สงสัยว่าตัวเธอนั้นสร้างรอยย่นและผมหงอกให้แม่ขึ้นมาที่นะ

ถ้าหากเป็นไปได้ เธอก็หวังจริง ๆ ว่า แม่จะได้ทำในสิ่งที่ตัวเอง ชอบ ทั้งงานอดิเรก การใช้ชีวิต หรือการมีคู่ครองที่อยู่ด้วยกันไป ตลอด

เพราะงั้น หลังจากที่เธอได้ฟังสิ่งที่แม่พูดออกมา

เธอก็รู้สึกสั่นสะเทือนไปทั้งร่าง ราวกับว่าความฝันกำลังจะ กลายเป็นจริง

ถังลั่วเหยาเอื้อมมือออกไป กุมมือแม่ของเธอ ในลำคอมีเสียง สะอื้นเบา ๆ

“แม่คะ แม่พูดจริงรึเปล่า? ถ้าหากกลับไปทางใต้แล้ว แม่จะอยู่ คนเดียวได้จริงๆ เหรอ?”

ในใจเธอยังคงรู้สึกเป็นกังวล
เพราะถึงยังไง แม่ถึงก็มาอยู่ที่เมืองหลวงได้เกือบสองปีแล้ว

หากกลับไปแล้วยังต้องอยู่คนเดียวอีก แม่จะอยู่ได้จริง ๆ เหรอ? แม่ยังยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่หาง ตาถังลั่วเหยาอย่างอ่อนโยน

เธอพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “แน่นอนสิ เด็กโง่ ที่แม่พูดเรื่องนี้ ขึ้นมา แม่ก็ต้องคิดมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก

“ดูเธอสิ ตอนนี้ก็โตเป็นสาวแล้ว จะทำตัวเป็นเด็กเจ้าอารมณ์ แบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้วนะ มีเฟิง เขาคอยเป็นห่วงก็ถือเป็นโชค ของเธอแล้ว อย่าได้ใจจนเคยตัวล่ะเข้าใจไหม?”

ถังลั่วเหยาเม้มปากเล็กน้อย ก่อนจะพึมพำเบา ๆ ว่า “ฉันไม่ได้ มีนิสัยแบบนั้นเสียหน่อย

แม่ถังเห็นแบบนั้นก็อมยิ้ม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

เพิ่งที่ยังอยากรั้ง ให้แม่อยู่ต่อค่อย ๆ พูดขึ้นว่า “ถ้าแม่รู้สึกว่า ทางเหนืออากาศไม่สบาย หน้าหนาวแม่จะไปอยู่ทางใต้ก็ได้ แล้ว หน้าร้อนแม่ก็ค่อยกลับมาทางนี้ แบบนี้ก็อยู่ได้ทั้งสองที่แล้ว เดี๋ยวนี้การคมนาคมก็พัฒนาไปไกล อะไร ๆ ก็สะดวกไปหมด”

ถังลั่วเหยารีบพยักหน้าตาม พร้อมกับพูดต่อว่า “ใช่ ๆ แม่ดูสิ ตอนนี้เริ่มฤดูใบไม้ผลิแล้ว อีกสักพักอากาศก็จะค่อย ๆ อุ่นขึ้น ไม่ จําเป็นที่แม่จะต้องกลับทางใต้เลย

แม่ถังมองดูพวกเขาทั้งคู่ แววตาเต็มไปด้วยความรักและความ อบอุ่น
เธอตบมือลงไปบนมือของถังลั่วเหยาเบา ๆ พร้อมกับพูดขึ้นว่า

“เด็กน้อย ต่อให้ทางนี้จะดีแค่ไหน แต่ยังไงก็ไม่ใช่บ้านเกิดของ

พอแม่พูดคำนี้ออกมา ทั้งสองคนก็ชะงักไป

ถังลั่วเหยาเหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าบ้านเกิดที่แท้จริงของแม่ เหมือนจะอยู่ที่ทางใต้

นานมาแล้ว สมัยที่ยังมีสงครามพ่อของเธอได้ผ่านมาทางใต้ ก่อนจะพบกับแม่ที่ยังไม่ได้แต่งงาน ทั้งสองเกิดเป็นรักแรกพบ จากนั้นเริ่มคบหาดูใจกันมา

หลังจากแต่งงาน แม่ก็ตามพ่อมาอยู่ที่ทางเหนือ ก่อนที่พ่อจะ ลาออกจากงาน ทางเลือกแรกของพ่อกับแม่ก็คือการกลับไปทาง

ใต้

แต่ต่อมาพ่อของเธอก็จากไป แม่จึงอยู่ที่ทางใต้เลี้ยงเธอมาจน

โต

และหลังจากนั้น ก็เป็นเพราะเธอ เพราะงั้นทั้งคู่เลยต้องย้ายมา ที่เมืองหลวง แม่ทั้งต้องคอยหาหมอรับยา ทั้งต้องคอยช่วยเหลือ เธออีก

หลายปีมานี้ต้องคอยร่อนเร่ไปมา ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ที่เมืองไหน ถังลั่วเหยาก็ไม่มีความรู้สึกของการกลับบ้านเกิดเลยสักครั้ง

แต่เธอนั้นลืมไปแล้ว ว่าแม่กับเธอนั้นต่างกัน

ตอนที่เธอยังเด็ก เธอต้องผ่านเรื่องราวที่ไม่แน่นอนมามากมาย แต่แม่ไม่เหมือนกัน แม่เติบโตมาในเต็มไปด้วย ความรักและความอบอุ่น

แม่ได้แปลว่า วัยเด็กของแม่ไม่ความสุข

เพราะงั้น เราเมื่อแก่ตัวลง สิ่งคิดถึงและโหยหามาก

คือบ้านเกิดเมืองนอนทันใดนั้น ลั่วเหยาก็เข้าใจความอดทนทั้งหมดของแม่มี

มาตลอด

เธอสีเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่การจะเธอกลับไปชีวิตแบบกายสบายใจ ที่ทางก็ใช่ว่าทำได้

พอ

ใบหน้าของเธอซบอยู่ที่แม่ ผ่านไปสักพักเธอถึงจะพูดขึ้น อย่าง

แม่ยังคงยิ้มอยู่ หลังจากที่ได้ยินเสียงเธองอแงแบบนั้น

ก่อนแม่หน่อย ถ้าเธอคิดถึงแม่เมื่อไรก็กลับมาหาแม่สิ จะมาเสียใจ แบบไปทำไมกัน

ถังลั่วเหยาคิดไปคิดมามันก็ใช่
ถึงแม้ระยะห่างจะไกลไปสักหน่อย แต่ถ้าอยากเจอจริง ๆ ก็ สามารถไปเจอได้ตลอดอยู่แล้ว พอคิดได้แบบนี้ ความรู้สึกเศร้าเสียใจก็หายไปเยอะเลย

เฟิงที่เห็นว่าได้ข้อสรุปแล้ว การจะโน้มน้าวให้อยู่ต่อก็คงไม่ สําเสร็จแน่นอน

คงทําได้แค่ปลอบใจถึงลั่วเหยาก็เท่านั้น

“แม่พูดมาก็ถูก ถ้าทางใต้จะทำให้แม่สบายใจกว่า เราก็ เคารพการตัดสินใจของแม่ อย่างมากผมก็แค่พาเธอกลับไป เยี่ยมแม่ก็แค่นั้น”

ถังลั่วเหยาได้ยินเขาพูดปลอบใจแบบนี้ ในใจก็รู้สึกดีขึ้นไม่ น้อย จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ คลายอ้อมกอดออกจากแม่ พร้อมกับ พูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจว่า “งั้นก็ตกลงตามนี้นะ ต่อไปฉันจะกลับ ไปหาแม่บ่อย ๆ

ในใจของ แม่ถึงรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที เพราะโดนเธอพูดเข้า แหย่ขึ้นมาแบบนี้ สุดท้ายแม่ถึงก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมา

“ตกลง ต่อไปเธอจะมาหาแม่ตอนไหนก็ได้ หรือถ้าเธอไม่มี เวลามา อย่างมากแม่ก็แค่รอให้เธอมีลูกสักคน แล้วแม่ก็ค่อยขึ้น มาหาเธอก็ได้”

พอแม่พูดคํานนี้ออกมา ถังลั่วเหยาก็หน้าแดงไปหมด แต่เฟิงยี่กลับรู้สึกมีความสุขขึ้น จากนั้นเขาก็มองไปที่ถังลั่ว เหยาด้วยแววตาลึกซึ้ง ก่อนจะดึงเธอเข้ามาโอบไว้
พร้อมกับรับประกันกับ แม่ถังด้วยสีหน้าจริงจังว่า “แม่ครับ แม่ วางใจได้ ผมจะพยายามให้เต็มที่

ถังลั่วเหยาที่หน้าแดงอยู่แล้วยิ่งหน้าแดงขึ้นไปอีก

ก่อนจะใช้หลังมือตีเข้าที่ท้องของเฟิงเบา ๆ แล้วพูดขึ้นอย่าง เขินอายว่า “พูดอะไรเหลวไหลจริง?

ถังลั่วเหยาไม่ได้ออกแรงมาก ยังไงก็ไม่เจ็บอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นแค่มือเท่ากำปั้นแมวอย่างเธอจะไปทำอะไรเฟิง

ได้

แต่เพื่อให้หญิงสาวมีความสุข เฟิงเลยร้องออกมาหนึ่งที่ ก่อนจะมองเธออย่างค้อน ๆ พร้อมกับทำท่าทางเจ็บปวดไปด้วย

“ไม่ใช่ว่าแม่พูดแล้วเหรอว่าถ้ามีลูกสักคนแม่จะกลับมา ผมพูด

ผิดตรงไหนเหรอ?”

ถังลั่วเหยายิ่งรู้สึกโมโหเขาเพิ่มขึ้นไปอีก เธอหันกลับมาถลึงตาใส่เขาเล็กน้อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ