บทที่ 643 เตะเข้าไป
ไม่คิดว่า พี่ชายจะบอกว่าไม่มี
ตามความคิดของเฟิงเหยียนแล้ว การสืบทอดกิจการของ ตระกูล ทำให้กิจการของตระกูลขยายใหญ่โตขึ้น เป็นเรื่องที่ สมควรต้องทําอยู่แล้ว
แต่สําหรับเขาคิดว่า นี่เป็นการที่ผูกมัด เป็นการกักขัง
เกี่ยวกับธุรกิจของครอบครัวพวกนั้น ที่จริงเขาไม่ค่อยสนใจ สักเท่าไหร่
เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง เขาถูกพ่อบังคับให้ไปทำงานที่บริษัท ทุกๆ
วันในเวลานั้นเขาเหมือนนั่งอยู่บนเข็มหมุด เหมือนจะตายให้ได้
สิ่งที่เขาชอบ ไม่ใช่สิ่งของพวกนี้เลย และก็ไม่ใช่ตัวเลขเย็นชา บนรายการธุรกิจพวกนั้นด้วย
สิ่งที่เขาชอบคือจักรวาล คือการศึกษาดาราศาสตร์
ความฝันของเขา คือการสร้างยานอวกาศที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อให้พวกนักวิทยาศาสตร์และนักฟิสิกส์ ได้ไปสำรวจความ ลึกลับของจักรวาลด้วยกัน
เขารู้สึกว่า โลกใบนั้นช่างลึกลับเหลือเกิน ทำให้คนอยากไป สำรวจดูว่ามีอะไรกันแน่
นอกจากนี้ แน่นอนว่า เขายังลงทุนกับธุรกิจไปไม่น้อยเหมือน
แต่ว่าพวกนั้น ส่วนใหญ่แล้วล้วนลงทุนตามลู่วิ่งเซ็นหรือเฟิงเห ยี่ยน
เขาไม่ค่อยใส่ใจ และก็ไม่มีค่อยสนใจสักเท่าไหร่ รู้แค่ว่าทำ
เงินได้มากแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ เฟิงยี่ในสายตาของคนนอก ก็จะกลายเป็น บรรพบุรุษรุ่นที่สองที่ทำอะไรไม่เป็นอะไรเลย
วันๆรู้เพียงแค่การจัดวางเศษซากเครื่องจักรของเขาพวกนั้น และ บ้าๆน้องๆอยู่กับพวกนักวิทยาศาสตร์พวกนั้น
ไม่เอาการเอางานใดๆเลย
เพราะในสายตาของคนพวกนั้น มีเพียงการทำธุรกิจ มีเพียง
การทำเงิน ถึงจะเรียกว่าการเอางานเอาการ
แต่ว่าเฟิงก็ไม่ได้สนใจกับการประเมินของคนภายนอก ในความคิดของเขา ขอเพียงเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบ ตัวเองทำ
แล้วมีความสุข อย่างอื่นล้วนไม่สำคัญ
ดังนั้น ตอนนี้ที่จริงเขากำลังดูแบบยานอวกาศใหม่ล่าสุดที่นัก ฟิสิกส์คนหนึ่งส่งมาให้เขาก่อนหน้านั้น ขณะที่กำลังดูอยู่ เสียงประตูก็ดังขึ้น
เขาพูดออกมาคำหนึ่งว่าเข้ามา จากนั้น ก็เห็นถึงลั่วเหยาเดิน เข้ามา
“กขนาดนี้แล้ว ทําไมยังอยู่ที่นี่ล่ะ ”
ถังลั่วเหยาถาม
เฟิงเงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์ ยิ้มแล้วกวักมือ ให้เธอ
“คุณมาดูนี่”
ถังลั่วเหยาเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างสงสัย ก็เห็นภาพแปลกๆ ภาพหนึ่งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เธออดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ “นี่คืออะไร ”
“คือแบบจําลองยานอวกาศ ในจักรวาล นี่คือห้องแช่แข็ง สามารถเอาคนไปไว้ข้างในได้ เมื่อทำให้คนเข้าสู่โหมดจําศีลฤดู หนาวด้วยการผ่านกระบวนการการจัดการโดยเทคโนโลยี ละเอียดระดับสูง
ถังลั่วเหยาตกตะลึง แล้วหันหน้ามองเขาด้วยความประหลาด
“จําศีลฤดูหนาวหรือ”
“ใช่”พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเพิ่งตื่นเต้นเป็นพิเศษ
“เช่นเดียวกับสัตว์ มีสัตว์มากมายหลายชนิดไม่ใช่หรือ ที่จะ จำศีลในช่วงฤดูหนาว มนุษย์ก็ทำได้เหมือนกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ จะสามารถรับประกันได้ว่าผู้คนสามารถทำสิ่งต่างๆได้มากมาย ช่วงชีวิตที่มีขีดจํากัด”
เมื่อถังลั่วเหยาได้ยินเช่นนั้น ก็อดหัวเราะไม่ได้
“ที่แท้คุณกำลังทำตัวนี้มาโดยตลอด
เฟิงยี่ยิ้มพยักหน้า
ทันใดนั้น เขาดึงถึงลั่วเหยาเข้ามา แล้วอุ้มเธอขึ้นมา ถังลั่วเหยาตกใจ ถาม “คุณจะทำอะไร”
เฟิงยี่ยิ้มเบาๆ “คุณว่าละ รอให้สร้างโมเดลนี้ขึ้นมา แล้วเราก็ เอาชื่อของลูกคนแรกของเรา ตั้งชื่อให้มันดีไหม ”
ถังลั่วเหยาตะลึงงันไปทันที
ยังไม่ทันตั้งสติ ทำไมหัวข้อสนทนาถึงกระโดดข้ามไปเร็วเช่นนี้ ผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอถึงหลุดยิ้มแล้วกล่าว”คุณคิดมาก ไปหรือเปล่า เราเพิ่งจะแต่งงานกันนะ ทำไมถึงจะมีลูกได้เร็ว ขนาดนั้นล่ะ”
ทันใดนั้น สีหน้าเฟิงเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
อะไรเรียกว่าเร็ว คุณดูพี่เซิน แล้วดูหลินยวนนั่น ทำไมพวก เขามีลูกชายกันหมดแล้ว มีแต่ผมที่ยังไม่มี ไม่ได้ ผมก็จะเอา หนึ่งคน”
นิสัยของผู้ชายเหมือนเด็ก ทำให้ถังลั่วเหยาอดข้าไม่ได้
แต่ความมีเหตุผลยังทำให้เธอตบมือผู้ชาย แล้วยิ้ม กล่าว”หยุดได้แล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ ยังไม่ได้เตรียมพร้อม เลย บอกว่าจะะมีก็มีได้ที่ไหนล่ะ ”
ไม่คิดว่า เพิ่งกลับจริงจังขึ้นมาทันที
เขาอุ้มเธอขึ้นมา เดินไปทางห้องนอนทันที
“ใครว่ายังไม่พร้อม ผมเตรียมพร้อมมาแล้ว เตรียมพร้อมมา นานมากแล้วด้วย
ถังลั่วเหยาตกใจร้อง”นี่ คุณจะทำอะไร ”
“ทําลูกชาย”
ถังลั่วเหยา”…
ไร้สาระทั้งคืน
ค่ำคืนนี้ ถังลั่วเหยาได้เห็นอีกครั้งแล้วว่าผู้ชายคนนี้แข็งแรงแค่ ไหน ในเรื่องบนเตียง
หลายครั้งที่เธอรู้สึกเหมือนตัวเองจะตายไปบนเตียงจริงๆ
หลังจากคลั่งไคล้ไปจนถึงกลางดึก ฟ้าใกล้สว่าง ถึง
สะลึมสะลือหลับไป
วันรุ่งขึ้น ก็ตื่นสายกันเป็นเรื่องธรรมดา ตอนที่ทั้งสองตื่นขึ้นมา สายมากแล้ว จนพระอาทิตย์ส่องถึงหัว
เตียงแล้ว
ถังลั่วเหยามองดูมือถือ เห็นว่าสิบเอ็ดโมงแล้ว จึงเอามือปิด
หน้าทันที
แล้วยื่นมือไปผลักชายข้างๆ
เฟิงยี่หันมาปุ๊บ ก็ดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอดทันที
ทั้งตัวเต็มไปด้วยกลิ่นตื่นนอนใหม่ ทาปาก กล่าวว่า “อย่า เสียงดัง นอนต่ออีกสักพักเถอะ ”
ถังลั่วเหยารู้สึกเซ็งมาก หลังจากนิ่งไปสักพัก ก็ถีบเขาลงจาก
เตียง
เพิ่งที่กำลังหลับอย่างสะลึมสะลือ ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ถูกคนถีบ ลงเตียง เมื่อได้สติขึ้นมา สีหน้ายิ่งเต็มไปด้วยความงุนงง
ผมอยู่ที่ไหน
ผมกำลังทําอะไร
ผมเป็นอะไรไป
ถังลั่วเหยาลุกขึ้นนั่งบนเตียง มองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ
“ยังนอน ถ้านอนอีกก็ต้องให้แม่ขึ้นมาปลุกเราแล้วล่ะ”
เธอพูดไปพร้อมกับชี้ไปที่เวลาบนมือถือ
เพิ่งถึงรู้สึกตัวขึ้นมา ว่าได้เวลาเที่ยงวันแล้ว คิดถึงเมื่อคืนนี้ เขาไม่สนคำร้องขอของหญิงสาว บ้าคลั่งทั้งคืน
รู้ตัวว่าไร้เหตุผล ก็ไม่กล้าพูดอะไร ยิ้มแหยๆแล้วก็ลุกจากพื้น โผเข้าไปจูบเธอหนึ่งที่แล้วถึงกล่าวว่า “ได้ครับ ลุกก็ได้ ผมไป ล้างหน้าแปรงฟันก่อนนะ ”
ถังลั่วเหยาพึมพำเบาๆ เพิ่งถึงหันหลังเดินเข้าห้องอาบน้ำไป ตอนที่ทั้งสองเดินลงมาชั้นล่าง เป็นไปตามคาด เห็นแม่ถึงนั่งอยู่บนโซฟาห้องรับแขก กำลังดูโทรทัศน์อยู่แล้ว
พวกคนรับใช้ต่างกำลังขะมักเขม้นทำหน้าที่ของแต่ละคนอยู่
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า แม่ถึงก็หันหน้ามา เห็นพวกเขากำลังลง มา ก็ทักทายด้วยรอยยิ้ม
ตื่นกันแล้วหรือ ”
ใบหน้าของถังลั่วเหยาอดที่จะหน้าแดงไม่ได้
คำพูดนี้ฟังแล้วความหมายคลุมเครือไม่ชัดเจนเล็กน้อยปนอยู่ แต่ในเวลานี้ เธอก็ไม่รู้ที่จะพูดอะไรดี จึงทำได้เพียงถือโอกาส ตอนที่ไม่มีใครสังเกตเห็น จ้องตาเขม็ง ใส่ชายผู้ก่อกรรม จากนั้น ก็ก้าวเท้าใหญ่ฉับๆเข้าไปหาแม่ถึง
“แม่ กำลังดูอะไรหรือคะ”
“นี่ไง ละคร ที่หนูแสดงไง ”
เมื่อถึงลั่วเหยาเห็นว่า เธอกำลังดูละครจีนย้อนยุคเรื่องหนึ่งที่ ตัวเองแสดงก่อนหน้านั้น
ละครที่ตัวเองแสดง ถูกคนอื่นดูต่อหน้าตัวเองแบบนี้ ก็รู้สึก เก้อเขินบ้างเล็กน้อย
ถังลั่วเหยายิ้มแห้งๆ แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที
“แม่ วันนี้บ่าย หนูจะไปหาเธอออีกครั้ง หลังจากคุยเรื่อง เวลาเสร็จแล้ว ท่านก็ไปเซ็นเอกสารกับเขาเลย “แม่ถังชะงัก เงียบไปชั่วครู่ แล้วก็พยักหน้า
เมื่อถึงลั่วเหยาเห็นว่าเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป กังวลเรื่องนี้ กังวลเรื่องนั้น เธอถึงโล่งใจ
หลังจากปรึกษากันเสร็จแล้ว ช่วงบ่าย ถังลั่วเหยาก็ไป
ทัณฑสถานพร้อมกับเฟิง
คดีของเธอคื อได้พิพากษาลงมาแล้ว ตอนนี้กำลังอยู่ใน ทัณฑสถาน เพื่อรอการลงโทษในขั้นสุดท้าย
เมื่อรู้ว่าเธอมาเยี่ยมตัวเอง เธอคือประหลาดใจอย่างเห็นได้
แต่เขาไม่ได้ปฏิเสธที่จะพบเธอ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ