บทที่ 641 รับเธอกลับบ้าน
สิ่งที่ถังลั่วเหยาไม่รู้ก็คือ กรรมสิทธิ์ของวิลล่าหลังนี้ เป็นชื่อ ของเธอมานานแล้ว
เพียงแต่ตัวเธอเองยังไม่รู้ก็เท่านั้นเอง
สิ่งที่เพิ่งทำทั้งหมดนี้ ไม่ได้บอกให้เธอรู้
รวมทั้งคนพวกนี้ที่ตั้งใจคัดพิเศษด้วยตัวเองเพื่อแม่ถัง เป็นคน ที่เขาเลือกทีละคน ตรวจสอบประวัติภูมิหลัง แน่ใจว่าวางใจได้ถึง ได้รับไว้
พูดได้ว่า สําหรับเรื่องของแม่ถัง เขาให้ความใส่ใจมากกว่า เรื่องของตัวเองอีก
จุดนี้ เป็นสาเหตุว่าทำไมถังลั่วเหยาถึงถูกเขาทำให้หวั่นไหว ได้ง่ายเช่นนี้
เพราะว่า เขาตั้งใจจริงใจในการช่วยเหลือเธอ
อยากให้เธออยู่ดีมีสุขอย่างแท้จริง เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เธออดไม่ได้ที่จะหันหลังไปเหลือบมองชาย
ผู้นั้นอย่างซาบซึ้งใจ
ขณะนี้ เพิ่งเงียบตลอดไม่พูดไม่จา กลับปล่อยให้ถังลั่วเหยา พาแม่ถังเดินชมรอบวิลล่า แม่ถังเดินไปรอบๆพร้อมกับคำชื่นชมไม่ขาดปาก
“ช่างสวยจริงๆ วิลล่าหลัง ช่างใหญ่และสบายเหลือเกิน
ขณะชมเชย ก็อดไม่ได้ที่จะบ่นเสียงเบากับถังลั่วเหยาว่าแพง
“ของพวกนี้คงแพงน่าดูเลย เหยาเหยา ถึงแม้ตอนนี้หนูจะ หาเงินได้แล้ว แต่ก็ไม่สามารถจะใช้เงินมือเติบอย่างนี้นะ พวกเรา เป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องการเทียบชั้น ที่จริงฉัน รู้สึกว่าคอนโดเล็กของหนูห้องนั้นก็ไม่เลวแล้วนะ” ถังลั่วเหยายิ้ม ขมขื่นและจนปัญญา
“แม่ ทางนั้นถูกปาปารัสซี่จับจ้องมานานแล้ว พักอาศัยต่อไป ไม่ได้แล้ว ทันทีที่พักเข้าไปต้องถูกจับได้แน่นอน”
แม่ถังชะงักไปครู่หนึ่ง ถึงนึกขึ้นได้ว่า ครั้งก่อนเธอเคยพูดถึง
เกี่ยวกับสาเหตุที่ไม่สามารถเข้าไปพักในบ้านหลังก่อนนั้นอยู่ ว่า
จะพูดกับเธอ ไม่ได้พูดสักที
ตอนที่เธอถามขึ้นมาในครั้งก่อน ถังลั่วเหยาก็พูดแค่ว่ารอให้ เธอออกจากโรงพยาบาลก่อนแล้วค่อยบอก
ตอนนี้เธอก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เรื่องนี้ก็ควรจะบอก เธอได้แล้วนะ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ แม่ถึงก็ถามตรงๆว่า “เหยาเหยา คราว ก่อนหนูบอกกับฉันเรื่องที่นักข่าวรอหนูอยู่ใต้คอนโดของหนู ตกลงมันเรื่องอะไรกัน
พอพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าถังลั่วเหยาก็ขรึมลง
เธอขยี้หว่างคิ้วอย่างเหนื่อยล้าแล้วกล่าวเสียงเบา ไม่มีอะไร ก็แค่มีคนปล่อยข่าวลือบนอินเทอร์เน็ตก็เท่านั้นเอง แม่ ท่านไม่ ต้องห่วง เป็นดาราต้องพบเจอเรื่องแบบนี้อย่างมากมายเป็น ธรรมดาอยู่แล้ว ยังไงหนูก็ไม่สนใจอยู่แล้ว”
เมื่อแม่ถังได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ฉันเล่นอินเทอร์เน็ตไม่เป็น และก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ ว่าถ้าคนพวกนั้นทำเกินไปจริงๆ หนูอย่าลืมต้องฟองพวกเขานะ คนเรามีชีวิตอยู่ได้เพราะลมหายใจ ถึงแม้หนูจะเป็นดารา แต่ก็ ไม่ได้แสดงว่าเป็นดาราแล้วถูกคนด่าได้ตามสบายนะ และถูกคน ตามมานั่งเฝ้าถึงใต้บ้านได้นะ”
ปกติแล้วแม่ถังเป็นคนที่นิสัยอ่อนโยน และนี่เป็นครั้งแรกที่ถัง ถั่วเหยาเห็นเธอแข็งกระด้างเช่นนี้
อดไม่ได้ที่จะถูกเธอทำให้ขบขันขึ้นมาทันที
เธอพยักหน้ารับ”อืม ค่ะ หนูเข้าใจความหมายของแม่แล้วค่ะ ท่านวางใจเถอะ หนูจะทำแบบนี้ค่ะ
เมื่อคุยเรื่องนี้จบแล้ว ก็ถึงคราวที่เธอจะพูดเกี่ยวกับเรื่องของ เธอกับเฟิงยี่แล้ว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอหันหน้าไปเหลือบมองชายคนนั้น
อาจจะเป็นเพราะจิตใจสื่อถึงกัน ในขณะที่เธอหันหน้าไปดู ชายคนนั้นก็กำลังมองมาพอดี
สายตาทั้งสองประสานกันระหว่างทาง เพียงแค่แวบเดียวก็เข้าใจความหมายของอีกฝ่ายแล้ว
ถังลั่วเหยายิ้มให้แม่ถัง แล้วกล่าวว่า “แม่ พวกเราเข้าไปนั่งใน ห้องรับแขกกันเถอะ หนูมีเรื่องอยากจะบอกท่านพอดี
แม่ถังอึ้งไปครู่หนึ่ง มองดูท่าทางเธอ เหมือนมีเรื่องบางอย่าง
จริงๆ
อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “เรื่องอะไรหรือ
“ไปคุยกันชั้นล่างเถอะ”
ถังลัวเหยาไม่ได้เรีบร้อนจะพูด แต่ให้เธอไปนั่งชั้นล่างก่อน เมื่อแม่ถังเห็นเช่นนั้น ก็ไม่ได้ดึงดันอีก แล้วตามพวกเขาลงมา ชั้นล่าง
เมื่อถึงชั้นล่าง ถังลั่วเหยาประคองแม่ถังไปนั่งที่โซฟาลงก่อน แล้วถึงกล่าวว่า “แม่ เดี๋ยวถ้าหนูพูดกับท่านแล้ว ท่านต้องอย่าตื่น เต้น และไม่ต้องโกรธนะ อยากต่อยากด่าหนูก็ตีก็ด่าได้เลย แต่ ต้องรักษาร่างกายของตัวเองนะ”
เมื่อแม่ถังได้ยินเธอพูดเช่นนี้ ก็ยิ่งอดสงสัยไม่ได้
ยิ้มกล่าวอยู่ดีๆ ฉันจะตีหนูด่าหนูทำไมล่ะ ตกลงหนูจะบอก เรื่องอะไรกับฉัน”
ถังลั่วเหยาเม้นริมฝีปากแล้วหันไปมองเฟิง
เวลานี้ เฟิงก็เดินเข้ามาหา มองดูแม่ถึงอย่างจริงจัง แล้ว กล่าว “ผมกับเหยาเหยาแต่งงานกันแล้วครับ”
แม่ถึง “…..
ข่าวนี้มาได้กะทันหันเกินไปจริงๆ
แม้ว่าเธอจะเคยรู้สึกมาก่อนว่าระหว่างคนสองคนจะต้องมีใจ
ให้กัน
แต่ก็เพียงแค่คิดว่าพวกเขากำลังอินเลิฟกันก็เท่านั้น
ใครจะไปคิดว่า แต่งงานคำนี้
เมื่อเห็นแม่ถังตะลึงไป วเหยากลัวว่าอารมณ์เธอจะตื่นเต้น เกินไป จะส่งผลกระทบต่อร่างกายได้
จึงรีบเข้าไปประคองเธอไว้ แล้วอธิบายว่า “แม่ พวกเราไม่ได้ ตั้งใจจะปิดบังท่าน แต่การแต่งงาน ณ ตอนนั้นมันกะทันหันเกิน ไป และก็เป็นความวู่วามชั่วขณะ หลังจากนั้นก็ยุ่งนี้ยุ่งมั่นจนลืม ไปเลย พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะไม่ให้ท่านรู้นะ
เฟิงก็อธิบายเพิ่มเติม
“ใช่ครับ เรื่องนี้ต้องโทษผม ผมดึงดันพาเหยาเหยาไปเอง ตามหลักแล้ว ผมควรจะต้องไปสู่ขอที่บ้านก่อน หรือปรึกษากับ ท่านก่อน แต่ ณ ตอนนั้น
เขายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกแม่ถังตัดบทก่อน
แม่ถังมองดูพวกเขาอย่างประหลาดใจ แล้วกล่าวอย่างไม่ เข้าใจว่า “ทำไมพวกเธอถึงต้องขอโทษฉัน”
ทั้งสองต่างชะงักไป
จากนั้น พวกเขาก็เห็นรอยยิ้มจางๆ ของแม่ถึง
“พวกเธอแต่งงานกันแล้ว นั่นเป็นเรื่องที่ดีนะ ทำไมต้องขอโทษ ฉันก็เคยพูดแล้วว่า เรื่องของพวกเธอคนหนุ่มสาวพวกเธออธิบาย กันเอง จะแต่งงานหรือจะคบกันนั่นมันเป็นเรื่องของพวกเธอ ไม่ ได้เกี่ยวอะไรกับฉันอยู่แล้ว”
คำพูดของแม่ถัง ทำให้คนทั้งสองตกตะลึงไปเลย
ไม่เคยคิดเลยว่า หลังจากที่ได้รับรู้ข่าวนี้ เธอจะมีท่าทีแบบนี้
ถังลั่วเหยามองดูแม่ของตัวเอง แทบจะไม่รู้จักคนที่อยู่ตรงหน้า นี้แล้ว
ที่จริงที่เธอประหม่าขนาดนี้ เป็นเพราะว่า เธอกับแม่พึ่งพา อาศัยกันมาหลายปีแล้ว เธอรู้จักแม่ยังดีเป็นอย่างดี
เพราะว่าเธอมีลูกสาวคนเดียวเท่านั้น สามีเสียไปนานแล้ว
เพราะฉะนั้นแม่ถังเห็นเธอสำคัญกว่าชีวิตของตัวเอง ชีวิตและการทำงาน ไม่ว่าเรื่องใหญ่เรื่องเล็ก ล้วนชอบเข้ามา
แทรกแซงถามไถ่
โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องความรักด้านนี้ ยิ่งให้ความสำคัญ มากเป็นพิเศษ
ถึงตอนนี้เธอยังจำได้ว่า เมื่อก่อนตอนเรียนมัธยมปลาย มี เพื่อนนักเรียนชายคนหนึ่งชอบเธอ บอกรักเธอ แต่ถูกแม่ยังช่วย เธอปฏิเสธกลับไปโดยตรง
ในใจของเธอคิดว่า เรื่องการแต่งงานของตัวเองเป็นเรื่อง ใหญ่เช่นนี้ กลับไม่บอกเธอให้รู้ล่วงหน้าก่อน
ตอนนี้เธอรู้แล้ว จะต้องโกรธอย่างมากแน่นอน แต่กลับไม่มี
ไม่เพียงแต่ถังลั่วเหยา เฟิงก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน ดูตามที่เขาเคยรู้จักมาก่อน เพราะเป็นแม่หม้ายและมีลูกสาว เพียงคนเดียว ความต้องการควบคุมถังลั่วเหยาของแม่ถังจะสูง มาก
แน่นอนว่า ตอนนี้เพราะถังลั่วเหยาเป็นดาราแล้ว หลายๆเรื่อง เธอก็จะแทรกแซงไม่ได้แล้ว สถานการณ์ถึงดีขึ้นบ้าง
แต่ในเรื่องใหญ่อย่างงานแต่งงาน น่าจะยังไม่ผ่อนปรนนะ แม่ถังเห็นท่าทางทั้งสองที่ประหลาดใจ ก็อดที่จะหัวเราะออก มาไม่ได้
“พอแล้ว พวกเธอก็ไม่ต้องประหลาดใจเช่นนี้หรอก ฉันยอมรับ ว่าเมื่อก่อนฉันเข้มงวดกับเหยาเหยามาก ไม่ว่าอย่างไรฉันก็มี ลูกสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ