วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 602 หล่อนหายตัวไปแล้ว



บทที่ 602 หล่อนหายตัวไปแล้ว

นี่เป็นตอนนั้นที่หล่อนกำลังถ่ายทำละครเรื่องต่อไปอยู่ หล่อน โต้เถียงจนเบื่อจึงอยากฟังเพลงและเซ่เซียวเองก็กำลังใช้มันอยู่ ในขณะนั้นจึงถือโอกาสมอบมันให้กับหล่อน

หล่อนใช้มันมาโดยตลอดและในระหว่างนั้นยังไม่ทันได้นำมา คืนเลยหล่อนจึงเก็บมันไว้จนถึงตอนนี้

หล่อนยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ใช่”

เซ่เซียวขมวดคิ้ว และการแสดงออกของหล่อนก็ซับซ้อนขึ้นใน ทันที

“ลั่วเหยาคุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอก ผมพูดไปแล้วนะ

แม้ว่าเราจะเป็นแฟนกันไม่ได้แต่ก็ยังสามารถเป็นเพื่อนกันได้ของ

เหล่านี้.…..……..

“ของเหล่านี้เป็นของคุณและฉันแค่ยืมมาใช้สักพักเอง ควรจะ คืนให้คุณนะ”

หล่อนยิ้มอย่างจริงใจ “ถ้าครั้งหน้ายังอยากส่งมาอีกต้องส่ง อันใหม่มาไม่งั้นฉันจะไม่เกรงใจคุณนะ”

เซ่เซียวตะลึงหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีจึงรู้ว่าหล่อนหมายถึงอะไร

คนหนุ่มคนสาว ย่อมต้องเรียนรู้เพื่อหลีกหนีความสงสัย เขาก็เคยใช้มาก่อน ทั้งลมหายใจ รส และร่องรอยที่เคยถูกใช้ หากหล่อนยังใช้ต่อไป ความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนซึ่งแยกไม่ ออกตลอดเวลานั้นก็จะดำเนินต่อไป

วันหนึ่งในวันหน้าเผื่อว่าหล่อนอาจเผลอหยิบมันออกมาใช้ แล้วถ้าโดนเขาเห็นเข้าล่ะ

มันอาจจะกระตุ้นอารมณ์จากก้นบึงหัวใจของเขาอย่างหลีก

เลี่ยงไม่ได้ และทำให้เขารู้สึกเสียใจและเศร้า

และในตอนนี้ หล่อนได้คืนของทุกอย่างให้เขาแล้วต่อให้เขา จะส่งมาอีกในวันหน้า ก็คงจะส่งมาได้ส่งแค่ในฐานะเพื่อนเท่านั้น แล้ว

เมื่อนึกถึงจุดนี้เซเซียวก็เข้าใจความตั้งใจอันอุตสาหะของถัง ถั่วเหยาได้ในทันที หัวใจของเขาก็รู้สึกเจ็บปวดทันที

เขาพยักหน้าพร้อมกับเก็บของกลับมา “ได้ครับผมเข้าใจ

แล้ว”

หลังจากหยุดไปชั่วครู่เขาก็ถามอีกว่า “วันนี้คุณยังไม่ได้ตอบ คำถามของผมว่าเขาเป็นใคร?”

ถังลั่วเหยาเม้มริมฝีปากตัวเองและไม่ต้องการตอบคำถามนี้

ถ้าสามารถตอบได้ เรื่องวันนี้ตอนบ่ายของคุณ ผมก็ตอบได้ แล้วเช่นกัน

หลังจากคิดๆ ดูแล้ว หล่อนก็ทำได้แค่พูดไปว่า “เขาเป็น ใครนั้นมันไม่สำคัญอะไรสำหรับคุณแล้ว สรุปคือ ในโลกใบนี้ นอกจากเขาแล้วฉันจะไม่อยู่กับใครทั้งนั้น
เซ่เซียวรู้ดี การที่ตัวเองถามคำถามนี้ขึ้นนั้นที่จริงแล้วมันอาจ ทำร้ายตัวเองอีกครั้ง

แต่เขาไม่สามารถกลั้นไว้ได้

เมื่อได้ยินคำตอบของหล่อนเขาก็แสดงสีหน้าที่ว่าที่แท้ก็เป็น แบบนี้ออกมา เขายิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมก็ คงพูดได้แค่ว่า เขาโชคดีจริงๆ ”

ถังลั่วเหยาไม่ปริปากพูดอะไรกับประโยคนี้เลย

เชเซียวถอนหายใจ

“เอาล่ะในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วถ้างั้นผมไปก่อนนะ

ถังลั่วเหยาพยักหน้า และเซเซียวก็จากไป

ละครกลางคืนในตอนเย็น ในระหว่างนั้นยังมีละครกลางแจ้ง อยู่หลายฉากด้วยกัน

ในตอนนี้ก็เป็นเดือนธันวาคมแล้ว ซึ่งนอกห้อง ในฤดูหนาว นั้น ก็หนาวมากด้วย

ในตอนพลบค่ำนั้น เกล็ดหิมะกล่องลอยอยู่บนท้องฟ้ายิ่งทำให้ ละครฉากนี้ ดูบรรยากาศเศร้าวังเวงและกลัดกลุ้มใจมาก

หลังจากถ่ายทำละครฉากนี้เสร็จก็3 ทุ่มกว่าแล้ว

ถังลั่วเหยาหนาวจนทนไม่ไหว หลังจากได้รับข่าวการเลิกงาน หล่อนก็สวมเสื้อคลุมทหาร และไปที่โรงแรมพร้อมกับเสี่ยวนิง

เนื่องจากเวลาค่อนข้างดึกมากแล้ว ยังมีคนบางส่วน ที่ยังถ่ายทำละครอยู่ในกองถ่าย

และคนอีกส่วน ก็พากันกลับโรงแรมกันก่อนแล้ว

ดังนั้นเมื่อหล่อนและเสี่ยวจึงกลับโรงแรมจึงเห็นแค่พวกหล่อน 2 คนเท่านั้น

เพราะกองถ่ายอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากสำหรับค่ำคืน ในฤดู หนาวที่มีหิมะตกเต็มริมถนนอย่างนี้ จึงใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ในการขับรถข้ามไปเท่านั้น

แต่ถังลั่วเหยาหิวมากจนทนไม่ไหวและไม่อยากสั่งอาหารจาก ข้างนอกอีกด้วย ดังนั้นหล่อนจึงคิดว่าจะกลับพร้อมกับเสี่ยวนิง และค่อยแวะซื้อของกินระหว่างทาง

ในขณะที่ทั้ง 2 เพิ่งซื้อบาร์บีคิวไป 2 ไม้กับข้าวผัด 1 กล่อง และพวกหล่อนก็กำลังเดินกลับไปที่โรงแรมอยู่ๆ ก็มีเงาดำ กระโดดออกมาจากซอย

เงาดำนั้นคว้าตัวถังลั่วเหยาอย่างรวดเร็วพร้อมกับลากตัว หล่อนเข้าไปในซอย

ถังลั่วเหยาไม่มีแม้แต่จะส่งเสียงร้องตกใจออกมา และเสี่ยว นิ่งที่อยู่ด้านข้างก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก หล่อนตะลึงไป 2 วินาที และเมื่อหล่อนตอบสนองกลับมา ก็รีบตะโกนไปว่า “พี่ลั่ว เหยา!”

จากนั้นหล่อนก็วางของลงอย่างรีบๆ พร้อมกับไล่ตามออกไป แต่ในซอยนั้นมันมืดมากแล้วจะมีคนที่ไหนกันล่ะ?
หล่อนโดนทำให้ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกยิ่งเป็นแค่ผู้หญิงคนตัว เดียวด้วยถ้าไม่กล้าเดินเข้าไปข้างใน ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

ในคืนฤดูหนาวที่หนาวเหน็บเช่นนี้กลุ่มคนบนถนนมันน้อยมาก จนน่ากลัว

ที่เดียวที่ค่อนข้างอยู่ใกล้ ก็มีเพียงตลาดกลางคืนที่อยู่ห่างออก

ไปเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น

แต่ถ้าจะวิ่งไปขอคนที่นั่นมาช่วยจริงๆคาดว่าคนที่นี่คงจะหนี ไปแล้วและมันก็ไม่ทันการณ์แล้วด้วย

ภายใต้ความสิ้นหวังนั้นหล่อนจึงทำได้แค่รีบหยิบมือถือออก มาอย่างรวดเร็ว และโทรแจ้งตำรวจไปด้วย พร้อมกับไล่ตาม เข้าไปข้างใน

ในซอยนั้นมันมืดมาก ไม่มีแม้แต่ไฟบนถนนสักดวงเลย จึง

ทำได้แค่ใช้มือถือส่องสว่างตลอดทางเท่านั้น

ถ้าจะบอกว่าไม่กลัวนั่นคงเป็นการเสแสร้งแน่นอน

แต่แค่คิดว่าในตอนนี้ถังลั่วเหยากำลังตกอยู่ในอันตราย เสี่ยวนิ่งก็จะไม่สนอะไรทั้งนั้นหล่อนวิ่งไปด้วยและตะโกนร้อง อย่างเสียงดังออกไปด้วย

“พี่ลั่วเหยา ที่อยู่ที่ไหน?

“พลั่วเหยา พี่ไม่ต้องกลัวนะ น้องโทรแจ้งตำรวจแล้วตำรวจกำลังมาแล้ว”
จากนั้นหล่อนก็ยังขู่คนร้ายที่ลักพาตัวถังถั่วเหยาอีกด้วย

“ฉันแนะนำให้แกรีบปล่อยคนโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นอีกสักพักไม่ ว่าแกอยากจะหนียังไงมันก็คงจะไม่ทันแล้ว”

“พวกแกอยากได้เงินไม่ใช่เหรอ? ฉันจะบอกให้นะ เงิน ทั้งหมดอยู่กับฉัน นี่ไง กระเป๋าใบนี้ไง เป็นเงินทั้งหมดของ หล่อน ทั้งบัตรธนาคาร เงินสด รวมทั้งมือถือก็อยู่ที่นี่ด้วย มาเอาไปที่ตัวหล่อนไม่มีเงินเลยสักบาท!

ขณะที่หล่อนพูดอยู่นั้นก็ค่อยๆเทของทั้งหมดในกระเป๋าลงบน พื้นทีละชิ้นๆ

ตอนนี้หล่อนก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร และเพราะ อะไรทำไมต้องลักพาตัวถังลั่วเหยาด้วย หล่อนจึงทำได้แค่ คุกคามไปด้วยและหลอกล่อไปด้วยโดยหวังว่าพวกเขาจะได้ยิน และปล่อยคนออกมา

อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงไม่ว่าหล่อนจะตะโกนยังไง ก็ไม่มีใครสักคนออกเสียงพูดอะไร

ในขณะนั้นกลับ มีเสียงแปลกๆ ดังมาจากซอยที่หล่อนเพิ่ง เข้ามา

“เอ๊ะ? เสี่ยวผิง เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

เดิมทีที่เสี่ยวนิงกำลังตึงเครียดอยู่นั้นอยู่ๆ หล่อนก็ได้ยินเสียง หล่อนจึงรีบหันตัวกลับมาโดยไม่รู้ตัว

เมื่อเห็นร่างที่ยืนอยู่ใต้ไฟบนถนนในซอยนั้นแล้ว ก็เหมือนกับได้เห็นผู้ช่วยชีวิต ดังนั้นหล่อนจึงรีบวิ่งไป “พี่เชียว!

เป็นเพราะเซ่เซียวหิวมากเหมือนกัน ซึ่งเดิมที่ควรจะเป็นตง เซ็งที่ออกไปซื้ออาหารมื้อดึก ให้เขาแต่พอดีว่าวันนี้คงเซ็งเป็น หวัด

และเขาก็ไม่อยากให้ลงเชิงออกมาโดนลมหนาวด้วยดังนั้นจึง

ไม่บอกเขา และตัวเองจึงออกมาซื้ออาหารมื้อดึก

หลังจากซื้ออาหารมื้อดึกแล้วและกำลังเดินกลับอยู่นั้น ก็ได้ ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคยของผู้หญิงคนหนึ่งที่นี่

ภายใต้ความอยากรู้อยากเห็นนั้นเขาจึงเข้าไปใกล้เพื่อดูและ พบว่าเป็นคนที่เขารู้จักจริงๆ ด้วย

จากนั้นเขาจึงตะโกนออกมา

เซ่เซียวเห็นท่าทางที่ตกใจกลัวของเสี่ยวนิงแล้ว ก็รู้สึก

ประหลาดใจ

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมีแค่คุณคนเดียวล่ะ? แล้วนักแสดง ของคุณล่ะ?”

เสี่ยวถึงกังวลมากจนเกือบจะร้องไห้ออกมา “พี่เชียวฉัน ขอร้องพี่นะ พี่ช่วยพลั่วเหยาด้วย พลั่วเหยาหายตัวไปแล้ว”

เซเซียวได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

“มันหมายความว่ายังไง? อะไรคือหายตัวไป? พูดให้เข้าใจ หน่อยสิ”
ดังนั้นเสี่ยวจึงจึงค่อยๆเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นั้น ให้กับเซ เซียวอย่างถี่ถ้วน

ที่จริงแล้วเรื่องราวมันง่ายมากและมันก็เกิดขึ้นเร็วมากเมื่อพูด ก็คงใช้เพียงไม่กี่คำ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเซ่เซียวได้ยินเพียงไม่กี่คำนี้เขาก็ได้ยินถึง

ความอันตรายที่รุนแรงอีกด้วย

อย่างแรก อีกฝ่ายวิ่งออกมาจากซอยและอยู่ๆ ก็ลักพาตัวคนไป

ในวันที่อากาศหนาว และมันก็ดึกมากขนาดนี้ มันก็ไม่ใช่ เรื่องบังเอิญอะไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ