บทที่ 601 กลับสู่เจ้าของเดิม
แต่เขาไม่มีวิธีไหนเลยสุดท้าย จึงทำได้แค่จำใจพยักหน้า
“ได้ผมเข้าใจแล้ว”
เขาลุกขึ้น และเดินไปข้างๆ หล่อนพร้อมกับยื่นมือออกไปที่ หล่อน
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว งั้นผมก็ขอให้คุณมีความสุขแล้วกันนะ วางใจเถอะ ผมจะไม่เป็นเหมือนก่อนอีกแล้ว และเรายังเป็น เพื่อนกันอยู่นะ”
ถังลั่วเหยาเห็นดังนั้น ก็ลุกขึ้นตาม
บนใบหน้าของหล่อนก็เผยรอยยิ้มที่จริงใจออกมา
ทันทีที่จับมือเขาหล่อนก็พูดขึ้นว่า “อืม เพื่อนสนิท” และในขณะนั้นเอง เซเซียวก็ดึงมือหล่อนออกอย่างแรง พร้อม กับยื่นมือออกไปกอดหล่อนเบาๆ
ไหล่ของชายคนนั้นกว้างมาก และเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ ทำให้คนสงบจิตสงบใจ
ร่างกายของถังลั่วเหยาแข็งทื่อเล็กน้อยแต่เซ่เซียวกลับไม่ได้มี กิริยาท่าทางใดๆ เลย เพียงแค่กอดหล่อนเบาๆ ไปแบบนั้น จากนั้นไม่นานก็พูดขึ้นว่า “ขอให้คุณมีความสุขเช่นกันนะ”
ร่างกายที่แข็งที่อเล็กน้อยของถังลั่วเหยานั้นถึงค่อยผ่อนคลาย ลง พร้อมกับยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“ขอบคุณค่ะ”
บทสนทนาในครั้งนี้ของทั้ง 2 คนก็ได้จบลงเพียงเท่านี้
เซ่เซียวเป็นคนออกไปก่อนเพราะเขาจะต้องรีบไปถ่ายทำละคร ฉากต่อไป ซึ่งเวลาเล่นละครของถังลั่วเหยาถูกจัดไว้หลังสุดดัง นั้นหล่อนจึงมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น
หลังจากที่เซเซียวออกไป เสี่ยวถึงก็เข้ามาพร้อมกับมองไป รอบๆ ก็พบว่าในห้องพักผ่อนไม่มีใครอยู่เลยนอกจากถังลั่วห ยา ดังนั้นจึงค่อยถอนหายใจด้วยความโล่งใจ และเดินเข้าไป อย่างปล่อยตัวตามสบาย
“พี่ลั่วเหยาเป็นยังไงบ้างคะ? พี่คุยกับพี่เซียวเสร็จแล้วเหรอ คะ?”
ถังลั่วเหยาพยักหน้าและสั่งให้เสี่ยวนิงรินน้ำผึ้งแก้วหนึ่ง ให้ตัว เองหล่อนยกขึ้นพร้อมกับดื่มไปด้วย และพูดไปว่า “เซ่เซียวเป็น คนฉลาด เมื่อรู้ว่าพี่กำลังพูดถึงอะไร จึงไม่กล้าทำแบบนี้ต่อไป แล้ว”
เสี่ยวจึงได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทันทีหลังจากนั้นหล่อนก็ขมวดคิ้วอย่างไม่หยุดหย่อน
หล่อนพูดกับถังลั่วเหยาอย่างจนปัญญาว่า “พี่ลั่วเหยา ที่จริง น้องคิดว่าพี่เซียวน่าสงสารมากนะ พี่ดูสิ เขาทั้งมีหน้ามีตา รวยภูมิหลังทางครอบครัวก็ดี เกิดมาหล่อ นิสัยสุภาพอ่อนโยนเอาใจ ใส่ดูแล และยังเป็นสุภาพบุรุษมากด้วย ทำไมเขาถึงได้โชคร้าย ขนาดนี้ด้วย”
“มันเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยนะที่จะชอบผู้หญิงคนหนึ่งเขาเปิดเผย ความรู้สึกอย่างรีบร้อน แต่ผลคือกลับถูกปฏิเสธสะงั้น และยัง ต้องรู้สึกว่าอีกฝ่ายมีแฟนแล้ว”
“เฮ้อมันจะต้องคิดยังไงถึงจะน่าสงสารล่ะ”
ถังลั่วเหยายกแก้วน้ำขึ้น และชม้ายตามองไปที่หล่อน ด้วย ความขบขัน
“ถ้าน้องคิดว่าเขาน่าสงสารจริงๆทำไมถึงไม่ไปปลอบเขาล่ะ?”
เสี่ยวฉิงตะลึงไป
หล่อนมองไปที่ถังลั่วเหยาอย่างโง่เขลาและถามว่า “แล้วน้อง
ไปได้ไหมล่ะ?”
ถังลั่วเหยาพยักหน้า “ได้แน่นอน แต่เดี๋ยวฉิงของเราเอ๊ย
สำหรับพวกผู้ชายหล่อที่ชอบเห็นอกเห็นใจ และนิสัยอ่อนโยน
ทำตัวน่ารักพวกนั้น มันเป็นแค่พวกต้นพิสตาชิโอในโลกมนุษย์
เท่านั้น แค่น้องไป บางทีเซ่เซียวอาจจะไม่เศร้าแล้วก็ได้ แต่จะ
พบว่า มีหญ้าอยู่ทุกหนทุกแห่งในโลกมนุษย์ แล้วทำไมจะต้อง
แอบรักดอกไม้ดอกหนึ่งข้างเดียวด้วยล่ะ จากนั้นเขาก็จะทำใจ
แล้วเดินเข้าสู่ช่วงชีวิตใหม่
ไม่ว่าเสี่ยวฉิงจะเชื่องช้าแค่ไหน แต่ในเวลานี้ก็สามารถฟังออกการหยอกล้อจากคำพูดถึงลั่วเหยาได้
ในชั่วขณะหนึ่ง ใบหน้าเล็กๆ ใบหนึ่งก็เขินอายจนแดงฉาน
ขึ้นมา
“พลั่วเหยา! พี่อย่าพูดเรื่องไร้สาระ
แต่ แม้ว่าปากจะพูดแบบนี้ ใบหน้าหล่อนก็แดงขึ้นโดยไม่ได้ ตั้งใจ และหัวใจเต้นตึกๆ อย่างแรง
ที่จริงถังลั่วเหยาแค่ล้อเล่นเอง แต่คิดไม่ถึงเลยว่า จะเห็น
ปฏิกิริยานี้ของหล่อน
หล่อนตะลึงเล็กน้อยจากนั้นจึงรีบตอบสนองกลับมาแต่หล่อนก็ ตื่นตระหนกตกใจอยู่อย่างนั้น
อย่างไรก็ตาม นี่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร
ท้ายที่สุดแล้ว บุคลิกประจำตัวของเสียวถึงดีมาก และตัว หล่อนเองก็อ่อนโยน ใจดีมากด้วย หลังจากที่หล่อนครุ่นคิดไป สักพัก หล่อนก็ลืมตาขึ้นเล็กน้อย และพูดขึ้นอย่างกะทันหัน ว่า “เอาล่ะๆ เมื่อกี้พี่แค่ล้อน้องเล่นน่ะ”
“และในตอนนี้ พี่มีเรื่อง ที่ต้องขอน้องช่วยจริงๆ ”
เสี่ยวฉิงถามอย่างรวดเร็ว”เรื่องอะไรคะ?”
ถังลั่วเหยาหยิบของบางอย่างออกจากกระเป๋า พร้อมกับยื่น ให้กับหล่อน และพูดว่า “นี่เป็นสิ่งที่เซเซียวมอบให้พี่ก่อนหน้านี้ และเมื่อกี้พี่ก็ลืมคืนให้เขา ในเมื่อตอนนี้พวกเราพูดชัดเจนกันขนาดนี้แล้ว ถ้าสิ่งของเหล่านี้อยู่กับพี่มันก็คงไม่เหมาะ
“งั้นน้องก็ช่วยพี่หาโอกาสก็แล้วกันแล้วคืนของให้เขาเป็นการ
ส่วนตัว”
เสี่ยวนิ่ง งงเล็กน้อย และมองหล่อนด้วยความประหลาดใจ “น้องเป็นคนไปเหรอ? ”
ถังลั่วเหยายิ้มพร้อมกับพูดว่า “อืม น้องเป็นคนไป แล้วน้อง ยินดีที่จะช่วยในเรื่องนี้ไหมล่ะ?”
เสี่ยวนิ่งลังเลแต่หลังจากที่ลังเลอยู่พักหนึ่งก็พยักหน้าอย่าง หนักแน่น
“อืมก็ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา
หลังจากพูดจบ ถังลั่วเหยาก็ยิ้มแล้วให้หล่อนออกไป
หล่อนมองภาพด้านหลังที่ออกไปของเสียวถึง หล่อนก็เป็น กายนอนลงบนเก้าอี้ และยิ้มในใจพร้อมกับพูดว่า นางเด็กโง่ เอ๊ย พี่สร้างโอกาสให้น้องแล้วนะ จะสามารถคว้าโอกาสนี้ได้ หรือไม่นั้น คงขึ้นอยู่กับตัวเองแล้วนะ
แม้ว่าหล่อนจะรู้ว่าเมื่อเทียบภูมิหลังครอบครัวของเสียวถึง กับตระกูลเซ่แล้ว อาจจะเป็นชนชั้นที่มีฐานะสูงกว่า
แต่หล่อนก็รู้ดีว่าเสี่ยวจึงไม่ใช่คนหัวสูงขนาดนั้นและการที่ หล่อนจะชอบเซ่เซียว มันจะไม่มีวันเป็นเพราะฐานะและภูมิหลังค รอบครัวของเขาแน่นอน
และเซ่เซียวเอง ไม่ว่าจะเป็นท่าทีปกติของเขา หรือความรู้สึก ของเขาที่มีต่อตัวหล่อนเอง ก็สามารถตัดสินได้ว่า เขาก็ไม่ใช่ คนที่ให้ความสำคัญกับพวกเรื่องอวดดีเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
ดังนั้นถ้า 2 คนนี้ได้อยู่ด้วยกันก็ถือได้ว่าเป็นคู่รักที่จะต้องเป็น ครอบครัวกัน ในที่สุดแน่
หล่อนยังคงหวังว่าทุกคนรอบตัวหล่อนจะต้องมีความสุขในตัว
เอง
เมื่อคิดแบบนี้ ถังลั่วเหยาก็หลับตาลงอย่างพอใจและพักผ่อน
ลง
ในตอนบ่ายเป็นการเล่นละครต่อสู้ระหว่างถังลั่วเหยาและเซ เขียว
เซ่เซียวถ่ายทำละครกลางคืน ในเมื่อวานนี้ แต่หลังจากนอน หลับไปเพียง 3 หรือ 4 ชั่วโมงวันนี้ก็ยังต้องถ่ายทำต่อไป แต่ ใบหน้าของเขาไม่แสดงอาการเหนื่อยออกมาเลย
หลังจากถ่ายทำฉากละครทั้งหมดแล้ว ก็ยังต้องทำงานอย่าง ขยันขันแข็งต่อไป และดูเหมือนว่าทั้งผู้กำกับและรองผู้กำกับที่ อยู่ข้างๆ เขา ต่างพากันพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า
โชคดีที่ละครต่อสู้ระหว่างทั้ง 2 ในวันนี้ ไม่ใช่ละครที่ต้องใช้ แรงอะไรมาก
ซึ่งทั้งคู่ต่างก็เป็นนักแสดงรุ่นเก่า และมีพื้นฐานจากละครเรื่อ งก่อนๆ ดังนั้นพวกเขาจึงคุ้นเคยขนาดนั้นและเมื่อทำงานร่วมกันจึงทำได้อย่างคล่องอย่างเป็นธรรมชาติ
ผู้กำกับเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้ง 2 ไม่ได้เข้ม งวดเหมือนครั้งก่อนแล้ว
หลังจากฉากหนึ่งจบลงไป ในช่องว่างระหว่างฉากถัดไปนั้น มักจะมีการพูดคุยและหัวเราะกันกลางกองถ่ายดังนั้นจึงรู้ว่า แผนการที่เขาจะนำพวกเขามารวมกันในวันนี้เพื่อให้พวกเขา สามารถเจรจาสันติภาพได้นั้น ถือได้ว่าเป็นอันสำเร็จ
เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างอดไม่ได้
การเป็นผู้กำกับไม่ใช่เรื่องง่ายเลยต้องกังวลเกี่ยวกับคุณภาพ ของละครรวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างนักแสดงนำชายและหญิง อีกด้วย
แต่ขอแค่พวกเขาดีกันก็พอแล้ว และตราบใดที่มันไม่กระทบ
กับกองถ่ายเขาก็จะไม่สนเรื่องที่เหลือเลย
พวกเขาถ่ายทำจนถึง 6 โมงเย็น จึงได้สิ้นสุดลง
และคืนนี้เซ่เซียวไม่มีฉากที่ต้องถ่ายทำแล้ว ดังนั้นเขาจึง สามารถพักผ่อนได้แต่ถังลั่วเหยามีถ่ายทำละครกลางคืนด้วยดัง นั้น หล่อนจึงต้องรอที่กองถ่ายหลังจากที่ทานมื้อเย็นเสร็จและ ฟ้าก็มืดแล้ว จากนั้นก็ถ่ายทำต่อ
ก่อนเซ่เซียวจะออกไปเขาก็มองไปที่หล่อนเหมือนกำลังลังเลที่ จะพูดอะไรบางอย่าง
ถังลั่วเหยารู้สึกได้ว่าเขามีอะไรจะถาม หล่อนจึงชี้ไปที่มุมหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลมาก และพูดกับเขาว่า “เราไปคุยกันที่นั่น เชเชียวพยักหน้า
และทั้ง 2 ก็เดินไปที่มุมซึ่งค่อนข้างเงียบสงบนั้น และเซ่เซียว จึงหยิบบางอย่างออกจากกระเป๋าตัวเองและพูดกับหล่อนว่า”นี่ เป็นของที่คุณให้เสี่ยวถึงนำมาให้ผมใช่ไหม?”
ถังลั่วเหยาเหลือบมองของนั้นแวบหนึ่ง
นั่นเป็นหูฟังบลูทูธคู่หนึ่ง ซึ่งเป็นรุ่นสั่งทำสีแดงมันสวยมาก และคุณภาพก็ดีมากด้วย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ