บทที่ 585 ร่วมเรียงเคียงหมอน
“ถ้าหากนายไม่คิดจะยอมแพ้จริง อย่างมากเราก็สู้กันจน ตายไปทั้งคู่ อย่างไรเสียฉันก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรกับนายอีก!
เธอพูดจบก็หันหลังและเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง เขาอีกเลย
ครั้งนี้ถังลั่วเหยารู้สึกหวาดกลัวจริง ๆ
เธอไม่ได้โง่จนดูไม่ออกว่าเมื่อครู่เพิ่งมีความคิดจะตายไป พร้อมกับเธอจริงๆ
ไอ้บ้า!
เธอตายไม่เป็นไร แต่แม่ของเธอล่ะจะทำเช่นไร? เขาเห็นแก่ตัวแบบนี้ได้ยังไง เพียงเพราะเธอไม่ยอมรับปาก จะกลับบ้านไปกับเขา แล้วต้องทำกับเธอขนาดนี้
ถังลั่วเหยาเสียใจมาก เดินไปพลางและปาดน้ำตาไปพลาง ความน้อยใจในตอนนี้ไม่สามารถถูกเก็บกักเอาไว้ได้อีกต่อ ไป มันกลายเป็นน้ำตาไหลพรากลงมา
และไม่รู้ว่าเดินอยู่นานแค่ไหนจนเธอรู้สึกขาชาไปหมดแล้ว
เธอจึงได้หาที่นั่งพักข้างทาง แต่ไม่ไกล ในที่ที่เธอมองไม่เห็น มันคือเฟอร์รารี่สีดำที่ในความเป็นจริงตั้งแต่เธอจากไปเธอก็ตามมาอย่างเงียบ ๆ
เฟิงนั่งอยู่ในรถที่อยู่ไม่ไกล หญิงสาวนั่งกอดเข่าใต้โคมไฟ ถนนและร้องไห้อย่างเจ็บปวดใจ ใจอีกดวงหนึ่งก็เจ็บขึ้นมาอย่าง รุนแรง
อันที่จริงเมื่อครู่เขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร มันเหมือนถูก
สะกด
เพียงแค่คิดว่าจะต้องทำให้เธอรับปากให้ได้
อันที่จริงเขาแค่อยากจะได้ยินเธอพูดออกมาจากปากว่าเธอ
ยอมรับ ต่อให้ถึงการยอมรับนั้นจะไม่ได้เต็มใจขนาดนั้นก็ไม่ เป็นไร
เขาต้องการหลักฐานมากเกินไป
ดูเหมือนขอเพียงแค่เธอพูดมาก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าตนเองมี ตัวตนอยู่ในใจของเธออยู่ไม่มากก็น้อย ดูเหมือนเธอจะไม่ได้รังเกียจเขาขนาดนั้น
เขาไม่ได้คิดจะทำร้ายเธอเลยจริงๆ
ผู้หญิงที่เขารักมากขนาดที่ยอมตายได้ดีกว่าปล่อยให้เธอได้ รับอันตรายใด ๆ แล้วเขาจะพาเธอไปตายได้อย่างไร? เฟิงยี่หลับตาลงด้วยความเจ็บปวด
ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ เขาจึงขยับนิ้วแล้วหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งซอง จากกระเป๋าของเขา หยิบบุหรี่มามวนหนึ่งแล้วจุดไฟ
ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว
ถนนเส้นนี้เปลี่ยวมากรอบข้างไม่มีผู้คนหรือแม้แต่รถสักคันก็ ไม่มีผ่านมา
หญิงสาวนั่งเงียบงันอยู่คนเดียวตรงนั้น ก้มหน้ากอดเข่าและ ไม่รู้ว่ายังร้องไห้อยู่รึเปล่า
ส่วนชายหนุ่มสูบบุหรี่มวนหนึ่งต่อด้วยอีกมวนจนบุหรี่เกือบจะ หมดซอง เขาจึงได้เปิดประตูและลงจากรถ
อันที่จริงถังลั่วเหยาร้องไห้จนเหนื่อย
สิ่งที่พูดไปเมื่อครู่ไม่ใช่ด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่ใช่ความในใจ ที่แท้จริงที่ตนเองอยากจะพูดเหมือนกัน
หลังจากเหนื่อยแล้วและไม่มีแรงจะเดินไปต่อ บวกกับความ
หนาวเหน็บในช่วงเวลากลางคืนทำให้ไม่อยากขยับไปไหน
เธอจึงได้แต่นั่งกอดเข่าและก้มหน้าเงียบ ๆ อยู่ตรงนั้น เพื่อให้ ได้ความอบอุ่นสักนิด
ในตอนนั้นเองจู่ ๆ ก็มีไออุ่นกระทบตัวเธอ เธอนิ่งไปและเงยหน้าก็เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเฟิง
เขามีสีหน้านิ่งขรึม แสงไฟถนนสีเหลืองนวลส่องอยู่เหนือศีรษะ ของเขา ตัดลักษณะใบหน้าของเขาให้ลึกขึ้นเรื่อย ๆ
ดวงตารูปลูกท้อที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มมาตลอด ตอนนี้ไม่มีรอย ยิ้มและมีเพียงความเหน็บหนาวและมืดมิดไม่สิ้นสุด
เขาสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวและถอดเสื้อนอกเพื่อคลุมตัวเธอ ถังลั่วเหยาได้กลิ่นบุหรี่จางๆ ลอยที่ไม่ได้เหม็นมาจากปลายจมูก ของเขาอย่างไม่ต้องพยายาม
หัวใจของเธอหยุดชะงัก เธอที่ไม่อยากร้องไห้อีกต่อไป จู่ ๆ ดวงตาก็กลับมาขึ้นอีกครั้ง
ในระหว่างที่อารมณ์เสียและอยากจะถามเขาว่ากลับมาทำไม อีก แต่ชายคนนั้นไม่พูดอะไรสักคำเขาก็ก้มลงอุ้มเธอจากด้าน ข้าง
แขนของเขาแข็งแรงมากมันรู้สึกแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการ แสดงออกที่ไม่น่าเชื่อถือที่เขามักจะแสดงออก
เหมือนกับผู้ชายที่เติบโตเต็มตัวและสูงสง่า สามารถคว้าเอา
ท้องฟ้าและเป็นที่หลบลมฝนให้เธอได้
ตลอดเวลานี้เฟิงไม่ได้พูดอะไร
เขาอุ้มเธอขึ้นรถและรัดเข็มขัดนิรภัย ให้เธออย่างระมัดระวัง จากนั้นเข้าไปในที่นั่งคนขับและสตาร์ทรถ
รถขับไปบนถนนที่เงียบสงัด ในตอนดึกและทั้งสองคนไม่ได้พูด อะไรเลยตลอดการเดินทาง
บรรยากาศในรถตกอยู่ในความเงียบ แต่ในความเงียบนี้ดู เหมือนว่าจะมีคำพูดที่ถูกพูดไปเป็นพันคำ แต่ไม่มีเสียงใด ๆ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถก็มาถึงชั้นล่างของอพาร์ตเมนต์ที่ถังลั่ว เหยาอาศัยอยู่
และไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงลั่วเหยาจึงไม่รู้สึกดีใจสักนิดแม้จะถึง บ้านแล้ว
เหมือนกับว่าทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตอนนี้ปลอดภัยแล้ว
เขาจะทําอะไรเธอไม่ได้อีก ทำร้ายเธอไม่ได้อีก แต่ในใจกลับ เหมือนมีพื้นที่ว่างเปล่าเหมือนกับตัวเองลืมพูดอะไรไปบางอย่าง เหมือนกับทําอะไรบางอย่างสูญหายและเป็นทุกข์ใจเป็นอย่าง มาก
แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้เปิดปากพูดอะไรออกไป ทำเพียงเปิด ประตูและลงจากรถอย่างเงียบงัน
ในขณะที่ยืนอยู่นั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเสื้อยังถูกคลุมตัวเธอไว้ จึงได้ ถอดเสื้อนอกและคืนให้เขาไป
เพิ่งมองดูการกระทำของเธออย่างเงียบงัน เดิมดวงตาที่
ลึกล้ำคู่หนึ่งจ้องมาที่เธอนิ่งราวกับน้ำนิ่ง
จนกระทั่งเห็นเธอถอดเสื้อออกแล้ววางไว้บนที่นั่งข้างคนขับ ดวงตาที่นั่งราวกับน้ำนิ่งก็เกิดการเคลื่อนไหวเล็กน้อย
ถังลั่วเหยาไม่หันกลับมามองเขาอีก เธอหันหลังและเดินเข้าไป ทางอพาร์ตเมนต์
ฝีเท้าของเธอไม่เร็วถึงขนาดพูดได้ว่าช้าด้วยซ้ำ
ตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงช้าได้แบบนี้เหมือนกับขาของเธอ ถูกใครบางคนมัดเอาไว้และก้าวขาไม่ออก
ทุกก้าวมันช่างหนักอึ้ง
ภายในใจลึกๆ มีเสียงที่แผ่วเบาบอกกับเธอว่า จบแล้ว
ทั้งหมดมันจบแล้ว!
หลังจากวันนี้ไป ไม่ว่าในใจจะเสียใจและทนไม่ไหวแค่ไหน ไม่ ว่าจะต่อสู้และสับสนแค่ไหน ทั้งหมดจบลงแล้ว
ตั้งแต่วันนี้ไปพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้วอย่าง แท้จริง จะถูกใครจงใจทำให้ต้องลำบากใจอีก และจะไม่มีใคร ต้องโกรธเธอจนแทบบ้าอีก
แต่ในทํานองเดียวกันจะไม่มีใครพยายามช่วยเธอซ้ำแล้วซ้ำ เล่าเมื่อเธอตกอยู่ในช่วงวิกฤตที่สุด
ในที่สุดชีวิตของเธอก็จะกลับสู่สภาพน้ำนิ่งอีกครั้งและจะไม่มี
คลื่นลมใดๆ ได้อีกต่อไป
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการอย่างนั้นเหรอ?
หัวใจของเธอหายไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ?
เธอจำได้มาตลอด ในช่วงบ่ายที่มีแดดจ้าเธอไปที่บ้านตระกูล เพิ่งอย่างมีความสุขเพื่อเล่นกับพี่ของเธอ
แต่พี่ยออกไปข้างนอกและยังไม่กลับ เพราะคนรับใช้ในบ้าน ชอบเธอจึงให้เธออยู่และเอาของเล่นมาให้เธอเล่นและรอพี่ยอยู่
ในห้องรับแขก
เธอดีใจมาก เล่นและรอเขาอยู่ตรงนั้น
เธอรออยู่นานแต่ไม่เพียงแต่จะยังไม่มาแต่เป็นแม่ของพี่ ที่มาแทน
ตู่กูยิง
ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนหยิ่งทะนงหัวสูง
ด้านหลังมีคนรับใช้คนหนึ่งที่ตามติดคอยดูแลเธอ พอรู้ว่าเธอ มาคนรับใช้ก็พูดเล่นว่าคุณหนูถังกับคุณชายรองของเราเข้ากัน ได้ดีมากๆ เป็นเพื่อนเล่นกันแบบนี้ อีกหน่อยไม่แน่ว่าอาจจะได้ ร่วมเรียงเคียงหมอนก็ก็ได้
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ