บทที่ 564 ไม่เผ็ดเลย
ถังลั่วเหยาไม่สงสัยเป็นอื่นอีกและยื่นมือไปรับเสื้อผ้า เมื่อ คิดว่าผู้ช่วยเหลิ่งก็เป็นคนสนิทของเฟิงยี่เธอจึงเปลี่ยนสีหน้า “ลําบากคุณแล้ว เข้ามาดื่มชาสักแก้วสิคะ!”
ผู้ช่วยเหลิ่งรีบโบกมือ “ไม่ละครับ ขอบคุณครับคุณถัง ผมยัง มีธุระต้องรีบกลับไปก่อน
พูดพลางและเดินออกไป
ถังลั่วเหยาเห็นแบบนั้นก็ไม่ฝืนและเฝ้าดูเขาเดินไปที่ลิฟต์ แล้วจึงปิดประตู
เพิ่งออกมาจากห้องอาบน้ำอย่างรวดเร็ว โดยมีผ้าขนหนู ผืนเดียวพันรอบตัวเขาเผยให้เห็นร่างกายท่อนบนที่แข็งแรงและ น้องเรียว ผมของเขาเปียกและหยดน้ำไหลผ่านกล้ามที่สวยงาม ตามหน้าอกของเขาช่างเซ็กซี่และเย้ายวน
เมื่อเห็นถังลั่วเหยาถือเสื้อผ้าและยืนอยู่ที่ประตู เขาจึงเอ่ย ปากถาม: “เหลิ่งเมียมาแล้วเหรอ?”
ถังลั่วเหยาตกใจและหันกลับมาแล้วกะพริบตาปริบๆ แม่เจ้า ผู้ชายคนนี้ต้องดูดีขนาดนี้ด้วยเหรอ?
ถึงแม้ว่าจะมีประสบการณ์คืนนั้น แต่ในเรื่องสรีระของชาย หนุ่มในความทรงจำของเธอนั้นเลือนราง ที่สุดแล้วตอนนั้นชายหนุ่มที่โดนวางยา ส่วนเธอก็ถูกทับจนเกือบตาย ไหนเลยจะจํา เรื่องอื่นได้?
และในเวลานี้ชายหนุ่มเปลือยกาย รูปร่างบึกบึนกล้ามเนื้อ ชัดเจน ผมเปียกยุ่ง นัยน์ตาพร่ามัวลึกล้ำ ริมฝีปากสีแดงเชอรี่ เป็นชายรูปงามที่เพิ่งขึ้นจากอ่างอาบน้ำเรียกว่า ดึงดูดใจแทบบ้า จริงๆ
ถังลั่วเหยาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายไปหลายอีก ไม่ง่ายเลย ที่จะละสายตา สายตาอยู่ที่ผ้าขนหนูบนเอสของเขา ด้วยดวงตาที่ สวยงามคิ้วบางสวยรูปใบหลิวก็ขมวดขึ้นทันที “ไม่ใช่บอกแล้ว ว่าห้ามใช้ผ้าขนหนูของฉัน? ทำไมคุณยังใช้อีกอะ!”
เฟิงยี่แบมืออย่างไร้เดียงสา “ก็ผมไม่ชอบวัสดุของผ้าขนหนู ผืนใหม่”
“เหลวไหล ก็เหมือนกันนั่นแหละ!”
“ใช่เหรอ? ไม่เหมือนนะ!”
ถังลั่วเหยาโกรธจนปอดแทบจะระเบิด เธอบ้าความสะอาด และไม่เคยใช้ของส่วนตัวร่วมกันคนอื่นมาก่อน ยิ่งกับผ้าเช็ดตัวที่ สัมผัสกับส่วนลับโดยตรงด้วยแล้ว
แต่ตอนนี้ ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงจะใช้ห้องอาบน้ำของเธออย่าง ชัดเจนแล้ว ยังใช้ผ้าขนหนูเธอด้วย!
มันช่าง…
เฟิงไม่สนใจแววตาโกรธของเธอ เขาหยิบเสื้อผ้าและหันตัวกลับไป เมื่อเห็นเธอยืนอยู่ตรงนั้นก็เลิกคิ้ว “ผมจะเปลี่ยน เสื้อผ้า คุณจะไม่หลบจริง ๆ อะ?”
หลบบ้านแกสิ! นี่มันบ้านฉันนะ!
ถังลั่วเหยาอยากจะเข้ากับเขาเพื่อระบายความโกรธ แต่เมื่อ ชายคนนั้นยิ้มเยาะและดึงผ้าเช็ดตัวออก เธอก็หันกลับทันทีและ
เดินออกไป
เธอไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับผู้ชายหน้าไม่อายแบบเขา หรอก!
เสียงปิดประตูดังปัง ถังลั่วเหยาก็หยุดอยู่หน้าประตูชั่วครู่ และรู้สึกเพียงโกรธจนปวดท้อง จากนั้นจึงจำได้ว่าวันนี้ยังไม่ได้ กินอะไรเลยตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้
เมื่อเวลาก็ทุ่มหนึ่งแล้วหากจะสั่งอาหารเข้ามาก็ถือว่าดึก ไปสักหน่อย จึงได้แต่หายใจลึกๆ อย่างทำอะไรไม่ถูกแล้วเดินเข้า ครัว
ถังลั่วเหยามีฝีมือการทำครัวไม่เลวเลยแต่เวลาอยู่คนเดียว ส่วนมากก็กินแต่บะหมี่ สารอาหารครบถ้วนและไม่เรื่องมาก
ขณะที่กำลังต้มน้ำ จู่ ๆ เฟิงก็โผล่มาที่ประตู เมื่อเห็นเธอยัง อยู่หน้าเตาก็ถามด้วยความสนใจ: “คุณกำลังทำอะไรกินเหรอ?” ถังลั่วเหยาส่งเสียงอย่างเย็นชาแล้วไม่สนใจเขา
เขาเองก็ไม่ต่อล้อต่อเถียงและเดินเข้ามาและหันมาสั่งอย่าง คุ้นเคย: “อย่าลืมทำเพิ่มอีกทีล่ะ!”
“มีสิทธิ์อะไร?”
ถังลั่วเหยาสุดที่จะทน
เพิ่งมองไปที่เธออย่างระมัดระวังและกล่าวกึ่งยิ้ม: “ผมจำ ได้ว่าเอกสารการประเมินของซูหงเพิ่งถูกส่งมา เหมือนผลของ ไตรมาสดูไม่ค่อยดี ถึงผมจะไม่ได้จัดการซิงฮุย แต่ไม่ว่ายังไงผม ก็เป็นประธานของอานหนิงกั๋วจี้ ชิงฮุยนั้นเป็นบริษัทลูกของอาน หนิงกั๋วจี้ ตอนนี้วงการผู้จัดการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ผมดูแล้ว หาก…”
“คุณชายรองกินไข่ไหมคะ?”
ถังลั่วเหยาเปลี่ยนสีหน้าร้อยแปดสิบองศาในทันที กะพริบ ตาที่สวยงามและยิ้ม
เพิ่งพยักหน้าด้วยความพอใจราวกับไม่เต็มใจ “ยังไงก็ได้ ผมไม่คิดว่าคุณจะทำอาหารดีๆ ออกมาได้ ผมพอถูไถไปได้ แหละ”
พูดจบก็เดินจากไปอย่างสง่า
ทันทีที่ร่างของชายคนนั้นหายไปจากสายตา ถังลั่วเหยา หลบหน้ายิ้มเอาใจและใบหน้าของเธอเปลี่ยนไป
กินๆ ๆ! กินบ้านนายสิ
เธอโยนซ้อนลงด้วยความโกรธ ตาสวยกลอกไปและหยุดลง ที่พริกป่นที่เครื่องปรุงรส รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ
ไม่ถึงสิบนาที บะหมี่ควันฉุยสองชามถูกยกออกมา ซามหนึ่ง ค่อนข้างใหญ่น้ำมันสีแดงลอยเต็มชาม โปะด้วยไข่ดาวสองฟอง รูปรสกลิ่นครบรส เห็นแล้วต้องน้ำลายสอ ส่วนอีกชามเล็กอีก ซามนั้นกลับมีเพียงผักตกแต่งอยู่ไม่กี่ก้าน เมื่อเทียบดูแล้วดู จืด อกว่ามาก
เพิ่งเห็นเธอวางชามใหญ่ตรงหน้าเขาแล้วถือชามเล็กให้ ตนเองจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณกินแค่นี้เหรอ?”
ถังลั่วเหยานั่งตรงข้ามเขา ควันในชามทำให้เธอหน้าแดง เล็กน้อย ดูน่ารักไร้เดียงสาและพูดพร้อมยิ้มกริ่ม: “ฉันเป็นนัก แสดงต้องดูแลรูปร่าง กินแค่นี้ก็พอแล้ว”
เพิ่งกลับใช้ตะเกียบคีบไข่ฟองหนึ่งแบ่งให้ “วันนี้อนุญาต ให้ผ่อนคลายได้สักครั้ง”
ถังลั่วเหยาหนังตากระตุกพร้อมกับรีบลุกและยกชามหนี “ไม่ ต้องๆ จริงๆ นะ! ฉันกำลังจะถ่ายหนังอีกเรื่อง ถ้าหากว่าอ้วนออก กล้องแล้วจะดูไม่ดี”
เพื่อแสดงความจริงใจ พูดจบแล้วยังพยักหน้าอย่างแรง
เฟิง ถือตะเกียบขึ้นมองเธอสองสามวินาทีและในที่สุดก็เชื่อ
เธอภายใต้ดวงตาเล็ก ๆ ที่จริงใจของเธอ
เมื่อกัดไปหนึ่งคำสีหน้าก็เปลี่ยนในทันที
ถังลั่วเหยาใช้โอกาสก่อนที่ฝ่ายชายจะโกรธหนีจากตรงนั้น ถือชามแล้วเข้าไปในครัว
เสียงหัวเราะที่อดกลั้นมานานระเบิดออกมาทันที เธอไม่กล้า จะขาแรงกลัวว่าชายหนุ่มจะได้ยินแล้วเขินจนโกรธ ดังนั้น ในขณะ ที่กุมท้องและหัวเราะ เธอโน้มตัวไปข้างหน้าและปิดปากตัวเองไว้ จนเกือบจะกลั้นไม่อยู่
เมื่อครูในชามบะหมี่เมื่อครู่เธอใส่พริกป่นเข้าไปเต็มๆ กว่า
ครึ่งขวด
โคตรเผ็ด!
ใครให้นายโอหังอวดดี! ให้นายจองหองพองขน! สมน้ำ
หน้า!
ถังลั่วเหยาหัวเราะจนพอแล้ว เธอยืนพิงประตูและโผล่ หัวออกมาอย่างระมัดระวังและตรวจสอบสถานการณ์ในห้อง อาหาร
กลับเห็นชายหนุ่มนั่งอยู่บนโต๊ะอาหารแล้วกินบะหมี่อย่าง เอื่อยเฉื่อย ท่าทางสง่างามและดูสบายๆ เหมือนไม่มีอะไรแปลก
ไป
เอ๋? ไม่สิ!
หรือว่าเฟิงไม่กลัวเผ็ด
แต่ก็ไม่น่าจะหน้าตายเลยนะ ต้องเข้าใจนะ นั่นพริกตั้งครึ่ง ขวดเลยนะ!
เมื่อเห็นว่าเขากินหมดชามแล้ว ชายหนุ่มดึงกระดาษทิชชู แผ่นหนึ่งมาเช็ดปากอย่างสง่างาม ถังลั่วเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อยสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายยังแกล้งทำเป็นรับซามไว้แล้วเดินเข้าไป แล้วถามยิ้มๆ “ประธานเฟิง รสชาติเป็นยังไงบ้างคะ?”
เพิ่งเงยหน้าอย่างไม่ใส่ใจแล้วมองเธอ “อยากรู้เหรอ?”
ถังลั่วเหยาพยักหน้า
“มานี่สิ!”
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรแต่เธอก็ยังเดินเข้าไปหนึ่งก้าว ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ยื่นมือออกมาและใช้แรงดึงข้อมือเธอ เธอเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาในทันที
ความรู้สึกเผ็ดร้อนเข้าโจมตี ชายหนุ่มก้มลงและคว้าริม ฝีปากเธอและประทับจูบลงไปอย่างรุนแรง
ถังลั่วเหยาแทบจะหายใจไม่ออก
ในขณะเดียวกันรสเผ็ดร้อนก็กระตุ้นให้เธออยากจะร้องไห้
อื้อๆ~~ไม่เผ็ดอะไรกัน เผ็ดมากชัดๆ ผู้ชายคนนี้ทำไมถึง โรคจิตจนถึงขั้นกินเผ็ดขนาดนี้แล้วยังไม่ทุกข์ร้อนได้
อีก~~อื้อๆ~~
ถังลั่วเหยาน้ำตาตกใน ดูเหมือนชายหนุ่มจะหมายหัวเพื่อ แก้แค้นเธอเข้าให้แล้วจึงจับเธอแน่นไม่ยอมปล่อย
จูบนี้กินเวลาไปอย่างน้อยเจ็ดแปดนาที
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ