บทที่ 529 ใจกล้าเกินไปแล้ว
เธอทำอะไรผิดไปกันแน่?
อยู่ๆ โทรศัพท์ก็ดัง เธอไม่ต้องคิด ก็รู้ว่าคนในบ้านโทรมา
เห็นที่พอดูแล้วว่าใบทะเบียนสมรสนั้นได้เป็นของจริง ถึงได้ โทรมาสินะ! เพราะงั้นคงไม่โทรมาหาเธอเอาป่านี้หรอก
ความเสียใจของอานเดียวก็ได้หนักกว่าเดิม เธอได้เอา โทรศัพท์ออกมา ไม่มองก็ได้วางไปแล้ว จากนั้นก็ได้กดปิดเครื่อง
มองเห็นหน้าจอที่ได้มืดสนิท อานเฉียวถึงรู้สึกผ่อนคลายไป เล็กน้อย ก็ได้ลุกขึ้นจากพื้น เก็บกระเป๋าขึ้นเดินกลับไป
อีกด้าน ตระกูลอาน
ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกได้ปิดเครื่อง กรุณาโทรใหม่ ภายหลังค่ะ”
ในเครื่องได้มีเสียงข้อความอัตโนมัติดัง สีหน้าของอานจื่อ ซานก็ได้เปลี่ยนเล็กน้อย
หมดกัน เมื่อกี้ยังโทรติด ตอนนี้ก็ได้ปิดเครื่องแล้ว แสดงว่า อานเฉียวได้โมโหจริงๆ!
เขาได้วางสายไปด้วยความหงุดหงิด
ในมือของอานซินก็ยังได้ถือใบทะเบียนสมรสนั้น ก็ยังไม่อยาก ที่จะเชื่อ “พ่อค่ะ พี่ว่า นี่เป็นของจริงไหม?”
อานจื่อซานมองเธออย่างหงุดหงิด “คนของสำนักกิจการ พลเรือนก็ได้ถามแล้ว เธอคิดว่าไงล่ะ?”
อานซิน
ดวงจันทร์ได้ขึ้นกลางฟ้า ก็ได้ดึกมาแล้ว
อานเฉียวได้เดินกลับไปทีละก้าว ในที่สุดก็มาถึงข้างถนน ที่นี่ ได้ติดทะเล กลางคืนรถขับไปมาค่อนข้างน้อย เพราะงั้นรออยู่ นานถึงได้เรียกรถได้คันหนึ่ง
เธอนั่งบนรถ ก็ได้พูดกับคนขับ ไปสวนดอกไม้จงไม่ จากนั้นคิดไปคิดมา ก็ยังได้ทำการเปิดเครื่อง เตรียมที่จะโทร
ไปหาเจินเจิน
เจินเจินเป็นเพื่อนมอปลายของเธอ ครอบครัวที่ร่ำรวย นิสัย ก้าวราวเล็กน้อย ทั้งสองตั้งแต่เรียนหนังสือถึงตอนนี้ก็ยังสนิทมา ตลอด รวมกระทั่งสองปีมานี้ที่เธอได้เจออะไรมากมาย เงินเงิน ยังยืนอยู่ข้างเธอให้กำลังใจเธออย่างไม่มีข้อแม้ ช่วยเหลือเธอ เพราะงั้นเรื่องที่เธอกลับประเทศ นอกจากคนในบ้านแล้ว คนที่ เธอเคยบอกก็มีแค่เงินเงิน
และแล้ว ซึ่งหาเบอร์เจอ โทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้น
เบอร์ที่โทรเข้ามานั้นเป็นเบอร์แปลกหน้า อานเฉียวได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย เบอร์โทรศัพท์ของเธอตอนนี้เป็นเบอร์ที่เปลี่ยนตอนกลับประเทศ นอกจากคุณพ่อแล้วไม่มีใคร
รู้
เขาต้องรู้แล้วแน่ๆว่าใช้เบอร์ตัวเองแล้วโทรไม่ติด เพราะงั้น ก็ได้เปลี่ยนเบอร์โทร
อานเดียวก็ได้ขาอย่างเย็นชา นิ้วได้ลังเลไปแค่แป๊บเดียว ก็ได้
กดวางสายไป
ตอนนี้เธอไม่อยากกลับบ้าน ซึ่งไม่อยากได้ยินคำพูดที่ไม่น่า
ฟังของพวกเขา!
พอพึ่งวางไป เบอร์นั้นก็ได้โทรมาอีกครั้ง เธอก็ได้วางไปอีกครั้ง
แล้วโทรมาอีก
วางอีก
ผ่านไปสามนาที โทรศัพท์ก็ได้ดังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ราวกับ ว่าโทรไม่ติดก็ไม่หยุดยังไงอย่างงั้น
อานเฉียวไม่รู้จะพูดอะไร คนพวกนี้ จะให้เธออยู่เงียบๆ คน เดียวไม่ได้หรือไง?
เธอเริ่มหงุดหงิด เวลาเดียวกันก็รู้สึกว่าพวกเขานั้นเกินไป จริงๆ ต่อว่าเธอตอนอยู่ในบ้านยังไม่พอ ยังจะโทรมาว่าเธออีกเห รอ?
อานเฉียวได้กัดฟัน กดรับสาย แล้วก็ตะคอกไปในโทรศัพท์”พอได้แล้ว! พวกคุณไม่ต้องโทรมาแล้ว ฉันบอกพวกคุณไว้นะ เรื่องที่ฉันไม่ได้ทําก็คือไม่ได้ทํา! ไม่ว่าพวกคุณพูดอะไรก็ไม่มี ประโยชน์!
พูดจบ “ปิ้ง” ก็ได้วางสายลง
ปลายสาย
เฟิงเหยียนยืนอยู่ที่ระเบียงกว้าง จ้องมองจอโทรศัพท์ที่ดับไป อึ้งไปชั่วขณะ
จากนั้นสีหน้าก็ได้เสีย
ผู้หญิงคนนี้! ไม่รับสายของเขาก็ช่างแล้ว ยังกล้าที่จะตะคอก ใส่เขาแบบนี้?
ใจกล้าเกินไปแล้ว!
ตอนที่เขาจะโทรไปอีกรอบนั้น อยู่ๆ ก็นึกถึงคำพูดที่อานเฉียว พูดเมื่อกี้ อะไรคือเรื่องที่ไม่ได้ทำก็คือไม่ได้ทำ
เธอทําเรื่องอะไร?
เฟิงเหยี่ยนรู้สึกว่าเรื่องมันแปลกๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อย ล้มเลิกที่ จะโทรไปหาอานเฉียวต่อ แต่เปลี่ยนเป็นโทรไปหาอานจื่อซาน
โทรศัพท์ดังไปสองเสียงก็ถูกรับ “ฮะโหล!”
เฟิงเหยี่ยนไม่มีอารมณ์ที่จะพูดอะไรมากกับพ่อสะใภ้ ก็ได้พูด
ออกไปตรงๆ “อานเฉียวอยู่ไหน?” อีกฝ่ายก็ได้อึ้งไปสักพัก ถึงได้ถามว่า “ใครครับ?”
“เฟิงเหยี่ยน”
ไม่นานอานเดียวก็ได้มาที่สวนดอกไม้จงให้
สวนดอกไม้จงให้เป็นคฤหาสน์ของพวกเศรษฐี เธอไม่มีบัตร เข้าไปไม่ได้ เพราะงั้นทำได้แค่รออยู่ข้างนอก
จากนั้น โทรศัพท์ก็ได้โทรไปหาเจินเจิน ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ ไม่มีคนรับ
เธอมองเวลา ตอนนี้ก็เวลาสามทุ่มกว่าแล้ว จากนิสัยของเงิน เงินที่เป็นแมวกลางคืนนั้น ไม่สามารถที่จะนอนนี่นา
ทำไมถึงไม่มีคนรับล่ะ?
อานเดียวก็เริ่มหดหูเล็กน้อย เป็นเงินได้เป็นเพื่อนคนเดียวที่ เธอเชื่อใจได้ ตอนนี้ขนาดเธอก็ติดต่อไม่ได้ เห็นทีคืนนี้ทำได้แค่ ไม่นอนที่โรงแรมก่อนแล้ว
คิดแบบนั้น อานเดียวก็ได้นวดระหว่างคิ้วตัวเอง พูดกับคนขับ ว่า “ลุงค่ะ รบกวนลุงไปส่งที่โรงแรมแถวนี้หน่อยค่ะ”
คุณลุงคนขับเป็นชายวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่า ร่างท้วม ดวงตาทั้งสองเหมือนว่าได้เข้าไปในเนื้อ มองอานเฉียวสักพัก ยิ้ม แล้วพูด “เป็นอะไร? โทรหาเพื่อนไม่ติดเหรอ”
อานเฉียวหงุดหงิดเล็กน้อย ในใจคิดลุงพูดอะไรไร้สาระไม่ใช่ เหรอ?
แต่ใบหน้าของเธอไม่ได้แสดงออกมา ก็แค่พูดเรียบๆ ว่า “อืม” ออกไป
คุณลุงคนขับก็ได้พูดต่อว่า “แบบนี้ สาวน้อยอย่างเธอไป นอนโรงแรมคนเดียวไม่ปลอดภัย เอาไหม ที่บ้านลุงที่ห้องว่าง ห้องหนึ่ง คืนนี้ก็ไปพักที่บ้านลุงก่อนเถอะ
ต่อให้คุณลุงคนขับพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรขนาดไหน แต่ว่า ผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เปิดปากชวนผู้หญิงคนหนึ่งไปพักที่บ้าน เขา ก็ยังทำให้คนตกใจมากอยู่ดี
อานเดียวก็ได้มองเขาอย่างระแวง ส่ายหน้า “ขอบคุณค่ะ ไม่ เป็นไร
“สาวน้อย อย่าหาว่าไม่เตือน เธอรู้ว่าตอนนี้ที่โรงแรมมัน วุ่นวายขนาดไหนไหม? นี่ ครั้งก่อนที่โรงแรมแห่งหนึ่งก็ได้มีข่าว คนพักสาวได้ถูกคนลากตัวไปจากทางเดินเคยดูไหม? ไอ้พวก ก่อการร้ายนั้น ก็พากันจับตามองผู้หญิงที่อายุไม่มากแล้วก็อยู่คน เดียวอย่างพวกเธอ อันตรายมากนะ!”
อานเฉียวได้ยินเขาพูดอย่างได้เข้าแบบนี้ ก็นึกถึงข่าวที่ดูไป คราวก่อน
แต่เทียบกับการไปบ้านของชายแปลกหน้า เธอก็ยังรู้สึกว่าที่
โรงแรมปลอดภัยกว่า เพราะงั้นก็ได้ยืนยันที่จะปฏิเสธ “ไม่ล่ะ ขอบคุณความหวังดีค่ะ ยังไงก็รบกวนให้ลุงไปส่งที่โรงแรม หน่อย”
คุณลุงคนขับไม่ได้ร้อนใจอะไร ก็ได้มองอานเฉียวที่พูดออกมาอย่างจริงจังผ่านกระจกหลัง ในใจก็ได้ยิ้มออกมาย่างเยือกเย็น ผ่านไปสิบห้านาที แท็กซี่อยู่ๆก็ได้จอดในที่ที่รกร้างแห่งหนึ่ง
“เกิดอะไรขึ้น?” อานเฉียวถามอย่างตื่นตระหนก
สองมือของคนขับได้แบออก พูดว่า “ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆ รถถึง ได้ดับไป คาดว่าเครื่องยนต์ได้เสีย
อานเฉียวจะไปรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง ทำได้แค่ถามว่า “งั้นทำยัง ไงคะ?”
คนขับก็แค่แกล้งทำเป็นช่วยไม่ได้ “เวลานี้เรียกคนมาซ่อมก็ไม่ สะดวก ทำได้แค่จอดไว้ที่นี่แล้ว
อานเฉียวมองซ้ายมองขวา เห็นว่ารอบๆ มีแต่ป่าไม้ ไม่เห็นเงา คนเลยแม้แต่นิด ในใจก็ได้กังวล
สีหน้าเธอได้เปลี่ยน แล้วก็ควักเงินออกมาจากกระเป๋าสองร้อย ให้คนขับ พูดว่า “คือว่าขอโทษด้วยนะคะ ฉันยังมีธุระ ก็ไม่อยู่รอ เป็นเพื่อนลุงแล้ว สองร้อยนี้ถือว่าเป็นเงินชดใช้ค่าเสียหายของ ลุงละกัน ต้องขอโทษจริงๆ”
พูดจบ ก็อยากลงจากรถ แต่ก็ได้ถูกคนขับคว้ามือไว้ หันไปก็เห็นสีหน้าที่ตึงเครียดของคนขับ
“หึ! สองร้อย? คิดว่าให้ขอทานเหรอ?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ